เป็นคำเตือนที่ต้องสนใจฟัง!!? เมื่ออาจารย์ดังรั้วจามจุรีออกโรงแถลง #จีนย่องเงียบรุกคืบไทยผ่านการศึกษา ส่งเสริมนักศึกษาแดนมังกรเข้ามาเรียนในไทยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเรียนรู้แนวคิด ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรมไทย ระบุชัด #ถ้าหางานทำได้หลังเรียนจบยิ่งดีได้สิทธิพิเศษไม่ต้องใช้ทุนคืน ชี้ส่งผลกระทบ #บัณฑิตจีนแย่งงานบัณฑิตไทยแน่ วอน สกอ.-ศธ.ตื่นตัวเห็นทิศทางปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
📌 เท่านั้นไม่พอ! จากการติดตามสถานการณ์ทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาพบว่า มีการรุกคืบเข้ามาอย่างต่อเนื่องและยังมีการเทคโอเวอร์มหาวิทยาลัยเอกชนขนาดเล็กบางแห่ง โดยมีคณาจารย์คนไทยช่วยสอนนักศึกษาจีน #คาดมีผลต่อวงการศึกษาไทยแน่แม้ยังไม่ชัดในณะนี้
Source : https://www.thaipost.net/main/detail/20561
โดยเรื่องนี้ นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่ผ่านมาพบว่ามีนักศึกษาจีนจำนวนมากเดินทางเข้ามาศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยในประเทศไทยจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยระยะแรกประเทศจีนจะส่งนักศึกษาเข้ามาเรียนในคณะวิชาต่างๆ เป็นเวลา 5-6 ปี ซึ่งตนเคยสัมภาษณ์นักศึกษาจีนเหล่านี้พบว่า #เป็นนโยบายของรัฐบาลจีน ที่จะส่งนักศึกษาจีนเข้ามาเรียนรู้แนวคิด ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมไทย รวมทั้งรสนิยมความชอบต่างๆ ของคนไทย และหากสามารถหางานทำได้ในประเทศไทย #นักศึกษาจีนก็จะได้รับการยกเว้นการใช้ทุนคืน จึงพบว่า #เด็กจีนสามารถพูดเขียนภาษาไทยได้ดี และหางานทำในประเทศไทยได้จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
"จากการติดตามสถานการณ์ทางการศึกษาระดับอุดมศึกษายังพบว่า มีการรุกคืบเข้ามาอย่างต่อเนื่องและยังมีการเข้ามาในกิจการมหาวิทยาลัยเอกชนขนาดเล็กบางแห่ง หรือที่เรียกว่าการเทคโอเวอร์มหาวิทยาลัย โดยมีคณาจารย์คนไทยช่วยสอนนักศึกษาจีน"
อนึ่ง นายสมพงษ์ยังกล่าวต่อไปว่า #การซื้อกิจการมหาวิทยาลัยเอกชนสามารถมองได้2ด้าน ด้านหนึ่งเป็นเรื่องดีเพราะเป็นการร่วมลงทุนระหว่างไทยและจีน แต่หากมองในอีกมุมหนึ่ง การที่ทุนจีนซื้อมหาวิทยาลัยไทยและให้อาจารย์ไทยผลิตบัณฑิตจีนที่มีความรู้ความเข้าใจบริบทของสังคมไทย รู้ถึงวิธีคิด วิถีชีวิตของคนไทย #ก็อาจส่งผลกระทบต่อไทยได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ตนจึงอยากเรียกร้องให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ตระหนักถึงเรื่องนี้ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ #อยากให้เรารู้เท่าทันกลุ่มทุนจีนให้มากขึ้นและสร้างจุดสมดุลของการศึกษากับการลงทุนดังกล่าว ซึ่งต่อไปบัณฑิตจีนอาจแย่งงานบัณฑิตไทยก็ได้ เพราะเด็กไทยติดโซเชียลมีเดีย ไม่ขยัน ภาษาอังกฤษก็ไม่ค่อยดี ขณะที่มหาวิทยาลัยไทยก็ยังปรับปรุงคุณภาพได้ยังไม่ดีพอ.
#มิตรสหายท่านหนึ่ง