โสเครติส นอกจากเป็นยอดนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่แล้ว สำหรับผมเอง ยังขนานนามเขาว่าเป็น "ประธานสมาคมพ่อบ้านใจกล้ารุ่นแรก" อีกด้วย
วันนี้ไม่ได้จะมาพูดถึงโสเครติสครับ แต่จะมาพูดถึงเมียเขา ซานธิปปี คืองี้ครับ ปกติแล้วถึงแม้ว่าพวกเอเธเนี่ยนจะเรียกตัวเองว่า เสรีชนก็เถอะ แต่สำหรับสตรีไม่ใช่เลย พวกนางต้องอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนสงบเสงี่ยมเจียมตัว ดั่งที่พวกเอเธเนี่ยนกล่าวว่า "สตรีงามย่อมพูดน้อย" ต่างจากพวกสปาตั้นคณาธิปไตยออกแนวๆเผด็จการ ผู้หญิงกลับมีสิทธิมากกว่าสาวชาวเอเธนซะอีก
แต่ครับ ซานธิปปี เธอคือผู้หญิงที่ไม่สนใจกฏเกณเหล่านั้นเลย อีกทั้งเธอเป็นผู้หญิงปากร้ายจนเป็นที่กล่าวขาน ชาวบ้านเลยมองเธอว่าเป็นคนแปลกๆ แกชอบบ่นลุงโสฯบ่อยๆว่า วันๆเอาแต่ครุ่นคิด งานการไม่ทำ เอาแต่ออกไปเสวนาบ้านชาวบ้านลูกไม่ช่วยเลี้ยง มีอยู่วันนึงในขณะที่ลุงแกกำลังนั่งครุ่นคิดตามประสานักปราช์ญอยู่นั้น เมียแกเอากระโถนฉี่มาราดหัวแล้วสั่งให้ลุงไปล้างกระโถนนั้นด้วย
หลายๆคนก็สงสัยชอบเข้ามาถามลุงโสฯแกว่า แต่งงานกับซานธิปปีทำไม ? ลุงโสฯแกก็จะตอบออกแนวนินทาเมียว่า "หากข้าอยู่กับซานธิปปีได้ นั้นก็หมายถึงข้าก็อยู่กับคนทั้งโลกนี้ได้"
มีอยู่ครั้ง แอนธิเธนิส ( อาจารย์ของไดโอจินิสนั้นแหละ ) มาถามลุงโสฯว่า " สตรีนั้นมีศักยภาพที่จะเรียนรู้ไม่แพ้บุรุษ ไฉนท่านไม่สั่งสอนซานธิปปีบ้างเล่า" โสเครติสตอบ "นายสารถีฝึกม้า เมื่อประสงค์จะฝึกฝนตนเองย่อมเลือกปราบพยศม้าป่ามากกว่าม้าเชื้อง ฉันใดก็ฉันนั้น การที่ข้าสามารถฝึกซานธิปปีได้ คงไม่มีมนุษย์คนไหนที่ข้าฝึกไม่ได้ " ( แต่แม่งก็ไม่เคยอบรมนางได้เลย )
มีอยู่ครั้งนึงครับ แกเอาเค้กไปให้ลุงโสฯที่โรงเรียน แต่ลุงแกไม่อยู่ แกโกรธจัดมาก เลยกระทืบเค้กนั้นแล้วส่งให้เพื่อนลุงโสฯแก บอกว่า "อ๊ะ เอานี้ไปฝากส่งให้โสเครติสด้วย"
โสเครติส เลยมีคำคมอยู่คำนึง แกกล่าวว่า
"By all means marry, if you get a good wife, you'll be happy. If you get a bad one, you'll become a philosopher.
แน่นอน การแต่งงาน น่ะ หากคุณ ได้ภรรยาที่ดี คุณก็จะมีความสุข หากคุณดันได้แบบแย่ๆมาหละก็ คุณจะกลายเป็นนักปรัชญา"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง