หลายปีก่อน ผมเคยเห็นคอมเม้นในเพจแห่งหนึ่ง ว่า "6 ตุลาไม่เคยเกิดขึ้นจริง มันเป็นการสร้างเรื่อง"
ตอนที่เห็นนี่ผมรู้สึกขำมากกว่าโมโหหรือเศร้า เพราะผมรู้สึกว่านี่คืออาการที่มันรักษาไม่ได้ มันดักดานแบบบริสุทธิ์
ประเภทที่ผมมองว่ามันแย่กว่า คือพวกที่รู้ว่าเหตุการณ์นี้คือหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ไทยที่สำคัญมากๆ สำคัญขนาดว่าถ้าได้รับการเปิดเผยข้อมูลจริงๆ ไม่ใช่โดนปิดกั้นแบบที่เป็นในตอนนี้ มันอาจเป็นการพลิกโฉมหน้าการเมืองไทยและกระชากหน้ากากคนกลุ่มใหญ่ๆ ออกมา แต่กระนั้นก็มีคนที่ชอบออกมาเย้วๆ ว่า "นักศึกษารนหาเรื่อง สมควรตายแล้ว หมิ่น (โดยไม่หาข้อมูลเลยว่า คำว่า "หมิ่น" มันออกมาจากฝั่งไหน)" ในขณะเดียวกันถ้าหากมีคนที่อยู่ฝั่งเขา โดนทำร้ายหรือได้รับบาดเจ็บจากกิจกรรมทางการเมือง เขาก็จะออกมาประนามการใช้ความรุนแรง
การที่เราอยู่ในยุค hyperlink ที่เรามีอินเตอร์เนตใช้ทุกที่ เป็นสื่อที่มีอิสระสูง สิ่งที่เราต้องทำก็คือออกแรงค้นหา แต่ไม่ คนหลายคนยอมนั่งเฉยๆ ให้เขาป้อนข้าว เขาป้อนเขายัดอะไรมาก็กิน ไม่ต้องออกแรง กินเสร็จเขาบอกให้ออกไปวิ่ง ไปไล่เห่าคน ก็ทำ ทำแล้วจะได้เป็นเด็กดี กู๊ดบอยกู๊ดเกริลกัน ไม่รู้ว่า ข้าวทุกคำเคี้ยวกินเอง อิ่มสมบูรณ์ มันเป็นยังไง
ถ้าใครยังพอที่ใจเปิดบ้าง และไม่ขี้เกียจเกินไป อยากให้ลองศึกษาเรื่อง 6 ตุลาให้ลงลึกไปหน่อยครับ แล้วลองถามตัวเองดูว่าเราเห็นอะไร
เพราะผมมองว่าแบบนี้อย่างน้อยที่สุดก็เป็นการให้เกียรติ นศ ที่เสียชีวิตในท่าพระจันทร์วันนั้นมันไม่สูญเปล่า อย่างน้อยเขาก็ทำให้เราได้เห็นอะไรหลายอย่าง ซึ่งนี่แหล่ะคือสิ่งที่พวกเขาออกไปทำ ไปรวมตัวกันจนโดนสังหาร
เขาอยากให้เราได้ตาสว่าง
-มิตรสหายท่านหนึ่ง