มีข้อมูลเด็ดจากผู้ไม่ประสงค์จะออกนามจากทางบ้านส่งมาให้เราครับ คือการเล่าเรื่องราวที่มาของ สหกรณ์นครล้านนาเดินรถ ว่าทำไมถึงมีอำนาจเหนือกฏหมายได้และทำไมถึงสามารถแทรกแทรงระบบขนส่งของจังหวัดเชียงใหม่อย่างไร้ซึ่งสามัญสำนึกได้ บทความนี้ดีมากๆครับอยากให้ทุกคนได้อ่านกันแล้วจะเข้าใจปัญหากันได้มากขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูลจากมิสเตอร์X สำหรับข้อมูลนะครับ
-------------------------------------------------------------------------------
มาเฟียแท็กซี่เชียงใหม่
จากข่าวแท็กซี่เชียงใหม่ประท้วง หยุดวิ่งตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 เป็นปัญหาที่สั่งสมมาเนิ่นนาน ทั้งจำนวนรถแท็กซี่ที่ออกสู่ท้องถนนเชียงใหม่ และจำนวนรถสองแถว (รถแดง) ที่ยังคงเรียกเก็บค่าโดยสารตามใจชอบ โดยไม่มีกฎระเบียบควบคุมได้
ปัจจุบัน ระบบขนส่งมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ มีรถสาธารณะบริการอยู่ 3 ชนิดคือ แท็กซี่ สามล้อรับจ้างและรถสองแถว (รถแดง) ซึ่งรถทั้งสามชนิด สังกัดสหกรณ์นครลานนาเดินรถ จำกัด ที่มีนายสิงห์คำ นันติ เป็นประธาน
- ปัญหาแรกของการทุจริตคอรัปชั่นในวงการรถสาธารณะก็คือ ค่าป้ายทะเบียนรถแท็กซี่ กล่าวคือ ใครก็ตามที่ต้องการจะขับรถแท็กซี่ เบื้องต้นต้องไปซื้อรถที่มีอายุไม่เกิน 2 ปี แล้วไปสมัครเป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ และต้องจ่ายเงินค่าป้ายทะเบียนสีเหลืองเป็นมูลค่า 270,000 บาท โดยเป็นการจ่ายเงินสดที่ไม่มีใบเสร็จรับเงิน ไม่มีการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม เมื่อได้รถแล้วต้องนำรถไปเช่าซื้อกับบริษัทไฟแนนท์ชื่อ ธนโชค ซึ่งมีความสัมพันธ์กับสหกรณ์ฯ โดยจะคิดดอกเบี้ยสำหรับรถแท็กซี่ สูงเป็นพิเศษ เช่น หากสมาชิกซื้อรถใหม่แล้วนำรถไปทำเป็นแท็กซี่ จะเสียดอกเบี้ยอย่างน้อย 7 บาท เป็นดอกเบี้ยที่แพงมากกว่าปกติ และบริษัทธนโชค เป็นบริษัทเดียวในจังหวัดเชียงใหม่ที่ให้บริการเช่าซื้อรถแท็กซี่ ในขณะเดียวกัน สหกรณ์ฯ ก็รับจ้างต่อภาษีประจำปีรถแท็กซี่ทุกคันโดยมีคุณเหมย เรียกเก็บเงินคันละ 750 บาทต่อครั้ง (แท็กซี่ 500 คันๆ ละ 750 บาท เป็นเงิน 375,000 บาท) ทั้งนี้ไม่ต้องนำแท็กซี่ไปตรวจสภาพ (ปกติแท็กซี่จะต้องตรวจสภาพปีละ 2 ครั้ง) หากสหกรณ์ฯ มีปัญหากับแท็กซี่คันใดก็ตาม แท็กซี่คันนั้นจะไม่สามารถต่อทะเบียนได้ และแท็กซี่ส่วนบุคคล (สีเหลือง-แดง) จะไม่สามารถใช้บริการบริษัทธนโชคได้ เนื่องจากสหกรณ์ฯ ห้ามมิให้เช่าซื้อกับใครก็ตามในจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้แท็กซี่ส่วนบุคคล ที่ราคาค่าป้ายทะเบียนแสนถูก มีจำนวนน้อยมาก อีกทั้งยังไม่สามารถไปขอจดทะเบียนที่ขนส่งได้อีกด้วย นี่คืออำนาจของสหกรณ์ฯ ที่มีต่อบริษัทไฟแนนท์และขนส่ง นับเป็นมาเฟียที่ครบวงจรอย่างแท้จริง
- รายได้ของสหกรณ์ฯ เป็นอย่างไรบ้าง ปัจจุบัน สหกรณ์ฯ ดูแลรถแท็กซี่ 500 คัน รถแดง 4,500 คัน รถสามล้อรับจ้าง 500 คัน เริ่มจากแท็กซี่ก่อน หากมีผู้ต้องการรถแท็กซี่ก็จะต้องซื้อป้ายจากสหกรณ์ รถแท็กซี่ 500 คันๆ ละ 270,000 บาท จะเป็นเงินทั้งสิ้น 135 ล้านบาท รถแดงเสียค่าป้าย 4,500 คันๆ ละ 200,000 บาท รวมเป็นเงิน 900 ล้านบาท รถตุ๊กๆ เสียค่าป้าย 500 คันๆ ละ 120,000 บาท เป็นเงิน 60 ล้านบาท เมื่อรวมรายได้สหกรณ์เฉพาะส่วนที่เรียกเก็บจากเจ้าของรถสาธารณะ (ป้ายเหลือง) จะเป็นเงินทั้งสิ้น 1,095 ล้านบาท อย่าลืมว่า รายได้เหล่านี้ล้วนไม่มีใบเสร็จรับเงิน เงินเหล่านี้อยู่ในมือใครบ้าง ดูจากรายชื่อคณะกรรมการในสหกรณ์ฯ หลายคนมียศมีตำแหน่งทั้งสิ้น แต่กลับไม่มีการชี้แจงที่มาของรายได้เลย หากมีการตรวจสอบย้อนหลังเรื่องการเสียภาษี คงจะได้รับข้อเท็จจริงเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
(ต่อเม้นล่าง)