บทความนี้ อ.ธเนศ เขียนแต่ฝ่ายรัฐไปหน่อยในเรื่องสนับสนุนทรัมป์ และเขียนถึงแต่ฝ่ายใต้ไปหน่อยในเรื่องทาส เลยกลายเป็นว่าทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าศาสนาสนับสนุนการกดขี่ฝ่ายเดียว
แท้จริง เหตุผลของการเอาไบเบิลมาอ้างของ รมว.ยุติธรรม สหรัฐ ก็เนื่องจากโบสถ์ของอเมริกัน เอาไบเบิลมาอ้างเพื่อช่วยเหลือผู้อพยพก่อน ฝ่ายรัฐเลยเอาไบเบิลมาอ้างตอบโต้
แต่พอบทความออกมา อ่านแล้วกลายเป็นเข้าใจว่า ศาสนาถูกใช้เพื่อสนับสนุนฝ่ายที่ไม่ดีทางเดียว ทั้งๆที่จริงๆแล้ว มันก็ถูกใช้ทั้งสองทาง
จริงๆตัวบทความก็พูดแหละว่ามันเป็นความแตกแยกระหว่างการแสดงความเห็นต่อคำภีร์ระหว่างสองฝ่าย แต่มีการอธิบายขยายความเพียงข้างเดียว
เหมือนในเรื่องทาสก็เป็นความแตกต่างในการอธิบายคำภีร์ของฝ่ายเหนือกับใต้ (ซึ่งเป็นเรื่องปรกติของโปรแตสแตนท์แบบอเมริกัน) เพียงแค่ตัวบทความยกตัวอย่างแต่การตีความของฝ่ายใต้ ซึ่งเป็นฝ่ายที่เอาเข้าจริงแล้วแพ้เสียด้วย
แต่ตัวบทความก็ไม่ได้พูดถึงว่าพวกฝ่ายเหนือ กับ การรณรงค์เลิกทาสที่มีสำเร็จในอังกฤษไปแล้วในช่วงเวลานั้น ก็อ้างไบเบิลเหมือนกันนั่นแหละ (โดยเฉพาะจดหมาย เฟโลโมน) ผู้ที่เรียกร้องสิทธิชาวแอฟริกันอเมริกันต่อจากนั้น ก็ทำโดยขบวนการศาสนา มาร์ติน ลูเธอร์คิง ก็เป็นศาสนจารย์แท้ๆ
กลายเป็นว่าผู้อ่านก็จะได้ข้อมูลฝ่ายเดียว จนไปจำว่าศาสนาสนับสนุนทาสอย่างไร แต่ไม่รู้เลยว่าศาสนาได้ยกเลิกทาสอย่างไร
ความจริงแล้ว พวกสนับสนุนทาสก็อ้างทุกอย่างที่เป็นประโยชน์ได้เพื่อสนับสนุนทาส พวกเอธิสฝ่ายใต้เองก็อ้างทฤษฎีวิวัฒนาการเพื่อสนับสนุนการใช้ทาส โดยบอกว่าคนขาววิวัฒนาการมาจากลิงไปไกลกว่าคนดำมีปัญญามากกว่าเจริญกว่าเช่นกัน
กลายเป็นว่าสิ่งใดที่ประเสริฐของโลกก็เป็นผลงานของขบวนมนุษยนิยมแบบอศาสนา ส่วนอะไรที่เลวร้ายก็เป็นผลงานของศาสนาอันค่ำครึไป
https://www.the101.world/jeff-sessions-and-the-bible/
#มิตรสหายท่านหนึ่ง