เช้านี้อ่านเจอบทวิจัยชิ้นนึงอธิบายถึงบางอาการพวกเราเป็นกันบ่อย ๆ คือการที่รู้สึก "หมดแรง-หมดไฟ" กับการทำงาน
.
คำถามที่เขาตั้งขึ้นมาคือ Energy ที่รู้สึกว่ามันหายไปนั้นเกิดขึ้นจากอะไร?
ทำไมพวกเราถึงต้องหาวิธี Recharge ตัวเอง?
ทำไม Recharge แล้วบางคนถึงรู้สึกดีขึ้น? บางคนก็ไม่ต่างกัน?
.
คำตอบสั้น ๆ คืออาการที่เรียกว่า Ego Depletion ซึ่งมักจะเกิดหลังจากที่เรา "ชนเพดานของตัวเอง" ซ้ำ ๆ ... อาการจะคล้ายกันกับพวกเราหลายคนที่ทำการบ้านเลขไปนิดหน่อยแล้วหมดสภาพ แต่ถ้าเปลี่ยนให้ไปเล่นฟุตบอลละก็ทำได้ทันที ... หรือตัวอย่างอื่นอาจจะเป็นพวกเราบางคนที่เหนื่อยหน่ายกับการฝึกในยิมแล้วหนีไปห้องสมุดดีกว่า
.
การ "ชนเพดาน" เกิดขึ้นได้กับทุกคน เพราะกิจกรรมของมนุษย์มีหลายด้าน ... เราอาจจะปาร์ตี้ได้ทั้งคืน ทั้งเต้นทั้งคุยไม่ยอมหมดแรงเสียที แต่ประชุมแค่ไม่กี่ชั่วโมงแล้วรู้สึกว่าร่างกายอ่อนเปลี้ยเพลียแรงขึ้นมา ... นี่เป็นการชนเพดานที่เราตั้งเอาไว้ด้วยความเคยชิน ยิ่งเราพูดว่าเราไม่ชอบคณิตศาสตร์เราก็จะเจอเพดานนี้ทันทีที่เริ่มทำโจทย์คณิตศาสตร์ พอเราเจอการติดขัดเนื่องจากเราไม่ชำนาญในเรื่องนี้ (เพราะไม่ได้ทำบ่อย ๆ ) ... ตรงนี้เป็นจิตวิทยาที่ร่างกายเราสั่งงานอัตโนมัติ เพราะจิตเบื้องลึกของเราบอกว่า "เราทำไม่ได้หรอก ไปหาอย่างอื่นทำเหอะ"
.
สิ่งที่จะตามมาคือ สมองจะเริ่มสั่งให้เรา "วน" กลับไปที่การอ่อนแรง เพราะคราวที่แล้วเรา Rewards ร่างกายด้วยการเลิกทำเพื่อให้ไม่เครียด ... ครั้งต่อมาก็เลิกทำแล้วไปเปิดอะไรสนุก ๆ ดูคลายเครียด ... ร่างกายเลยเรียกร้องทันทีทุกครั้งที่ชนเพดาน
ไอ้ตอนที่เรา Rewards ในจังหวะนี้ด้วยการไปหาอะไรที่สนุกกว่านี้มาทำ หรือ Relax ซักเล็กน้อยด้วยกาแฟหรือดูหนังซักเรื่อง ... ร่างกายจะจำว่าได้รางวัล ถ้าเกิดเหตุนี้อีกมันสั่งให้เราอ่อนเปลี้ยเพลียแรงอีกเมื่อเราชนเพดานเดิมนี้ในวันต่อมา
.
การที่เราหลายคนต้องไปหากาแฟหวาน ๆ เย็น ๆ กินทุกครั้งที่เราชนเพดานก็คือการที่สมองบอกให้เรา "ถอย" ออกมาจากการทำงานที่เราคิดว่าตัวเองทำไม่ได้หรือทำได้ไม่ดีโดยที่เราไม่รู้ตัว ... และถ้าเราไม่สู้จนแก้โจทย์ได้สำเร็จ เราก็จะถอยอัตโนมัติแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ...
.
ปัญหาก็คือ เรายังทำไม่เสร็จแล้ว Rewards ตัวเอง ... ไอ้ตรงนี้ร่างกายจะได้รับ Dopamine หรือที่เราเอามาเรียกกันว่าเป็นการ "โด๊ป" นี่แหละ ... ร่างกายจะรู้สึกดีมากเมื่อได้รับโดปามีน แต่ปัญหาคือมันได้มาง่ายและส่งผลรุนแรง มันจึงเป็นฮอร์โมนที่มีฤทธิ์เหมือนยาเสพติด เมื่อได้แล้วต้องได้เรื่อย ๆ เมื่อได้เล็ก ๆ ซ้ำกันหลายครั้งก็ต้องได้ใหญ่ขึ้น ... เป็นเหตุผลว่าในเวลาไม่นานเราต้องอัดตัวเองด้วยยาที่แรงกว่ากาแฟ นั่นก็คือการออกไปเที่ยวหรือที่เราเรียกว่า "ค้นหาตัวเอง" เพื่อเป็น Rewards ครั้งใหญ่ ... สิ่งที่ตามมาคือ Loop ที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แต่เราก็ยังไม่สามารถทะลุเพดานออกไปได้เสียที
.
คนรุ่นใหม่ที่มีอาการ Ego Depletion นี้เยอะ ๆ ก็เพราะเรามี Rewards ให้เลือกกันเยอะมากในทุกวันนี้ ... ผู้ใหญ่ที่ชอบบอกว่าเด็กเดี๋ยวนี้ไม่อดทน ไม่โฟกัสก็เพราะว่าตอนรุ่นเขาทำงานนั้นมี Rewards ให้เลือกน้อยกว่าทุกวันนี้ เขาเลยถูกบังคับไปโดยปริยายว่าต้องแก้ปัญหาให้เสร็จ
.
เรื่องนี้น่าสนใจมาก ... เอาไว้ผมจะรีเสิรช์ให้เยอะขึ้นอีกหน่อยแล้วจะเขียนอธิบายยาว ๆ อีกทีสำหรับเรื่องเหล่านี้
#มิตรสหายท่านหนึ่ง