หางางวิจัยทางจิตวิทยาดันเจอ บทความวิจัย "การไล่ผีในไนจีเรีย"
โดยคุณ Shaykh Luqman Jimoh (ไม่รู้ต้องอ่านว่าอะไร) พึ่งเขียนปี 2014 นี่เอง
เป็นงานเชิงคุณภาพ บรรยายถึงลักษณะของการไล่ผี ในสามศาสนาคือศาสนาพื้นถิ่นของชาวโยรุบา อิสลาม และคริสต์
ที่น่าสนใจคือสำหรับศาสนาท้องถิ่น จะอธิบายเหตุของการถูกผีเข้าว่าเป็นการโดนคำสาป โดยหมอผีที่ชั่วร้าย พูดง่ายๆคือการโดนของนั่นเอง ดังนั้นการจะรักษาได้จะต้องใช้หมอผีปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ที่มีวิชามากกว่า พวกนี้จะต้องไปฝึกเป็นลูกศิษย์กูรูดังหลายปี
(น่าสนใจว่าอาคมโยรุบา กับไทย เนี่ย อะไรมันจะขลังกว่ากัน น่าทำหนังแนวรวมจอมขมังเวทย์โลก)
ของอิสลาม เชื่อว่าผีคือปีศาจที่เรียกว่า "ญิน" มักจะเป็นวิธีที่สืบทอดตามสายตระกูล ต้องฝึกหลายปี และบางทีอาจจะต้องมีการไปเรียนมาจากต่างประเทศเช่นอินเดีย (ทำไมไม่ไปซาอุ?) ด้วย
ขั้นตอนการไล่ผีจริง ผมอ่านของโยรุบา ไม่รู้เรื่อง เพราะมันต้องใช้ทั้งยาสมุนไพร และอุปกรณ์อะไรหลายอย่างที่ชื่อเป็นภาษาท้องถิ่น
ส่วนของอิสลาม งานวิจัยให้ความเห็นว่าน่าจะเป็นการศึกษาเพิ่มเติมกันเองจากการอ่านงานนักศาสนศาสตร์ของอิสลาม และผสมกับความเชื่อท้องถิ่นของโยรุบา
มีการถือศีลอด อธิษฐาน สวดบทสวดของกุรอ่าน ซึ่งน่าจะพอเดากันได้
แต่ที่พิเศษคือมีการใช้สมุนไพรทำเป็นกำยานให้สูดดมเพราะเชื่อว่ามีฤทธิ์ไล่ปีศาจ มีแบบทำพิธีให้อ่านคาถาในน้ำทุกวัน 21 วัน น่าจะเป็นการชำระล่างอะไรสักอย่าง
มุสลิมบางสายมีการเฆี่ยนญินให้ออกจากร่างด้วย แต่จะไม่เฆี่ยนใบหน้าเพราะเชื่อว่าศาสดามูฮัมหมัดสั่งห้ามไว้
ของคริสต์ (ผมคิดว่ามันคงเข้ามาทีหลัง เลยไม่ได้ผสมกับความเชื่อดั่งเดิม) แบ่งความเข้าใจของการไล่ผีออกเป็นสองกลุ่ม
กลุ่มแรกคือ คาทอลิก และ แองลิกัน (เนื่องจากเคยเป็นอาณานิคมอังกฤษจึงมีโบสถ์แองลิกันเยอะ)
ผู้ที่จะทำพิธีไล่ผีของ คาทอลิก และ แองลิกัน ได้จะต้องเป็นบาทหลวง ที่ได้รับการอนุมัติจากบิช็อปเท่านั้น
มีรายงานการถูกผีเข้าน้อยกว่ากลุ่มอื่น นักวิจัยคาดว่าเป็นเพราะกระบวนการก่อนการไล่ผีมันยุ่งยาก จะต้องถูกส่งไปโรงบาลเพื่อวินิจฉัยอาการทางจิตก่อน เรื่องจึงมักจะจบในโรงบาล
นอกจากนั้นยังมีคำสอนว่า "คนที่ได้รับการไถ่บาปโดยพระคริสต์แล้วไม่มีทางถูกผีเข้า" (ผมคิดว่าน่าจะเป็นวาทกรรมที่ถูกเผยแพร่ในอัฟริกาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ)
การไล่ผีของ คาทอลิก และ แองลิกัน จะใช้การอธิษฐานในนามของพระบิดา พระบุตร พระวิญญาณฯ กางเขน (ซึ่งปรกติบาทหลวงจะติดตัวอยู่แล้ว) อาจใช้กางเขนใหญ่ หรือรูปของพระคริสต์เชื่อว่าทำให้ผีกลัว อาจมีการใช้น้ำมนตร์ หรือน้ำมันมะกอกพรมด้วย - สำหรับคาทอลิกอาจใช้บทสวดในนามของเทวทูต หรือนักบุญด้วย
กลุ่มที่สองของคริสต์คือคริสตจักรโปรแตสแตนท์อื่นๆ (โดยเฉพาะพวกเพนตาคอส) ซึ่งพึ่งมาเผยแพร่ใหม่ในช่วง 50 ปี ที่ผ่านมา
โปรแตสแตนท์สายเพนตาคอสเชื่อว่าการถูกผีเข้ามีสองแบบ
แบบแรกคือแบบที่เสียสติควบคุมตนเองไม่ได้ไปเลย เป็นการที่ปีศาจเข้าสิ่ง จึงจะใช้ "การไล่ผี" (exorcism)
อีกแบบ เชื่อว่าพฤติกรรมเลวร้ายต่างๆ เช่นติดเหล้า บุหรี่ ยาเสพติด โกรธง่าย ฯลฯ มาจากวิญญาณชั่วด้วย จึงมีการ "ขับผี" แบบนี้ด้วย
เพนตาคอสเชื่อว่าทุกคนขับผีได้ แต่บางคนจะมีของประทาน(คือพรสวรรค์)เป็นพิเศษทำให้ทำได้ผลดีมากกว่า
เชื่อว่าการอธิษฐาน ด้วยการวางมือ ออกเสียงพูด หรืออาจจะพูดภาษาลิ้น ซึ่งออกมาจากพระวิญญาณจะทำให้ไล่ผีไปได้ อาจมีการใช้เสียงเพลงด้วย
ในการขับผีพฤติกรรมไม่ดี อาจทำเป็นปรกติทุกอาทิตย์ มีการกลิ้ง ดิ้นกันเป็นปรกติ
ส่วนพวกโดนผีเข้า จะใช้วิธีจัดทีมเพื่อไปอธิษฐานไล่ผี (exorcism)
น่าเสียดายที่งานไม่ได้มีสถิติที่แน่นอนเขียนในนั้นมาด้วย เราเลยไม่รู้ว่าจริงๆแล้วไนจีเรียมันมีอาการผีเข้าเยอะขนาดไหน
แต่เป็นบทความวิจัยที่อ่านสนุก ทำให้รู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก
ในสนใจไปหาอ่านได้นะครับ ชื่อ : Exorcism Practices in South-West Nigeria: A Comparative Analysis
#มิตรสหายท่านหนึ่ง