ข่าวล่าสุดเรื่อง #ยุบภาควิชา โดยประชาไทครับ
.
https://prachatai.com/journal/2018/08/78474
.
หลังจากที่เงียบไปนาน เพราะรอให้มหาวิทยาลัยมีระเบียบออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร ตอนนี้ความคืบหน้าล่าสุดคือ มหาวิทยาลัยได้แก้ระเบียบประกาศที่ออกมาให้ "หน่วยงาน" ที่มีสถานะเป็นหน่วยงานก่อนการออกประกาศ ให้คงสถานะหน่วยงานได้ตามเดิมหรือจะเปลี่ยนตามระเบียบนี้ก็ได้ ส่วนหน่วยงานที่จะตั้งใหม่ ให้เปลี่ยนไปตามระเบียบนี้
.
นั่นแปลว่าภาควิชา "ทั้งหมด"ในมหาวิทยาลัย ยังคงสามารถมีสถานะเป็นหน่วยงานได้นั่นเอง
.
เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แต่ละภาควิชาในคณะของผมได้ส่งแบบฟอร์ม เพื่อขอยืนยันสภาพเป็นภาควิชาหรือปรับเป็นสาขา ปรากฏว่า แม้ภาควิชาปรัชญาจะเป็นภาควิชาเดียวที่ต่อสู้เรียกร้องในเวลานั้นให้มหาวิทยาลัยทบทวน(ซึ่งมีหลายภาควิชา ในคณะอื่นๆที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยในภายหลังและให้กำลังใจ ต้องขอบคุณไว้ ณ ที่นี้) แต่ปรากฏว่า ภาควิชาเกือบทั้งหมดในคณะอักษรศาสตร์ ทั้งที่เคยแสดงความเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยต่างยืนยันเป็นภาควิชาเกือบทั้งนั้น ซึ่งเราก็ไม่ได้ว่าอะไร แม้เขาจะไม่ขอบคุณสักคำก็ตาม
.
อนึ่งก่อนที่เรื่องนี้จะจบลง โดยเหลือเพียงขั้นตอนรอการอนุมัติจากทางมหาวิทยาลัย ซึ่งผมและอาจารย์พิพัฒน์คงจะได้ปลดป้าย "สาขา" ออกจากภาควิชาอย่างเป็นทางการเสียที
.
ผมขอบันทึกอีกสักนิด แม้จะดูเหมือนเป็นความขัดแย้งภายใน แต่ผมคิดว่า เรื่องนี้เป็นเรื่อง "สามัญสำนึก" และคุณธรรม(ที่ชอบพูดกันนักหนา)ที่ผมมีความอึดอัดคับข้องใจมาตลอด คือมีบางภาควิชาในคณะอักษรศาสตร์ ซึ่งยืนยันหนักเน้นว่าการลดสถานะเป็นสาขานั้น เป็น "เสียสละ"ช่วยเหลือคณะและได้ไตร่ตรองมาดีแล้ว โดยภาควิชาดังกล่าวได้โต้แย้งผมอย่างขันแข็งในที่ประชุม แต่การณ์เป็นว่า ในอาทิตย์ที่แล้ว ภาควิชานั้นได้ส่งเรื่องขอเป็น "ภาควิชา"เช่นเดียวกับภาควิชาปรัชญา ผมได้รับการสอนจากผู้ใหญ่มาว่า อะไรที่เราคิดดีแล้ว เราควรยืนยันตามนั้น และอะไรที่เราไม่เห็นด้วย เราก็ไม่ควรรับผลประโยชน์จากสิ่งที่เราไม่เห็นด้วย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะคนเราก็อาจเปลี่ยนใจได้ แต่มันก็พิสูจน์ว่า การเป็นภาควิชา แตกต่างจากการเป็นสาขาแน่นอน มิฉะนั้นท่านจะเลือกเป็นภาควิชาทำไม ทำไมจึงไม่ยืนยันเป้นสาขาตามเดิม
.
อีกทั้งมีอาจารย์ในภาควิชานั้นคนหนึ่ง ในช่วงแรกของเรื่องนี้ ได้แสดงความเห็นในทางลบต่อการเรียกร้องของผมและอาจารย์พิพัฒน์ โดย ใช้คำเรียกภาควิชาปรัชญาว่าเป็น "บ้านต้นเพลิง" ทำนองว่า ภาควิชานี้ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น ผมคิดว่า หากท่านมีสามัญสำนึก ว่า ไอ้ "บ้านต้นเพลิง"ที่ท่านเรียก หรือความวุ่นวายทั้งหลาย ได้ให้ประโยชน์แก่หน่วยงานที่ท่านสังกัดเพียงใด ท่านควรขอโทษต่อภาควิชาของผม มิใช่ตัวผมหรืออาจารย์พิพัฒน์ แต่หากท่านจะไม่ขอโทษ ผมก็ไม่ได้ว่าหรือจะไปเรียกร้องอะไร ขอแค่ท่าน "รู้สึก" อะไรบ้างโดยเฉพาะเมื่อท่านเห็นป้าย "ภาควิชา" ของท่านเอง ไม่รู้ผมขอมากไปไหม
.
เมื่อภาควิชาได้รับการอนุมัติจัดตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว ผมจะได้มาแจ้งด้วยความชื่นชมยินดีต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจและติดตามมาโดยตลอดนะครับ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง