Fanboi Channel

โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 7th quotes

Last posted

Total of 1000 posts

230 Nameless Fanboi Posted ID:uL.JjPSl3z

ฉลองโอกาสที่ยอดไลค์เพจ 777 พอดีต้องขอขอบคุณที่ตามงานกันมานะคะ อย่างที่บอกเอาไว้แต่ต้นเพจนี้อัพเดทบ้างไม่เขียนบ้างตามโอกาสเพราะเพจนี้สร้างไว้เพื่อแชร์เรื่องวิชาการรอบๆตัวกับเกล็ดทั่วไป แล้วก็เพิ่มทักษะการเขียนภาษาไทยของผู้เขียนเอง วันนี้ขอแชร์เรื่องเบาๆ (ที่ไม่ใช่วิชาการแบบหนักๆ) แล้วกันนะคะ

Crazy Rich Asians (CRA) เป็นหนังที่ไม่มีใครไม่พูดถึงตอนนี้ที่อังกฤษยังไม่เข้านะคะ แต่ได้อ่านหนังสือมาแล้วก็ไม่มีอะไรเป็นแนวหนังรักตลกๆแต่มีข้อคิดเยอะ เหตุผลที่หนังเรื่องนี้ได้รับความสนใจมากเป็นเพราะเป็นหนังฮอลลีวู๊ดฟอร์มยักษ์ที่มีตัวแสดงเป็นคนเอเชียทั้งหมด เรื่องสุดท้ายน่าจะเป็น Joy Luck Club ปีค.ศ 1993 (25 ปีมาแล้ว) โดยเน้นเนื้อหาเป็นเรื่องเกี่ยวกับคนเอเชียล้วนๆ

CRA มีความน่าสนใจคือเจาะบทบาทความเป็น Asian American และ Asian หรือผ่านตัวละครนางเอก Constance Wu ดาราสาวชาวอเมริกันเชื้อสายจีนที่แสดงเป็น Asian American กับพระเอกที่เป็น Asian เต็มๆแต่โตเมืองนอกและเป็นลูกของมหาเศรษฐีสิงคโปร์แสดงโดยลูกครึ่งมาเลยเชื้อสายอีบันและอังกฤษ Henry Golding

แม้ว่าจะมีคนชมมากเพราะการเสนอเนื้อหาและตัวละครไม่ติดปัญหา "ฟอกตัวละครให้ขาว" (white washing) หรือคือการที่มีการดัดแปลงเนื้อเรื่องจากเนื้อหาที่เป็นคนผิวสีให้คนขาวมาแสดงแทนที่เป็นปัญหาสุดคลาสสิกของวงการหนังฮอลลีวู๊ด แต่ก็โดนค้านกลายๆว่าทำไมทำให้สิงคโปรมีแต่คนจีน หรือต้องเอาลูกครึ่งมาเป็นพระเอกเหรอสุดท้ายคนที่จะหล่อพอก็ต้องมีเลือดฝรั่งอยู่ดี

มุมมองนี้อยู่ที่ใครมองค่ะ จะอธิบายคร่าวๆเรื่องอัตลักษณ์ความเป็นเอเชีย สำหรับแฟนเพจที่ตามมาเรื่อยๆจะรู้ว่า แอดมิน "ไทย" แบบเลือดจีนน้อย เลือดมอญบ้างแขกบ้างใต้บ้างไทบ้าง หน้าตาเลยเอนๆเอียงกระเดียดออกไปให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นชาวข้างประเทศบ่อยๆ เคยนั่งเถียงกับเจ้าหน้าที่ไทยที่หาว่าปลอมบัตรประชาชนและแท๊กซี่สิงคโปร์ที่ยืนยันว่าโกหกไม่ใช่คนไทยชนิดคนขับพักจอดเพื่อค้นรูป "คนไทย" ในมายาคติออกมายืนยันกันเลยทีเดียว แล้วความที่มากกว่าครึ่งชีวิตก็ใช้เวลาอยู่ต่างประเทศเลยมีพฤษติกรรมที่อาจจะไม่ได้ "ไทยสมัยนิยม" นักแต่ถามว่า "ฝรั่ง" (ตามมายาคติคนเอเชีย) มั้ยคงบอกว่าเฉพาะเรื่องชีวิตการทำงานกับพฤติกรรมการกินบางอย่างค่ะ แต่ CRA เป็นหนังที่คนที่ตกอยู่ระหว่างกลางแบบแอดมินจะรู้สึกว่านี่แหละหนังที่รอคอยมานานแสนนานทำไมถึงเพิ่งมีนะ

ทำไมหรือคะ? เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ทำให้คนที่ผมไม่ทอง ตาไม่สีอ่อน วัฒนธรรมยังไงก็ชอบทานข้าวหรือทานอาหารรสจัด ดูไม่
1) เป็นตัวตลกที่ตายเร็ว
2) อัจฉริยะทางวิทยาศาสตร์และเลข (และอาจตายเร็ว)
3) เป็นเพื่อนหรือฉากประกอบข้างๆ
4) เป็นเจ้าพ่อ เจ้าแม่ ตัวร้ายถือดาบไล่ฆ่าใคร
5) เป็นคนไร้ความสามารถที่ขี้อายหรือตรงกันข้ามพยายามเป็นฝรั่ง
6) คนยากจนที่เดือดร้อนรอฝรั่งที่เป็นตัวเอกมาช่วย

ถ้าพูดถึงการสื่อถึงตัวละครผู้ชาย
CRA ท้าทายมายาคติที่ว่า ผู้ชายเอเชียไม่หล่อไม่มีเสห่น์ไม่ได้เรื่องเนิร์ดขี้อาย ไม่เป็นผู้ชายพอดูเป็นผู้หญิง ไม่ก็เลวหยาบคายกดขี่ผู้หญิง (แล้วก็มีตัวละครฝรั่งมาช่วยไป) ฯลฯ

ถ้าพูดถึงการสื่อถึงตัวละครผู้หญิง
CRA มอบมิติผู้หญิงปกติทั่วไปที่มีหลายมุม ไม่ใช่สาวเอเชียในมายาคติของฝรั่ง ที่เป็น (รวมๆแต่ไม่ครบทุกข้อแล้วแต่คน) สาวเรียบร้อยขี้อายแม่บ้านแม่เรือน เก่งดีพร้อม ไม่ก็ขอเชิญคำพูดของอดีตสมาชิกสภาอังกฤษที่กลายมาเป็นประเด็นใหญ่ที่บอกว่า "ผู้หญิงพวกนี้ข้างนอกเรียบร้อยแต่เป็นผู้หญิง___จัดทุกคน" ผู้หญิงเอเชียเป็นเด็กน่ารักมีความเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น (ต้องชูสองนิ้ว) เป็นเทพีสามูไร ถ้าเป็นผู้หญิงตะวันออกกลางหรืออินเดียถ้าไม่ลงกล่องเดียวกันกับสาวอีกทั้งทวีปก็โดนหาว่าโง่โดนกดขี้ ผู้หญิงเอเชียบูชาผู้ชายตะวันตก ฯลฯ ไม่ขอบรรยายนะคะอาการเหล่านี้เราเรียกว่า

Stereotype แปลว่า การเหมารวม ส่วนใหญ่เกิดเพราะ
1 หนังฮอลลีวู๊ดนั้นแหละตัวดีไม่เชื่อลองหาบทที่สาวไทยเล่นถ่ายทอดผ่านหนังฝรั่งมาดูสิคะ
2 มายาคติโดนสร้างเมื่อเรื่องเล่าที่มีผลขยายเยอะเป็นเรื่องเดิมๆซ้อนๆกัน

(ต่อเม้นล่าง)

231 Nameless Fanboi Posted ID:uL.JjPSl3z

( ต่อจาก >>230 )

เมื่อเป็นแบบนี้ผู้หญิงเอเชียคือ "เหยื่อ" แบบหนึ่งในสังคมโลกที่มีผู้ชายฝรั่งไม่น้อยที่มีอาการ Yellow Fever แปลตรงๆคือไข้เหลือง เป็น Fetish ในการมองผู้หญิงเอเชียเป็นวัตถุที่แสดงความคลั่งไคล้ทางเพศแบบหนึ่ง เหมือนกับผู้หญิงเอเชียจินตนาการเรื่องนิสัยผู้ชายตะวันตกและเหมารวมค่ะ เรื่องการเหมารวมนี่พูดแล้วยาว

เรื่องนี้ทำให้เกิดปรากฏการณ์ Pick Up Artist บนยูทูปหรือกลุ่มผู้ชายชาวยุโรปตะวันตกและอเมริกันที่ไปใช้ชีวิตในเอเชีย สร้างชื่อเสียงและรายได้จากการถ่ายวีดีโอตัวเองเพื่อสอนเทคนิคการ "หลอกสาวเอเชีย" ตามห้างต่างๆพร้อมทั้งเชิญชวนว่าใครหาแฟนไม่ได้ให้มาเอาผู้หญิงเอเชียเพราะผู้หญิงเอเชียหลอกง่าย

ดังนั้น CRA ที่ถ่ายทอดความเป็นคนสมัยใหม่ของคนเอเชียออกมาจึงเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่กำลังต่อสู้กับมายาคติต่อคนเอเชียที่มีมาเกือบสามร้อยกว่าปี (ฝรั่งเริ่มดูถูกคนเอเชียเมื่อประมาณคริสตวรรษ์ที่ 17 เป็นต้นมาเนื่องจากเศรษฐกิจและศาสนารุ่งเรืองในยุโรป)

สำหรับคนที่เป็นคนเอเชียเลยที่เติบโตในกรอบสังคมที่มีคนเอเชียเป็นหมู่มากจะไม่เคยผ่านเรื่องที่หลายๆคนที่เป็น Asian American (อเมริกันเชื้อสายเอเชีย) British Asian (อังกฤษเชื้อสายเอเชีย) หรือ Third Culture Asian (คนเอเชียที่มีหลากวัฒนธรรมในตัว) ต้องเจอยามที่โตมาในสังคมที่คนขาวเป็นใหญ่คือปัญหาเรื่อง bullying หรือการกลั่นแกล้งแบบคุกคาม ผ่านการเหยีดสีผิว วัฒนธรรม ภาษา หรือความเชื่อ การแก้ปัญหาของเด็กกลุ่มนี้จะพยายามเป็นฝรั่งแต่ถ้าครอบครัวเป็นครอบครัวที่ค่อนข้าง Traditional หรือประเพณีนิยม เด็กส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องอัตลักษณ์ ในอังกฤษมีการพบว่าเด็กที่กลายเป็นกลุ่มหัวรุนแรงทางศาสนามักผ่านประวัติการโดนกลั่นแกล้งหรือขัดแย้งรุนแรงเรื่องอัตลักษณ์ของครอบครัวกับสิ่งแวดล้อมของสังคมและโรงเรียน มันเกี่ยวกับความมั่นใจด้วยนะคะในฐานะคณะกรรมการที่ดูแลสวัสดิภาพของนักศึกษาที่นี่ทำให้ได้เห็นว่าบางครั้งเด็กหลายชาติพันธุ์ขาดความมั่นใจกับเรื่องง่ายๆแค่เรื่องการติดต่อและถามงาน วิธีแก้คือสังคมต้องช่วยกันลดทัศนคติที่ผิดๆออกไป

หลายครั้งที่ความเป็นเอเชียถูกใช้เป็นเพียงวัตถุ "ประดับ" จินตนาการของมายาคติความเป็นเอเชียโดยสังคมตะวันตก เช่นการเอาเสื้อคลุมนอนมาใส่เป็นกีโมโนสำหรับงานเลี้ยงหรือการเอาตะเกียบเสียบผม ซึ่งข้อแตกต่างในบริบทการบริโภควัฒนธรรมนั้นคือเมื่อสิ่งเหล่านี้อยู่บนตัวของชาวตะวันตกมันถูกมองว่าในทางบวกแต่คนเอเชียที่สวมใส่สิ่งเหล่านี้กลับดูเป็นของแปลกและเป็นปัจจัยให้มีการล้อเลียน ปรากฏการณ์ยืมวัฒนธรรมไปเพื่อเลือกบริโภคในแง่รูปลักษณ์ผิวเผินนี้เรียกว่า cultural appropriation หรือการยืมเอาวัฒนธรรมไปใช้ในเชิงผิดวัตถุประสงค์ในลักษณะที่เจ้าของวัฒนธรรมไม่สามารถทำได้หรือไม่ทำ

ดังนั้นคนเชื้อสายเอเชียจึงมักมองบางสิ่งว่าการคุกคามหรือล้อเลียนทางวัฒนธรรมมากกว่าคนเอเชียที่ไม่ได้มีประวัติของการเป็นชนกลุ่มน้อยในสังคมตะวันตก เช่น งานนิทัศการที่ Metropolitan Museum โดยเอากีโมโนดัดแปลงจากภาพของ Monet มาลงแสดงได้รับการตอบรับที่ดีในญี่ปุ่น แต่ชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่นกลับออกมาประท้วงด้วยเหตุผลว่างานดังกล่าวเป็น Cultural Appropriation เหตุผลคือคนอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่นนั้นมีประวัติการโดนกีดกันทางสังคมทำให้ต้องแลกวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของตนเพื่อเข้าได้กับสังคมอเมริกัน แต่ในทางกลับกันวัฒนธรรมญี่ปุ่นกลับกลายเป็นเครื่องประดับที่สวยงามและงานศิลปะบนร่างกายของผู้หญิงตะวันตก จริงๆแล้ว Monet เป็นงานช่วงที่ความคิดแนว Orientalism หรือบูรภาคดีศึกษารุ่งเรือง เคยเขียนเรื่องนี้ไว้นานแล้วตามไปอ่านได้นะคะ

https://www.facebook.com/econoarchaeology/posts/1692517447744168?__tn__=K-R

ไม่ว่าหนังเรื่องนี้จะมีข้อเสียตรงที่อาจจะแสดงถึงความหลากหลายไม่พอหรือมีหลายอย่างที่ไม่มีความเป็นสิงคโปร์ แต่หนังเรื่องนี้คือปรากฏการณ์ที่น่าจับตามองเพราะทั้งหนังและหนังสือที่ขายดีมากๆในกลุ่มผู้หญิงตะวันตก (!) เพราะมันคือหนังที่เป็นตัวแทนของโลกาภิวัฒน์ในเชิงบวกด้านความเทียมของความหลากหลายวัฒนธรรม

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.