Fanboi Channel

โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 7th quotes

Last posted

Total of 1000 posts

181 Nameless Fanboi Posted ID:.t1zE6Q2ED

สองสามวันนี้คงมีหลายคนได้ผ่านตาโพสต์เกี่ยวกับ “THAI Select” กันบ้างไม่มากก็น้อย
_____________________________________________

ใครไม่เคยเห็นสรุปความคร่าวๆคือทางรมต.กระทรวงพานิชย์เดินหน้าดันตราสัญลักษณ์ Thai Select เพื่อเป็นการจำแนกอาหาร”ไทยแท้”ออกจากอาหารไทยที่รสชาติผิดเพี้ยน โดยวิธีการทำงานของ Thai Select คือทางคณะกรรมการจะมีเกณฑ์การให้คะแนนโดยแบ่งเป็น

รสชาติ 30 คะแนน/วัตถุดิบ 20 คะแนน/Food safety 20 คะแนน/รายการอาหาร 10 คะแนน/การตกแต่งและบรรยากาศ 10 คะแนน/การบริการ 10 คะแนน

โดยร้านที่ได้คะแนนต่างกันก็จะได้ระดับของ Thai Select ที่ต่างกันไป โดยในที่นี้ยังมีการออกป้าย Thai Select Unique นั่นคือร้านที่มีอัตลักษณ์ท้องถิ่นเด่นชัด จำแนกออกมาอีกตัว
_____________________________________________

หลายคนเห็นด้วยเพราะมองว่าจะเป็นการผลักดันคุณภาพอาหารไทยให้ดีขึ้น พร้อมช่วยทำให้คนไทยมองเห็นคุณค่าของการใช้วัตถุดิบดีมีคุณภาพมากขั้น

หลายคนยี้และเราเป็นหนึ่งในคนที่ยี้นโยบายนี้

อันที่จริงบ้านเรามี Thai Select มานานแล้ว แต่มาในรูปแบบของป้ายเชลล์ชวนชิม หมึกแดง ทั้งนี้ป้ายเหล่านี้มีเพื่อการันตีผู้กินว่ากำลังจะได้กินอาหารอร่อยซึ่งรับประกันโดยนักชิมมีชื่อ ซึ่งสุดท้ายจะจริงไม่จริงก็ตามแต่ใครคาดเดา แต่ป้ายเหล่านี้ไม่เคยออกมาจากหน่วยงานรัฐบาลอันเป็นผู้กำหนดทิศทางในการดำเนินนโยบายของประเทศ ยิ่งไปกว่านั้นป้ายพวกนั้นไม่เคยแบ่งแยกและกีดกันความเป็น”ไทย”
_____________________________________________

ทำไม Thai Select ถึงเป็นปัญหา?

ข้อที่ 1) การออกใบการันตีโดยรัฐสร้างพื้นที่ที่เอื้อให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน เอื้อต่อการคอร์รัปชั่น โดยอย่างยิ่งจากบริษัทใหญ่ที่มีสิทธิ์มีเสียงในการเอาป้ายไปติดที่ผลิตภัณฑ์ของตน บังคับให้เจ้าของกิจการร้านอาหารต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคัดสรรเพื่อเอาคะแนนจากรัฐ

ข้อที่ 2) การตีกรอบวัฒนธรรมคือการสร้างความแตกแยก เมื่อมีการตีกรอบสิ่งที่เป็นไทย แล้วสิ่งที่อยู่นอกกรอบที่ตีไว้หล่ะ นั่นคือไม่ใช่ไทยอย่างนั้นหรือ แล้วหากจะบอกว่าเหมาะสมแล้วที่เลือกอุ้มชูสิ่งที่เป็นไทย แล้วความเกณฑ์เป็นไทยนั่นเอาใครและอะไรมาตัดสิน แล้วเมื่อรัฐเข้ามามีบทบาทเองก็นั่นแหละโยงเข้าไปที่ข้อ1คือผลประโยชน์ทับซ้อน และอย่าลืมว่าอาหารคือความนิยมส่วนบุคคล แล้วรัฐมายุ่มยามกับความเป็นส่วนตัวของประชาชน มันใช่เรื่องหรือไม่

ข้อที่ 3) ข้อสุดท้ายที่น่ากลัวที่สุด นั่นคือวิธีการคิดนโยบายของรัฐที่มุ่งเน้นแค่บังคับและควบคุม แต่ไม่ได้เอื้อผลประโยชน์ให้กับการดำรงชีพของประชาชน นโบาย Thai Select บังคับให้ผู้ประกอบการต้องลงทุนมากขึ้นเพื่อเข้าเกณฑ์ของรัฐ แต่รัฐไม่ได้เสนอทางออกหรือทางช่วยเหลือเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถที่จะก้าวไปสู่จุดนั้นได้ ทั้งที่รัฐสามารถเลือกที่จะเอาเงินภาษีที่มาลงกับนโยบายนี้ ไปอบรมความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการเกี่ยวกับการทำอาหารที่ถูกสุขลักษณะ หรืออบรมเกษตรกรให้ใช้เทคโนโลยีเพื่อเข้ามาพัฒนาผลผลิต การออกกฏมันง่าย ยิ่งออกกฏชุ่ยๆที่ไม่คิดหน้าคิดหลังยิ่งง่ายมาก
_____________________________________________

สุดท้ายเราต้องมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า รัฐบาลไทยอยากจะทำให้ประชาชนเชื่องถึงขั้นควบคุมว่าเราจะต้องเอารสชาติเข้าปากกันแล้วหรือยังไง แล้วทำไมเรื่องส่วนตัวมันถึงกลายเป็นเรื่องของรัฐไปได้ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.