สิ่งที่หลายคนมองเรื่องการช่วย13ชีวิตผิด คือไปมองว่าทั้ง13ชีวิตคือฮีโร่?
ซึ่งผมงงมาก ไปมองกันอย่างนั้นได้อย่างไร?
ไปกันถึงขนาดออกมาจะให้ทุนการศึกษา สนับสนุนให้ไปเป็นทีมชาติ หรืออะไร จะให้โน่นให้นี่ ทำโน่นทำนี่ให้ ประหนึ่งทำกันจนเป็นเรียลริตี้ แข่งกันมีชื่อทำความดีจากเรื่องนี้ บนการช่วยเหลือชีวิตคน ซึ่งมันนอกประเด็นเอามากๆ
เห้ย ตื่นๆ เรากลับมาสู่โลกความเป็นจริงก่อนว่า
เขาคือเด็กซน วัยรุ่นอายุ25พาเด็กอายุสิบกว่าขวบ พาไปเที่ยวแล้วติดถ้ำ ไม่ใช่ฮีโร่อะไรเลย
เขาคือผู้เคราะห์ร้าย คือผู้ประสพภัย เขาคือเหยื่อ
สิ่งที่เราควรทำคือ ช่วยชีวิตเขาออกมาให้ได้ แล้วสะท้อนเรื่องนี้ให้เป็นอุทาหรณ์ว่าการเข้าถ้ำในช่วงต้นฤดูฝน ช่วงน้ำหลาก พายุเข้า มันอันตรายแบบนี้ แล้วผลที่จะตามมาก็อย่างที่เห็น
ควรเอาเรื่องนี้เป็นบทเรียน ในการออกแบบการรักษาความปลอดภัย ในการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ในป่า ในเขา ในถ้ำ ตามอุทยานหรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
สังคมอย่างหลงประเด็น เด็กซนคือ "เหยื่อ" ไม่ใช่ "ฮีโร่"
คนที่เป็นฮีโร่ของเรื่องนี้จริงๆ คือที่ทำงานตลอด24ชั่วโมง เอาชีวิตไปใช้ช่วยคนอยู่หน้างาน ไม่ได้หลับไม่ได้นอน ข้าวก็แทบไม่ได้กิน หน้าลูกเมียผัวก็แทบจะไม่ได้เจอ เสี่ยงกับธรรมชาติทุกอย่าง เพื่อหาทุกวิถีทาง ช่วยทั้ง13ชีวิตออกมา
ไม่ว่าภาระกิจครั้งนี้มันจะออกมาเป็นหน้าไหน พวกเขาเหล่านั้นนั่นแหละ คือ "ฮีโร่".....
ป.ล. แล้วเอาเข้าจริง เราต้องถอดบทเรียนไปถึงขนาดที่ว่า ประเทศเรา ควรมีหน่วยงานที่ช่วยเหลือเรื่องแบบนี้โดยตรง ที่มีความเชี่ยวชาญจริงๆจังๆ เพื่อช่วยชีวิตคนในลักษณะนี้ แบบไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่น ได้แล้วหรือยัง?
เพราะอย่างไรสักวัน เหตุการณ์แบบนี้ในอนาคต มันก็ต้องมีอีก อย่าคิดว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น แล้วจะไม่เกิดขึ้นอีกเลย
#ส่งใจไปถ้ำหลวง #13ชีวิต #ถ้ำหลวง