ไปค้นประวัติศาสตร์การประกวด Mister Gay World มา ก็พอตีโจทย์เวทีนี้ได้ว่า เค้าต้องการคนที่มีความเป็น "ผู้นำของชาวเกย์" เพื่อเป็นกระบอกเสียง ในการต่อสู้เรื่องต่างๆพร้อมกับองค์กรของเขา
1.เรื่องความหล่อและหุ่นดี
เวทีนี้ต้องการคนหล่อและหุ่นดีแบบ "คนสามัญที่ใส่ใจดูแลหน้าตาและสุขภาพตัวเอง" เพราะดูมีความเป็นผู้นำด้านสุขภาพ
แต่ไม่เอาคนที่ไม่ดูแลรูปร่างหน้าตาตัวเอง และไม่เอาคนที่หล่อหุ่นดีแบบโอเว่อร์จนเหมือนนายแบบ เพราะดูไม่ค่อยเป็น "ผู้นำ" (ด้วยเหตุนี้ คนหล่อโคตรๆอย่าง เสปน กับ เบลเยี่ยม ถึงได้ตุ๊บ)
จุดนี้ กรรมการไทยตีโจทย์ผิด ว่าเวทีนี้ไม่สนคนหล่อหุ่นดี
2.เรื่องความออกสาว
เวทีนี้อนุญาตให้ออกสาวได้ เพราะคนที่เข้ารอบลึกๆหลายคนก็ออกสาว แต่ทุกคนออกสาวในระดับที่พอดีๆ ไม่มากเกินไป ไม่สาวจนหลุดจากคำว่า "ผู้นำ"
เวทีนี้ต้องการคนที่มีลุคแบบ "ผู้นำ" ดังนั้น แม้จะออกสาว ก็ควรสาวแบบพอดีๆ สาวแบบผู้นำ สาวแบบดูเป็นผู้ใหญ่ ไม่เอาสาวแบบตลกๆ
จุดนี้ กรรมการไทยตีโจทย์ผิด ว่าเวทีนี้ให้ออกสาวแบบไหนก็ได้
3.เรื่องการแสดงวิสัยทัศน์
กองประกวดมักพูดเรื่องการพรีเซ้น ว่าคุณจะทำอะไรดีๆให้กับสังคมชาวเกย์ ซึ่งจุดนี้ แสดงให้เห็นว่า เค้าต้องการ "ผู้นำชาวเกย์" จริงๆ แต่กระนั้น นี่ก็เป็นแค่ส่วนประกอบอย่างหนึ่งในการตัดสิน จากหลายๆอย่าง ไม่ใช่คะแนนทั้งหมด
จุดนี้ กรรมการไทยตีโจทย์ผิด ว่าเวทีนี้เน้นเรื่องการแสดงวิสัยทัศน์เป็นหลัก
4.คะแนนระหว่างเก็บตัว
แอดมินคิดว่า "มีผลมากๆ" เชื่อว่ากรรมการคอยจับตาดูพฤติกรรมผู้เข้าประกวด ระหว่างที่ทำกิจกรรมต่างๆ ว่าใครมีความเป็น "ผู้นำ" บ้าง
คนที่มักทำตัวเป็นแกนนำ นำเพื่อนๆ เป็นศูนย์กลางของเพื่อนๆ (เหมือนหัวหน้าห้อง) จะได้คะแนนมากเป็นพิเศษ ส่วนคนที่มาแนวตลกๆ หรือ คนที่มาแนวมึนๆ งงๆ เค้าว่าไงก็ว่าตาม จะได้คะแนนน้อย
ซึ่งคนที่ได้ "ภาษาอังกฤษ" จะโชคดีมาก เพราะสามารถสื่อสาร แสดงความเป็นผู้นำได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
ซึ่งข้อ4 คนไทยจะเสียเปรียบสุด เพราะ 1.มักไม่ได้ภาษา 2.คนไทยมักไม่กล้าแสดงออกด้านการเป็นผู้นำ
คนไทยถ้าไม่ทำตัวเงียบๆ อ่อนน้อมถ่อมตน ก็มักทำตัวตลกๆ เป็นตัวฮาประจำกลุ่ม ซึ่งไม่ใช่ลักษณะของผู้นำ
สรุปแบบสั้นๆคือ โจทย์ในการหาตัวแทนไปประกวด Mister Gay World ก็คือ "หาคนที่เราเห็นแล้วรู้สึกว่า เขาเหมาะเป็นแม่ทัพ ในการนำทัพชาวเกย์ไปต่อสู้" ส่วนคนไหนที่เห็นแล้วรู้สึกว่า "จะนำทัพไหวไหมวะ" คนนั้นคือไม่ใช่ จบข่าว