เอาเถอะผมเกริ่นมาเยอะแล้ว ผมมีเรื่องจะถาม
คำถาม : ทำไมถึงมองว่าการบังคับสตรีให้ใส่ฮิญาบจึงเป็นการกดขี่ ?
ถ้าตอบว่า มันเป็นการกดขี่เพราะสตรีไม่สามารถใส่อะไรตามที่นางต้องการได้ พวกนางถูกตัดสิทธิ์ในการเลือกเหนือร่างกายของพวกนาง
คำถาม : มีประเทศใดในโลกบ้างที่อนุญาตให้สตรีสวมใส่แบบไหนก็ได้ตามที่พวกนางต้องการแบบไม่มีข้อจำกัดเลย ?
ถ้าตอบว่า มีสิ ประเทศตะวันตกไง
คำถาม : ในประเทศตะวันตกนั้น สตรีสามารถเดินออกนอกบ้านหรือปรากฏในที่สาธารณะด้วยการแก้ผ้าล่อนจ้อนเปิดอวัยวะพึงสงวนได้ไหม ?
ถ้าตอบว่าไม่ อันนี้มันเกินไป
คำถาม : การที่เราบังคับสตรีไม่ให้พวกนางมีสิทธิแก้ผ้าล่อนจ้อนในที่สาธารณะ แบบนี้ถือเป็นการกดขี่สตรีไหม ตามนิยามของคุณ กรณีนี้จะถือว่าประเทศเหล่านี้ตัดสิทธิในการเลือกของสตรีออกไปไหมในนิยามของคุณ ?
ถ้าตอบว่า ไม่เลย เพราะการแก้ผ้าชนิดที่เปิดเผยอวัยวะพึงสงวนนั้นมันไปขัดกับรากฐานของความมีอารยะและความดีงาม ซึ่งมันเป็นคนละกรณีกับการเปิดเผยเส้นผมของสตรีที่ไม่ใส่ฮิญาบ
คำถาม ใครมีสิทธิไปตัดสินว่า ส่วนนี้ของร่างกายสตรีถ้าเปิดเผยไปแล้วขัดกับรากฐานของความมีอารยะ (เช่น อวัยวะพึงสงวน) แต่่ถ้าเปิดเผยอีกส่วนหนึ่งของร่ายกายสตรี (เช่น ผมและหน้าอก) ถือว่าเป็นความทันสมัยและยอมรับได้อย่างสมบูรณ์แบบ ?
ถ้าตอบว่า โอ๊ย นั่นมันเป็นพื้นฐานที่ใครก็ยอมรับกัน
คำถาม ใครตัดสินว่านั่นเป็นพื้นฐานที่ยอมรับกัน ? อะไรคือฐานที่ทำให้สิ่งนั้นถูกยอมรับ ? ความคิดแบบนี้ไปเอารากฐานที่ไหนมาสร้างความชอบธรรม
ถ้าตอบว่า นี่คนทั้งโลกหรือมาตรฐานสากลเขานิยามกันแล้วว่า เปิดอวัยวะเพศนะมันอนาจาร แต่ถ้าเปิดผมนะมันไม่อนาจาร
คำถาม ตกลงเอาคนส่วนใหญ่ตัดสิน งั้นหากคนส่วนใหญ่ของโลกไม่ยอมรับเกย์ เกย์ก็ผิดใช่ไหม ? คุณรู้หรือไม่ว่า วัฒนธรรมทั่วโลกมีเป็นร้อยพันวัฒนธรรม นับจากอดีตถึงปัจจุบันพวกเขามีเกณฑ์การตัดสินว่าอะไรคือความโป๊เปลือยที่ผิดสามัญสำนึกแตกต่างกันไปคนละทิศละทางตามแต่ละวัฒนธรรม
คุณรู้หรือไม่ว่าในยุคก่อนโลกจะเข้าสู่ความเป็นสมัยใหม่ ประชากรของโลกส่วนใหญ่ซึ่งนับถือศาสนายิว, คริสต์และอิสลามเห็นพ้องกันถึงการปกปิดเส้นผมว่าเป็นความสุภาพดีงาม นั่นแปลว่าในยุคนั้นสิ่งนั้นไม่ใช่การกดขี่ในนิยามของคุณใช่ไหม ?
ถ้าตอบว่า ไม่รู้แหละ นี่คุยกันของยุคนี้ ยุคที่ยุโรปเป็นชาติที่พัฒนาแล้ว
คำถาม : คุณใช้รากฐานหรือเหตุผลอะไรในการสนับสนุนว่ามาตรฐานความโป๊หรือเรียบร้อยตามแบบตะวันตกควรจะถูกกำหนดใช้เป็นมาตรฐานสากลทั่วโลก รวมถึงใช้กับสามจังหวัด ???
...................................................
สำหรับมุสลิมแล้ว อะไรคือมาตรฐานในการกำหนดว่าชายหรือหญิงมีสิทธิแค่ไหนที่จะเปิดเผยอวัยวะของตนเองในที่สาธารณะคือ พระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่องค์กรสากลที่รวมตัวกันด้วยคนไม่เอาศาสนามากำหนดว่าอะไรได้หรือไม่ได้ อะไรกดขี่ไม่กดขี่
อำนาจของพระเจ้ายิ่งใหญ่ไม่มีใครทัดเทียมได้ หนึ่งในอำนาจของพระองค์คือ การบัญญัติกำหนดว่าอะไรดีชั่ว อะไรได้ไม่ได้ ไม่ใช่มนุษย์บัญญัติ
นี่คือรากเหง้าที่สำคัญซึ่งมุสลิมต้องคำนึงให้มาก เพราะมันคือเตาฮีดประการหนึ่งของมุสลิมที่จะต้องให้แก่พระเจ้า นั่นคือสิทธิในการกำหนดอะไรดีชั่ว
มองโลกด้วยเตาฮีด มองโลกให้เป็น จะเห็นว่าปัญหาสังคมสมัยใหม่ล้วนย้อนกลับไปที่เตาฮีดเกือบหมด!!
#มิตรสหายท่านหนึ่ง