Fanboi Channel

โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 6th quotes

Last posted

Total of 1000 posts

460 Nameless Fanboi Posted ID:ShtC+Gw.dV

สังคมสามจังหวัดกำลังใกล้จะล่มสลายทางอัตลักษณ์ศาสนา : ว่าด้วยเรื่องฮิญาบ

ในฐานะที่ผมเป็นคนที่เติบโตมาในสามจังหวัดและมีโอกาสเดินทางไปหลายพื้นที่ของประเทศไทยเพื่อสอนศาสนา

ผมค่อนข้างมีความเห็นว่า สามจังหวัดเป็นที่เดียวที่เรื่องฮิญาบกลายเป็น สัญญะของความเป็นมุสลิมที่ใช้เป็นเกณฑ์แบ่งแยกว่าใครคือมุสลิมและต่างศาสนิก

สักสิบกว่าปีก่อนหรือยี่สิบปีก่อน พื้นที่ในเขตชนบทนอกเมือง "ในหลายพื้นที่" แทบไม่มีคนพุทธปรากฏอยู่เลย บางตำบลนี่มุสลิมเกือบจะ 100% หรือถ้ามีก็แค่ครัวเรือนไม่กี่หลัง (่ส่วนใหญ่ชาวพุทธจะมีเยอะในตัวเมืองหรือในบางเขตของย่านชนบทเป็นเขต ๆ ไป)

ความเป็นสัญญะของการเป็นมุสลิมในฮิญาบตามพื้นที่ชนบทนั้นจึงมีสูงมาก

ชนิดที่ว่าหากเห็นสตรีไม่ใส่ฮิญาบเดินอยู่แถวนอกเมือง คุณจะรู้สึกแปลกตาและแทบจะคิดไปเลยว่าสตรีคนนั้นเป็นต่างศาสนิก

นั่นหมายความว่า ในพื้นที่สามจังหวัดฮิญาบแทบจะเป็นมาตรการในสังคมซึ่งสตรีจำนวนมากเลยไม่กล้าฝ่าฝืนหลักปฏิบัตินี้ แม้ในทางความจริงก็มีการสวมใส่ฮิญาบผิดรูปแบบศาสนาให้เห็นอยู่ตลอด

นักวิจัยเรื่องกฎหมายอิสลามในอาเจะห์จากมหาวิทยาลัยออสเตรเลียท่านหนึ่งเคยบอกผมว่า ขนาดว่าอาเจะของอินโดนีเซียประกาศใช้กฎหมายอิสลามแล้ว ทว่าความเคร่งครัดของคนในหลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่องฮิญาบกลับเบากว่าคนสามจังหวัดภาคใต้

ความจริงแล้ว ตัวตนและสถานะของฮิญาบในสามจังหวัดกำลังค่อย ๆ เปลี่ยนไปในทิศทางที่ออกจากหลักการศาสนามากขึ้น

ในเขตตัวเมืองของปัตตานีและยะลา ผมพบว่าแนวโน้มของการ "เฉย ๆ" กับการไม่ใส่ฮิญาบเริ่มมีมากขึ้น สตรีจำนวนมากเริ่มกล้าถอดฮิญาบใส่ขาสั้นไปวิ่งออกกำลังกายตามสวนสาธารณะและดินเนอร์ตามร้านค้า

ขณะที่ในด้านหนึ่งก็มีคนอีกกลุ่มที่แปลงฮิญาบเป็นแฟชั่น ถึงขนาดมีเดินประกวดโชว์อะไรสารพัด

ผมมองว่า อีกสิบปีข้างหน้า การทิ้งฮิญาบในเขตตัวเมืองอาจจะเพิ่มมากกว่านี้หากไม่มีกระบวนการอะไรเลย และเมื่อนั้นการชาชินกับการไม่สวมฮิญาบก็จะขยายตัวออกไปตามชนบทจนน่าจะไม่เกินคนรุ่นเดียว สามจังหวัดคงจะล่มสลายทางอัตลักษณ์อิสลามและเป็นเหมือนสังคมภาคส่วนอื่น ๆ ของประเทศที่การไม่ใส่ฮิญาบเป็นเรื่องปกติที่เห็นกันถมเถ หรืออาจจะมาถึงวันที่เราสามารถเห็นสตรีไม่ใส่ฮิญาบเดินป้วนเปี้ยนอยู่หน้ามัสยิดแบบที่เห็นกันได้ตาม กทม.

ที่ผมเป็นห่วงที่สุด คือ คนมลายูมุสลิมในพื้นที่ที่ไปรับการศึกษาในโลกยุคใหม่และขนเอาเรื่อง แนวคิดสิทธิเสรีภาพและอิสระในการไม่ใส่ฮิญาบมาเสนอในท้องที่มากขึ้น ๆ กระแสหนึ่งที่ผมเห็นว่ามาควบคู่กับเรื่องรักร่วมเพศคือ การเรียกร้องให้สังคมสามจังหวัดลดกติกาทางสังคมที่กดดันสตรีเรื่องฮิญาบ คนพวกนี้พยายามรณรงค์ให้สตรีมีสิทธิจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ ไม่ต้องการให้ฮิญาบเป็นระเบียบทางสังคมด้วยสโลแกนสวยหรูว่า "สตรีมีสิทธิเหนือร่างกายนาง" เป็นต้น

(มีต่อ)

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.