ผมมักจะพูดว่าคนญี่ปุ่นนั้นอัพเกรดความคิดและการกระทำไปอีกระดับ และเป็นแบบนี้มานานแล้ว
คนขับรถเมล์ที่เมืองโอคายามาประท้วงโดยไม่ใช่วิธีหยุดงานเหมือนกับที่อื่น แต่ใช้วิธีเอาผ้าขาวมาคลุมเครื่องเก็บเงินแล้วขับรถให้ผู้โดยสารนั่งฟรี โดยให้เหตุผลว่าการประท้วงด้วยการหยุดงานนั้นจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน แต่การไม่เก็บค่าโดยสารนั้นกระทบเพียงผู้บริหารและบริษัท แต่ไม่เดือดร้อนต่อประชาชน
นี่ไงที่ผมบอกว่าคนญี่ปุ่นนั้นอัพเกรดความคิดและการกระทำไปอีกระดับ ไม่เหมือนกับฝรั่งเศสประท้วงที่ไรก็เผารถยนต์ที่จอดข้างถนนไปตลอดทาง เมื่อวันที่ 1 ที่ผ่านมาก็เผารถยนต์ไปทั้งถนนที่ขบวนผู้ใช้แรงงานเดินผ่านในวันแรงงาน ในยุโรปผมเคยรอเครื่องบินไปสองวันเพราะเจ้าหน้าที่หอควบคุมการบินประท้วง จะเปลี่ยนไปบินสายไหนก็ไม่รอดเพราะสนามบินปิดทั้งประเทศ ที่ลอนดอนผมเคยเดินกลับบ้านสิบกว่ากิโลเมตรเพราะรถไฟประท้วงทั้งเมืองไล่ผู้โดยสารลงสถานีกลางทาง ฯลฯ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่กับญี่ปุ่นหรือเกิดกับญี่ปุ่น
เรื่องนี้เกิดขึ้นมาเพราะมีบริษัท เมกูริน ที่เป็นบริษัทรถคู่แข่งได้มาเดินรถทับเส้นทางของบริษัทเรียวบิ ที่เดินรถมาก่อนหน้านั้นนานแล้ว โดยใช่รถดีกว่า ค่าโดยสารถูกกว่า ซึ่งผู้บริหารของบริษัทเรียวบิ ไร้น้ำยาที่จะทำธุรกิจต่ิสู้กับคู่แข่งที่มาใหม่ คนขับรถเมล์ก็รู้สึกกว่าตัวเองขาดความมั่นคงในงานของตัวเองที่ทำอยู่เพราะความไร้น้ำยาของผู้บริหารที่ไม่ต่อสู้ในเรื่องนี้ ดังนั้นเพื่อบีบไข่สร้างแรงกดดันให้ผู้บริหารออกไปสู้กับปัญหาที่คู่แข่งมาวิ่งทับเส้นทาง พนักงานขับรถทั้งหมดจึงขับรถแบบไม่เก็บเงินค่าโดยสาร เพื่อให้ผู้บริหารเดือดร้อนแต่ประชาชนไม่มีผลกระทบ
มีคนวิจารณ์ว่าการประท้วงแบบนี้อาจจะไม่ถึงผู้บริหารสภาเมืองและบริษัทใหญ่ของตัวเอง เพราะบริษัทเรียวบินั้นธุรกิจใหญ่โตมาก บริษัทเดินรถเมล์ของเมืองนั้นถือว่าเป็นเศษเสี้ยวของธุรกิจทั้งหมดก็ว่าได้ โดยให้เหตุผลว่าเรื่องการประท้วงที่พนักงานทำในครั้งนี้ไม่รุนแรงพอ แต่คนวิจารณ์กลุ่มนี้กลับคิดผิด เพราะว่าข่าวนี้ออกไปทั่วโลกคนจากทั่วโลกต่างชื่นชมถึงการตัดสินใจประท้วงแบบไม่กระทบต่อประชาชนแบบนี้
#มิตรสหายท่านหนึ่ง