ในมุมมองของผม มันเป็นไปได้ยากมาก ที่สังคมมุสลิมไทยจะสามารถผลิตนักวิทย์เก่งๆหรือเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในระดับโลกได้
เพราะแรงบันดาลใจมันไม่มี ปรัชญาของเราในการใช้ชีวิตมันตรงข้ามกับยิวทุกอย่าง บางทีมุสลิมอาจจะไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเทคโนโลยีก็ได้
ในขณะที่สมองยิวเขาสนใจเรื่องการสร้างระบบโดรนให้บินเองได้ สมองมุสลิมเราสนใจถกเถียงกันเรื่องศาสนาและพอใจแล้วที่ได้คำตอบในเรื่องนั้น ส่วนนอกจากนั้นคือการอยู่ทำมาหากินไปวันๆ รอตาย
ซึ่งจะพูดว่าคิดแบบนั้นแล้วผิด ก็คงไม่ได้ เพราะอิสลามสอนแบบนั้นจริงๆ คือดุนยาคือการละเล่น ไม่จีรัง ไม่จริง มันเป็นโลกทัศน์นึงที่ทำให้มุสลิมต้องคิดแบบนี้ การสร้างเทคโนโลยี การเก่งนั่นนี่ การเป็นเลิศ การแข่งขัน ความก้าวหน้าของสังคมมนุษย์ ทั้งหมดนี้มันอาจไร้สาระก็ได้ และคนที่รอดพ้น อาจเป็นคนที่ละทิ้งสิ่งต่างๆเหล่านี้ก็ได้ ซึ่งตรงนี้มีจุดร่วมกับหลายศาสนาที่เน้นละทิ้งทางโลก เข้าสู่ทางธรรม
เพราะฉะนั้นยังไงมันก็ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ ที่ประชาชาติที่คนส่วนใหญ่หมกมุ่นกับการถกเถียงเรื่องศาสนา จะสร้างนวัตกรรมได้ เพราะนวัตกรรม มันก็ต้องใช้ปัจจัยทางกำลังคน กำลังทรัพย์ กำลังสมอง และเวลาเยอะเหมือนกัน
จริงๆประสบการณ์ที่ได้รับรู้ บรรดาผู้รู้ศาสนาใหญ่ๆในไทย ที่มีอาณาจักรต่างๆเป็นของตนเอง พอมีใครนำเสนอให้พัฒนาหลักสูตรวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่เป็นเลิศ พวกเขาก็จะเฉย ไม่สนับสนุนอยู่แล้ว เพราะเขาก็คิดแบบนี้แหละ อิสลามคือเรื่องอาคีเราะฮ ดุนยาแค่ทางผ่าน อย่าไปลงทุนวิจัยเพื่อความเป็นเลิศต่างๆ เสียเวลาเสียพลังงาน เสี่ยงนำแนวคิดที่ไม่บริสุทธิ์เขามาในสังคมมุสลิมอีก
ใครจะไปรู้ เทคโนโลยีทั้งหลายที่มนุษย์สร้างมา ต่อไปมันอาจทำลายมนุษย์เอง จนเป็นข้อพิสูจน์ว่า ความบ้าเทคโนโลยีของมนุษย์ คือความโง่เขลาก็ได้
#มิตรสหายท่านหนึ่ง