05-03-2018
การออกจากงาน ความรับผิดชอบ คอมฟอร์ทโซน และการเอาชีวิตไปโหนกับความสำเร็จ #ท่าจะหนอม
วันนี้มีเหตุให้คิดถึงเรื่องนึงที่รู้สึกผิดมากๆ ในช่วงที่ชีวิตเรากำลังไปได้ดีเมื่อหลายปีก่อน มีรายได้จากเน็ตเยอะมาก มากกว่าเพื่อนในวัยทำงานรุ่นเดียวกันที่เป็นมนุษย์เงินเดือน
ความภูมิใจในตอนนั้นถือเป็นเรื่องน่ารังเกียจเพราะเราคิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้ว มีเงินไหลมาเทมา และเชื่ออย่างสุดใจว่า ถ้าใครอยากจะทำอะไรเป็นอะไรก็ทำได้ เพียงแค่มีความพยายามและความฝัน ซึ่งมันเป็นการมองโลกแค่เพียงมิติเดียว
ในตอนนั้นน้องคนหนึ่งมาปรึกษาเรื่องลาออกจากงาน เราตอบไปทันทีด้วยความมั่นใจ "ออกซิวะ รออะไรอยู่ ชีวิตมึงจะอยู่เป็นทาสเขาไปตลอดชีวิตเหรอ รีบออกไปหางานใหม่ที่ทำให้ชีวิตมึงดีกว่าไหม"
ความจริงหลังจากนั้นคือน้องเครียดจนต้องพบจิตแพทย์เมื่อพบเจอกับสังคมใหม่ในที่ทำงานใหม่ รับไม่ได้กับการเมืองในองค์กร ปรับตัวไม่ทัน จนสุดท้ายต้องลาออกจากที่ทำงานนั้นไปซะดื้อๆ โดยที่ไม่รอให้ผ่านโปร
ชีวิตน้องคนหนึ่งพังทลายพร้อมกับคำถามที่ผุดขึ้นมาในใจว่า เรามีสิทธิอะไรไปกำหนดและบอกว่าชีวิตคนอื่นต้องเป็นอย่างนั้น ทั้งๆที่มันไม่ใช่ชีวิตของเราเสียด้วยซ้ำ และที่สำคัญ เราไม่เคยถามเขาสักคำว่าเขาต้องการอะไรในชีวิต
หลังจากนั้น ถ้ามีใครมาปรึกษาเรื่องคิดจะเปลี่ยนงานหรือลาออก เราจะบอกให้เขาคิดดีๆเสมอ อย่ารีบคิดถึงสิ่งที่ได้มา แต่ให้คิดถึงสิ่งที่กำลังจะเสียไป
โอกาสใหม่ๆ ความก้าวหน้า และอนาคตที่ดีขึ้น มักจะเป็นคำตอบของการเปลี่ยนงานในยุคนี้ เงินเดือนที่ก้าวกระโดดขึ้นหลายเท่า ความก้าวหน้าของคอนเนคชั่น และความฝันทีจะยกระดับชีวิตคือสิ่งที่ผลักดันเราให้เดินไปในเส้นทางใหม่นั้นอย่างมีความสุข
แต่เราไม่เคยถามตัวเองว่าเสียอะไรไปบ้าง กับการที่ได้มา และส่วนใหญ่เราเชื่อว่าสิ่งที่ทุกคนเสียไปมากที่สุดคือ "เวลา" ในการใช้ชีวิต
นอกจากค่าตอบแทนที่ถูกแปรผันตรงกับความคาดหวัง โอกาสที่เข้ามายังต้องแลกกับเวลาที่ต้องเสียไปในด้านอื่นๆ เพราะเขาจ่ายเงินให้เราเพื่อซื้อเวลาของเขาเช่นเดียวกัน
คำถามสำคัญที่เราไม่เคยถามตัวเองเลย คือ เราต้องการอะไร โอกาสใหม่ๆที่ว่าดี เราจะมีและใช้ไปเพื่อสิ่งใด ความก้าวหน้าต้องเดินทางไป รู้ไหมว่าถึงจุดไหนมีคือความสำเร็จ และอนาคตที่ดีที่ว่ามา เราเป็นคนต้องการมันจริงๆหรือเปล่า
อย่าเอาชีวิตไปผูกกับอะไรบางอย่างที่คุณไม่รู้ว่าคุณต้องการมันหรือไม่ มันอาจจะเป็นคำพูดกระจอกๆ เมื่อเทียบกับการก้าวผ่านคอมฟอร์ทโซน แต่เชื่อเถอะว่าต่อให้คุณโหนและกระโจนไปกับความสำเร็จมากแค่ไหน คุณอาจจะเสียโอกาสอะไรบางอย่างไปเช่นเดียวกัน
สุดท้ายแล้ว เราอาจจะพบความว่างเปล่าบนจุดสูงสุดของความสำเร็จก็ได้ หรือเราอาจจะกลายเป็นผู้อยู่รอดท่ามกลางสงครามที่ทำให้นิยามชีวิตของเราไม่เหมือนเดิม
เราไม่รู้เลยว่าอีกทางเลือกหนึ่งนั้นจะดีกว่าแค่ไหน เพราะชีวิตที่เราใช้ทุกวันนี้มันเลือกได้เพียงแค่เส้นทางเดียวเท่านั้น
ได้โปรดอย่าไปฝันอะไรเยอะเลย
#มิตรสหายท่านหนึ่ง