Fanboi Channel

โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 4th quotes

Last posted

Total of 1000 posts

971 Nameless Fanboi Posted ID:zrX8w4uF3

"รถไฟฟ้าราคาแพงคือการปล้นคนกรุงเทพ แต่คนกรุงเทพจะโทษใครไม่ได้นอกจากโทษตัวเอง ที่ไปเห็นดีเห็นงามกับการรัฐประหาร
..................

หลายคนคงรับรู้ว่าข่าวที่รถไฟฟ้าจะขึ้นราคาอีกครั้งหลังจากขึ้นมาแล้ว และยังจะขึ้นต่อไป

แต่ถ้าจะดูการเริ่มต้นโครงการรถไฟฟ้าที่เราเห็นกันในปัจจุบันนั้น ก็จะพบว่านี่คือการปล้นครั้งยิ่งใหญ่ และจะปล้นต่อไปในอนาคต

ในหนังสือ 2530-2551 จาก Black Monday ถึง Hamburger Crisis : รวบรวม 436 ประเด็นข่าวเศรษฐกิจในรอบ 21 ปี (2553) โดย หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจได้บันทึก ในหน้า 77 ไว้ว่า
..................

โครงการรถไฟฟ้าธนายง

กรุงเทพมหานคร [ช่วงคาบเกี่ยวระหว่างผู้ว่ากทม.จากพรรคพลังธรรมคือ พลตรี จำลอง ศรีเมือง กับ ร้อยเอก กฤษฎา อรุณวงษ์ ณ อยุธยา] ได้ลงนาม กับ บริษัท ขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (บีทีเอสซี) บริษัทในกลุ่มธนายง ทำรถไฟลอยฟ้า เมื่อ 9 เมษายน 2535 อายุสัมปทาน 30 ปีภายใต้เงื่อนไขว่า รัฐจะไม่อุดหนุนใดๆ เพียงแต่ให้กทม.รับจัดหาที่ดินให้และไม่ต้องแบ่งผลประโยชน์จากรายได้ตลอดระยะเวลาสัมปทาน เพื่อไม่ให้ค่าโดยสารมีราคาสูงโดยรัฐบาลได้ให้การส่งเสริมลงทุนยกเว้นภาษีเงินได้จำนวน 8 ปี

เส้นทางมี 2 สายคือ สายสุขุมวิท เริ่มจากสุขุมวิท 77 อ่อนนุช ถึงหมอชิต ระยะทาง 16.4 กิโลเมตร และ สายสีลม เริ่มต้นเชิงสะพานสาทรฝั่งกรุงเทพ ถึงสนามกีฬาแห่งชาติ ระยะทาง 6.4 กิโลเมตร โดยขณะนั้นกำหนดอัตราค่าโดยสาร 15 บาทตลอดสาย
...................

หลังจากนั้นอีก 7 ปี 5 ธันวาคม 2542 เปิดให้บริการ รถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิท (สถานีหมอชิต-สถานีอ่อนนุช) และ รถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีลม (สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ-สถานีสะพานตากสิน) จากความจำของผมคิดว่าค่าโดยสารน่าจะมากกว่า 15 บาทตลอดสายแน่นอน ซึ่งเป็นไปได้ว่าระหว่างนั้นมีการแก้สัญญา

แต่ที่จะได้แน่ ๆ คือมีการขึ้นราคารถไฟฟ้ามาตลอดจนถึงปัจจุบัน

เรื่องราคารถไฟฟ้าแพงนั้นอยู่ในใจคนกรุงเทพมานาน ในการเลือกตั้ง 6 กุมภาพันธ์ 2548 พรรคไทยรักไทยได้นำเสนอนโยบาย รถไฟฟ้า 10 สาย ราคา 15 บาทตลอดเส้นทาง

ปรากฏว่าคนกรุงเทพได้เลือกพรรคไทยรักไทยแบบถล่มทลายด้วยคะแนนเสียง 32 ที่นั่งจาก 37 ที่นั่งโดยแบ่งให้พรรคประชาธิปัตย์เพียง 4 ที่นั่งเท่านั้น
https://th.wikipedia.org/…/การ�%B…

นับว่าเป็นการพ่ายแพ้ที่สุดของพรรคประชาธิปัตย์ในกรุงเทพหลังจากเคยได้ 1 เสียงในการเลือกตั้ง 2522

แต่อย่างที่ทราบว่าแม้พรรคไทยรักไทยจะชนะเลือกตั้งอย่างท่วมท้นแต่ก็ปกครองไม่ได้ จากการเปิดประเด็นเรื่องถวายคืนพระราชอำนาจของสนธิ ลิ้มทองกุล และการทิ้งไพ่โง่ขายหุ้นชินคอร์ปของทักษิณ จนต้องยุบสภาในปี 2549

ที่น่าสนใจคือ หลังจากนั้น 1 ปี พรรคประชาธิปัตย์ก็มาเล่นเกมหาเสียงกับรถไฟฟ้ากับพรรคไทยรักไทยด้วย

"ทรท."หยัน"ปชป."โวรถไฟฟ้า 10 เส้นทางของพรรคเหนือกว่าทุกด้าน
http://www2.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx…

แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นคือการที่พรรคไทยรักไทยยังยืนยันตัวเลข 15 บาทตลอดสายและทุกเส้นทางเหมือนเดิม โดยมีตัวเลขยืนยันว่าทำได้

972 Nameless Fanboi Posted ID:zrX8w4uF3

>>971
รายละเอียดของโครงการ พรรคไทยรักไทย ขอยืนยันว่า มีข้อมูลศึกษาโครงการที่ชัดเจนทำได้จริง แม้จะมีการจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าตลอดสาย ทุกเส้นทางในราคาเที่ยวละ 15 บาท โดยจากราคาดังกล่าว ประชาชนที่เดินทางไปกลับ จะเสียค่าโดยสาร 30 บาทต่อวัน และเมื่อก่อสร้างเสร็จจะมีประชาชนใช้บริการไม่ต่ำกว่าวันละ 3.5 ล้านคน ทำให้รถไฟฟ้ามีรายได้ตอบแทนวันละ 90 ล้านบาท หรือปีละ 33,000 ล้านบาท ขณะที่ด้านรายจ่าย เมื่อศึกษาจากต้นทุน จากการเดินรถ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล จะทำให้มีต้นทุนเดินรถไฟฟ้า 10 สายทางปีละ 15,000 ล้านบาท จึงเห็นว่า ราคา 15 บาทตลอดสายเป็นราคาที่ทำจริงได้

ส่วนการบริหารจัดการลงทุน และเดินรถนั้น ทรท. ใช้วิธีให้ภาครัฐเป็นผู้ลงทุน และให้เอกชนเข้ามาบริหารการเดินรถ ทำให้ต้นทุนการบริหารจัดการต่ำ ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าของ ปชป. จะให้ภาครัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและให้เอกชนสัมปทานเดินรถ พร้อมจ่ายค่าเช่าอุโมงค์ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้มีต้นทุนสูง ทำให้ต้องเก็บค่าโดยสารไม่น้อยกว่า 60-70 บาทต่อเที่ยว

ส่วนข้อมูลในเชิงเปรียบเทียบ ระหว่างรถไฟฟ้า 10 สายทาง ของ ทรท. และ 7 สายทางของพรรค ปชป. เห็นได้ชัดเจนว่า ในเรื่องการครอบคลุมรถไฟฟ้า 10 สายทางจะครอบคลุมพื้นที่มีระยะทาง 333 กิโลเมตร งบประมาณ 570,000 ล้านบาท ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าของพรรค ปชป. มีระยะทาง 139 กิโลเมตร งบประมาณ 265,150 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับเงินลงทุน คำนวณตามระยะทาง การก่อสร้างรถไฟฟ้าของ ทรท. จะมีต้นทุนต่อกิโลเมตร เท่ากับ 1,727 ล้านบาท แต่ของ ปชป.จะมีต้นทุน 1,908 ล้านบาท ขณะเดียวกันตัวเลขมูลค่าของการลงทุน โครงการรถไฟฟ้าของ ปชป. ก็สูงกว่าความเป็นจริง เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงมักกะสัน-สุวรรณภูมิ ที่ ปชป.บอกว่าจะทำ และมีต้นทุนถึง 56,000 ล้านบาท แต่โครงการดังกล่าวรัฐบาลได้ทำการประมูลและเริ่มก่อสร้างไปแล้ว ในวงเงินเพียง 26,000 ล้านบาท และจะก่อสร้างเสร็จใช้งานได้ปลายปีหน้า
……………

แต่อย่างที่ทราบ เกิดรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เสียก่อน การเลือกตั้งก็ไม่มี ทุกอย่างกลับมานับหนึ่งใหม่อีกครั้ง

แน่นอนว่าคนที่ยิ้มคือ คีรี กาญจนพาสน์ ประธานบริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) นั่นเอง

ประเด็นรถไฟฟ้าราคาถูกกลับมาอีกครั้งในการเลือกตั้ง 2554 เมื่อยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทยเสนอนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย

ยิ่งลักษณ์ ชูนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย
https://www.youtube.com/watch?v=nmeAAquY3cw

หลังจากเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม 2554 ก็มีการส่งมอบนโยบายสำคัญ ๆ เช่น ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ ประกันราคาข้าว รวมทั้งโครงการปฏิรูปเส้นทางคมนาคมครั้งใหญ่ รวมทั้งโครงการรถไฟฟ้าด้วย

ระหว่างนั้น วันที่ 3 พฤษภาคม 2555 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) จากพรรคประชาธิปัตย์ และทีมผู้บริหาร กทม.ได้ร่วมงานพิธีลงนามสัญญาจ้างระหว่าง บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด วิสาหกิจของ กทม. กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี ผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสสายปัจจุบัน เพื่อว่าจ้างบริษัทบีทีเอสซีเดินรถไฟฟ้าในโครงข่ายของ กทม. เป็นระยะเวลา 30 ปี

รถไฟฟ้า BTS กินรวบ 30 ปี 1.87 แสนล้าน กทม.ทิ้งทวนอุ้มกรุงเทพธนาคมฟันรายได้ 2 พันล้าน
https://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1336625870

ว่ากันว่ามีเงินหล่นมหาศาลเพื่อทำให้ ดีลนี้สำเร็จ
คนที่รับทรัพย์เฉพาะหน้าคือพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนระยะยาวคือ คีรี กาญจนพาสน์ ประธานบริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) นั่นเอง

สิ่งที่ต้องบันทึกไว้ก็คือ ดร.อาณัติ อาภาภิรม เป็นประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีทีเอส)

และเป็นคนเดียวกับ ดร. อาณัติ อาภาภิรม กรรมการสถาบันสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)

https://tdri.or.th/cot-bod/

ดังนั้นเราอาจจะไม่แปลกใจที่ไม่เห็นบทบาทของ ทีดีอาร์ไอ จะมาพูดถึงสัญญาอัปยศครั้งนี้ มากเท่ากับดีลอื่น ๆ

และไม่ต้องแปลกใจว่า นโยบายรถไฟฟ้าราคาถูก จะมีเสียงคัดค้านจากพรรคประชาธิปัตย์อีกในฐานะคนทำดีลร่วมกับธนายง

ปชป.อัดรัฐบาลทำรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายไม่ได้ อ้างรฟม.แจงหากเอาจริงต้องแบกภาระปีละหมื่นล้าน
http://www.posttoday.com/politic/223745

สี่งที่เรียบเรียงมาก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า การที่ค่าบริการรถไฟฟ้าแพงนั้นมันเป็นการร่วมมือกันของนายทุนและนักการเมืองบางส่วน ในการปล้นคนกรุงเทพ

ขณะเดียวกัน การเมืองก็จะมาแก้ปัญหาโดยการนำเสนอนโยบายให้ประชาชนเลือก แต่ก็โดนขัดขวางโดยการรัฐประหารทั้ง 2 ครา

ใครคิดว่ารัฐประหารไม่เกี่ยวกับเรื่องปากท้องก็ลองคิดดูใหม่"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

973 Nameless Fanboi Posted ID:UkZYcG/+o

>>971-972 ไปรักษาโรคน้ำในหูให้หายก่อนเหอะมึง

974 Nameless Fanboi Posted ID:SSjH0wXW+

>>971 ฝากถามมิตรสหายมึงหน่อย
>>972 จะมีประชาชนใช้บริการไม่ต่ำกว่าวันละ 3.5 ล้านคน

ตอนนั้นใครยังเชื่อ คงมีเขางอกอ่ะครับ
https://imgur.com/FzVcp2S

975 Nameless Fanboi Posted ID:rJkFtvT0X

>>974 ถ้าจะ 3.5 ล้านจริง ขบวนรถคงต้องยาวกว่าตัวสถานี หรือไม่ก็มาทุก 10 วิ แค่นี้ก็อึดอัดจะตายอยู่แล้ว ยัดไปอีก 5 - 6 เท่าได้ไงวะ

976 Nameless Fanboi Posted ID:AV2eLml8M

ถ้า 10 สายเสร็จคงถึง 3m แต่แค่สีน้ำเงินยังไงก็ไม่ถึงวะ

977 Nameless Fanboi Posted ID:SSjH0wXW+

>>976 ดูจากสายสีม่วงที่ตั้งเป้าแค่ 7หมื่น ยังมีคนขึ้นไม่ถึงครึ่งเลย

ของพวกนี้ปัจจัยแทรกเยอะ
ไม่ใช่ มโนเสกตัวเลข ประชากร 10ล้านในกรุงเทพ อยู่ๆ30%ของทั้งหมดจะพร้อมใจกันขึ้นรถไฟฟ้าได้ทุกวัน แบบญี่ปุ่น

978 Nameless Fanboi Posted ID:XNvcDy9ZU

ถ้ายืนราคาที่ 15-20 ต่อเที่ยวจริงกุว่าถึงนะ
ตอนนี้ราคารถไฟฟ้ามันสูงกว่ารถเมล์ที่ราคา 6.5 - 20 ต่อเที่ยวมากเกินไปในระยะทางใกล้เคียงกัน
ไม่ใช่ว่าคนกรุงเทพฯ ใช้รถสาธารณะน้อย แต่ราคามันแพงเกินไปสำหรับคนรายได้น้อยมากกว่า

979 Nameless Fanboi Posted ID:grfGpKskz

>>978 capability น่าจะไม่พอรับวะ ถ้าจะให้คนขึ้นขนาดนั้นจริง ต้องเพิ่มตู้กับจำนวนรอบ แล้วต้นทุนก็จะบานไปอีก

980 Nameless Fanboi Posted ID:6whsPG36a

>>979 ก็ว่างั้นแหละ แค่จะบอกว่าถ้าตัวเลขจำนวนคนใช้มันก็เป็นไปได้ แต่ระบบที่มีตอนนี้มันไม่น่ารับไหว

981 Nameless Fanboi Posted ID:gHByxCNX4

"กรณีล็อคคอนิสิตและทีมเนติวิทย์ถูกปลดจากตำแหน่งทำให้นึกถึงคดีที่ตนเคยทำไว้สมัยเรียนนิเทศฯ จุฬาฯ (แม้ข้าพเจ้าจะไม่ได้มีเป้าหมายอันยิ่งใหญ่เหมือนเด็กรุ่นนี้)

สมัยเรียนอยู่ปี 4 ข้าพเจ้าและเพื่อนขอเข้าไปทำสารคดีเกี่ยวกับตึกใบหยก ซึ่งในเวลานั้นมีรุ่นพี่คณะคนหนึ่งเป็นผู้ดูแล หลังจากไปเยือนตึกใบหยกไม่กี่วัน ข้าพเจ้าก็ได้รับแจ้งว่ารุ่นพี่ท่านนั้นขับรถมายื่นจดหมายร้องเรียนที่ข้าพเจ้าและเพื่อนมีความประพฤติที่ไม่เหมาะสมในเรื่องการแต่งกาย (ใส่กางเกงยีน) และกิริยามารยาท (เพื่อนที่เป็นแฟนจับมือกัน) ซึ่งเป็นเหตุให้คณะและมหาวิทยาลัยอันทรงเกียรติต้องด่างพร้อย

รองฯ ด้านกิจการนิสิตเห็นว่า ถ้าไม่อยากให้เรื่องบานปลายจนไปถึงระดับพักการเรียน ข้าพเจ้าและเพื่อนควรจะต้องไปขอขมารุ่นพี่ท่านนั้นและยอมรับผิด ถ้าเป็นแบบนี้พวกข้าพเจ้าก็จะถูกตัดคะแนนความประพฤติ (ใช่แล้ว มหาลัยมีคะแนนความประพฤติ!!!) ในระดับที่ยังไม่ถูกพักการเรียน (แต่อย่าทำอะไรผิดเพิ่มเติมอีก) พวกข้าพเจ้าจึงต้องแบกสังขารไปกราบขอขมารุ่นพี่ท่านนั้นที่ตึกใบหยกเพื่อให้เรื่องจบ (ทุกวันนี้เวลาเจอรุ่นพี่ท่านนี้ตามงานของคณะฯ ก็ต้องห้ามปรามกันมิให้เกิดประทุษวาจาใส่รุ่นพี่ท่านนี้)

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้อาจารย์ประจำภาควิชาท่านหนึ่งรู้สึกอับอายมาก และเอามาประชดประชันข้าพเจ้าในห้องเรียน ข้าพเจ้าได้แต่ทำหน้าเฉยเมย (จะให้ข้าพเจ้ายิ้มรับอีกหรือ) ซึ่งกลับกระตุ้นต่อมโทสะของอาจารย์ผู้นั้น อันเป็นเหตุให้ท่านใช้อำนาจสั่งให้ข้าพเจ้าออกไปจากห้องเรียน ไหนๆ ก็ทำตัวเป็นเด็กดีเพื่อชื่อเสียงของหมาลัย (จริงๆ ก็แค่ไม่อยากโดนพักการเรียนด้วยเรื่องงี่เง่า) ข้าพเจ้าเลยเชื่อฟัง เดินออกมาแต่โดยดี

หลังเดินออกจากห้องได้ไม่กี่ก้าว อาจารย์ท่านนั้นวิ่งตามมาด้วยความโกรธา กระชากคอเสื้อข้าพเจ้า พร้อมย้ำถามว่า "คุณจะเอายังไงกับผม คุณจะเอายังไงกับผม" ณ เวลานั้น บอกตรงๆ ว่าอยากบริหารร่างกายและใช้ประทุษวาจามาก แต่ความวัวไม่ทันหาย จะปล่อยให้ความควายเข้ามาแทรก ก็คงเรียนไม่จบเป็นแน่แท้ จึงได้แต่ปัดมือพร้อมไหว้อาจารย์ท่านนั้นหนึ่งที ก่อนเดินจากไป

ทุกวันนี้มองย้อนกลับไป ก็รู้สึกขำขันกับสิ่งที่เกิดขึ้น บางส่วนตนก็ทำไม่ถูก แต่ก็ไม่ชอบใจกับความสัมพันธ์ทางอำนาจที่ไม่เท่าเทียมขนาดนี้

การเรียนจุฬาฯ นั้น บางส่วนเราย่อมต้องแบกรับความเป็นมหาลัยอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ แต่นั่นไม่น่าจะบดบังเป้าหมายสำคัญของมหาลัยในการเป็นพื้นที่อุดมคติให้กับการเติบโตทางปัญญาและสร้างตัวตนของนิสิตนักศึกษาได้ คุณอาจท้าทายให้เขาคิดรอบด้านได้ แต่ไม่ได้กดทับความคิดเชิงวิพากษ์และการกระทำของเขา ไม่ได้ยัดเยียดรูปแบบตายตัวของการเป็นนิสิตนักศึกษาที่ดีตามอุดมคติของจุฬาฯ ผ่านอำนาจเชิงสถาบัน"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

982 Nameless Fanboi Posted ID:MwaD8Nxf8

>>981 บางทีการฟังความข้างเดียวและกูไม่เคยผิด ก็ควรฟังหูไว้หูนะครัช

983 Nameless Fanboi Posted ID:0NYhUt3s/

อยากจะเอาชื่อผู้กำกับ Deathnote ของ Netflix เขียนลงไปให้มันตายคนแรกนั่นแหละ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

984 Nameless Fanboi Posted ID:XJT+0l.QG

>>981
เจริญล่ะประเทศไทย ยึดถือสถาบันมากกว่าความรู้

985 Nameless Fanboi Posted ID:MwaD8Nxf8

>>984 ก็จริงแทนที่จะเข้าไปเรียน
เสือกไปยุ่งเรื่องเคารพของคนอื่น

986 Nameless Fanboi Posted ID:yO4w./66x

>>984 ไม่งั้นเค้าจะแย่งเข้า ม. ดีๆกันเรอะ

987 Nameless Fanboi Posted ID:9AWU4BuXu

>>984 กูว่าเป็นกันเกือบทุกประเทศทั่วโลกนะ เลือกได้ก็อยากแย่งกันเข้าสถาบันดีๆดังๆเนี่ย

988 Nameless Fanboi Posted ID:sIYAzPcfu

>>987
เค้าเลือกเพราะการันตี ความรู้มีคุณภาพระบบการสอนดีเยี่ยม
ไม่ใช่แบบนี้

989 Nameless Fanboi Posted ID:9AWU4BuXu

>>988 มันก็ไม่ต่างกันไม่ใช่เรอะ

990 Nameless Fanboi Posted ID:sIYAzPcfu

>>989
ต่างดิของไทยให้ความสำคัญกับชื่อเสียงสถาบันมากกว่าระบบการสอน ดูจากการเคารพรุ่นพี่ที่แม่งจบไปแล้วนี่ดิ มันไม่ใช่ล่ะ
กูไม่คิดว่าคนจบ mit หรือฮาร์วาร์ดจะทำแบบนี้น่ะ

991 Nameless Fanboi Posted ID:baXdba2p2

>>>/lounge/4357/

992 Nameless Fanboi Posted ID:yDHIfl0RK

>>990 เมื่อก่อนกูคิดอยู่แต่ว่าเสียใจมากๆที่สอบไม่ติด ฬ หรือ มหิดล แต่พอมาหวนคิดอีกทีกูว่าไม่เสียดายแล้ว ตอนนี้คิดอย่างเดียวละว่าเก็บเงินเรียนต่อ ตปท ไปเอาวุฒิ ป.ตรี ในประเทศโลกที่1ยังไงดีกว่า รู้สึกเลยว่าเรียนมหาลัยเปิดในไทยครูมันยังไม่ทำอะไรแบบนี้กับเด็กในมหาลัยแม้แต่เรื่องการแต่งกาย

993 Nameless Fanboi Posted ID:irPBAAjbr

>>990 ต่างตอนมึงหางานทำแน่นอน รวมไปถึงคอนเนคชั่นเส้นสายติดต่องาน
เหมือนมึงไปสมัครงานกับบ.ดังๆระดับกูเกิ้ล บอกจบโรงเรียนวัด หรือสถาบันโนเนม แค่นี้ฝ่ายบุคคลก็โยนเอกสารสมัครงานมึงลงถังล่ะ(ยกเว้นเส้นสายมึงจะเยอะจริง)

994 Nameless Fanboi Posted ID:sIYAzPcfu

>>993
นี่เป็นข้อดีเหรอว่ะ มึงรู้ไหมกูเกิ้ลไม่รับคนจากสถาบันว่ะ

995 Nameless Fanboi Posted ID:0o3Ms9XG3

>>994 kek ไปดูรายชื่อบอร์ดบริหารแล้วค่อยพูดเถอะ

https://www.bloomberg.com/research/stocks/private/people.asp?privcapId=312932093

996 Nameless Fanboi Posted ID:sIYAzPcfu

>>995
ถ้าเอาระดับนี้ก็ต้องคัดที่ความรู้ความสามารถอยู่แล้วนิ กรณีที่กูพูดถึงพนักงานระดับทั่วไป แถไปเรื่อย

997 Nameless Fanboi Posted ID:0o3Ms9XG3

>>996 อ่านเองก่อนอวดฉลาดดีกว่า โฆษนากับความเป็นจริงมันคนละเรื่องนะ หัดหาข้อมูลซะบ้าง

Google รับคนตามความสามารถโดยไม่สนาถาบัน True แต่คนมีความสามารถก็เรียนสูงตามความสามารถด้วย

https://www.timeshighereducation.com/student/news/which-colleges-do-facebook-google-and-other-top-employers-recruit#survey-answer

http://www.huffingtonpost.com/2012/03/29/where-did-google-apple-college_n_1387567.html?slideshow=true#gallery/217586/0

http://www.businessinsider.com/schools-with-the-most-alumni-at-google-2015-10

998 Nameless Fanboi Posted ID:sIYAzPcfu

>>997
ก็ใช่ไงต่างประเทศเขาเรียนเอาความรู้
คือมันต่างประเทศไทยน่ะ นายย้อนไปอ่านบนๆไป แล้วจะเถียงเพื่อ ยอมรับสักทีว่าการศึกษาไทยโคตรล้มเหลว อย่างน้อยต่างประเทศก็ไม่มีรุ่นพี่จบไปแล้วมาเจ้ากี้เจ้สการเช่นมึงอยู่นอกสถาบันห้ามแต่งยีนส์มันตลกไหม

999 Nameless Fanboi Posted ID:yDHIfl0RK

ถ้ามึงเถียงกันในสายงานไอทีกูขอแย้งแย่างนึงนะว่าบริษัทสายงานไอทีตรงๆส่วนมากแม่งกรองคนจากข้อสอบกับสัมภาษณ์หลักๆเลยนะไอที่กรองๆจากชื่อสถาบันนี่กูว่าต้องประเภทบริษัทเปิดบังหน้าไม่ก็ปลายแถวหว่ะ ยิ่งในไทยนี่สายงานไอทีขาดแคลนชิบหาย จะใช้ระบบอุปถัมภ์คัดคนเข้าทำงานนี่จะกล้าเสี่ยงจ้างมาทำให้ภาพลักษณ์องค์กรฝ่ายไอทีบรรลัยแแบเสี่ยงดวงขนาดนั้นเชียว

1000 Nameless Fanboi Posted ID:sIYAzPcfu

>>999
คือไอ้เรื่องรับคนจากสถาบันไม่เถียงหรอก อย่างน้อยก็กรองคนระดับหนึ่ง แต่ประเด็นคือ เมื่ออยู่นอกสถาบันมันไม่ควรมีการทำลายสิทธิ เสรีภาพในการแสดงออก มึงควรดูความรู้ในสมองสิว่ะ

พูดไปก็เท่านั้น แต่สักวันกูจะล้างให้หมดไอ้พวกเหี้ยที่ทำนาบนหลังคน

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.