น่าเสียดายที่คนไทยถูกวาทกรรมทำเหล้าให้กลายเป็นปิศาจหลอกหลอนบังตาแล้วปล่อยให้เกิดสัมปทานผูกขาดการผลิตเหล้าเบียร์ไว้ที่ผู้ผลิตรายใหญ่ผูกขาดมาหลายทศวรรษ กระทั่งผู้ผลิตเบียร์รายหนึ่งกลายเป็นเจ้าที่ดินอันดับหนึ่งของประเทศ เราก็ยังคงไม่รู้สึกรู้สาอะไร และเฝ้าก่นด่าเหล้าให้กลายเป็นปิศาจอยู่วันยังค่ำ
ปิศาจที่แท้จริงคือคนที่เอาศีลธรรมมาอุดปากเราไว้มือหนึ่ง อีกมือหนึ่งไปหนุนส่งอุ้มชูยกย่องผู้ผูกขาดการค้าเหล้าจนร่ำรวยแล้วคนคนนั้นก็กลายมาเป็นคนมีหน้ามีตามีเกียรติในสังคม
นี่คือความปากว่าตาขยิบของสังคมไทย
คนจนกินเหล้านี่ไปด่าไปประณามเขาอยู่นั่น แต่พอเจ้าสัวขายเหล้าเดินผ่านปุ๊บ รีบเอามือกุมหำก้มหัว ก้มแล้วก้มอีก
นี่คงเป็นผลของสังคมคนที่ถูกกล่อมให้โง่ซ้ำซากภายใต้การปกครองของคน “ดี” เราจึงอยู่ประเทศแบบนี้ ที่ต้องกินคราฟต์เบียร์นำเข้า กินไวน์ราคาถูกแต่จ่ายแพงเพราะกำแพงภาษี
แต่คน “ดี” และมีอำนาจกินไวน์ฟรีที่มีคนเอามากำนัลและโดยมากหนีภาษี
ส่วนคนจนกินเหล้าขาว เหล้าโรงคุณต่ำทำจากกากน้ำตาลกิโลละสองบาทแล้วเป็นมะเร็งในตับตาย
ส่วนวัยรุ่นไทยก็กินเหล้ากันสะเปะสะปะไร้รสนิยมเพราะสังคมไม่มีการศึกษาเรื่อง drinking literacy / สังคมที่ขาด literacy ก็เสี่ยงที่พลเมืองจะดื่มอย่างขาดสติจนกลายเป็นป่วยติดเหล้าไปอย่างเปล่าดาย วนลูปไปที่ทำให้คนดีหาทางปิดกั้นการขายและผลิตเหล้าเสรี วนที่การผูกขาด วนไปที่การคงไว้ซึ่งภาษีบาปด้วยการอ้างตัวเองคนติดเหล้าที่เพิ่มขึ้น เพื่อคงโครงการทำงานที่ต้องใช้ภาษีบาปต่อไป
วนเป็นวงจรอุบาทว์แบบนี้ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด
ตราบที่คนไทยยังโง่อยู่ เราก็จะถูกคนดีหลอกอยู่อย่างนี้ไม่มีที่จุดจบ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง