คุณเคยได้ยินคำว่า "ฟองสบู่" ไหม?
มันหมายถึงปรากฎการณ์ที่สบู่เกิดเป็นฟองแล้วขยายใหญ่เรื่อยๆจนแตกในที่สุด มันเป็นคำอธิบายปรากฎการณ์ทางการเงินที่ราคาสินทรัพย์พุ่งไปเรื่อยๆจนระเบิดในที่สุด
คุณอ่านถึงตรงนี้คุณอาจจะรู้สึกว่านักลงทุนทำไมโง่จังวะ... ซื้อสินทรัพย์ที่ราคาแพงชิบหายลงไปได้ยังไง
แท้จริงแล้ว ฟองสบู่ไม่ได้เกิดจาดความโง่ แต่เกิดจากความมีเหตุผล ฟองสบู่ที่รุนแรงจะเกิดจาก sound promise (คำสันนิษฐานที่สมเหตุสมผล) เสมอ ไม่ได้เกิดจาก false promise (คำสันนิษฐานที่ผิดแน่นอน)
1.รถยนต์จะเปลี่ยนโลก ประชากรในโลกจะเพิ่มขึ้น คนทุกคนจะต้องมีรถยนต์
2.ไอทีจะเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
3.บ้านคือความต้องการจริง คนไม่มีทางทิ้งบ้าน ตราสารที่ผูกบ้านนับพันหลังเข้าไว้ด้วยกันไม่เสี่ยง
4.ดอลลาร์พิมพ์ขึ้นมาไม่จำกัด โลกเต็มไปด้วยเงินกระดาษ ทองเป็นสินทรัพย์ที่มีจำกัด ราคาจะมีแต่ขึ้น
5.เศรษฐกิจจีนเติบโตมหาศาล หลังจากเปิดตลาดเงินทุนจะไหลเข้าอีกมาก
ทั้ง 5 ข้อเป็นข้อสมมุติฐานที่สมเหตุสมผลทั้งนั้น แต่นักลงทุนที่ซื้อสินทรัพย์บน premise เหล่านี้ล้มละลาย... 1921 ฟองสบู่รถยนต์, 2001 ฟองสบู่ดอทคอม, 2008 ฟองสบูอสังหา, 2013 ฟองสูบทองคำ, 2016 ฟองสบู่ตลาดหุ้นจีน
ที่เลวร้ายกว่านั้นคือ ยิ่งคนเชื่อเท่าไรว่ามันจะเป็นเรื่องจริง ฟองสบู่ยิ่งเลวร้ายมากขึ้นเท่านั้นและสุดท้ายจะมีคนเสียหายหนักเสมอ ดังนั้นจะซื้อสินทรัพย์ต้องระมัดระวังให้ได้ ให้ระแวงสิ่งที่เชื่อโดนทั่วกัน มองหาโอกาสในสิ่งที่คนไม่รู้ อะไรที่เค้าบอกว่า "น่าจะ" "ประมาณ" "มีโอกาส" ผมถือว่าไม่จริงไว้ก่อนทั้งนั้น