Last posted
Total of 1000 posts
แล้วก็มีเมื่อไรจะหาแฟน เมื่อไรจะแต่งงานพ่วงตาม
ตอบว่าเลิกไปแล้วสิ ง่ายดี ไม่มีใครกล้าถามอะไรกูอีกเลย
ไอ้เรื่องเมื่อไหร่จะหาแฟนนี่กูโคตรเซ็งค่านิยมที่สอนสั่งกันมาชิบเป๋งเลยว่ะ
ตอนเรียนก็บอกให้ตั้งใจเรียน เรียนอย่างเดียวห้ามมีแฟน
ไอ้ตอนเรียนจบเริ่มทำงานแล้วก็หันร้อยแปดสิบองศา มาถามเมื่อไหร่จะแต่งเมีย
>>881 พูดเป็นเล่นไป ถถถถ กูเป็นแบบนั้นเลย สมัยเรียนพ่อแม่ห้ามมีแฟนเด็ดขาด กูก็เชื่อนะ ไม่ว้อนท์ด้วยแหละตอนนั้น สมัยเรียนมีอะไรให้ทำเยอะค่อนข้างติดเพื่อนติดเกม และคิดด้วยว่าเดี๋ยวเรียนจบมาทำงานก็หาได้เอง เอาไปเอามา เหยดด จบมากี่ปีแล้ววะยังหาไม่ได้เลย i_i จนตอนนี้เริ่มปลงละ เปลี่ยนมาวางแผนการเก็บเงินและเตรียมตัวตอนแก่สำหรับชีวิตโสดแทน
บ้านกูก็ไม่รวย กูไม่เห็นขี้แตก
แค่ประหยัด ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่ต้องไปกินอาหารมื้อละสองสามร้อย ไม่ใช้สมาร์ทโฟนเครื่องละสองหมื่น ฯลฯ มึงก็เหลือเงินเก็บมากมายแล้ว
ช่วงที่กูเก็บเงินเตรียมทำธุรกิจ กูใช้เงินแค่เดือนละแค่ไม่กี่พัน เหลือเก็บเดือนละตั้งหลายหมื่น
เอาสิ
บ้านกูไม่รวยไง แล้วนี่กูกำลังพูดถึงวิธีการใข้ชีวิต
กูใช้เงินเดือนนึงไม่เคยถึงหมื่น ยกเว้นเวลามีเหตุจำเป็นเช่น เข้าโรงพยาบาล
>>889 มึงบอกรายละเอียดของมึงมาด้วยสิวะ ที่อยู่ รายได้ รายจ่ายแบ่งตามประเภท และเงินที่เหลือเก็บ
ตอนนี้เอาคร่าว ๆ ก่อน
อย่างแรกมึงต้องแยกรายจ่ายที่จำเป็นกับไม่จำเป็นออกจากกันก่อน อะไรไม่จำเป็นก็ตัดทิ้งไปเลย
คนส่วนใหญ่รู้อยู่แล้วว่าอะไรจำเป็น อะไรไม่จำเป็น แต่ไม่ยอมตัด
ถ้ามึงอยากได้มือถือเครื่องละสองหมื่น รถคันละสี่แสน ให้มึงคิดว่า เงินจำนวนนั้น ถ้าเอาไปลงทุนถูกวิธี ปีเดียวมึงก็ได้คืนกลับมาแล้ว
และอีกอย่างคือมึงควรจะทำบัญชีด้วย แล้วมึงจะรู้ว่ารายจ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ ครั้งละยี่สิบสี่สิบบาทหลาย ๆ รายการทั้งเดือน รวมกันแล้วมันเยอะขนาดไหน
แต่ก่อนตูบ้าชาเขียวมาก แดกทุกวัน จนตอนนี้แม่งคุมน้ำหนักเลย อดแดกเงินเหลือบานเลยเมิง
>>890 คือตอนนี้กูเป็นนักศึกษาอยู่ไม่มีงานพิเศษ ได้อาทิตย์ละพันห้า พยายามเก็บอาทิตย์ละ 500 แต่บางอาทิตย์ก็เก็บไม่ได้ ใจจริงนะกูอยากเก็บอาทิตย์ละพันเลยแล้วใช้แค่500 แต่ทำไงก็ใช้ไม่พออ่ะ ค่าข้าวแถวหอกู 40 บาทขึ้นไป ยังไม่รวมพวกค่าของจิปาถะอย่างอื่นนะ กูกำลังหาวิธีให้ตัวเองสามารถจัดสรรเงินให้อยู่ได้ทั้งอาทิตย์ด้วยเงิน 500 อ่ะ มันพอจะมีความเป็นไปได้มะ
มื้อละ 40 วันละสามมื้อก็ 120 ห้าวันก็ 600 แล้ว
มึงมีทางเลือกคือกินวันละสองมื้อกับทำอาหารกินเอง
ไอ้การทำอาหารกินเองมันมีปัจจัยอีกหลายอย่างเช่น แหล่งขายวัตถุดิบใกล้ที่พักมึงขายแพงแค่ไหน ใช้เตาแก๊สได้ไหม ถ้าต้อง
ใช้เตาไฟฟ้า ค่าไฟฟ้าหอมึงยูนิตละเท่าไหร่ ฯลฯ บางครั้งทำเองอาจจะแพงกว่าซื้อก็ได้
แล้วค่าใช้จ่ายจิปาถะอย่างอื่นของมึง ที่เป็นรายจ่ายประจำ ต้องจ่ายทุกสัปดาห์มีอะไรบ้าง
จะมีพวกค่ากระดาษร้อยปอนด์ที่มันแผ่นละสี่สิบกว่าบาท ค่ารถวันละ20 ค่าน้ำดื่มวันละ 14บาท แล้วก็พวกจิปาถะที่ต้องจ่ายเป็นรายเดือนก็พวก ยาสีฟัน น้ำยาขัดห้องน้ำ จริงๆมันมีมีเยอะนะแต่กูจำไม่ได้แล้วมันไม่ได้จ่ายบ่อยขนาดนั้น แล้วก็จะมีพวกฉุกเฉินอ่ะ เงินเก็บรวมของคณะที่ทุกคนต่องจ่ายอาทิตย์ละ 40 หรือบางทีจะมีจัดงานเลี้ยงส่งคนนั้น คนนี้ งานวันเกิดเพื่อนก็รวมเงินกันคนละ100-200 ค่าเครื่องแบบนักศึกษา(คืออาจานกูชอบให้ใส่เสื้อผ้าสวยๆเลอะนิดเลอะหน่อยก็ให้ซื้อใหม่ละ เซ็งแต่อันนี้นานๆทีจะซื้อ)
>>894 ไปหาตู้กรองน้ำ ลิตรละบาทอ่ะ กดใส่ขวดแช่ตู้เย็นไว้แล้วพกไปกิน จะได้ไม่ต้องซื้อ
ค่ารถวันละ20นี่มอไซหรือไรวะ ถ้ามอไซลองให้ที่บ้านส่งจักรยานมาให้ดิ ถ้ารถเมล์ไปไกลๆก็อีกเรื่อง
ค่าเลี้ยง บางทีมึงก็อ้างไม่ไปไม่ว่าง แล้วก็จ่ายเพื่อนแค่ครึ่งนึงของที่เพื่อนมึงจ่ายไป ไม่ก็บอกเลยว่าไม่มีตังจริงๆ
ค่าเสื้อ มึงเก็บเสื้อสะอาดๆตัวนึงไว้เรียนกับอาจารย์คนนั้นเลย จะได้ไม่ต้องซื้อบ่อยๆ
ข้าวแพงลองหาของกินเซเว่น 29 30 35ก็พอมี ปต่น้อยหน่อย ไม่ก็แดกมาม่าไม่ก็โจ๊กซองบ้าง อาทิตย์ละ3-4มื้อ
ปล พรุ่งนี้กูทำงานแล้วว่ะเหี้ยเอ๊ย หยุด4วันเอง
เซ็งคนจากภาคนั้นว่ะ เทศกาลทีก็ตั้งวงเปิดเพลงเสียงดัง กูจะหยุดอยู่บ้านสบายๆเงียบๆก็ไม่ได้ พวกเหี้ย
กูยังไม่อยากทำงานเลยพรุ่งนี้ แค่คิดก็เซ็งๆๆ
อยากข้ามเวลาไปวันเสาร์เลย
รถไฟหยุดหลายขบวน กูไปสายอีกสัดดดดดดดดดดดดดดด
ถนนโล่งเหี้ยๆ
กูเห็นถนนโล่งแล้วรู้สึกดีจัง อาห์
คนนั่งหลังกูแม่งถอดรองเท้า เหม็นเหี้ยเลยสัด
ดีนะกูกลับเมื่อวาน
ทำงานชิวๆ หัวหน้าไม่มา เยสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส
กระทู้จะตันแล้ว
ใจเย็น อีกตั้งเกือบร้อยเม้น
ปกติมู้นี้ก็ไม่ได้วิ่งไวมากอยู่แล้ว
อะไรที่มึงคิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตการทำงานของพวกมึงวะ
อินโนเซ้นหวังดีอยากให้งานออกมาดีแล้วกลายเป็นต้องเสียเวลา+เปลืองตัวไปเถียงกับเพื่อนร่วมงานเหี้ยๆคนนึง ที่ตรรกะและความคิดแม่งโคตรพิลึกผิดตรรกะมนุษย์ แต่เสือกนึกว่าตัวเองเก่งเทพจนคนอื่นไม่เข้าใจมัน ขนาดหัวหน้ายังเอือมแต่ไม่รู้จะช่วยยังไงเลยต้องปล่อยเลยตามเลย
คือการตัดสินใจมาทำงานแทนที่จะเป็นนีทอยู่บ้าน
เลือกที่จะแสดงความสามารถให้เห็นจนต้องเหนื่อยกว่าชาวบ้าน ในขณะคนที่สั่ง และคนที่ขอให้ช่วยนั่งเลียนายสบายใจ
อยากได้เดสตินี่แพลน กูจะได้ไม่ต้องหางานที่กูไม่ชอบทำ
ถ้ากุมีเงินเก็บเดือนละ 2-3 หมื่นนี่ กุจะหาแฟนได้สวยแค่ไหนวะ
>>916 ถ้ามึงจะใช้วิธี จีบผู้หญิงด้วยเงิน กูแนะนำให้มึงใช้เงินเดือนละสองสามหมื่นแทน
ผู้หญิงเค้าไม่ค่อยมาละลาบละล้วงหรอกว่ามึงมีเงินเก็บแค่ไหน เค้าดูฐานะจากเงินที่มึงใช้
กูกับเพื่อนร่วมงานเงินเดือนเท่ากัน เพื่อนร่วมงานเอาเงินส่วนใหญ่ไปใช้จ่ายอย่างเมามัน ส่วนกูเอาเงินส่วนใหญ่ไปลงทุนหลาย ๆ อย่าง
เวลาได้ไปพบเจอไปรู้จักคนใหม่ ๆ คนเค้าก็มองว่าเพื่อนกูรวยกว่ากูเยอะกันเป็นส่วนมากนะ
จีบผู้หญิงประเภทที่จะมาใช้เงินแทนมึงดิ แบบพวกชอบพาเที่ยวพาแดก
มีเงินแต่ใช้ชีวิตจนๆนี่เกิดมาคุ้มเหรอวะ เอาเปรียบโลกนี้บ้างก็ได้เว้ย
เอาเงินไปลงทุนแล้วแบ่งมาตีกระหรี่ไม่คุ้มกว่าหรอวะ
ช่วงนี้กูแม่งรู้สึกเหงาว่ะ มีมั้ยวะแฟนที่แบบ
ปล่อยให้กูมีโลกส่วนตัวของกู ไม่มาตัวติดกันมาก
กูรับรองเลยว่ากูจะไม่ไปมีใครแน่นอน แต่เว้นที่ให้กูมีโลกส่วนตัวบ้างไรงี้
มานั่งกินข้าวสองคน ต่างคนต่างกดมือถือ ?
เผลอแป๊บๆ ก็วันศุกร์ที่สามอีกแล้วสินะ..
เตรียมมู้ศุกร์ที่4รอเลย
9-16 ม.ไฮโซใกล้ห้างดัง แต่ส่วนใหญ่ถ้ากุเรียนแล้วเบื่อกุก็เดินออกเลยว่ะ ถ้าสอนเกินเวลากุก็เดินออกตอน 16
นี่จะจบละยังไม่รู่สึกว่าได้อะไรเท่าไหร่เลย 555
สมัยนี้คนเรียนป.โทกันเยอะจังว่ะ ขยันจัง กูกว่าจะจบตรีได้แทบตายห่าไม่อยากเรียนอะไรอีกแล้วว่ะ ชอบทำงานมากกว่า สนุกกว่า มันเหมือนเรียนไปด้วยแต่ได้ตังค์ไปด้วย เอาจริงๆกูว่ากูมาเรียนรู้อะไรจริงๆตอนทำงานนี่แหละ สี่ปีในมหาลัยนี่เหมือนเป็นแค่โรงเรียนเตรียมอนุบาลปูพื้นฐานไปเลย แต่ป.โทนี่มันเป็นไงวะอยากรู้ เรียนแล้วมีประโยชน์มากมั้ย
กุเรียนปี 5 แล้วยังไม่จบเลย อยากจบละเนี่ย
หรือจะเรียนต่อก็ยังไม่รู้ชีวิตตัวเองเลย เหนื่อยก็เหนื่อย ตังก็ไม่มีใช้
บางคนเรียนเอาไว้อัพเลเวลในที่ทำงาน บางคนเรียนเพื่อหาคอนเน็คชั่น ส่วนใหญ่พวกนี้จะเรียนสายสังคมโปรเจ็คไม่ค่อยหนักมาก แต่ก็มีพวกเนิร์ดหลายคนต่อสายวิทย์เพราะอยากหาความรู้ก็มีแต่โปรเจ็คแม่งยากสัดๆ(แล้วแต่ดวงด้วย)บางทีก็เอาผลงานไปต่อเอกเลย
แต่ส่วนใหญ่ๆเลยเรียนเพราะขี้เกียจทำงาน แต่หารู้ไม่ว่า ป.โทบางคณะแม่งนรกกว่าทำงานอีก ก๊ากกกกก
กุว่าส่วนใหญ่ที่ต่อ ป โท เพราะขี้เกียจหางาน ขี้เกียจไปแข่งกับคนเยอะๆ
เลยพยายามอัพเกรดตัวเองให้เป็นที่ต้องการของคนอื่นมากกว่าว่ะ จะได้ไม่ต้องไปแข่งกับใคร แต่มีคนมาง้อ มาแย่งตัวกันแทน
เรียนโทเพราะว่า
1. อยากรู้ลึก เลือกสาขาเฉพาะทางสุดๆ (มันไม่ได้มีประโยชน์ในวงกว้าง แต่ก็เกี่ยวกับสายงานแล้วก็ความชอบส่วนตัวมากพอสมควร)
2. อยากให้พ่อดีใจ ตอนป.ตรีสอบเข้าม.เดียวกับพ่อไม่ได้ ป.โทสอบติดแล้ว
3. ใกล้จะ 30 แล้ว อัพเลเวลรอหางานใหม่จะได้สตาร์ทสูงๆไปเลย
เรียนสบายกว่าเหรอวะ เทียบกันแล้วกูชอบตอนทำงานมากกว่าเยอะ หาเงินได้เองจับจ่ายใช้สอยสะดวกใจจะตายไป
หรืออาจเป็นเพราะงานที่กูทำอยู่มันความลับบริษัทเอาออกไม่ได้ด้วยมั้ง
เพราะงั้นกูเลยไม่เคยต้องเอางานไปทำที่บ้าน มันห้ามเอาออกเด็ดขาด
ถ้ากูอยู่ทำงานต่อกูก็ได้โอที ถ้ากูกลับบ้านก็คือว่าง ไม่มีการเอางานไปทำที่บ้าน
กูเลยรู้สึกว่าชีวิตกูสบายกว่าสมัยเรียนที่แม่งมีการบ้านมีรายงานมีธีสิสเยอะ
คำต้องห้ามเวลาคุยกับพวกเรียนป.โทคือ "วิทยานิพนท์ถึงไหนแล้ว?"
>>934 ต่อจากอันนี้นะ คือที่เรียนเพราะที่บ้านอยากให้เรียนเห็นว่างๆไม่ได้ทำอะไรให้บ้านเท่าไหร่ ทั้งๆที่มีงานแล้วแท้ๆหยุดเสาร์-อาทิตย์ ยังโดนให้เรียน ก็ตามใจผู้สนับสนุนทุนกันไป แล้วคือสงสัยนะ มันยังไงอ่ะที่หาคอนเน็คชั่น เผื่อจะได้มีไรช่วยๆกันหรอประมาณนี้ม่ะ คือเรียนโทสายวิทย์อ่ะไม่ได้สายบริหาร เลยไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
น้องๆ ตูโทหมด มีแต่ตูไม่รู้จะโทไปทำไม แบบว่าอยากทำงานมากกว่าฟะ
โดนขยั้นขยอให้ต่อเอก ไม่มีหัวข้อ ใครจะไปต่อเนี่ย ...
ก็ไปต่อสิวะ บ้านมีปัญญาส่งมึงเรียนเอกนี่มีบุญแค่ไหนแล้วห่า
สำหรับกู กูว่าถ้าบ้านมึงไม่ได้มีธุรกิจไร
ไปทำงานได้อ่ะไรเยอะกว่าเรียนต่อว่ะ
ถ้าเงินเดือน 40k up อะ ถึงไม่ต้องต่อ แต่ถ้าแค่ขั้นต่ำโท 20000 กว่านี่คือระดับแค่พอแดกนะ อัพเกรดตัวเองดีกว่า
40k นี่เยอะแล้วเหรอวะ คือ เมื่อก่อนกุก็ว่าเยอะนะ แต่ตอนนี้กุก็ได้ 40k แล้ว แค่ผ่อนคอนโดเดือนละ 10k ก็รู้สึกว่าไม่ค่อยมีเงินเก็บแล้วว่ะ นี่ขนาดโสดนะเนี่ย
ไม่มีหนี้ไม่มีอะไรต้องผ่อน ถ้าได้ 40k กูนี่เก็บได้ 30k ต่อเดือนเลยมั้ง
ทำงานมาห้าปีแล้วยังได้ไม่ถึง 20kเลยว่ะ
โดนบิลกันเดือนเท่าไหร่มั่งวะ บิลกู
ค่าไฟ 2,000
ค่าน้ำ 300
ค่าเน็ตบ้าน 700
ค่าโทรมือถือ 1,200
ทรู 1,500
CTH 900
ไม่รวมค่าน้ำมัน ค่า่กิน ก็ ตกขั้นต่ำ 6,600 ไม่มีหนี้ ส่วนรายได้ฟรีแลนซ์
เน็ต 1200
โทรศัพท์ 1200
ไฟ 3000
น้ำ 200
ค่าสมาชิกเวปนิโกะ 200
ค่าสมาชิกเวปโอสติ้ง 700
ฟรีแลนซ์ too
ค่าไฟ 2500
ค่าน้ำมันรถ 3500
ผ่อนรถ 11500
ค่าน้ำ 300
เน็ตบ้าน 650
ค่ามือถือ 500
ค่ากิน ประเมินไม่ได้
นอกนั้นก็อื่นๆ จิปาถะ
ค่าเนต 300
ค่าซักผ้า 500
ยังเรียนไม่จบเลยกุ
ค่าคอนโด 20,000
ค่าเน็ต 2 เส้น 7,000
ค่าบริการในเน็ตต่างๆ ที่ใช้อยู่ 3,000
ค่าไฟ 2,000
ค่าน้ำ 300
ค่าโทรศัพท์ 200
ไอ้สัส บ้านกูค่าไฟ8,000 ;___;
อากาศร้อนเปิดแอร์แม่งทั้งวันทั้งคืนสาสสส
ไม่ได้ใช้แอร์ประหยัดไฟเหรอวะ ของกูสองเครื่องยังแค่ 4000
เน็ต 1400
มือถือ 900+200
น้ำ ไฟ ฟรี
ประกัน 3300+3500
ผ่อนรถ 7300
คอนโด 11000 ล่ะมั้ง
แต่ที่เหลือก็ยังจ่ายเยอะอยู่ดี
พยายามไม่เปิดแอร์ เพื่อกดดันตัวเองที่ยังไม่มีงาน
ยังอยู่กับบ้านเดิม บิลน้ำไฟเน็ทเหมาจ่ายเข้าบ้านเดือนละหกพัน
ผ่อนรถหมดแล้ว อีกสองสามปีจะเริ่มผ่อนบ้าน
ประกันกูทำรายปี เป็นประกันสุขภาพ ปีละ 16k
ตั้งแต่ทำมากูไม่เคยป่วยเลย บริษัทประกันมันเล่นของแน่ๆ
ไอ้ที่หนังๆ อีกก็ประกันรถยนต์ ปีละ 60k
ดังนั้นถึงบิลจะไม่เยอะ (ประมาณเดือนละหมื่น) แต่ก็ต้องคำนวนเงินเหลือให้ดี
โถๆ วันอาทิตย์กู แค่อาบน้ำซื้อกับข้าวล้างรถก็หมดไปละครึ่งวัน
เหมือนกูเลยยยย นี่ยังเหลือต้องซักผ้าเช็ดเท้ากัยผ้าขี้ริ้วอี๊กก
กูซักผ้าทิ้งไว้แล้วหลับ ตื่นมาอีกทีผ้าแห้งกรอบอยู่ในเครื่อง สาสสสสสส
มันคงมีพวกที่หยุดยาวเกือบสิบวันแล้วบ่นว่าทำงานวันแรกอีกและ อยู่ด้วยสินะ
ไม่บ่นเรื่องทำงานวันแรกหลังหยุดยาวหรอก
แต่อยากบ่นพวกหยุดแถม21ที่ทำให้กูต้องมานั่งฟังหัวหน้าบ่นมากกว่า
(โต๊ะกูติดหัวหน้า)
http://pantip.com/topic/31946241/comment17
อ่านแล้วกุคงแดกน้ำบ๊วยไม่ลงไปอีกนาน
บางครั้งก็อยากพิมพ์เมลล์ภาษาหยาบๆด่ายูสเซอร์ขี้มั่วชิบหายเลยวะ พวกทำงานใช้แต่ปากชี้นิ้วสั่งนึ้มัน.....
ขณะนี้กูอยากพิมพ์เมล์หยาบๆ ด่าลูกค้าเหมือนกัน เหี้ยเอ๊ย สุดจะทน
กูอยากพิมพ์เมลหยาบๆ ด่าฝ่ายบัญชี ได้ทีขี่แพะไล่จริงๆ พวกเหี้ยนี่ เวลาตามงานก็หายหัว ทีงานมันละโยนพวกกูจัง แล้วมาด่วนๆ ดีออก
เหี้ยยยยย ประเด็นมึงตรงใจกูมาก กูกำลังอยู่ในฟีลนั้นเลย
กูเคยทำด้วยนะ พิมพ์ด่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คนที่กูดีลงานด้วยในเมล์แม่งให้หยาบคายสุดๆ ระบายทุกการกระทำของมันที่กูเกลียด
..............................................แล้วกูก็ลบว่ะ ;_; ไม่สามารถส่งไปจริงๆ ได้ เพราะยังไม่อยากตกงาน
แต่มึงอย่าทำให้มันเรียลมากโดยการใส่อีเมล์แอดเดรสในช่องก่อนพิมพ์เนื้อหาเมล์ล่ะ
เกิดเผลอกดส่งไม่รู้ตัวจะซวยไป คงไม่มีใครโง่ทำแบบนั้นหรอกใช่มั้ย...กูไม่เคยพิมพ์แอดเดรสตอน simulation เมล์ด่าหรอกนะ
แต่สมัยก่อนกูโง่ ชอบพิมพ์แอดเดรสก่อนพิมพ์เนื้อหาเมล์ บางทีมือไปโดนนิดเดียวเมล์แม่งไปละแบบขาดๆ เกินๆ ต้องไปส่งใหม่ ต้องไปขอโทษ
พอโง่แล้วเพิ่งคิดได้ว่าก็พิมพ์เนื้อหาให้เสร็จก่อนสิวะค่อยย้อนกลับไปพิมพ์แอดเดรส
1. แนบไฟล์ก่อน
2. เขียนหัวข้อ
3. เขียนเนื้อหา
4. กรอกเมล์
สินะ
วันนี้หลงเข้าพันทิป ควรจะเปลี่ยนชื่อเป็น โลกสวย.com ได้แล้วนะ
กูคุยงานกับลูกค้ามาก คือจะว่าไงดีวะ แม่งเป็นคนแบบ กร่างสัดดดดดด แต่กูคุยกับมันนี่กูก็แกล้งยอๆมันไปนะ แล้วเอามันมาด่าให้เพื่อนฟังแทนเป็นการแก้แค้น 55
วันก่อนวันลานี่แม่งงานเยอะจริงๆ แงแงแง
บริษัทกูจะปิดละ กูได้ค่าทำขวัญด้วยล่ะ
แต่ไม่ต้องห่วงกูหรอกนะ กูยังทำงานที่เดิม
ปิดบริษัทเก่า แล้วเปิดใหม่ เปลี่ยนกรรมการ
คือถ้าไม่มีบริษัทกู มันจะมีคนเดือดร้อนไง เค้าเลยต้องโละของเก่าที่มีปัญหาทิ้งแล้วจ้างพวกกูทำงานต่อ เพื่อไม่ให้พวกกูได้หยุดงานฟ้องบริษัทเอาค่าชดเชย
เหลืออีก 5 โพส ขอตั้งเลยละกัน
วันศุกร์ที่สี่ ของเหล่าซาลารี่แมน
https://fanboi.ch/lounge/408/
เอ้าวันศุกร์ว้อยยยยยยยย
เสาร์ทำงาน
อีก 9 ครั้งจะถึงศุกร์ที่ 13
1000
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.