"ผมว่าปัญหาจริงๆ ของประเทศนี้มันคือการศึกษาขั้นพื้นฐาน มันแย่มากๆ (สัส เอาง่ายๆ คือคนจบการศึกษาภาคบังคับมานี่ยังใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารไม่ได้นี่มันไม่ใช่แล้ว ลองเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านดูก็ได้)
คือการแก้ตรงนั้นมันต้องแก้ไปทั้งแผง คือมันต้องไปหมดให้ทั่วถึง
และผมเกลียดมากไอ้แนวทางการ "สนับสนุนเด็กเก่ง" ในภาวะแบบนี้
คือถ้ามีงบ มันต้องพัฒนาระบบรวมๆ ก่อน ไอ้การสนับสนุนเด็กเก่งจากมุมของรัฐมันคือการสร้างผลงาน สร้างบางส่วนของระบบให้ดูดีจะได้ไปอวดได้ โดยส่วนอื่นๆ ของระบบจะบรรลัยแค่ไหนไม่สนใจ (ยิ่งรัฐไทยก็รู้อยู่แว่าแม่ง "เลือกจะนำเสนอ" แค่ไหน)
ซึ่งผมคิดแบบนี้ทั้งเรื่องวิชาการ ศิลปะ และกีฬา ผมว่าเราเอาเงินไปลงกับพวกเก่งๆ เยอะไปแล้ว ซึ่งถ้ามันไม่กลับมาพัฒนาด้านล่าง (ปกติก็เป็นงั้น) สุดท้ายมันก็เป็นแค่งบขยายความเหลื่อมล้ำที่ได้สิ่งสวยๆ งามๆ เอาไว้อวดชาติอื่นเวลาอยากจะอวดเท่านั้น
อีกอย่างที่ผมไม่เห็นด้วยก็คือเรื่องการการพัฒนาการศึกษาระดับสูง "ก่อน" การศึกษาพื้นฐาน
การศึกษาระดับสูงของไทยมันแย่จริง แย่ไปหมด ค่าตอบแทนคนสอนก็แย่ กำลังคนในการผลิตนักศึกษาก็แย่
แต่ส่วนใหญ่ที่มันชิบหายขนาดนั้น ก็เพราะการศึกษาระดับพื้นฐานมันไม่ตอบโจทย์ การศึกษาระดับสูงแม่งเลยต้องมาทำหน้าที่แบบนั้นแทน ซึ่งในขีดจำกัดทั้งหมดที่บีบมา แม่งทำให้ชิบหายรยำสุดๆ
ผมอาจจะไม่ใช่คนที่ดีที่จะแสดงความเห็นนี้ แต่ถ้าผมสอนหนังสือ ให้ผมเลือกระหว่างเงินเดือนเพิ่ม กับการที่เด็กที่ผมสอนมีพื้นฐานอารยธรรมตะวันตกเป็นอย่างดี มีพื้นฐานประวัติศาสตร์ไทยแบบวิชาการบ้าง ผมเลือกอันหลัง มันทำงานง่ายกว่าเยอะ
ซึ่งผมก็เข้าใจแหละว่า "ในทางเลือกที่ดูจะเป็นไปได้" ไอ้อันหลังมันไม่ใช่ทางเลือกอยู่แล้ว คนแม่งก็เลยสู้เพื่ออันแรกกัน
แต่พอมาเป็นแบบนี้หมด ผลคือคนในทุกภาคส่วนแม่งก็เรียกร้องรายได้เพิ่มหมด เพราะสุดท้ายแม่งไม่มีใครเชื่อแล้วว่าอะไรแม่งจะดีขึ้น เลยเอาตัวเองให้รอดก่อน
ผมเข้าใจ แต่ในฐานะคนเสียภาษี ผมคงเห็นด้วยไม่ได้ว่ะ เงินมันเพิ่มมาลอยๆ ในระบบไม่ได้อยู่แล้ว เงินคุณเพิ่ม คนอื่นก็ลด แล้วการเพิ่ม คุณไม่ได้ Promise จะให้อะไรดีขึ้นเลย ดังนั้นมันไม่สมเหตุสมผลเลยที่จะเพิ่ม "เฉพาะ" คุณ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง