"ขอเกรินนิดหนึ่งว่ Product ที่สตาร์ทอัพเราทำคือ Software ขายให้กับองค์กร โดย software นี้สามารถใช้แทนของซื้อจากเมืองนอกราคาหลักแสนหลักล้านได้ กว่าเราจะพัฒนาเสร็จและเริ่มขายได้ใช้เวลาก็สามปี หนี้ก็ไต่ไป 60 ล้าน ขาดทุนltl,ก็สักประมาณเกือบ 40 ล้าน ซึ่งสำหรับคนเพิ่งจบแล้วริอาจมาทำสตาร์ทอัพมันเปHนเงินที่เยอะมาก ทุกวันนี้บางทีก็ยังฝันร้ายว่ากลับไปกอดหนี้กองนั้นอีกครั้ง แล้วมันก็ถ่วงเราจมทะเลไป
ผมคิดอยู่หลายตลบ ว่าเรารอดมาถึงวันนี้ได้เพราะอะไร
บางท่านที่อาจไม่ได้ทำธุรกิจ อ่านแล้วอาจจะตกใจว่าทำไมเราสร้างหนี้ สร้างขาดทุนเก่งขนาดนี้ ขอบอกเลยว่าเลขประมาณนี้ปกติในวงการสตาร์ทอัพครับ ยิ่งถ้าเป็นสายที่ต้องโหมโฆษณากันเต็มทีวีเนี่ย อย่าได้ไปเปิดดูรายงานบัญชีเลย ลบพันล้านก็ยังมี
พอลบเยอะๆก็เจ๊ง 90% ของสตาร์ทอัพจึงจะจบลงที่เจ๊ง มีรอดแบบพอไปได้สัก 9% ผ่านตัวกรองไปจนถึงขั้นสุดท้ายเป็นบริษัทเปลี่ยนโลกได้สัก 1% อัตราล้มเหลวสูงมากคือความจริงที่เขาไม่ค่อยบอกกันสักเท่าไหร่หรอกเพราะเดี๋ยวจะเสียวาทกรรมไทยแลนด์ 4.0 แถมคนเริ่มอยากจะมาลงทุนสตาร์ทอัพกันมากขึ้น สถิติ 90% นี้เป็นของเมืองนอกนะ ผมกลัวว่าเมืองไทยจะสูงกว่านี้ด้วยซ้ำเพราะดูข่าวสตาร์ทอัพมาสองสามปี เดี๋ยวนี้เจ้าที่ดังๆสมัยเราเริ่มทำ หรือที่เปรี้ยงปร้างสมัยสักสามปีก่อนดับแสงไปก็เยอะ "