Scientific methodologyเน้นการวัดค่าอย่างเป็นobjectives คือไม่มีมนุษย์มายุ่งเกี่ยว ดังนั้นการวัดค่าด้วยมนุษย์ที่เป็นsubjectiveจึงไม่เป็นวิทยาศาสตร์
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมีจริงไม่มีจริงนะ คือกระบวนการทางวิทยาศาสตร์บอกว่ามันจะเป็นวิทย์ได้ต้องตรวจจับได้ด้วยปัจจัยภายนอก กรือถูกวัดค่าด้วยวิธีการทางวัตถุได้ ถ้าไม่ได้ก็ไม่ใช่วิทยาศาสตร์
แต่วิทยาศาสตร์ๆม่ใช่ความจริงpresent มันเป็นสิ่งที่representได้ดีที่สุด เพราะไม่มีปัจจัยมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่นเมนเดล วิธีการของเมนเดลไม่นับเป็นวิทยาศาสตร์ เพราะใช้ใจล้วนๆในการสังเกตุเมล็ดพืช แต่หลักการมันถูกก็แค่นั้น
พูดอย่างเป็นกลาง ศาสนาอาจเป็นสิ่งที่เป็นจริงในจักรวาล แต่ยังไม่สามารถrepresentมันได้ด้วยobjectives methodology มันจึงขัดกับหลักวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน แต่ในอนาคตอาจจะมีวิธีการวัดค่าได้ก็เป็นได้
ตัวอย่างคือการเข้าณาณ สมัยก่อนวัดไม่ได้ แต่สมัยนี้mriวัดค่าสมองได้ว่าสมองของคนที่เข้าณาณมีความพิเศษมากจริงๆ บางคนถึงขั้นจำศีลไม่หายใจเป็นชั่วโมงได้ ดังนั้นสิ่งที่วิทยาศาสตร์ควรทำจึงไม่ใข่การกีดกัน แต่คือการหาทางวัดค่ามันให้ได้ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ก็แค่นี้ละ