"รู้สึกแปลกๆ ทุกครั้งที่เดินลงมาจากออฟฟิศแล้วเห็นนิสิตซ้อมหลีดอยู่ใต้ตึกช่วงปิดเทอม
แปลกประการที่ 1 คือเสียงตะโกนกระแทกกระทั้นเน้นจังหวะและความเข้มแข็งมากกว่าความหมายหรือความงดงามของเนื้อร้อง (ถ้ามันจะมีอยู่บ้างในเพลงเชียร์เหล่านี้)
แปลกประการที่ 2 คือการที่รุ่นพี่ช่างมีอำนาจกระทำการรุนแรงกับร่างกายน้องได้มากมาย นอกจากจะตะโกนตะคอกจนเกือบเหมือนเห่าใส่น้องได้อย่างไม่ขาดปากแล้ว ยังสามารถสั่งให้น้องยืนทำท่าประหลาดๆ ยกแขนเป็นองศาประหลาดๆ แล้วยังต้องฝืนยิ้มตลอดเวลา บางทีก็ให้วิ่ง บางทีก็ให้นอนลงกับพื้น ฯลฯ เท่าที่จำความได้เนื่องจากไม่เคยมีโอกาสเข้าห้องเชียร์ก็ต้องบอกว่าฝึกกันโหดกว่าที่เราเคยโดนฝึกเนตรนารีในโรงเรียนประถมและมัธยมของรัฐมาก
แปลกประการที่ 3 คือเราเข้าใจว่ารุ่นน้องมาฝึกกันด้วยความเต็มใจ ทุกคนอยากเป็นหลีดมาก รู้สึกเป็นเกียรติเป็นศรีแก่ชีวิตมาก ตั้งใจทุ่มเทซ้อมกันเอาเป็นเอาตายจนผู้เป็นครูบาอาจารย์อย่างเราอดสงสัยไม่ได้ว่า ถ้าเวลาเรียนจะตั้งใจอย่างงี้บ้างคงมีแต่เกียรตินิยมเหรียญทองกันทั้งคณะ
เสร็จแล้วก็เลยต้องมานั่งย้อนถามตัวเอง แล้วเด็กมันจะมาตั้งใจทุ่มเทเอาเป็นเอาตายกับการเรียนประวัติศาสตร์จีนสมัยใหม่ให้เท่ากับการซ้อมหลีดไปเพื่ออะไร(วะ)? เป็นหลีดจุฬาฯ อาจนำไปสู่การเป็นเน็ตไอดอล ได้งานเดินแบบ โฆษณา เข้าสู่วงการบันเทิง รายได้มหาศาล แล้วตั้งใจเรียนวิชาอาจารย์ได้อะไรบ้าง? อาจจะได้ A ได้ 3 หน่วยกิต ได้สนุกสนานฮาเฮกับมุขควายมุขแป้ก (ถ้าคุณบังเอิญมีรสนิยมอย่างนั้น) อาจจะได้ทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ (critical thinking) ในสังคมที่การคิดนอกกรอบ การตั้งคำถามและการแสดงความคิดเห็นอาจถือเป็นอาชญากรรมได้ โอ้ว...ตั้งใจทุ่มเทเรียนกับอาจารย์มากเกินไปดีไม่ดีก็จะติดคุกด้วยนะเออ!
สังคมโลกทุนนิยมยุคนี้ชื่นชมคนที่เป๊ะ หน้าเป๊ะ หุ่นเป๊ะ ผมเป๊ะ แขนชูขึ้นได้เป็นองศาที่เป๊ะ ร่างกายเป็นไปตามกรอบเกณฑ์ที่เป๊ะ มีจมูกที่เป๊ะ เรียวคางที่เป๊ะ ตามีเหลาเต๊งเป๊ะ ขนตาเป๊ะ เป๊ะทุกอย่างไปจนถึงหัวนมที่อยุญาตให้เห็นได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการวางแผนมาอย่างเป๊ะเท่านั้น แต่ในทางตรงกันข้ามความเป๊ะในเชิงเนื้อหาไม่ได้รับความใส่ใจ คนอ่านข่าวอ่านผิดๆ ถูกๆ ภาพประกอบมั่วๆ ซั่วๆ ข้อสอบคัดคนเข้าเรียนต่อเฉลยผิด ถามผิด นำไปสู่การคิดคะแนนผิด วัดผลผิด หลักสูตรการสอนเน้นจ่ายครบจบแน่ ความเป๊ะทางความรู้ ความเป๊ะเชิงความคิดไม่ถูกให้ความสำคัญ กลายเป็นความเยอะ น่ารำคาญ เรื่องมาก มีปัญหาทัศนคติ และแน่นอนเอาไปใช้หาเงินเลี้ยงชีพไม่ได้ซักกี่มากน้อย
จะไปอะไรกับเด็กมันมากนัก ก็ให้มันซ้อมหลีดไปเถอะ หัดๆ ไว้ให้เคยนะ การทำร่างกายให้เป๊ะตามคำสั่ง การถูกตะโกนตะคอกเห่าใส่โดยผู้มีอำนาจมากกว่า และการให้ความสำคัญสูงสุดกับรูปลักษณ์ภายนอกโดยไม่ใส่ใจสาระสำคัญเชิงความรู้ ตรรก หรือทฤษฎีใดๆ เพราะโลกแห่งความเป็นจริงของสังคมนี้มันก็เป็นแบบนี้แหละ
ก็ซ้อมไปเถอะลูก เอาเลยเอาให้เต็มที่ ดีใจด้วยที่หนูค้นพบหนทางเจริญในวิถีสังคมเฮงซวยที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ หนูจะรอดนะลูก ไม่ใช่อาจารย์ เพราะสรรพความรู้ ทฤษฎี สารพัดปริญญาของอาจารย์ไม่ได้ช่วยตอบโจทย์อะไรในสังคมอันมืดบอดทางปัญญานี้เลย ไม่แม้กระทั่งจะช่วยในการกรอก มคอ ด้วยซ้ำ🐧"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง