ระบบอุปถัมภ์ของญี่ปุ่นแข็งแกร่งมากเลยนะครับ สังคมญี่ปุ่นนั้นจะมีลักษณะของความเป็นองค์กรสูงมาก สังเกตได้เลยว่า ในภาษาญี่ปุ่นมักจะมีแนวคิดนี้ปนมาอยู่เป็นประจำ เรียกว่าเป็น แนวคิดแบบ (คนใน) うち / (คนนอก) そとคือ ถ้าเป็นคนในองค์กรเดียวกัน (ถ้าเป็นสมัยโบราณก็คือคนแคว้นเดียวกัน) เขาจะเรียกกันห้วน ๆ ทันทีเมื่อมีการเอ่ยถึง เพื่อบอกว่าเป็นคนในองค์กรของเขา ไม่ใช่ของคุณ (ไม่ใช่เพราะไม่เคารพนะครับ แนวคิดต่างกับไทยคนละเรื่องเลย) ในขณะที่ถ้าหากเป็นคนละองค์กร (หรือคนนอกแคว้น) เขาจะทำตัวห่างเหินแล้วเรียกด้วยการเติมคำต่อท้ายชื่อเข้าไป (เช่น เวลาตำรวจชั้นผู้น้อยพูดถึงผู้บังคับบัญชากับบุคคลภายนอก เขาจะใช้ชื่อห้วน ๆ เลย ซึ่งหมายความว่า นั่นคือ คน ๆ นั้น เป็น "คนใน" (うち) ของเขา ส่วนคุณน่ะคนนอก) ซึ่งหากเวลามีปัญหากันภายในกลุ่ม คนญี่ปุ่นจะใช้วิธีตัดออกจากกลุ่มและมองว่าเป็น "คนนอก" ทันทีครับ กรณีการกลั่นแกล้งในญี่ปุ่นเอง ก็เป็นเพราะเด็กส่วนใหญ่มองว่า เด็กที่ถูกกลั่นแกล้งนั้นเป็น "คนนอก" (そと) ไม่ใช่พวกเดียวกับตัวเอง ไม่ใช่ "คนใน" (うち) นั่นละครับ
ถามว่าไทยเป็นแบบเขาได้ไหม? คำตอบคือ "ไม่ได้" เพราะวัฒนธรรม ความคิด ทัศนคติ สามัญสำนึก มันคนละเรื่องกันเลย ทัศนคติของบ้านเราไม่ใช่แบบบ้านเขาชัวร์ 100% บ้านเรามีแนวคิดแบบปัจเจก ปัจเจกจนถึงขั้นมาก ๆ เอาเลยด้วย เอาง่าย ๆ ว่า ยึดถือแนวคิดของตัวเองเป็นที่ตั้ง ไม่ฟังห่านไรใครทั้งนั้น เป็นสังคมสุดโต่งแบบอินเดียน่ะครับ ซึ่งถึงรวมกลุ่มกันไป มันก็เป็นไปแบบสะเปะสะปะครับ คนไทยไม่สามารถทนใช้ชีวิตในสังคมแบบญี่ปุ่นในบ้านนี้เมืองนี้ได้หรอกครับ เพราะมันต่างกันเกินไป แล้วไอ้ความเป็นระเบียบวินัยของเขาก็เหมือนกัน นั่นมาจากวัฒนธรรมแบบองค์กรอันเป็นวัฒนธรรมที่เกิดมาจากระบบอุปถัมภ์ที่เข้มข้นของเขาครับ ไม่ใช่เกิดขึ้นเพราะว่าคนของเขาเป็นพวกมีระเบียบวินัยอะไรเลย มันมาจากวัฒนธรรมแบบองค์กรของเขาทั้งนั้น คือถ้าเกิดทำผิดจากกลุ่ม ก็โดนกลุ่มถีบหัวส่งเลยน่ะครับ เลยทำให้พวกเขากลายเป็นแบบนั้น ถามว่าไทยเป็นแบบนั้นได้ไหม ยากครับ มันสั่งสมผ่านกาลเวลามานานเกือบพันปี คิดว่าปีสองปีไทยจะเป็นได้หรือครับ คิดอย่างนั้น คือ ไปหาหมอจ่ายยาเหอะครับ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง