หลังจากเรื่อง Grabbike ดังขึ้นมา ผมก็เริ่มสังเกตุ วินมอไซค์ ก็รู้สึกว่ามันมีเยอะจริงๆครับ ทุกๆคอนโดที่เกิดใหม่จะเกิดวินมอไซค์ใหม่หน้าคอนโดทันที แล้วตอนนี้คนขี่วินก็ปาเข้าไปเป็นแสนคน คือ...ประเทศไทยกำลังจะเอาทรัพยากรมนุษย์ 1 แสนคนมาขับมอไซค์ตลอดชีวิต? คุณคิดว่ามีวินมอไซค์กี่คนจะพัฒนาความสามารถตัวเองตลอดเวลา ด้วยทรัพยากรที่เค้ามี+สังคม..เค้าทำได้แค่หาเช้ากินค่ำ ถ้าอยู่วินทำเลดีหน่อยก็อาจพอมีเงินเหลือ แต่...ที่น่าตกใจคือ
วินแสนคนนี่ยังไม่พอนะ เพราะมันจะมีคอนโดเกิดใหม่ทุกเดือน มีถนนตัดใหม่ มีอพาร์ทเม้นท์ใหม่ แปลว่า วินมอไซค์อาจเพิมจำนวนเป็น 2-3 แสนคน ในอีก 10-20 ปีข้างหน้า อืม..นี่คือทรัพยากรมนุษย์ที่กำลังจะเสียไป แม้ว่าตอนนี้กรมการขนส่ง จะยังไม่เปิดรับวินใหม่ แต่ก็คงปิดอีกได้ไม่นาน สุดท้ายวินก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อยู่ดี
หลายวันก่อน ผมผ่านหน้าคอนโดแห่งหนึ่ง เห็นวินนั่งรอลูกค้าซึ่งมันเป็นช่วงเวลากลางวัน คนส่วนใหญ่ในคอนโดมักออกเช้ากลับเย็น กลางวันจึงไม่มีงานหรอก ...ผมจึงนึกขึ้นได้ว่า ทำไมวินต้องมีเขต ทำไมวินมอไซค์คนนี้ขี่มอไซค์ของเค้าไปในเมือง ไปที่สยาม สีลม ที่มีลูกค้ามากๆ ไม่ได้..ก็เพราะคำว่าเขต คำว่าพื้นที่ และคำว่าเขตนี้เองที่เค้าต้องสังกัด เป็นที่มาของการขายเสื้อ ดังนั้นถ้าวินไม่มีเขต เหมือนรถแท็์กซี่ ก็ไม่ต้องจ่ายค่าเสื้อให้เจ้าของวินอีกต่อไป อีกทั้งเค้าสามารถขยายพื้นที่ในการหารายได้ ได้อีกด้วย การยกเลิกเขตจึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับวินมอไซค์
---
สำหรับ Grabbike ยังติดกฎหมาย 3 ข้อหลัก คือ ป้ายเหลือง ใบขับขี่สาธารณะ และขี่ข้ามเขต การแก้ไขปัญหา 2 ข้อแรกง่ายมาก เพราะวัตถุประสงค์ของกรมการขนส่งคือ จัดระเบียบและความปลอดภัย ซึ่งจริงๆ Grabbike มีการติดตามคนขับด้วย GPS ซึ่งดีกว่าวินมอไซค์อย่างมากมาย ดังนั้นในแง่ความปลอดภัยจึงตอบโจทย์ภาครัฐได้ เพียงแต่อาจต้องให้กรมการขนส่งสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ ....และเรื่องขี่ข้ามเขต นี่แหละที่คุยตอนนี้ จะคุยยังไงก็ไม่ได้มันผิดกฎหมาย ก็ข้อนี้แหละ (ยังไม่พูดถึง การไปหากินข้ามเขตชาวบ้าน) แต่ถ้ายกเลิก เขตวินมอไซค์ได้ ทุกอย่างจบ การให้มอไซค์รับจ้างผ่านแอพ สามารถเกิดขึ้นได้ทันที
มองไปไกลๆ ในอินโดนีเซีย นอกจาก Grabbike UberMoto แล้วยังมีมอไซค์รับจ้างผ่านแอพอีก 5-6 เจ้าใหญ่ เจ้าของแอพก็เหมือนเจ้าของอู่แท็กซี่ ที่มีแท็กซี่สังกัด ดังนั้นหากสามารถเปิดเสรีให้มีมอไซค์รับจ้างผ่านแอพได้ ยกเลิกเขตวินมอไซค์ เราอาจเห็นผู้ให้บริการอีกหลายรายเข้ามา หรือแม้แต่ของคนไทยเอง นี่แหละคือการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของมอไซค์รับจ้าง ซึ่งจะใช้คนคุ้มค่าที่ปัจจุบันนั่งเฝ้าวิน เค้าสามารถไปหารายได้ไกลกว่าเดิม และมีแอพช่วยหาลูกค้า เมื่อเป็นแบบนี้วินมอไซค์ 1 แสนคนที่มีอยู่ก็อาจเพียงพอ รองรับคนกรุงเทพไปได้อีกนาน ไม่ต้องเพิ่มวินใหม่ทุกคอนโดใหม่อีกต่อไป เป็นการใช้ทรัพยากรมนุษย์ที่คุ้มค่าขึ้นอย่างมาก