กูเรียน รร.ประจำจังหวัด ตอนกูอยู่ม.ปลายก็เกือบๆ10ปีมาแล้ว อาจารย์สอนคอมพ์ก็สอนเรื่องการเขียนโปรแกรมนะแต่ไม่ลึกมาก
กูอ่านหนังสือเองเรียนรู้ได้เร็วกว่า แต่ก็อย่างว่าแหละกูเรียนสายภาษาแต่ชอบเรื่องคอมพ์เลยมาศึกษาเอง
Last posted
Total of 1000 posts
กูเรียน รร.ประจำจังหวัด ตอนกูอยู่ม.ปลายก็เกือบๆ10ปีมาแล้ว อาจารย์สอนคอมพ์ก็สอนเรื่องการเขียนโปรแกรมนะแต่ไม่ลึกมาก
กูอ่านหนังสือเองเรียนรู้ได้เร็วกว่า แต่ก็อย่างว่าแหละกูเรียนสายภาษาแต่ชอบเรื่องคอมพ์เลยมาศึกษาเอง
>>812 โอบาม่าบอกจะให้เรียนตั้งแต่ประถมเลย ไม่ใช่ ม.ปลาย สองเทอมแบบของมึงนะ
แล้วก็บอกว่ามี 1/4 ที่มีเรียนอยู่แล้ว ไม่ใช่ไม่มี แต่เขาต้องการจะเพิ่ม
แต่ประเด็นที่คนบอกว่าล้าหลังกูเข้าใจว่าหมายถึงการสนับสนุนของทางภาครัฐว่ะ
การที่โรงเรียนไหนมีสอนอะไรที่ดี ๆ เพราะจัดการสอนขึ้นมาเองมันไม่ได้แสดงออกถึงความก้าวหน้าของการศึกษาในประเทศไทย
จะให้การศึกษาไทยก้าวหน้าไม่ล้าหลังก็ต้องให้การสนับสนุนให้เป็นหลักสูตรบรรจุ
>>813 ไม่ควรทำตามว่ะ ควรจะทำเองตั้งแต่แรกไม่ต้องรอให้คนอื่นทำก่อนแล้วค่อยเลียนแบบ
>>814 ปัญหาคือรายได้ โปรแกรมเมอร์ที่เก่ง ๆ เงินเดือนดีจนไม่ค่อยมีใครอยากจะมาเป็นครู โปรแกรมเมอร์กาก ๆ เอามาสอนเด็กก็ยิ่งดิ่งเหวไปกันใหญ่
วงการนี้มันไม่มีระดับ "กลาง ๆ" ที่แท้จริงด้วย โปรแกรมเขียนออกมามันก็มีได้แค่สองแบบคือ flawless กับ flawed ซึ่งไอ้คนที่ทำแล้วออกมาเป็นแบบหลังไม่ควรเอาไปสอนเด็กเลยว่ะ
เอาคนเก่งๆมาสอนอัดเทปเอาหว่ะ แล้วอาจารย์ประจำห้องเป็นคนมาปรึกษาได้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้
กูเคยดูคลิปที่ถามเรื่องโปรแกรม-คนดังอย่าง เกปเจ้าของสตีม,มาร์ค เจ้าของเฟซบุ้ค มันเล่าว่าวิชาโปรแกรม มันสอนเรื่องตรรกกะกับเด็ก จะทำอะไรต้องวางแผน,ต้องมีขั้นตอน,ต้องเข้าใจกฏ คือถ้าสอนให้เด็กมันรู้ถึงสิ่งเหล่านี้ มันก็ช่วยให้เป็นคนที่รู้จักคิดได้เยอะ ถึงมันโตมาจะไม่ได้ใช้วิชาโปรแกรมแต่ที่เรียนตอนเด็กก็ไม่สูญเปล่าหรอก
มีกูคนเดียวป่าววะที่คิดว่าไม่ควรบังคับเรียน comsci คือระบบการศึกษามาขนาดนี้ควรจะลดวิชาบังคับแล้วให้ไปเลือกเองกันแล้วว่ะ บางคนมันไม่สนใจก็จะเรียนเอาผ่านๆ ถ้าอ้างว่าคนต้องคิดเป็นระบบกูก็ว่าคนไม่จำเป็นจะต้องคิดเป็นระบบว่ะ กูคิดว่าการคิดเป็นระบบทำให้ขาดการสร้างสรรค์ว่ะ
แต่พวกวิทย์คณิตนี่น่าเรียนนะ แบบเป็นตัวต่อไปเรียนวิชาที่สูงขึ้น
>>820
และมันก็จะประสบปัญหาเดียวกับการเรียนคณิตศาสตร์ในบ้านเรา คือแทนที่จะสอนให้คิดหาวิธีแก้ปัญหา แต่ดันเป็นการสอนให้เด็กจำวิธีในการแก้โจทย์แต่ละแบบแทน พอเจอโจทย์ใหม่ๆก็ทำไม่ได้ทั้งที่ปัญหานั้นสามารถแก้ได้โดยเครื่องมือที่มีอยู่แล้ว
ไม่ต้องดูไกลถึงเด็กนักเรียน แค่วิชาโปรแกรมมิ่งพื้นฐานของเด็กมหาลัยก็ตกกันเกือบครึ่งชั้นปี
คือพวกมึงอาจจะคิดว่าเรียนทำไมคณิตศาสตร์ พวกแอดวานซ์แบบเมทริกซ์,สถิติหรือแคลคูลัส แต่กูยืนยันว่าคนที่เข้าใจและพลิกแพลงได้ จะเป็นคนไม่ยึดติดนะ. คือทำงานบางเรื่องมันมีกฏเกณฑ์สากลที่มึงต้องจำจริงพวกที่ท่องจำมันจะได้ประโยชน์ระดับหนึ่ง แต่คนที่เข้าใจจริงจะพลิกแพลงได้เก่ง. เหมือนคนรู้ว่ามีกรอบเก่งขั้น5แต่ถ้าเก่งจริงจะทลายกรอบได้ด้วยตัวเองด้วยจะเก่งขั้น10
อันดับแรกเลย ที่มาออกความเห็นนี่เรียนจบกันรึยังวะ กู 3x ขอบอกเลยว่าไอ้พวกที่ตอนเรียน code ไม่เป็นจบมากากทุกคน คิดไม่เป็นระบบไม่มี logic เป็นตัวถ่วงบริษัท ไม่ก็ย้ายสายไปทำงานที่ไม่ตรงกัยที่จบมาไม่ต้องใช้เหตุผลมากไปเลย
แต่กูขลำไอ้พวกด่าการศึกษาบ้านเราวะ ด่าแบบไม่สำเนียกดูตัวเองกันเล้ย ว่ามีส่วนช่วยให้ลงเหวเหมือนๆกัน
เลียนแบบไปเรียนแบบเมืองนอก แล้วกูก็หวังให้ภาษาอังกฤษมันพอยอมรับได้นะ ไปๆมาๆทำไมมีแต่สำนวน กู๋ขากเสลด วะ
ยิ่งไอ้พวกเกมแปลภาษาไทยนี้โคตรเยอะเลย
ว่าแต่เรียกเขียนโปรแกรมไป พอเรียนจบเกิดกลายเป็นภาษาตกรุ่นไม่นิยมใช้
ไม่ถือเป็นเรียนเสียปล่าวเหรอวะ
กูได้ข้อสรุปแล้วว่าพวกที่มานั่งแย้งนี่คือแม่งไม่เคยเขียนโปรแกรม
จะว่าไปก็นึกถึง word จุฬา ไม่มีอัพเดทเป็นรุ่น windows มีแต่เปิด dos ใช้
กูรู้แต่ว่าใครที่เห็นด้วยลองเอาวิชาพวกนั้นโยนไปให้เด็กเรียน
กูกล้าพนัน 90% ขึ้นไปเด็กมันเอาไปด่าลับหลังกันล่ะวะ
- ใช่ซี่ ไอ้พวกผู้ใหญ่เหี้ย ไม่ได้เรียนหนักเท่ารุ่นกูนี่
- แค่นี้กูก็เรียนท่องจำกันหัวโตยังจะยัดมาให้กูเพิ่มอีก
- ไอ้สัส เอาวิชาที่กูไม่ได้ใช้ในชีวิตจริง เอาไปทำงานไม่ได้ มายัดเยียดให้กูเรียน
- วิชาแม่งให้ประโยชน์ อะไรกับกูวะ ดูเมืองนอกสิ เขามีวิชา Dota , Star Craft,เกม FPS,พวก e-sport แถมได้เงินเยอะกว่าเงินเดือนพวกมึงอีก
- ให้การบ้านมา กูก็เปิด Google ใช้หลักสูตร copy-paste-save-print จบ
ทั้งเขียนโปรแกรมหรือเลขจริง ๆ แม่งก็ทำให้เป็นวิชาน่าสนุกได้ แต่แม่งชอบสอนเป็นวิชาท่องสูตรกับโจทย์ยากเหี้ยมหาศาลแทน
>>833 กูก็เข้าใจเหมือนกันว่าคนที่จบมาแบบไม่เห็นความสำคัญของ code แบบมึงมันก็มี แต่ใช่ว่าทุกคนจะเกิดมาฉลาดเหมือนมึงไง (นี่กู assume ว่ามึงหน้าที่การงานดีเลยนะ จะได้ไม่ต้องเถียงที่ตัวบุคคล) และเขียน code เป็นวิธีที่ดีมากๆวิธีนึงในการสอน logic
ถามว่าทำไมต้องเรียน coding แทนเรียนเขียน flowchart เพียวๆ? ถ้าเขียน flowchart แล้วมัน compile โชว์ผล run step by step แสดงขั้นตอนที่่มาที่ไปได้มันก็แทนกันได้ เม้นบนกูยังบอกให้เอา vpl กับ minecraftEDU ไปสอนเด็กเลย แต่ถ้าระดับมัธยม-อุดมศึกษาวิชานึงมันควรมีอะไรมากกว่านั้นป่าววะ สอนเด็กมัธยมเขียน flowchart ให้เต็มที่ 3 ชั่วโมงก็จบ หลังจากนั้นจะให้ทำอะไร? อธิบายโลจิกตัวๆทีละคน? ต้องระดับประถมถึงทำแบบนั้นได้รึเปล่า อุดมศึกษามันคือระดับที่ในห้องเรียนคือ advice แล้วไปหาข้อมูลเองได้แล้ว
พูดถึง run step by step วิชา coding อุดมศึกษาบางที่แม่งไม่สอนด้วยนี่หว่า หัวควยมาก เจอหลายเคสละ พอกูใช้ breakpoint ให้ดูแม่งบรรลุทันที บอกถ้ารู้ว่าทำงี้ได้เข้าใจไปนานแล้ว
>>836 >>838 ถ้าจะเอาวิธีแก้ปัญหานะ กูว่าเขียนflowchart ดีกว่าเขียนโค้ดนะ เพราะแม่งต้องคิดจริงๆถึงเขียน การโค้ดมันไม่ค่อยมีใครคิดก่อนนะ ก็เอาเรื่องที่เคยเรียนมากันสดในIDEแล้วแก้ไปเรื่อยๆจนได้มากกว่า มึงลองให้คนเรียนมาแล้ว หรือโปรแกรมเมอร์ เขียนflowchart หรือ pseudo code ก็ได้ ลงกระดาษก็ได้ กูเคยลองนะ แม่งทำกันไม่ค่อยได้ แต่เขียนในคอมสบายมาก แม่งคิดเป็นระบบในหัวกันไม่ได้เลย สมัยเรียนกูเจออาจารย์ดี แกย้ำเรื่องนี้บ่อยสัส วิชาproblem solving ของกูแกให้เขียนอธิบาย(จะเขียนเป็นโค้ดย่อๆ หรือflowchartก็ได้)ลงกระดาษทั้งเทอม
แต่สำหรับเด็กหรือคนทั่วไป การมีสื่อการสอนดี จะโค้ดง่ายๆแบบมีvisualมาช่วย มันก็น่าจะเรียนเรื่องพวกนี้ได้เหมือนกันมั้ง ซึ่งกูว่าถ้าจะโค้ดเต็มสูบคงไม่ดี เพราะไม่จำเป็นขนาดนั้น(สำหรับพวกสายศิลป์) แต่ไปอ่านข่าวโอบามาจะให้เรียน CS นะเดี๋ยวรอดูหลักสูตรของทางนั้นก่อนดีกว่า
ถ้าอยากให้คิดเป็นlogic ทำใมไม่เรียนlogicไปเลยละ หนังสือวิชาตรรกะศาสตร์ของรามเล่มละไม่ถึงร้อย เนื้อหาก็ไม่ยาก อ่านรอบเดียวก็เข้าใจแล้ว
http://thaipublica.org/2016/02/pipat-43/?utm_source=twitterfeed&utm_medium=twitter
จะมีวิกฤตการเงินโลกรอบใหม่มั้ย
จริงๆกุจำได้ว่าตอนม.ต้น ม.ปลาย ก็มีเรียนตรรกศาสตร์ปะวะกุจำไม่ได้
กุว่าเพราะตรรกศาสตร์มันไปรวมกะคณิตศาสตร์วะพวกคนเกลียดคณิตเห็นก้เบือนหน้าหนีไม่เอาแล้ว
น่าทำเป็นวิชาแยกมาเลยอาจจะดีก้ได้แล้วให้เรียกแต่เด็กๆจะได้ไม่มีคนมาอ้างว่าหัวกุไม่ใช่แนวนี้
>>847 แล้วcomsciมันเข้าใจง่ายกว่าตรงไหน
>>848 ถามจริงสิ กูคิดว่าวิชาlogicและreasoningเป็นเรื่องสำคัญนะ กรณีโอบาม่าเน้นcomsciเพราะสังคมเปลี่ยนสู่ยุคdigital แต่พวกมึงบอกว่าเรียนแล้วคิดเป็นตรรกะคือประโยชน์ที่แท้จริง กูเลยถามว่าทำใมไม่เรียนตรรกะศาสตร์ไปเลยละ หรือเรียน 36 กลยุทธ์จีนได้ก็ยิ่งดี ปรับใช้ได้ขริงมึงเก่งแน่
เห็นคนอวยโอบาม่ามีวิสัยทัศน์แล้วกูขำแปลกๆ ขนาดคนเมกายังบ่นเลยว่า ปูตินเจ๋งกว่าโอบาม่า (กูจะโดนแซวติ่งปูตินไหมเนี่ย)
>>850 อีกเรื่องคือมันจบในตัวด้วย แบบถ้ามึงจะสอนตรรกศาสตร์ให้เด็กหรือเอาเหตุผลอะไรยัดๆให้เด็กเรียนมันไม่มีประสบการณ์มันก็ไม่เข้าใจ. แต่ถ้ามึงสั่งงานให้เด็กโปรแกรมอันนึงเด็กมันจะทำตั้งแต่วางแผน ทำงานเทสงานตัวเองทำไม่ได้ก็แก้งานทำได้ก็ประสบความสำเร็จ. คือมันปล่อยให้เด็กทำงานมีประสบการณ์ตรงจากการทำงาน มากกว่าจะให้ครูพูดๆยัดใส่สมองอย่างเดียว. ก็เหมือนบางวิชาต้องมีแลปควบกับวิชานั่งเรียนนั่นแหล่ะ
เดี๋ยวมึงก็แย้งอีกว่าวิชานู้นนี้ดีกว่ากูขอตอบแบบFaQเลยว่าโครงการพวกนี้มันคิดมาทำเป็นเรื่องๆแล้ววัดผลถ้าสอนโปรแกรมมันหมดทุกคนแลัวไม่เวิร์คเดี๋ยวมันก็หาโครงการอื่นมาทำแทน บางทีพวกนักการเมืองมันจะเกาะกระแสสังคมแบบนี้แหล่ะ ถ้ามีคลิปมาร์คซัคเคอร์เบริ์คพูดว่ามันมีเฟซบุ้คได้เพราะโปรแกรมมิ่ง,เกปออกมาบอกว่าเรียนโปรแกรมคือวิชาที่มันใช้ประโยชน์ได้ แล้วเป็นมึงอัดคลิปบอกว่ามีวิชาอื่นดีกว่าโปรแกรมมิ่งอีกใครเขาจะเชื่อมึงครับ ?
>>850 ตรรกะ logic ที่ได้จากเรียนเขียนโปรแกรมไม่เหมือนตรรกะในหนังสือที่เอาแต่จำสูตรแปลง p ^ q -> r พวกนั้น
แต่คือการคิดเป็นเหตุเป็นผล คิดเป็นลำดับ วิเคราะห์ปัญหา แตกเป็นส่วนย่อย แล้วแก้ไปตามลำดับ เป็นการเอาความรู้ที่มีในวิชาตรรกศาสตร์(เบื้องต้น)มาใช้จริง แล้วถ้าทำจนคล่องมันจะติดตัวเป็นนิสัยที่เอาไปประยุกษ์ใช้กับปัญหา everything jingle bell ในชีวิตจริง
ถ้าเรียนจากหนังสือตรรกศาสตร์หรือกลยุทธ์สามก๊กซุนวู "แล้ว" สามารถให้ในการเรียนการสอนมีช่วงที่ apply ไปใช้จริง ทำให้เห็นภาพและเข้าใจได้เท่าการเขียนโปรแกรมจะเรียนแบบนั้นแทนก็ได้
>>853 พูดแบบนี้ก็จบ กูแค่แย้งจุดที่พวกมึงบอกว่าการใช้ตรรกะเป็นคือผลประโชน์หลักแค่นี้ละ
>>854-845 อันนี้มึงเข้าใจผิดมาก ซึ่งก็ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่คิดว่าตรรกะศาสตร์และการให้เหตุผล(reasoning)คือการเรียนตามตำรา แต่จริงๆ แล้วตัวมันเองเป็นปรัชญาประยุกต์(applied philosophy) หมายความว่ามันมีหน้าที่เอาไปใช้กับเรื่องอื่น การใช้เหตุผลจึงไม่ใช่การเรียนในตำรา แต่เป็นการเอาหลักในตำราไปใช้จริง เหมือนกับนิติปรัชญาที่ต้องฝึกใช้กับเหตุการณ์จริง กฎหมายจริง และคน/สังคมจริงถึงจะเกิดผล แต่ความคร่ำครึของสังคมนี้คือการผลักให้ทุกอย่างอยู่ในตำราจนกลายเป็นปรัชญาหยุดนิ่งและมิอาจประยุกต์ได้นั่นละ
กูเคยอ่านบทความของคนที่เรียนปรัชญามาแล้วต่อโทคอมที่เมืองนอก เขาบอกว่าเขาสามารถนำหลักปรัชญามาประยุกต์ใช้ได้เยอะมาก เอาแค่โลกแห่งรูปแบบและโลกแห่งวัตถุของเพลโตก็ตีความถึง 0 และ 1 ในโปรแกรมได้เยอะมากแล้ว ยิ่งเอาแนวคิดทางปรัชญาหลายๆ อย่างมาลองเขียนโปรแกรมก็ยิ่งเปิดมุมมองใหม่ๆ ว่าจะนำปรัชญามาประยุกต์ใช้ในเรื่องต่างๆ ได้ยังไง
สุดท้ายประเด็นของแนวคิดที่พวกมึงพยามปลูกฝังก็อยู่ที่ว่าจะประยุกต์ใช้ได้ยังไงมากกว่า ศาสตร์ทุกศาสตร์มีความสำคัญในตัวมันเอง ถ้าเรารู้จักการประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม ยกตัวอย่างคุๆ ก็พวกLNต่างโลกนั่นละ เอาความรู้คุๆ ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในต่างโลกไม่ก็จีบสาว ของอย่างนี้เกิดจากวิธีสอนและประสบการณ์ชีวิตมากกว่า
นิดนึง>>855 36 กลยุทธ์ของจีนนำมาใช้ได้จริงนะ ในวงการทูตถือกันว่าทูตจีนเขี้ยวลากดินมากที่สุดชาตินึงเพราะมีกลยุทธ์แพรวพราว ว่ากันว่านักการทูตจีนจะถูกเทรนด้วย 36 กลยุทธ์และปวศ.จีนโบราณอย่างเข้มข้นถึงจะได้เป็นทูต กูเคยอ่านเลียดก๊กแล้วยอมรับนะว่าในนั้นมีกลยุทธ์ทางการทูตแพรวพราวมาก เป็นแหล่งอ้างอิงเวลานำมาประยุกต์ชั้นดีเลยละ
>>856 ไม่ๆ ก็ >>844 ถามว่า "ถ้าอยากให้คิดเป็น logic" คำตอบในมุมของกูคือ "วิชาพวกนั้นสอนแบบไทยๆไม่ทำให้คิดเป็น logic" และ "วิชาที่เรียนแล้วทำให้คิดเป็น logic ได้คือ coding" ไง ย่อหน้าสุดท้ายใน >>855 กูก็บอกอยู่ว่าถ้ามีวิธีสอนทำให้ซึมลึกได้ จะสอนพวกนั้นโดยตรงเลยก็ได้
คือมึงต้องยอมรับก่อนว่ารูปแบบการสอนของไทยไม่เหมือนประเทศโลกที่หนึ่ง พวกนั้นเค้าสอนให้คิดเป็นระบบมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว แต่ในไทยมันไม่ใช่ไง กูก็บอกตั้งแต่เม้นแรกๆแล้วว่าอยากให้เอา coding ไปสอนตั้งแต่ประถมเพื่อพัฒนา logic
logic ของประเทศขี้ฟ้อง(เอาตังค์)
นี้กูว่ายังไม่ค่อยน่าเลียนแบบนะมึง
คือมึงจะเอาคนมีวิสัยทรรศน์ไกลแบบที่เกาหลีมันทำได้ด้วยการส่งเสริมสื่อบันเทิงแล้วได้ท่องเที่ยวหรือลงทุนเรื่องเทคโนโลยี,ออกแบบเพื่อให้มีซัมซุงที่กินตลาดมือถือแทปเลต ก็ได้นะ คือถ้าจะมีคนผุดโครงการที่จะทำให้ได้เงินเยอะๆตัวต่อไป ให้คนไทยทำก็ได้ไม่จำเป็นต้องโปรแกรมอย่างเดียวหรอก. หลักสูตรคอมพ์ ก็จะสอนโซเชี่ยล ให้เด็กอัดคลิปวิชาการ,ความสามารถกีฬา,แคสเกมส์คนละคลิปก็ว่าไป. แล้วสอนมันสมัครให้ได้ค่าโฆษณาจากYTก็ได้หรือสอนมันให้วางของขายในอีเบย์สักชิ้น แบบนี้ก็เป็นวิชาสร้างสรรค์ได้นะเออ
เรียนศิลปะ ก็สอนออกแบบคาแรกเตอร์ แล้วสั่งงานเป็น
ฟอน์แมตสติกเกอร์ไลน์แล้วส่งไปให้ไลน์พิจารณา แบบนี้มันมีประโยชน์ป่ะ
>>862 มึงกำลังจับแพะชนแกะอยู่ คือมึงจะโจมตีที่ตัวบุคคลหรือเหตุการณ์ที่จะเป็น50/50ไม่ได้
คือถ้ามีคนบอกว่า กำลังจะสอนเด็กให้รู้จักCoding แล้วมึงไม่สามารถเถียงแบบ “คนไทยสอนไปก็ไม่เข้าใจ หรือวิชาอื่นมีประโยชน์มากกว่า“ ไม่ได้
เพราะ ถ้า
คนไทยสอนได้ดี เด็กเข้าใจดี= มีประโยชน์
คนไทยสอนไม่ดี เด็กเข้าใจเอง=มีประโยชน์
คนไทยสอนดี. เด็กเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง=ก็ยังมีประโยชน์
ถ้ามันจะไม่มีประโยชน์คือ สอนแล้วเด็กไม่เข้าใจหมดเลยหรือลงทุนเป็นพันล้านได้ผลประโยชน์ไม่ถึงร้อยล้าน ก็เป็นไปได้ยากอ่ะ
แถมข้อกังขาที่ว่าสอนcodingมีประโยชน์หรือเปล่า คนทั่วไปก็ตอบได้ว่ามีประโยชน์ไปแล้วแต่ควรสอนกับคนที่สามารถรับได้ด้วยนะ ไม่ใช่จับมาเรียนทุกคนกูว่ามันสิ้นเปลืองไป
>>864 กูโจมตีตัวบุคคลตรงไหนวะ มึงดูที่กูชี้
>>574 บอกว่า คำตอบในมุมของกูคือ "วิชาพวกนั้นสอนแบบไทยๆไม่ทำให้คิดเป็น logic
กูเลยถามกลับว่าแล้วการสอนcodingโกยคนไทยมันไม่ใชาการสอนแบบไทยๆ เหรอ อ่านให้ดีก่อนบแหว่ากูโจมตีตัวบุคคล
แล้วที่กูบอกว่าสอนวิชาอื่นมีประโยชน์กว่าลองอ่าน >>856 กูแย้งตรงจุดที่บอกว่าประโยชน์สูงสุดคือการเรียนแล้วคิดเป็น แต่กูไม่แย้งที่>>853 บอกว่าสอนแล้วอาจได้คนแบบเกปหรือมาร์ก
มึงเข้าใจประเด็นใหม่ กูไม่ได้บอกว่าการเรียนcodingไม่ดี แต่ถ้าเป้าหมายหลักของมึงคือการให้เด็กคิดเป็น การเรียนสิ่งที่ตรงประเด็นกว่านัเนย่อมดีกว่า การเรียนcodingมันเป็นsecondary แต่ถ้ามึงอยากสร้างคนให้เก่งคอมเยอะๆ กู้ห็นด้วยว่าควรเรียน
ถ้าไม่เข้าใจกูจะสรุปให้ฟังง่ายๆ
1.กูเห็นด้วยเรื่องเรียนcodingแล้วคิเป็นlogic
2.ถ้าเป้าหมายหลักคือการสร้างคนเก่งคอม กูเห็นด้วย
3.ถ้าเป้าหมายหลักคือให้คนคิดเป็นlogic กูไม่เป็นด้วย
เข้าใจรึยัง กูแย้งแค่จุดนี้จุดเดียว ต่อมีมีคนปย่งว่าเรียนตรรกะศาสตร์คือทำตามตำราอย่างเดียว กูเลยขึ้นนิดหน่อยนะ
>>836 แน่นอนว่ากูไม่เคย แต่กูก็มั่นใจเช่นกันว่าprogrammerแทบทุกคนไม่เคยเรียนปรัชญา ดังนัเนเอามาพูดข่มกันไปก็เท่านั้น ไม่มีคนที่เรียนอย่างเข้าใจบอกหรอกว่าวิชาตัวเองไร้ประโยชน์
กูเองก็เป็นโปรแกรมเมอร์นะ แต่ไม่ค่อยแน่ใจว่าการใส่การเขียนโปรแกรมเป็นหลักสูตรพื้นฐานจะช่วยเรื่องกระบวนการคิดของเด็กได้จริงๆรึเปล่า
มันควรส่งเสริมการเรียนการสอนที่ไม่เน้นการท่องจำ (โดยรวมๆสำหรับทุกวิชา) มากกว่านี้
อีกอย่างการแก้ปัญหาในแบบการเขียนโปรแกรมมันค่อนข้างต่างจากปัญหาในชีวิตประจำอยู่พอควรด้วย
เรียน comsci แบบไทยๆ กูนึกถึงตอนกูเรียนเลย เรียนแบบไม่ได้แตะคอมไม่ได้ลองรันออกมา
อย่าเลยเมิง แม่งกูเป้นโค๊ดดิ้ง พอไปคุยกะพวกไม่เป้นโลจิคมันจะคุยไม่รู้เรื่องเอา มันต้องติงต๊องคุยกะติงต๊องนี่แหละเหมาะดี
อันนี้แหล่ะที่โจมตีตัวบุคคล คือใครจะสอนอะไรมึงก็สบประมาทไปก่อนแล้วไม่ได้ผลไง สำหรับกูนะโรงเรียนมีพื้นฐานมาจาก Janisary โรงเรียนทหารสมัยก่อนมันตั้งขึ้นมาเพื่อปั้นพลทหาร มันจะสอนระเบียบวินัย,การอ่าน,การเขียน,การใช้อาวุธซ้ายหันขวาหันแค่นั้น และจะฝังหัวเลยว่าถ้าทำผิดจะโดนลงโทษอย่างรุนแรง เริ่มคุ้นๆไหมกับการที่โดนครูเรียกมาตอบคำถามแล้วถ้าตอบไม่ได้ต้องยืน. แล้วถ้าคนไหนมีสกุลดีหรือฉลาดจะคัดไปเรียนเป็นเสนาธิการ คือเอาคนฉลาดซัก5%มาเรียนวิชาขั้นสูงเอง แต่ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพอยู่ดี
ไอ้โรงเรียนของไทยหรือทั่วโลกมันก็สอนแบบนี้มาหมดหว่ะคือถ้าไม่โดดเด่นพอมึงก็ตามๆเขาไปรู้จักระเบียบวินัยสังคมให้ดี แล้วก็ป้อนเข้าระบบอุตสาหกรรมไป. แต่ถ้าพ่อแม่คนไหนเห็นศักยภาพเด็กจริงๆมึงจะสนับสนุนให้กลายเป็น นักกีฬา,ศิลปิน,ดารา,อัฉริยะคณิตศาสตร์,นักร้อง,นักดนตรีก็ต้องสอนแบบพิเศษเองนะ. ซึ่งไอ้พวกที่เป็นคนเก่งโลกดิจิตอลที่ว่ามาส่งนใหญ่มันก็โตมากับสภาพแวดล้อมพิเศษ อาจจะได้จับคอมพ์ฝึกCodingมาตั้งแต่เด็กและมีความสามารถอื่นๆอีกเยอะสนับสนุนด้วยไม่ใช่เป็นเนิร์ดเข้าสังคมไม่ได้แน่ๆ
สำหรับทางออกของกูนะกูว่าสอนโปรแกรมให้เด็กก็ต้องดูว่าสมองมันรับไหวไหมด้วยถ้า สอนพื้นฐานทั้งห้องแล้วจับคนฉลาดมาสอนแอดวานซ์ซักห้องละ2-3คนก็ได้ใช่ป่ะ. แต่เรื่องจริงคือมันเป็นการแบ่งชนชั้นอีก
แต่ถ้าพวกมึงยอมรับว่าเด็กมันฉลาดไม่เท่ากันก็สอนพื้นฐานกับคน100%แล้วจับคนมีแววจริงๆ1%มาสอนแอดวานซ์. เหมือนสอนพลทหาร1000คนมีเสธ.1คนก็ได้ใช่ป่ะ สอนละเอียดแล้วเด็กมันรับไม่ได้ก็เปลืองทรัพยากรอีก
อ่ะ ใครไม่เคยลองเขียนโปรแกรมก็ลองเอาไปเล่นกันซะ มีภาษาไทยด้วย
https://scratch.mit.edu/
ส่วนกู เห็นพวก visual programming แบบนี้แล้วปวดหัว สงสัยแก่เกินไป
>>870 ขอโทษนะ กูยังไม่เข้าใจอยู่ดี มึงยกประโยคที่กูโจมตีตัวบุคคลมาให้ดูหน่อยสิ
แล้วมึงอานที่กูเขียนแน่นะ ข้อ1.กูก็บอกแล้วว่าเรียนcodingสอนlogicจริง แต่ถ้ามึงต้องการสอนlogicมึงควรเรียนให้ตรงสายมากกว่า แค่นี้คือโจมตีตัวบุคคลเหรอวะ แค่บอกว่าเรียนตรงสายได้ประโยชน์มากกว่าคือโจมตีตัวบุคคล ช่างเป็นคนที่จบcomsciมาแล้วมีlogicที่ดีจริงๆ ประโยคแบบนี้ต่างหาหถึงเรียกว่าโจมตีตัวบุคคล
แล้วถ้ากูโจมตีตัวบุคคล ไอ้>>574 ไม่โจมตียิ่งกว่ากูเหรอ กูไม่ได้พูดซักคำว่าcomaciไม่ได้ผล ประเด็นกูคือเรียนให้ตรงเป้าหมาย และการให้เหตุผลแบบนี้เรียกว่าหุ่นไล่กา ชี้ประเด็นอื่นหรือคนอื่นให้โดนโจมตีแทน โอเคนะ
ถ้ามึงเน้นว่าจะให้เรียนตรงสายนี่จะมีคำถามทันทีเลยนะว่า
โรงเรียนควรสอนอะไรเด็กๆบ้าง
ยุคเก่า-สอนระเบียบวินัยแล้วป้อนเข้าระบบอุตฯ พอ
ยุคใหม่สอนวิชาให้มันทันสมัยขึ้นทำงานสมัยใหม่ได้จบ
ไอ้USเนี้ยมันมาแนวว่าถ้ารู้จักโปรแกรมเด็กๆจะมีโอกาสพิเศษๆเหมือน เกป,มาร์ค ที่จะเป็นคนเก่งระดับโลกไปเลย คือเอาโปรแกรมมิ่งมาสอนเพื่อจุดประกายให้เด็กเยอะๆเพราะรัฐสนับสนุนเครื่องมือให้
แต่ถ้าจะตีข่าวเป็น USมันสอนเด็กโปรแกรมตั้งแต่ประถมงั้นเมืองไทยสอนเด็กให้100% โปรแกรมเป็นมันผิดวัตถุประสงค์ไปไกลโคตรๆเลยหว่ะ และประเด็นที่บอกสอนเด็กให้โปรแกรมเป็นเพื่อให้คิดเป็นเหตุเป็นผลนี่้เป็นเหตุผลรองนะ
เหตุผลหลักคือสอนโปรแกรมให้เด็กเพื่อจุดประกายเด็กน่าจะถูกต้องมากกว่า
>>873 มึงเถียงผิดประเด็น กูแย้งพวกที่บอกว่าเรียนcomsciเพื่อให้เด็กคิดเป็น โดยให้เหตุผลว่าควรเรรยนให้ตรงสาย คือเรียนตรรกะศาสตร์มากกว่า ประเด็นจึงจำกัดแค่ว่าควรเรียนตรนกะมากกว่าcomsciหรือไม่ "ถ้า"ต้องหารให้เด็กคิดเป็น แต่ถ้าต้องการสร้างเกปหรือมาร์กคนต่อไปก็อีกเรื่อง
กูแย้งจุดเดียวมึงก็ควรdefendจุดที่กูแย้ง ไม่ใช่ขยายประเด็นและลากสิ่งที่ไมาเกี่ยวข้องมาตอบ และมึงก็พูดผิด นโยบายของโอบาม่าทำเพื่ออุตสาหกรรมit ลองคิดดูว่าการสอนเด็กแบบนี้ต้องใช้คแมเท่าไหร่ โปรแกรมกี่โปรแกรม ลูกค้าในอนาคตจะเข้าถึงโปรแกรมหลากหลายมากขึ้นจากความรู้ด้านคอมมากแค่ไหน ความสามารถด้านการแข่งขันด้านitในอนาคตจะเพิ่มแค่ไหน อัตราการใช่คอมและมูลค่าในตลาดitจะเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน และทั้งหมดที่ในparagraphนี้เน้นว่าเป็นวงการitในเมกาเท่านั้นนะ
กูว่าพวกมึงกำลังเข้าใจเรื่อง logic กันไปคนละทาง
logical reasoning ในปรัชญา, ตรรกะศาสตร์พีชคณิตบูลีนของคณิตศาสตร์ กับ คำว่าตรรกะที่พวกเรียนคอมมันพูดถึง มันแตกต่างกันอยู่นะ
กูเข้าใจว่า ประโยชน์เรื่อง "logic" ที่ได้จากการเรียน coding ที่พวกเรียนคอมต้องการจะสื่อ คือฝึกเรื่อง abstraction และ การแก้ปัญหาอย่างมีขั้นตอนวิธีการมากกว่า
กูถึงถามเนี่ยแหละว่าเคยเขียนโปรแกรมมั้ย เพราะแม่งไม่เหมือนกัน...
กูว่าจัดโรงเรียนเด่นเฉพาะทาง เช่น สมมุติตั้ง MITT สอนแต่ระดับ คณิต วิทย์ศาสตร์ เทคโนโลยี ล้วนๆ วิชาอื่นๆก็มีไว้ขำๆให้มีครบๆไป
ใครอยากเรียน ก็จับสอบตรงเฉพาะด้านพวกนี้เลย ห้ามวิ่งเต้นเข้าหา อ. ผู้หลักผู้ใหญ่ คนเก่าคนแก่
มีการดีลกับบริษัทด้านนี้ไว้รองรับเด็กจบใหม่(ชีวิตจริง เจอรับแต่เด็กม.เดียวกันเงิบชิบ)
.
.
.
พิมพ์ๆไปกูรู้สึกว่าไม่รุ่งวะ
บางเรื่องมันก็จริงที่ไม่ควรตามอย่างUSจริงๆคือมันสอนคนที่รู้จักITมากขึ้นอุตฯITประเทศมันก็เติบโต. แค่บ้านเราไปสอนอย่างมันเราก็ได้ผลประโยชน์ไม่เท่ามัน เกิดบ้านมันจะสอนเรื่องให้คนเป็นนักบินอวกาศ มันก็มีองค์กรรองรับ แต่เราสอนให้เป็นนักบินอวกาศก็คงต้องเอาเชือกผูกเอวแล้วดึงให้ลอยๆมโนเอาว่าอยู่ในอวกาศ
>>875 ถ้ามึงเรียนอย่างลึกซึ้งและเข้าใจทั้งสองอย่างจริง ๆ ไม่ใช่เอาแค่พอผ่านมึงจะรู้ว่าสามอย่างนี้ลึก ๆ แล้วก็เหมือนกันนะถ้าไม่นับพวกนักปรัชญาแหกคอกที่คิดอะไรตรงข้ามกับหลักเหตุผลไปหมด เพียงแต่เรื่องปรัชญาบางทีมันหาคำตอบที่แน่นอนไม่ได้ว่าจริง ๆ แล้วใครเป็นฝ่ายถูกกันแน่
>>878 การมีสถาบันก่อนจะช่วยให้พัฒนาประเทศได้ไวขึ้นกว่าการรอแต่เด็กจบนอกกับจ้างคนต่างชาติมาตั้งสถาบันว่ะ ปัจจุบันในไทยมีวิศวกรรมนิวเคลียร์นะ ซึ่งกูมองว่าเป็นเรื่องดีมาก
เอาจริงๆเงินไลเซนคลื่น900ทั้ง jas ทั้ง true ก็ไม่มีตังจ่ายทั้งคู่
ทรูขอเพิ่มทุนแล้ว แต่ jas ละ ตอนแรกเห็นมาโม้ๆว่าแบคใหญ่ ตอนนี้เงียบกริบ ไม่รู้จะเลิกโครงการรึเปล่าก็ไม่รู้
>>880
มึงเคยเขียนโปรแกรมหรือเปล่า มันเหมือนกันยังไง อธิบายด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งของมึงหน่อยซิ
กูไม่ได้เรียนปรัชญาโดยตรง แต่กูก็เคยอ่านเท็กซ์หลายเล่มนะ กูไม่เคยเห็นเล่มไหนพูดถึง algorithm และ problem solving แบบของโปรแกรมมิ่งเลย ยกเว้นมีอยู่เล่มนึงที่ยก excerpt paper ของ Alan Turing มาให้อ่าน
พีชคณิตบูลีนก็ด้วย ถ้าไม่ใช่ else if or ธรรมดา มึงใช้ตอนไหนบ้าง
logicพื้นฐานของปรัชญาคือความคิดที่ต่อเนื่องไม่ขัดกัน จะเทียบกับflowedของโปรแกรมก็ได้ แต่logicของปร้ชญาโดยพื้นฐานได้ได้บอกวิธีแก้ปัญหาว่าต้องทำยังไง
logical mindsetของปรัชญาคือการคิดให้ถูกวิธี อย่างวิทยาศาสตร์ต้องคิดแบบempirical thuogให้ได้ แต่พื้นฐานของตรรกะเชิงปรัชญาทักสำนักเหมือนกัน คือความคิดที่สมเหตุสมผล อันนี้แตกต่างกันบ้าง แต่ที่เหมือนกันคือระบบความคิดห้ามขัดกัน
ดังนั้นปรัชญาตรรกะศาสตร์จึงไม่ใช่เครื่องมือแก้ปัญหาสำเร็จรูปที่มีสูตรมาให้ แต่้ป็นหลักวิธีคิดให้นำไปประยุกต์(applied)ตามชื่อของมันนั่นละ(applied philosophy) โดยมากตรรกะจะจัดอยู่ในศาสตร์บริสุทธิ แต่เนื่องมันคงอยู่ในทุกศาสตร์ จะนับว่าเป็นประยุกต์ก็ได้ถ้าอยากนับ
อีกเรื่องที่น่าสนุก นับกันอย่างดคร่งครัด คณิตศาสตร์ไม่ใช่ศาสตร์บรริสุทธ์แบบตรรกะ แต่เป็นภาษาที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่ออธิบายตรรกะ เช่นเดียวกับภาษาคอม ดังนั้นการเรียนเลขจึงเป็นการเรรยนภาษาหนึ้งที่มีตรรกะ=ไวยกรของภาษาที่เคร่งครัดที่สุด
อธิบายเพิ่มนิดนึงนะ ภาษาส่งผลต่อความคิด ภาษาบางภาษามีตรรกพดีกว่าอีกภาษา บางภาษาก็ทำให้คิกครอบคลุมรอบด้านกว่า บางภาษาก็ทำให้เชื่อมโยงไก้มากกว่า การดรียนภาษาที่ชื่อว่าคณิตศาสตร์จึงทำให้ใช้ตรรกะได้ดีกว่า แต่ผลมักจะออกมาในเวลาที่เราคิดในภาษานั้นมากกว่านะ
เพื่อยาวไปไม่อ่านหรือเข้าใจผิด
1.ตรรกะศาสตร์สอนวิธีคิดที่ถูกต้อง แต่ไม่ได้หมายความว่าคำตอบต้องถูกตาม
2.ตรรกะศาสตร์เป็นศาสตร์ประยุกต์ ทุกอย่างขึ้นกับผู้ใช้ล้วนๆ
3.ตรรกะศาสตร์คือการคิดให้flowed ไม่ขัดแย้งกันเท่านั้น สมเหตุสมผลหรือไม่ขึ้นอยู่กับสาขา
4.คณิตศาสตร์เป็นภาษาๆ หนึ่งที่มีไวย์กรเคร่งครัดมาก เช่นนเดียวกับภาษาคอม
5.ภาษาส่งผลต่อความคิด คนเก่งเลขจึงใช้ตรรกะเก่งตามไปด้วยๆ
แต่คนใช้ตรรกะเก่งจะเริ่มไม่ค่อยใช้ความรู้สึกไง ซึ่งคนไทยมันบ้าอีโม
กุไม่เห็นด้วยกับมึงว่ะที่บอกว่าต้องให้ทุคนเรียนเขียนโปรแกรม
มันไม่ได้สอนให้มึงคิดเป็นตรรกะศาสตร์ในชีวิตจริง ถ้ามึงจะหาแนวคิดแบบเป็นระบบมึงไปเรียนในวิชาพวกเชิงจิตวิทยาดีกว่า เช่นการฟังแยกแยะอคติโดยใช้หมวก 6 ใบงี้
ถ้ามึงพูดว่าทุกคนควรรู้เรื่องเขียนโปรแกรม งั้นกุสมมุติใหม่ว่าทุกคนควรเรียนวิชาสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์เพื่อให้รู้ว่าคอมคิดยังไง จะได้รู้ว่าทำไมถึงต้องเขียนโปรแกรมแบบนี้ ทำไมคอมมันถึงยังไม่เป็นยอดมนุษย์จักรสังหารทำลายล้าง ทุกคนจะได้ซื้อประกอบคอมกันเป็น บลาๆ
อย่าคิดว่าวิชาเอกของตัวเองสำคัญที่สุดในการทำงาน ยังมีอย่างอื่นสำคัญๆอีกเยอะแยะที่จำเป็นต่อโลกเบี้ยวๆในปัจจุบัน
อีกอย่างนะ ไม่ใช่ว่าไม่เด็กไม่เคยเรียนเขียนโปรแกรมกัน มีเรียนเขียนภาษา html ตอนม.3 กับ c ตอนม.6ไง
ปล.กุเรียนเอกเกี่ยวกับวิศะคอมมา เขียนโปรแกรมเป็นพอใจยัง
ปล.2 ไมไม่ไปคุยในห้อง Tec วะ แทบจะเป็นห้องร้างอยู่แล้ว
ไอ้เรื่องโปรแกรมมิ่งนี่กูสรุปว่า สอนเป็นพื้นฐานให้เด็กคงพอแล้วไปสอนละเอียดเกินสมองเด็กทั่วไปคงรังไม่ไหวว่ะ แถมไม่ได้จำเป็นแบบวิชาภาษา,สังคม,คณิตศาสตร์ด้วย ถ้าเด็กมันเก่งจริงค่อยสอนมันเป็นวิชาเลือก (ประถมบ้านเรามีวิชาโรบอทนะเออ) คือเด็ก100%คงเรียนไม่ไหว แต่ควรมีทางเลือกเด็กที่มีอัจฉริยภาพพอให้มันได้เรียนวิชาพวกนี้ตั้งแต่เด็ก
มึงเข้าใจกันแค่ส่วนเดียวรึเปล่า เดี๋ยวนี้อะไรๆก็ใช้คอม จะบัญชี การเงิน หรือวิชาชีพอะไรมันก็ต้องใช้คอมพ์ทั้งนั้น ขนาดงานศิลป์ประยุต์อย่างหนังทุนพันล้านสมัยนี้ยังต้องมีคนมาเขียนโปรแกรมช่วยเลย การเรียบเรียงเหตุผลมันสำคัญ แต่เพื่อวิชาชีพแล้วสอนโปรแกรมมิ่งเป็นพื้นฐานให้เด็กน่ะถูกแล้ว แต่สอนแค่เป็นพื้นฐานนะ บ้านเรามันบ้าตรงที่วัดผลกันไม่ถูกวิธี ใช้ข้อสอบยากขึ้นเรื่่อยๆโดยไม่สนใจพื้นฐาน เด็กมันก็เลยท่องจำเอาเพราะง่ายกว่าที่จะท่องไปตอบข้อสอบให้ถูก ถ้าบ้านเราจะเอาวิชาคอมพิวเตอร์มาสอนเด็กนะ เชื่อกูได้เลย ว่าแม่งต้องสอนบนกระดาษ ให้เด็กท่องคำสั่ง if else หรือ while loop แล้วเอามาออกข้อสอบแน่นอน ครูประเทศเรามันมีปัญญาแค่นี้จริงๆ
กูว่าก่อนจะออกหลักสูตรอะไรก็ไปถามพวกนายทุนก่อนไหมว่าอยากได้ลูกจ้างที่เก่งอะไรบ้าง บางทีก็ไปถามด้านสังคมวัฒนธรรมว่าต้องการคนแบบไหนก็ออกแบบหลักสูตรปั้นคนออกมาให้เป็นที่ต้องการ. ส่วนคนไหนมันเก่งพิเศษบางด้านก็ต้องให้มันไปเรียนแบบพิเศษเอง
ของไทย มันต้องการไฟร่ไง แบบว่าคนทำตามคำสั่งมิอิดออด
ถ้าคนมันคิดเป็นคงไม่มี คนมาไหว้ สส. หรอกเมิง สส. มันลูกจ้างพวกเมิง แต่ดันเคารพยังกะเทพ
ก็นั่นแหล่ะ โรงเรียนคือ สร้างเด็กออกมาเป็นผู้ใหญ่ที่สังคมต้องการ. แต่สังคมบ้านเรามันจะเอาพวกคิดเองเป็น1%พอแล้วที่เหลือพวกมึงเป็นไพร่ทำตามสั่งพอแล้วเข้าใจยังว่าทำไมคนรวยถึงส่งลูกไปเรียนเมืองนอก. เพราะถ้าให้เรียนเมืองไทยแล้วลูกมันจะคิดได้แค่เป็นไพร่ไง
กูก็เห็นทั่วโลกสอนเด็กจบออกมา
ส่วนใหญ่ก็ได้เป็นลูกจ้าง(ไพร่?)กันทั้งนั้น ไอ้ที่รวยๆเป็นเจ้าคนชี้สั่งนี้ ไม่ถึง10%
จะมาบ่นอะไรในกะลาอยู่ประเทศเดียววะ
ต้องส่งไปเรียนฮาวาร์ด+หนีทหาร. หรือเรียนโรงเรียนทหารเพื่อกลับมาเป็นผู้นำเอาอ่ะ. ส่วนพวกรวยเพราะธุรกิจการลงทุนส่วนใหญ่ก็เรียนนอกและส่งต่อแนวคิดกันในครอบครัว เพราะหาครูมาสอนให้เด็กเป็นเศรษฐีพันล้านไม่ได้หรอก
คดีจับโยนเหวนี้ กฎหมายเยาวชนประเทศไหนบ้างที่ลงโทษหนักๆได้บ้างนะ เพราะเคยเห็นพวกคดีจุนโกะก็โดนแค่ขังคุกไม่กี่ปีเพราะเป็นเยาวชน
ต่อนอกทิ้งหนี้ไว้ให้คนค้ำจ่าย ตัวเอวสบาย เมพสุด
ไอ้พวกเยาวชนในจุนโกะก็เปลี่ยนชื่อกลับเข้าสังคมมีการมีงานมีตำแหน่งไปแล้ว(ถุ้ย)
กูนึกถึงไอ้พวกนี้ด้วยวะ
http://imgur.com/YD1570M
ในแฮปปี้พีเพิ่ล/จิตอุบาทย์อ่ะนะเมื่อก่อนกูชอบอ่านมันเสียดสีสนุกดี กูชอบเรื่อง หลวง,แมงมุม,หมาป่าที่สุด
http://www.thairath.co.th/content/571854
ตอนเฟอร์บี้คนเลิกเห่อก็เก็บเข้าตู้
ถ้าให้เยาวชนอีกกลุ่มไปฆ่าเยาวชนที่ก่อเหตุโดยให้เงินเป็นรางวัลแบบลีบ ๆ จะได้ไหม
ลับ ๆ
ผิดศีลธรรมอย่างรุนแรง. กฏหมายมันมีขั้นตอนชัดเรื่องความโปร่งใสด้วย ต้องสืบสวนหาหลักฐานแล้วส่งศาลตัดสินกำหนดโทษแล้วส่งไปนับโทษอีกที. ถ้าคนเดียวหาหลักฐานตัดสินลงโทษครบหมดและแบบลับๆด้วย ก็เป็นศาลเตี้ยที่อยู่ดีๆใครที่ขัดประโยชน์คนมีอำนาจก็โดนเป่าหมด แถมถ้าจับผิดคนจะลงโทษคนตัดสินไหม
“ถ้าเราฆ่าฆาตกรไปคนนึง จำนวนฆาตกรก็ยังเท่าเดิม”
- มิตรสหายแบทแมน
Don't do drugs
Everyone does drugs
If you work hard in school everything will be ok
Apart from redundancy and lack of pension when a robot replaces you
If you're talented enough you can make it
What every broke musician believes
Fake it until you make it
Not when you can't afford the suit
Anything is possible
Yup. Like winning the rollover lottery
Pain is weakness leaving the body
Or the early signs of injury
It is better to have loved and lost than to have never loved at all
After the depression, self doubt and tears. Sure
Just have faith and you'll do it
Alongside training. Failing. Trying again and again until you....fail. Again.
C'mon Dee. You got this!
Typically said to someone who really hasn't 'got this'
The Lord is my shepherd
The Lord will get you killed.
จริงๆ ทุกชาติมันก็มีมุมเหี้ยๆ หมด แต่พอเวลาเกิดเรื่องอะไร คนเราชอบเอา worst case ของตัวเองไปเทียบกับ best case ของคนอื่น
โลกสวยเกินก็ไม่ดีมึงคิดดูอย่างพ่อค้ายาเสพติดเข้าไปติดคุกแล้วยังโทรสั่งลูกน้องให้ไปส่งยาต่อมึงคิดว่าพวกเหี้ยนี่จะกลับตัวได้จริงหรือเปล่า
คือถ้าเป็นผิดร้ายแรง,มีหลักฐานทำผิดซ้ำซ้อนมันเหี้ยขนาดนั้นก็ให้โอกาสมันกลับตัวชาติหน้าเถอะวะ
ไม่ต้องworst caseกับbest caseมึงหรอก
เอาค่าเฉลี่ยก็ชัดอยู่ดีว่าไทยแม่งต่ำตม
>>915 averageของที่ไหนละ ถ้าแค่SEAไทยtop 3 นับทั้งเอเชียก็ดีกว่าอีกครึ่งเอเชีย เพราะที่เหลือเป็นมุสซี่กับแขก เทีบกับละตินเมกาก็ดีกว่าส่วนใหญ่ เหลือแค่แดนคนขาวเท่านั้นละที่เราด้องกว่าทุกด้าน
จะดีกว่าหน่อยก็แค่เรื่องฆาตกรโรคจิตแบบต่อเนื่อง ของไทยแทบไม่มีเลย ต่อให้ฆ่าโหดแค่ไหนก็แทบไม่มีเรื่องโรคจิตเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งกูก็บอกไม่ถูกนะว่ามันดีหรือแย่ เพราะมันแปลว่าเหี้ยโดยธรรมชาติ ไม่เหมือนคนโรคจิตที่เหี้ยเพราะผิดธรรมชาติ
ปัญหาคืองิธีแก้ปัญหามากกว่าว่ะ คือกูมองว่าฝรั่งหรือญี่ปุ่นส่วนใหญ่เวลาเขาเจอปัญหาแล้วจะหยุดคิดแล้วแก้ให้มันดีขึ้นเป็นส่วนใหญ่ แต่ไทยถนัดเรื่องเอาอิทธิพลไปข่มขู่ให้เรื่องเงียบนะ ไอ้นับอาวุโสทุเรศๆก็เยอะซึ่งเราก็ต้องค่อยๆพัฒนาเรื่องพวกนี้อีกเยอะ
>>916 เคยมีข่าวคนร้ายโรคจิตฆ่าโสเภนีแบบต่อเนื่องด้วยนะ http://www.thairath.co.th/content/308459
แต่คนไม่ค่อยสนใจเพราะเหยื่อเป็นกะหรี่และมันฆ่าแบบธรรมดาไม่ได้วิปริตอะไร
http://kaagazkalam.tumblr.com/post/138530587432/urgent-tw-rape-and-assault-straight-male
ไอ้ห่า...มีจุดนัดพบของประเทศไทยด้วย มันมีใครคิดแบบนี้จริงๆเหรอวะ
>>916 มึงพอใจจะอยู่แบบนี้ก็ได้นะ แต่กูไม่พอใจว่ะ เพราะประเทศเอเชียส่วนใหญ่มันยังบ้านป่าเมืองเถื่อนด้วย ยกระดับกันหน่อยไม่ดีเหรอวะ
แล้วเคสโรคจิตต่างประเทศนั่นเทียบกับจำนวนประชากรของประเทศพวกนั้นมันก็ยังดีกว่าฆ่ากันแบบไม่โรคจิตแต่ฆ่ากันทุกวันปะวะ
คุณภาพคนไม่ต้องเอาระดับญี่ปุ่นหรอก ขอประชากรประเทศเราให้มันมีคุณภาพระดับไต้หวันหรือสิงคโปร์ก็หรูแล้ว
กูเน้นเรื่องยาเสพติดกับหนี้นอกระบบก่อนจะดีมากสองอย่างนี้แม่งเหี้ยของจริง
ทำไมกูมองเห็น นายกตู่ พูดแบบว่า " จะไม่เป้นนายก "
ทำให้กูนึกถึงคำว่า "เสียสัตย์เพื่อชาติ"เลยฟะ
หวังว่ากูคงไม่ได้เห็นเอาคนเข้าห้องอบรมบ่มนิสัยนะ เห็นเข้าไป เสร็จแล้วออกมา อา.... เรามาปรองดองกันเถอะ
ปล. เอามาจาก คอลัมภ์ของไทยรัฐที่กูอ่านเมื่อเช้าน่ะ เห็นอดไม่ไหวอยากมาพิมพ์
มึงอ่านอะไรจาก tumblr มึงคิดไว้ก่อนด้วยว่ามันเป็นแหล่งรวมพวก SJW หน้าโง่
http://www.snopes.com/roosh-v-43-countries/
>>930 เทียบกับทั้งโลกไทยน่าจะอยู่กลางๆ เหี้ยแต่ก็ไม่ได้เหี้ยมาก แม็กซิโกและแถบอเมริกาใต้เถื่อนกว่า ตะวันออกกลางเคร่งศาสนา แอฟฟริกายากจนไม่มีอะไรจะกิน มันก็ดูไม่ดีหรอกที่เอาประเทศด้อยกว่ามาเทียบ แต่ถ้าพูดกันเฉพาะข้อเท็จจริงคุณภพาชีวิตคนไทยโดยเฉลี่ยมันก็ไม่ได้เลวร้ายมาก
ปัญหาของไทยคือไม่มีความสมดุลย์ เหี้ยก็เหี้ย ดีก็ดี อย่างระบบITไทยดีมาก แทบเท่ากับประเทศพัฒนาแล้ว แต่ระบบจราจรเหี้ยมาก คุณภาพชีวิตไทยบางด้านก็ดี
การกินอยู่ในไทยดีมาก ในปวศ.แทบไม่มีอดอยาก ฝรั่งมาอยู่นี่ยังปลื้มเรื่องหากินง่าย การธนาคารเราดีกว่าเมกาอีกนะ เพราะเรามีประสบการณ์ตอน 40 เลยปรับปรุงให้มีเสถียรพาพมาก
เมืองไทยมีทั้งดีและเหี้ย วึดด้านแย่เราก็แย่แต่ไม่ถึงกับแย่ที่สุด วัดด้านดีเราก็ดีมากในหลายด้าน แต่อย่างที่บอกว่ามันไม่สมดุลย์มากไป ค่าเฉลี่ยไทยเลยดูกลางๆ
กลางๆไปแม่งก็บ่นอยู่ดีวะ
อ่านข่าวทดสอบเครื่องปฏิกรฟิวชั่นสำเร็จแล้วเพิ่งรู้ว่าป้าเมอร์เคลมีดีกรี Phd Physics
มีผู้นำประเทศไหนอีกมาจากสายวิทย์มั่งมั้ย
http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9590000012599
ฆ่าหั่นศพเสปนไหมล่ะ งานช้างสำหรับตำรวจไทย?
ที่อื่นก็อย่างนี้นะ เงินเอกชนขับเคลื่อนทุกอย่าง,นักการเมืองฟังเสียงนายทุนคอยเป็นเจ้าภาพมีถนนมีไฟฟ้ามีน้ำประปา,มีโรงเรียนสร้างคนป้อนอุตฯ ,ที่ไม่ดีมันจะประเภทงุบงิบนักการเมือง,นายทุน,ข้าราชการรวมหัวกันโกง
US มีดีเทคโนโลยีขั้นสูง, ยาดี,แพทย์ดี,อาวุธดี,เครื่องบินดี,สื่อบันเทิงดี, มาจากกฏหมายหลายๆตัวที่ปกป้องคนคิดค้นซึ่งบ้านเราไม่มีเลยเจาะจงก้อปกันแบบทุกวันนี้
>>938 เทียบด้านสาธารณะสุขนะ โรงบาลรัฐได้เปรียบตรงประสบการณ์ แทบจะมีชั่วโมงสูงที่สุดในโลก สามารถทำงานได้หลากหลาย พอเป็นเอกชนก็เอาประสบการณ์ตรงนี้มาใช้เฉพาะทาง+การบริการแบบถึงใจของคนไทยอีก โรงบาลไทยถึงดังที่ต่างประเทศมาก บำรุงราษฎรนี่แขกอาหรับแทบจะนอนเป็นโรงแรม แถมค่ารักษาก็ถูกมากกกก
เอาง่ายๆ ศัลย์กรรมพลาสติกไทยไม่แพ้เกาหลี เมื่อก่อนเกาหลีบินมาผ่าที่ไทยประจำ ตอนนี้ค่าผ่าตัดไทยถูกกว่าเกาหลีอย่างต่ำเท่าตัว แต่คนไปเกาหลีเยอะกว่าเพราะโฆษนาดี ผ่าตัดเฉพาะทางหลายอย่างไทยก็เก่ง ถึงจะไม่ได้คิดเองแต่ก็ทำได้ไม่แพ้ใคร แค่เรื่องการแพทย์เรื่องเดียวไทยถือว่าสูสีกับญี่ปุ่น ถ้านับด้านประสบการณ์ถือว่าเหนือกว่า เพราะแพทย์ไทยทำเป็นทุกอย่าง
พวกเก่งแต่หน้าจอ ก็ยังงี้แหละ
Liberal.jpg
1. ส่วนมากยังไงก็ไม่อยากโดนลากไปปรับทัศนคติในค่ายทหาร หรือไม่ก็กลัวมีชายฉกรรจ์บุกไปเยี่ยมแม่ถึงบ้าน
2. รบ.ควบคุมเฟสบุ้คไม่ได้ ถึงจะพยายามอยู่ก็เหอะ
3. การให้ความรู้ความคิดเห็นที่หลากหลายในสังคมมีประโยชน์กว่า
หมุดหัวอยู่หลังคีย์บอร์ดสมกับเป็นลิเบอร่านดีครับ
หมาน้อยเชื่องๆ แค่ให้กระดูกกินก็กระดิกหางมีความสุขแล้ว ดีจัง
บางคนมันได้อาหารดีดีตำแหน่งดีดี เวลานายใช้ให้ไปทำเรื่องชั่วๆยังยอมทำให้เลย หลักการของคนมันต่างกันน่ะ บางคนมันบอกแค่ภักดีกับนายแล้วพอยังมีเลย ถ้ามันไม่เหลืออดกันพวกรีเบลตัวจริงมีไม่เยอะหรอกแถมเปิดตัวรีเบลจังหวะไม่เหมาะได้โดนด่าว่าร่านซะหมดเลย
ต้องเข้าใจจากปวศ. ว่าส่วนใหญ่จะทนๆกันไป,คนปกครองผิดพลาดคนไม่มีจะแดก,จราจล,สร้างระบบปกครองใหม่ คือถ้าส่วนใหญ่ยังอยู่ในขั้นทนๆกันไปแล้วเสร่อบอกกูจะไม่ทนคนเดียวกูว่า100%โดนจับไปปรับทัศนคติแน่ๆ
ชีวิตจริงไม่ใช่แบทแมนนาเว้ย ที่จะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบเพราะรวยเหลือแดก
หนีตำรวจ/ทหารได้เพราะมีอุปกรณ์ไฮเทคคอยซัพพอร์ต
ใครมันจะเอาตัวเองไปเสี่ยง ได้แต่มุดอยู่ในรูนี่แหละ
ยังดีว่าสมัยนี้แม่งแค่ปรับทัศนคติ
บางคนที่รวยและมีปัญญาจริงบางทีก็ตัดช่องน้อยแต่พอตัวอพยพหนีไปต่างประเทศกัน
เวลาปฏิวัติกันสมัยก่อนถีงได้ล้างบางเลือดนองถนนเพราะคนที่อยู่มันไม่ใช่ปัญญาชน
ใครเคยดูหนังที่พระเอกมันใช้ไทม์แมชชีนไปอนาคตแล้วมีแต่คนโง่ เอาเกตเตอเรตไปรดต้นไม้เพราะ “มันมีสารละลายไฟฟ้า“ นายกคือพระเอกAVนั่นแหล่ะสภาพหลังจราจลเสร็จใหม่ๆ
ลิเบอร่านดีแต่โพสลงเฟส แต่นกหวีดไม่กล้าแม้แต่จะโพสอะไรเลย อิอิออ
ถ้าแต่ละคนมีเจตนาแอบแฝงไม่ได้ทำเพื่อให้ส่วนรวมรุ่งเรืองก็เลวต่างกรรมต่างวาระหมดแหล่ะมึงอย่าเสียเวลาแขว่ะกัน เอาเวลาไปคิดไปทำให้ชาติรุ่งเรืองแบบยั่งยืนลูกหลานมีที่ยืนในสังคมโลกน่าจะดีกว่า
เวลาเล่นหมากรุก ตัวแรกที่จะตายคือเบี้ย ถึงมีสำนวนว่าอย่าเป็นเบี้ยไปตายแทนคนอื่นไง. คนเล่นเกมส์มันไม่ได้เดิมพันถึงตายเหมือนคนที่อยู่ในกระดาน
ดูข่าว บ.ยามะกันขึ้นศาลสหรัฐเพราะค่ายาโรคเอดส์แพงโคตรเวอร์
CEOยิ้มกวนตีนในศาลช่างสมเป็นดินแดนประชาธิปไตยจริงๆ
ดูข่าวไอ้โจ๋สองตัวที่มันข่มขืนผู้หญิงหัวเราะหน้าระรื่นขณะสอบปากคำสมเป็นดินแดนประชาธิปไตย99.99จริงๆ
คนด่าที่ตัวซีอีโอ แต่ไม่พูดถึงการที่มันขึ้นราคาได้ไม่ยั้งแบบนั้นก็เพราะกฏหมายที่ออกโดยนักการเมืองที่ถูกหนุนหลังโดยบริษัทยาใหญ่ๆอื่นๆนั่นแหละ
เคยได้ฟัง Martin Shkreli พูดในยูทูปประมาณว่า ยามันเก่ามากแล้ว และไม่มีการพัฒนามาหลายสิบปีเพราะยานี้ใช้ในอเมริกาไม่เยอะ ที่ขึ้นราคาเพื่อจะเอาไปลงทุนด้าน R&D ผู้ป่วยไม่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นราคาเพราะประกันกับรัฐบาลจ่ายอยู่แล้ว ถ้าผู้ป่วยคนไหนเข้าถึงยาไม่ได้ให้ติดต่อมาเลย เดี๋ยวขายให้ถูกๆหรือไม่ก็ให้ฟรีเลย
คนซวยจะเป็นนักการเมืองกับอุตสาหกรรมยา เพราะการขึ้นราคามหาโหดแบบนี้ มันทำให้เห็นว่าระบบมันมีช่องโหว่ขนาดไหน
ที่เขาจับCEOคนนั้นมาขึ้นศาลไม่ใช่เรื่องขึ้นราคายาแต่เป็นเรื่องตกแต่งบัญชีที่บริษัทเก่าหน่ะครั่บ
www.dailymail.co.uk%2Fnews%2Farticle-3426138%2FGerman-politician-says-migrants-shot-border-trying-enter-country-illegally.html
เป็นนโยบายที่ดีครับ
ดีจิงแต่ควรจะเตือนก่อนนะ ถ้าไม่ฟัง โป้งเลย
อยากอ่านข่าวนักสิทธิในยุโรปว่ะ อยากรู้ว่าเจอมุสซี่+อพยพเข้าไปจังๆแม่งจะมีความเห็นยังไงบ้าง 5555
จากที่มีข่าวขบวนการข่มขืนที่มีคนโพสต์ลิงค์จาก tumblr ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
วันนี้ ผู้นำออกมาแถลงข่าว แล้วก็ด่านักข่าวที่เขียนข่าวใส่ร้ายมั่วๆว่า "พวกมึงอึดอัดจากการที่มีขบวนการมุซซี่ข่มขืนในยุโรป แต่มึงพูดอะไรไม่ได้เพราะมันขัดกับอุดมการณ์ของพวกมึงใช่ไหม ถึงมาป้ายสีให้กูเป็นตัวร้ายแทน
ถ้ามึงแคร์เรื่องการข่มขืนจริง มึงไปรายงานข่าวเกี่ยวกับผู้อพยพในยุโรปเลยไป"
เพจหยุดดัจจริดประเทศไทย แม่งไม่กลัวโดนอุ้มหรอว่ะ ช่วงนี้แม่งขยี้บ่อยสัสๆ
จะเอาเชี่ยอะไรมากกับลิเบอร่านไร้สมองเล่า โถ่
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1102807389763411&set=a.211191062258386.58666.100001024807284&type=3
มีใครเช็คได้บ้าง หรือจะเรื่องมโนอีก
ถ้าประเทศนี้ร่านกับสลิ่ม มันจะเลิกทะเลาะกันมั้ยวะ?
>>994 ถ้าไอ้พวกแดงสุดโต่งน่ะมันมีอยู่ อย่างไอ้พวกติ่งทักษิณนปช. ทั้งหลายแหล่ แต่เชื่อมั๊ยมีเพื่อนคนนึงเค้าไม่อวยทักษิณ, เสื้อแดง พอวิจารย์รัฐบาลทหารเพื่อนของเพื่อนแม่งยัดเยียดว่าเป็นควายแดงเฉยทั้งๆที่เค้าไม่อวยอะไรเลย มันก็ยังงี้แหละคนพวกนี้ แต่ที่กูกล่าวมาแม่งมีอยู่จริงและมากกว่าด้วย
>>995 มีทั้ง2ฝั่งละ กูไม่เอาจำนำข้าวก็บอกสลิ่ม บอกว่ารถไฟรางคู่จำเป็นกว่าความเร็วสูงก็บอกสลิ่ม ไม่ชอบรถคันแรกก็บอกสลิ่ม พูดง่ายๆคือกูวิจารณ์นโยบายกูก็สลิ่มแล้ว กูไม่เคยเจอคนไม่ชอบนโยบายหรือไม่ชอบยิ่งลักษณ์แล้วไม่โดนชี้หน้าว่าสลิ่มซักคน ต่อให้เหตุผลจะดีแค่ไหนก็เถอะ
ตั้งกระทู้ใหม่กันด้วยครับ รบกวนยกมาแค่ลิงค์กระทู้ล่าสุดก็พอ (กดย้อนไปดูได้เรื่อยๆ อยู่แล้ว) จะได้ไม่รกนะครับ
วิ่งๆ กุบกับๆ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.