โอเคล่ะกูมาคิดอีกทีแนวคิดมันไม่ตรงกันที่เถียงกันนี่ กูเป็นคนที่คิดว่า สถานการณ์ปัจจุบันมันมีกฏค้ำหัวเรื่องเกณฑ์ทหารอยู่แล้วกูก็ไม่พูดถึงเรื่องจะไปเปลี่ยนกฏตรงนี้ กูถึงไล่ให้ไปเรียนรด.
.....ในใจกูตั้งแต่เด็กมากูก็คิดว่าเวลาคิดอะไรได้แล้วจะเปลี่ยนระบบอะไรผู้อยู่เหนือกว่ามันชอบบอกให้เอาแบบเดิมๆ ซึ่งกูก็ไม่ถูกใจนัก
... ไอ้เรื่องไปเปลี่ยนกฏเกณฑ์ทหารมันห่างไกลจากการให้วัยรุ่นมันคิดแล้วให้พวกทหารในปัจจุบันไปแก้กฏหว่ะ. เกิดมึงเสร่อไปพูดถามประยุทธ์ว่าช่วยแก้กฏเกณฑ์ทหารหน่อยครับ มึงอาจจะได้คำตอบว่า ไว้พ้อวมึวเป็นนายกก่อนค่อยคิดก็ได้นะ หรือมึงอาจจะได้คำตอบดีดีที่นายทหารเขาคิดกันว่าทำไมแบบปัจจุบันดีสุด
.....เรื่องแบบนี้มันต้องมีเหตุการณ์ที่หัวใหญ่คิดจะเปลี่ยนแปลงหรือสถานการณ์เหมาะสมจริงๆเขาถึงคิดจะเปลี่ยนกฏกันนั่นแหล่ะ. โอกาสความเป็นได้ในอนาคตมันก็มีเพราะหลักการใช้ทหารลงพื้นที่น้อยๆ แต่เป็นพวกเจนสนาม เวลาแจ้งความเสียหายมันดูดี (แบบทหารเกณฑ์ตายเกลื่อน 1000คนจากหมื่นคน กับทหารอีลีท ตายห้าคนจากสิบคน) กรณีแบบนี้ก็เห็นแล้วว่าถ้าบอกทหารตายพันแม่งเรื่องใหญ่ แต่ทหารหัวกะทิตาย50%เป็นเรื่องเฉยๆ เพราะมันก็รู้ตัวว่าเสี่ยงตายด้วย
...ถ้าแนวกูคือมึงคิดจะเปลี่ยนกฏตอนนี้มันเปลืองสมองคิดแล้วพวกตัวใหญ่มันไม่คิดเหมือนมึงหรอก. สู้ทางออกที่ให้เลือกง่ายกว่าเยอะ
.....ถ้าอยากจะถกเรื่องจะเปลี่ยนกฏอีกกูคงเบรกให้พวกมึงคิดว่า อาจจะมีคนตอบมึงว่าให้พ่อวมึงเป็นนายกก่อนค่อยคิดก็ได้