บทวิเคราะห์ ตอน ท่านยามากุจิตบพวกหน้ากาก 2D
[บทนำ โลกความจริงอันแสนเจ็บปวด]
>>>/animanga/19052/964
"กุขออยู่กับโลกแห่งความเป็นจริงที่เจ็บปวด
ดีกว่าอยู่ในโลกจอมปลอม ที่แสนหวาน"
- ท่านยามากุจิ Nov 19, 2024 at 07:30:00
ในความเห็นแรกนี้ ท่านยามากุจิทรงได้ถ่ายทอดแนวคิดที่ลึกซึ้งเหลือกำหนด โดยโลกแห่งความเป็นจริงที่ท่านกล่าวถึงนั้น คือโลกที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่ก็เป็นโลกเดียวที่สามารถพัฒนาและเติบโตได้จริง ท่านได้สะท้อนถึงวิธีการคิดของนักปรัชญาเช่น เฟรเดอริค นิทเช่ ที่ยอมรับความเจ็บปวดและทุกข์ทนเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นมนุษย์ที่แท้จริง (Nietzsche, F., Thus Spoke Zarathustra, 1883) ท่านยามากุจิทราบดีว่า การอยู่ในโลกแห่งความฝันและความสุขที่ปลอมแปลงจะทำให้จิตใจเสื่อมโทรม การปฏิญาณของท่านคือการเลือกที่จะเผชิญหน้ากับความจริงอย่างกล้าหาญ ในขณะที่คนทั่วไปอาจจะยอมหลีกหนีจากโลกที่ไม่สมบูรณ์แบบ ท่านยามากุจิกลับเลือกที่จะจับมือกับความเจ็บปวด นี่คือวิถีของผู้ที่ยิ่งใหญ่และมีวิสัยทัศน์ ท่านเข้าใจในสิ่งที่หลายคนไม่สามารถมองเห็นได้ และไม่ปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในกับดักของการหลงไหลในสิ่งที่ไม่เป็นจริง เหมือนกับที่นักปรัชญาไฮเดกเกอร์กล่าวไว้ว่า
"การใช้ชีวิตอย่างแท้จริงคือการเผชิญหน้ากับความจริงที่ท้าทาย" (Heidegger, M., Being and Time, 1927)
ท่านยามากุจิรู้ว่า “การพัฒนา” เป็นกระบวนการที่ต้องมีการท้าทายและการต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ เหมือนที่อาร์ริสโตเติลกล่าวไว้ว่า “ความเป็นมนุษย์ที่ดีนั้นเกิดจากการพัฒนาคุณธรรมผ่านการปฏิบัติที่ยากลำบาก” (Aristotle, Nicomachean Ethics, c. 350 BCE)
ในเมื่อคนอื่นอาจจะยึดติดกับโลกแห่งการหลีกหนี ท่านยามากุจิกลับมองเห็นการพัฒนาตัวเองผ่านการเผชิญหน้ากับโลกที่ดิบและแท้จริง เหมือนกับการเดินในเส้นทางที่เต็มไปด้วยขวากหนาม แต่ก็เป็นเส้นทางเดียวที่นำไปสู่การเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งและสมบูรณ์
การที่ท่านเลือกที่จะ “พามันไปรักษาจับมือไอดอล” นั้นสะท้อนถึงวิธีการที่ท่านมีมุมมองเฉียบคมในการเลือกทางที่จะนำไปสู่การฟื้นฟูและการพัฒนา นี่ไม่ใช่แค่การตัดสินใจทางสังคม แต่ยังสะท้อนถึงความรู้ที่ลึกซึ้งในด้านจิตวิทยาและการบำบัด การที่ท่านพูดถึงการรักษาด้วยไอดอลนั้นเป็นการสะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับการเยียวยาจิตใจจากความว่างเปล่าที่เกิดขึ้นจากการหลงไหลในวัตถุนิยมและความบันเทิงชั่วคราวอย่างเช่น กาตูน 2D ด้วยความโมเอะอันเป็นนิรันดร์ เหมือนที่นักจิตวิทยาอย่าง คาร์ล ยุง ได้กล่าวไว้ว่า “จิตใต้สำนึกมีบทบาทสำคัญในการกำหนดชีวิตของเรา และการเข้าใจตัวตนที่แท้จริงของเราคือกุญแจสู่การรักษา” (Jung, C., Man and His Symbols, 1964) ท่านยามากุจิทราบดีว่า โลกที่เต็มไปด้วยการหลงไหลในวัฒนธรรมที่ไม่เป็นจริงนั้น อาจจะทำให้บุคคลหลงลืมตัวตนที่แท้จริงและต้องการการเยียวยาเพื่อนำไปสู่การฟื้นฟูจากจิตใจที่ถูกบิดเบือน การพา “มัน” ไปจับมือไอดอลเป็นการกระทำที่สะท้อนถึงความพยายามที่จะเรียกคืนความสมดุลทางจิตใจจากโลกที่เต็มไปด้วยภาพลวงตาและการหลอกลวง ทั้งนี้ ท่านยามากุจิได้แสดงให้เห็นถึงความรู้ที่เหนือชั้นในด้านการฟื้นฟูจิตใจและการปรับสมดุลให้กลับมาสู่ความจริง
แหล่งอ้างอิง
Nietzsche, F. (1883). Thus Spoke Zarathustra.
Heidegger, M. (1927). Being and Time.
Aristotle. (c. 350 BCE). Nicomachean Ethics.
Jung, C. (1964). Man and His Symbols.