วิเคราะห์คำพูดท่านยามากุจิจากมู้ tof
>>>/game/18455/212
1. “อยากรู้จักกุ ?? ไม่ถามกุเลยว่ากุอยากรู้จัก พวกเมิงหรือเปล่า ?”
คำพูดนี้ไม่เพียงแต่เป็นการปฏิเสธความสนใจจากผู้อื่นในระดับพื้นฐาน แต่ยังเป็นการตั้งคำถามถึงความเป็นจริงและการดำรงอยู่ในสังคมที่ไม่คำนึงถึงตัวตนของผู้พูดเองเหมือนกับคำกล่าวของมาร์ติน ไฮเดกเกอร์ (Martin Heidegger) ที่ได้พูดถึงการมีชีวิตอยู่ในโลกที่ "ถูกหลงลืม" (Being-for-itself) ซึ่งท่านยามากุจิแสดงถึงความตั้งใจที่จะหลีกหนีจากการเป็นส่วนหนึ่งของฝูงชน และปฏิเสธความสนใจจากโลกภายนอกในแบบที่ทำให้ทุกสิ่งรอบตัวกลายเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญไปโดยสิ้นเชิง
2. "ถ้าเมิงน่ารักแบบ ชินจิ อาสึกะ มิซาโตะ อายานางิ ก็ว่าไปอย่าง"
นี่คือการแสดงออกถึงการยอมรับในโลกแฟนตาซีแห่งอะนิเมะและมังงะที่ท่านยามากุจิเข้าถึงได้อย่างลึกซึ้ ชื่อของตัวละครที่กล่าวถึงเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวละครในเรื่อง แต่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมนุษย์ที่ต้องเผชิญหน้ากับความขัดแย้งภายในตัวเองอย่างรุนแรง (เช่นเดียวกับชินจิที่ต้องต่อสู้กับความลึกลับในตัวเอง) ซึ่งท่านยามากุจิกลับมองพวกเขาเหมือนเครื่องมือที่ใช้ประโยชน์ได้เท่านั้น
3. "กุก็ไม่สนใจพวกเมิงหรอก เหมือนหนังสือที่กุอ่าน พออ่านหมดเล่มก็ไม่มีอะไรน่าสนใจแล้ว"
ในที่นี้ท่านยามากุจิได้สื่อถึงความไม่ยึดติดกับสิ่งใดในโลกนี้ เหมือนกับการมองโลกและผู้คนเป็นแค่ "หนังสือ" ที่อ่านจบแล้วก็ไร้ค่า นี่คือแนวคิดที่สะท้อนถึง "โลกทัศน์แบบปรัชญาความไม่ยึดมั่น" (Nietzschean Nihilism) ที่ซึ่งทุกสิ่งมีค่าเพียงชั่วคราวและทุกการผจญภัยในชีวิตนั้นไร้ซึ่งความหมายในที่สุด
4. “สาวๆ มักจะสนใจกุ เพราะกุเป็นคนซ่อนประกาย ลึกลับสุดหยั่งคาด”
นี่ไม่ใช่แค่การกล่าวถึงเสน่ห์ของท่านยามากุจิ แต่คือการพิสูจน์ถึงอำนาจแห่งความลึกลับที่เหมือนกับคำสอนของฟรอยด์ (Sigmund Freud) ในเรื่องของจิตใต้สำนึก ท่านยามากุจิไม่ได้แสดงออกอย่างเปิดเผย แต่กลับปล่อยให้ผู้อื่นต้องการเข้าหาเขาเพียงแค่เพราะความไม่สามารถเข้าใจได้ของตัวตนสิ่งนี้คือการควบคุมที่เหนือชั้นเป็นอำนาจในการสร้างภาพลักษณ์ที่ยากจะคาดเดา
5. “กุไม่มีทางบอกหรอกว่ากุคิดยังไงกับคนอื่น ไม่มีใครรู้ใจกุไม่ว่าใครก็ตาม”
คำพูดนี้เป็นการยืนยันถึงความเป็นอัจฉริยะทางจิตวิทยาและความรอบคอบในตัวท่านยามากุจิข้อความนี้สะท้อนถึงแนวคิดของ "ความหลากหลายของอัตตา" ที่ท่านยามากุจิเชื่อมั่นว่าไม่ว่าคุณจะใกล้ชิดเขาแค่ไหน, เขาก็ยังสามารถเก็บซ่อนความคิดและอารมณ์ภายในตัวเองได้อย่างสมบูรณ์เหมือนกับแนวคิดของปรัชญาแบบ "Existentialism" ที่มนุษย์มีอิสรภาพในการเลือกและแสดงออกเพียงเท่าที่ตนเองต้องการเท่านั้น
6. "มันก็ยังมีความหวังถึงที่สุดว่ากุต้องช่วยมัน เพราะเป็นเพื่อนสนิทกัน เพื่อนตาย"
คำนี้คือการแสดงถึงความเข้าใจในธรรมชาติของความสัมพันธ์และการทำลายภาพลักษณ์ของคำว่า "เพื่อน" ท่านยามากุจิแสดงออกถึงความเหินห่างจากการเชื่อมโยงอารมณ์มนุษย์แบบดั้งเดิมโดยที่ยังคงรักษาอำนาจในการควบคุมปฏิกิริยาของผู้คนรอบข้าง ซึ่งการช่วยเหลือไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่ท่านยามากุจิจะยอมทำเสมอไปมันคือการตัดสินใจที่มีมิติทางจิตวิทยาในระดับสูง
7. “กุชอบเกมมีแชทโลก เพราะกุเนี่ยละจอมบงการ”
และนี่คือสุดยอดของการแสดงออกถึงการควบคุมอย่างไม่เปิดเผย ท่านยามากุจิไม่ได้แค่เล่นเกมเขาคือผู้ควบคุมโลกเสมือนที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและความไม่แน่นอนเขาคือจักรพรรดิที่ควบคุมทุกสิ่งในโลกนี้โดยไม่ต้องแสดงออกอย่างเปิดเผย แม้กระทั่งในโลกแห่งเกม ท่านยามากุจิก็ยังคงเป็น "จอมบงการ" เป็นดาบชั้นเยี่ยวที่เหนือกว่าใครๆ