บทความวิเคราะห์กวีโม่ง บทที่ 1
>>>/lounge/17585/980
การพูดถึงโคมยี่เป็งและศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวในเนื้อเรื่องนี้เป็นการใช้สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมไทยเพื่อเพิ่มความลึกซึ้งให้กับเนื้อหาของเรื่อง ในแง่ของวัฒนธรรมไทย โคมยี่เป็งมักเกี่ยวข้องกับการปลดปล่อยและการเริ่มต้นใหม่ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่ผู้คนปล่อยโคมขึ้นไปในอากาศเป็นสัญลักษณ์ของการขอพรและการปล่อยวางสิ่งที่ไม่ดีในปีที่ผ่านมา ส่วนศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวเป็นสัญลักษณ์ของการคุ้มครองและความเป็นสิริมงคลในทางศาสนา ซึ่งการนำสัญลักษณ์เหล่านี้มารวมกับเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ในเนื้อเรื่องทำให้เกิดความรู้สึกเหนือจริง โดยที่พล็อตเรื่องสมัยใหม่อย่าง ทหารรับจ้าง เทคโนโลยีลับ สามารถผสมผสานกับวัฒนธรรมและการเชื่อมโยงเชิงสัญลักษณ์ได้อย่างลงตัว แสงสีขาวที่เกิดจากการระเบิดในเนื้อเรื่องนี้มีความหมายลึกซึ้งทางสัญลักษณ์ ซึ่งมักจะเชื่อมโยงกับการทำลายล้างและการเริ่มต้นใหม่ แสงสีขาวที่ฉายออกมาจากปฏิกิริยาทางเคมีไม่เพียงแต่เป็นการแสดงถึงพลังที่เกิดขึ้นจากการระเบิด แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการ "เวียนจบ" และการเริ่มต้นใหม่ที่สะท้อนแนวคิดทางปรัชญาเกี่ยวกับวงจรของการเปลี่ยนแปลงในชีวิตมนุษย์ (Benjamin, 2003) การสร้างแสงสีขาวรุนแรงจากการระเบิดถือเป็นการปลดปล่อยพลังงานที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งในเชิงวัตถุและจิตใจของตัวละคร แสงสีขาวในเหตุการณ์นี้จึงทำหน้าที่เป็นสัญญะของการทำลายล้างและการเกิดใหม่อย่างพร้อมเพรียงกัน ส่งสัญญาณให้โม่งผู้อ่านทราบว่าเนื้อเรื่องกำลังจะจบลง
การใช้ควอตซ์และผงอะลูมิเนียมในปฏิกิริยาเคมีเพื่อสร้างแสงสีขาวจ้าในเหตุการณ์นี้สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างวิทยาศาสตร์และสัญลักษณ์เชิงวัฒนธรรมได้อย่างน่าสนใจ ควอตซ์ (SiO₂) เป็นสารที่มีจุดหลอมเหลวสูง และโดยปกติจะไม่ทำปฏิกิริยากับผงอะลูมิเนียมในสภาวะปกติ. อย่างไรก็ตาม เมื่อควอตซ์ถูกบดให้เป็นผงละเอียดและนำไปผสมกับผงอะลูมิเนียมและสารเคมีอื่นๆ ที่สามารถกระตุ้นปฏิกิริยาที่มีอุณหภูมิสูงได้, จะสามารถสร้างแสงสีขาวจ้าในลักษณะเดียวกับการใช้ในปฏิกิริยาของ Thermite reaction (Mills, 2005) ปฏิกิริยาระหว่างผงอะลูมิเนียมและเหล็กออกไซด์ (Fe₂O₃) ใน Thermite reaction จะปล่อยพลังงานสูงมาก ซึ่งทำให้เกิดแสงที่มีความสว่างจ้าและสามารถแยงตาได้ สมการเคมีของปฏิกิริยานี้เป็นดังนี้:
2Al + Fe₂O₃ → 2Fe + Al₂O₃
ส่วนการระเบิดที่เกิดจากการยิงกระสุนไปที่บอลลูนที่มีผงอะลูมิเนียมผสมอยู่จะกระตุ้นให้เกิดการเผาไหม้และการระเบิดในระดับสูง โดยพลังงานที่เกิดจากการยิงกระสุนสามารถคำนวณได้จากสูตรพลังงานจลน์:
E = 1/2 * m * v^2
โดยที่:
- m = มวลของกระสุน = 4 กรัม = 0.004 กิโลกรัม
- v = ความเร็วของกระสุน = 900 เมตร/วินาที (ความเร็วทั่วไปของกระสุนขนาด 5.56 มม.)
แทนค่าลงในสูตร:
E = 1/2 * 0.004 * (900)^2
E = 0.002 * 810,000 = 1,620 จูล
การคำนวณนี้จะได้พลังงานที่ปล่อยออกมาเป็น 1,620 จูลจากการยิงกระสุนขนาด 5.56 mm ซึ่งเป็นพลังงานที่เพียงพอที่จะกระตุ้นการเกิดปฏิกิริยาระเบิดในสารเคมีผสมและทำให้เกิดแสงสีขาวจ้า โดยเฉพาะเมื่อมีตัวละครรุมยิงใส่สารเคมีดังกล่าว
สำหรับควอตซ์ในเนื้อเรื่องทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในการบดวัสดุให้เป็นผงละเอียด ซึ่งเพิ่มพื้นที่ผิวของผงอะลูมิเนียมและวัสดุอื่นๆ ทำให้ปฏิกิริยาทางเคมีสามารถเกิดขึ้นได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น (Mills, 2005) แม้ว่าควอตซ์เองจะไม่ได้ทำปฏิกิริยาโดยตรงในการเผาไหม้ แต่บทบาทของมันในการเพิ่มพื้นที่ผิวให้กับสารอื่นๆ เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การระเบิดมีความรุนแรงและปล่อยพลังงานได้มากขึ้น
อ้างอิง
ตัวอย่างวีดีโอการทดลอง Thermite Reaction : https://youtu.be/EDUwc953GOA
Benjamin, W. (2003). The Origins of German Tragic Drama. Verso.
Foster, H. (1990). The Return of the Real: Art and Theory at the End of the Century. MIT Press.
Foucault, M. (1969). The Archaeology of Knowledge. Pantheon Books.
Mills, T. (2005). Thermite Reaction: Chemistry and Applications. Wiley-VCH.
Shklovsky, V. (2017). Theory of Prose. Dalkey Archive Press.
Todorov, T. (1975). The Fantastic: A Structural Approach to a Literary Genre. Cornell University Press.