Fanboi Channel

หนังสือโม่ง

Last posted

Total of 164 posts

155 Nameless Fanboi Posted ID:jI87OLp/NO

--------------------------------------------------
วันจันทร์ที่ 25 เดือน 11 >>155-156
[ท่านยามากุจิ ทรงตรัสสั่งสอนเรื่อง โลกอันอ่อนแอ]
--------------------------------------------------
>>153 คำพูดของท่านยามากุจิในที่นี้สามารถวิเคราะห์ได้จากหลายมุมมอง

"กุไม่ได้สูงส่งอะไรหรอก แต่โลกนี่มันอ่อนแอ จนเกินไปต่างหาก!!"
- Nov 24, 2024 at 21:37:51 ID:w/2qmBlr6X

การมองโลกที่อ่อนแอ (โลกนี้มันอ่อนแอจนเกินไป) : ในเชิงปรัชญา ท่านยามากุจิได้แสดงให้เห็นถึงมุมมองที่มองว่าโลกนี้เต็มไปด้วยความอ่อนแอและความไม่มั่นคง เหมือนกับโลกนิยายกำลังภายใน ผู้ฝึกฝนต้องเผชิญกับโลกที่เต็มไปด้วยการคุกคามจากผู้ที่มีกำลังภายในที่เหนือกว่าและบททดสอบจากสวรรค์ สิ่งนี้สะท้อนถึงจิตใจที่แกร่งกล้าของท่านยามากุจิ ที่ต้องการทำลายข้อจำกัดทางโลกและสังคม ท้าทายสวรรค์และหนทางแห่งโชคชะตา ในทางวิทยาศาสตร์สามารถอธิบายได้ผ่านทฤษฎี การคัดเลือกโดยธรรมชาติ (Natural Selection) ของ ชาร์ลส์ ดาร์วิน (Darwin, 1859) ที่อธิบายว่าในกระบวนการวิวัฒนาการ สิ่งมีชีวิตที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีที่สุดคือผู้ที่สามารถอยู่รอดและพัฒนาไปได้ ในกรณีนี้โลกที่ “อ่อนแอ” ก็คือโลกที่ยังไม่สามารถรับมือกับความท้าทายหรือการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเต็มที่ แต่ในทางกลับกันการที่จะมีชีวิตรอดในโลกนี้ไม่ใช่เพียงแค่การอยู่รอดไปวันๆ แต่หมายถึงการพัฒนาเพื่อให้สามารถรับมือกับสิ่งที่ยังมองไม่เห็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นท่านยามากุจที่มีแผน 1 2 3 4

"กินเหล้า เพื่อให้มีความกล้า ดูดบุหรี่ เพื่อ ให้หายเครียดกังวล"

ในส่วนของการใช้ เหล้า และ บุหรี่ เพื่อเพิ่มความกล้าและบรรเทาความเครียด ท่านยามากุจิสะท้อนถึงการใช้ วิธีการภายนอก เพื่อจัดการกับ ภายใน ซึ่งสามารถเชื่อมโยงได้กับ ทฤษฎีการเรียนรู้เชิงพฤติกรรม (Behaviorism) ของ บี.เอฟ. สกินเนอร์ (Skinner, 1953) ที่อธิบายว่า พฤติกรรมของมนุษย์มักถูกขับเคลื่อนด้วยการกระตุ้นจากภายนอก เช่นเดียวกับการใช้สารเสพติดเพื่อเพิ่มความรู้สึกพึงพอใจชั่วคราว พฤติกรรมเหล่านี้อาจสะท้อนถึงการหลีกเลี่ยงความไม่มั่นคงภายในจิตใจที่ท่านยามากุจิเห็นว่ามันเป็นการต่อสู้เพื่อความแข็งแกร่งที่แท้จริง จากมุมมอง จิตวิทยา เช่น คาร์ล จุง (Jung, 1953) ที่พูดถึงการที่มนุษย์ต้องเผชิญกับ เงา (Shadow) หรือส่วนที่มืดมนในตัวเอง การพึ่งพาสิ่งภายนอกเหล่านี้อาจเป็นการพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับความไม่สมบูรณ์ของตัวเอง แต่ในทางกลับกันก็สะท้อนถึงความพยายามในการ ปรับสมดุลภายใน เพื่อให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเผชิญหน้ากับโลกที่เต็มไปด้วยอุปสรรค ถ้าหากเทียบกับนิยายจีนที่ท่านยามากุจิชื่นชอบ อาจกล่าวได้ว่าเป็นการต่อสู้กันของหยินและหยาง

156 Nameless Fanboi Posted ID:jI87OLp/NO

( ต่อจาก >>155)

การที่ท่านยามากุจิกล่าวถึงการมี ความสัมพันธ์ทางเพศ เพื่อสร้างคุณค่าภายในตัวเอง เป็นการแสดงถึงการที่มนุษย์มักจะหาความมั่นคงจาก การยอมรับจากสังคม ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับ ทฤษฎีการยอมรับทางสังคม (Social Exchange Theory) ของ จอร์จ โฮมานส์ (Homans, 1958) ที่กล่าวว่า มนุษย์มักจะคำนวณผลประโยชน์ในการสร้างความสัมพันธ์ โดยการยอมรับและการให้ความสำคัญในตัวตนจากผู้อื่นเป็นปัจจัยที่ทำให้บุคคลนั้นรู้สึกมีคุณค่า การมองหาคุณค่าในตัวเองผ่านการยอมรับจากผู้อื่นสะท้อนถึงความไม่มั่นคงใน ความรู้สึกของตนเอง ที่ต้องการการยืนยันจากภายนอก ซึ่งเป็นแนวทางที่สามารถเชื่อมโยงกับ ทฤษฎีการเติมเต็มความต้องการของมาสโลว์ (Maslow, 1943) ที่กล่าวว่า การได้รับการยอมรับจากผู้อื่นเป็นหนึ่งในความต้องการขั้นพื้นฐานในการบรรลุความสมบูรณ์ในชีวิต ซึ่งสำหรับท่านยามากุจิแล้วไม่จำเป็น จนหลายคนเห็นท่านเป็นผู้ ไร้ใจ

คำกล่าวที่ว่า "ศัตรูของมนุษยชาติยังไม่ปรากฏตัวเลย" สะท้อนถึงความรู้สึกของการคุกคามที่มองไม่เห็นหรือ อำนาจที่ซ่อนเร้น ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับ ทฤษฎีการควบคุมสังคม (Discipline and Punish) ของ มิเชล ฟูโกต์ (Foucault, 1977) ที่กล่าวถึงการที่สังคมใช้ระบบควบคุมที่มองไม่เห็นในการควบคุมพฤติกรรมของบุคคล ซึ่งเหมือนกับการเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับศัตรูที่มองไม่เห็นที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การเตรียมตัวในที่นี้เป็นการฝึกฝนอย่างไม่รู้ตัว เช่นเดียวกับการฝึกฝนใน นิยายจีนกำลังภายในที่ผู้ฝึกฝนต้องเผชิญกับการทดสอบที่ไม่สามารถคาดเดาได้

คำพูดที่ว่า "คนที่แข็งแกร่งที่สุด ไม่ใช่ผู้อยู่รอด แต่ผู้อยู่รอดต่างหากคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด" สะท้อนถึงแนวคิดของ การเอาชีวิตรอด ที่ไม่ใช่แค่การหลีกเลี่ยงอันตราย แต่คือการ เติบโตและพัฒนา ตัวเองในสภาวะแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับแนวคิดของ ฟริดริช นีทเช่ (Nietzsche, 1967) ที่กล่าวว่า ความแข็งแกร่งแท้จริงไม่ได้มาจากการหลีกหนีจากความท้าทาย แต่คือการเผชิญหน้ากับมันและสร้างพลังจากการเผชิญนั้น การพัฒนาความแข็งแกร่งภายในนั้นไม่ได้เกิดจากการหลบหนี แต่คือการยืนหยัดและต่อสู้จนถึงที่สุด

คำพูดของท่านยามากุจิเป็นการสะท้อนถึงการแสวงหาความแข็งแกร่งภายในและการเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับโลกที่เต็มไปด้วยความอ่อนแอ การฝึกฝนภายในเส้นทางแห่งการบำเพ็ญตนเป็นเส้นทางที่ต้องเผชิญกับการทดสอบและการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง โดยการเชื่อมโยงแนวคิดทางปรัชญาและจิตวิทยามาหลายแนวทาง สามารถเห็นได้ว่า ท่านยามากุจิไม่ได้มองแค่ความอ่อนแอหรือความอันตรายจากภายนอก แต่ยังมองถึงการพัฒนาความแข็งแกร่งภายใน ซึ่งเป็นเส้นทางที่ผู้ฝึกฝนทุกคนในโลกนี้ต้องเดินไปข้างหน้าบนทางของตัวเอง

อ้างอิง
Darwin, C. (1859). On the Origin of Species. John Murray.
Foucault, M. (1977). Discipline and Punish: The Birth of the Prison. Pantheon Books.
Homans, G. C. (1958). Social Behavior: Its Elementary Forms. Harcourt Brace Jovanovich.
Jung, C. G. (1953). Psychological Aspects of the Persona. Routledge.
Maslow, A. H. (1943). A Theory of Human Motivation. Psychological Review, 50(4), 370-396.
Nietzsche, F. (1967). The Will to Power. Vintage Books.
Sartre, J.-P. (2007). Being and Nothingness. Routledge.
Skinner, B. F. (1953). Science and Human Behavior. Free Press.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.