Fanboi Channel

เมื่อถามว่าเป็น NEET แล้วผิดตรงไหนผู้คนก็จะตอบกลับมาว่าสังคมนั้นขับเคลื่อนด้วยเหล่ามนุษย์เงินเดือน แต่นั่นคือคำตอบที่โง่เขลา เพราะสังคมในตัวของมันเองนั้นไม่เคยแคร์คุณ และไม่เคยสร้างความดีงามอะไรให้เป็นที่ระลึกไว้ ดังนั้นการทุมเทพลังกายพลังใจเพื่อสิ่งที่ไร้ค่าขนาดนั้นจึงเป็นการกระทำที่โง่เขลา อีกเหตุผลหนึ่งที่นิยมตอบกันคือเราควรทำเพื่อครอบครัว แต่เมื่อถามครอบครัวว่าต้องการอะไรก็จะตอบกลับมาว่า "อยากให้เรามีความสุข" ทุกครั้ง ดังนั้นนี่จึงเป็นอีกคำตอบที่ไม่ถูกต้อง คำตอบที่สมเหตุสมผลมีเพียงคำตอบเดียว ก็คือเหล่า wagies ทั้งหลายนั้นอิจฉาที่พวก NEET มีความสุขกับการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ พวกเขาจะไม่มีวันได้สัมผัสความรู้สึกนั้น

ข้อดีของการเป็นนีท
-อิสระภาพขั้นสูงสุด มันคือสิ่งที่เอาอะไรมาเทียบไม่ได้
-มีเวลาให้ค้นพบตนเอง พัฒนาตนเอง เรียนรู้สิ่งที่ชอบ หางานอดิเรกใหม่ๆ หาเพื่อนใหม่ๆ ใช้ชีวิตในแนวทางที่เลือกเอง ฯลฯ
-มีเวลาให้เปิดโลกทัศน์ ค้นพบสิ่งใหม่ๆ
-สุขภาพกายและจิตดีขึ้น เพราะไม่มีข้อผูกมัดใดๆมาบั่นทอนเรา
-ห่างไกลจากอบายมุก เพราะชีวิตนั้นถูกเติมเต็มแล้วจึงไม่จำเป็นต้องลดตัวลงไปพึ่งสิ่งต่ำๆเหล่านั้นเพื่อแลกกับความสุขเพียงชั่วครู่
-เมื่อมีเวลาเหลือเฟือก็จะไม่มีปัญหาใดที่แก้ไขไม่ได้ ขอแค่รอบคอบ

ข้อเสียของการเป็น wagie
-เสียสุขภาพจิตกับรถติดทุกวัน
-กลัวเจ้านาย กลัวความผิดพลาด กลัวเพื่อนร่วมงาน เป็นโรคหวาดระแวง
-ความเครียดสะสม
-ทำงานจนตูดเปียกเพื่อเศษเงิน
-ติดอยู่ใน loop นรกจนบางคนคิดสั้นก็มี
-มีอบายมุขเป็น coping mechanisms
-อายุสั้นจากการสูดอากาศพิษนอกบ้าน
-ต้องเป็นคนรับใช้ให้ NEET
-ทำเพื่อสังคมแทบตายแต่สุดท้ายก็โดนประเทศโลกที่หนึ่งหัวเราะเยาะอยู่ดี วาทกรรม Thailand only จะอยู่คู่คุณตลอดไป

เป็น NEET เอาเงินที่ไหนใช้ครับ

>>2 กินดอกกองทุน พยายามให้กระทบเงินต้นน้อยที่สุด สวัสดิการ ขายของออนไลน์ เก็งกำไรบัตรคอน และไม่บ้าแบรนด์เนม แค่นี้ก็อยู่สบายแล้ว
หุ้นเหิ้นอะไรไม่เคยแตะ เสียเวลา เงินต้นมาจากของครอบครัว 80 เงินตัวเอง 20 บ้านมี รถมี แต่ถ้ารถคันนี้หมดอายุก็คงไม่เปลี่ยนใหม่ ไม่ได้ใช้ขับไปทำงาน รถไฟฟ้าฟรีก็เยอะ
ปัญหาเดียวที่อาจจะเจอคือป่วยแล้วต้องใช้เงินเยอะ แต่ต้องป่วยแบบหนักและหลายรอบมากถึงจะกระทบได้ แต่คือไม่ได้เป็นนีทโง่ๆเหมือน
stereotype โอตาคุ ออกกำลังกาย ยกเวททุกวัน พยายามเลือกกินอาหารดีๆ จึงไม่มีอะไรให้น่ากังวล

>>3 กองทุนมันร่วงได้นา

กลุ่ม 4Queens ได้จัดกิจกรรมวงน้ำชาแบบไม่เป็นทางการเพื่อสนทนาและแบ่งปันมุมมองกันในหัวข้อ “ความเชื่อทางจิตวิญญาณและการเยียวยาตนเอง” ที่ Sol Bar สาขา BTS อารีย์ โดยมีสมาชิกจาก 7 กลุ่มองค์กรสัปภาคีนอนไบนารี่เพื่อการระบุเพศ (HCNL) เป็นผู้เข้าร่วม
บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความหลากหลายทางความเชื่อ จึงต้องอาศัยการรับฟังด้วยใจและไม่ตัดสินกัน เพราะขึ้นชื่อว่า “ความเชื่อ” ไม่มีคำว่าถูกผิด ตราบใดที่ความเชื่อของแต่ละคนนั้นไม่ได้ไปทำร้ายหรือลดทอนความเป็นมนุษย์ของผู้อื่นและไม่เป็นภัยต่อตนเอง
วงแลกเปลี่ยนที่ครอบคลุมทั้งผู้มีความเชื่อตามศาสนาหลักและความเชื่อทางจิตวิญญาณอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ใต้กรอบศาสนานั้นทำให้เห็นว่าแต่ละคนมีวิธีมองโลกและจัดการกับปัญหาในชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ แม้ภายใต้กรอบความเชื่อเดียวกัน แต่ทุกคนก็นำแนวคิดและวิถีปฏิบัติไปปรับใช้กับชีวิตในแบบของตนเอง ทำให้ได้ข้อสรุปว่าความเชื่อทางจิตวิญญาณที่ดีนั้น แท้จริงแล้วก็คือความเชื่อที่มีประสิทธิภาพกับบุคคลนั้น ๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องของปัจเจกโดยสิ้นเชิง ไม่มีความเชื่อใดที่ดีที่สุด มีแต่ความเชื่อที่เหมาะสมกับแต่ละคนที่สุดนั่นเอง
หลังจากการแบ่งปันมุมมอง ปิตาจารย์ผู้เป็นที่ปรึกษาทางด้านจิตวิญญาณได้ถือโอกาสทำพิธีปกป้องคุ้มกันสมาชิกกลุ่มสัปภาคีทั้ง 7 รวมถึงทุกคนในชุมชนนอนไบนารี่ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการเดินหน้าเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิและเสรีภาพของชุมชนต่อไป โดยเฉพาะเพื่อให้เกิดความราบรื่นและความปลอดภัยในช่วงเดือนแห่งความภาคภูมิใจของผู้มีความหลากหลายทางเพศที่กำลังจะมาถึงเร็ว ๆ นี้