>>69 เอาจริงๆ มัดขัดแย้งกับนโยบายลดอัตราการเพิ่มประชากรนะนั่น คือยุคที่มีโฆษณานั้นเป็นยุคที่ไทยเอาจริงกับการลดอัตราการเกิดนะ ไทยเอาจริงกับเรื่องนี้มาตั้งแต่กลางๆ ยุค 70 ที่สมาคมวางแผนครอบครัว ngo ของมีชัย วีระไวทยะ ตั้งขึ้นนั่นละ จนคนเรียกถุงยางว่าถุงมีชัยเพราะแกเดินสายทั่วประเทศให้ความรู้เรื่องการใส่ถุงเพื่อคุมกำเนิด (แถมไม่กล้าพูดเรื่องเพศอีก) ยุคนั้นยังไม่มีเอดส์ระบาด แต่คนเริ่มตระหนักว่าการมีลูกมากเกินไปจะกระทบคุณภาพการเลี้ยงดู (มีลูกมากจะยากจน ก็เป็นคำพูดที่เกิดขึ้นไม่ยุค 70 ก็ 80 นี่แหละ) จนตอนนี้คนเริ่มกลับมาบ่นละ บอกตามีชัยไม่น่าสอนให้คนคุมกำเนิดเลย ไทยกลายเป็นสังคมคนแก่ไปแล้ว (คำว่าสังคมคนแก่นี่เพิ่งมาให้ความสำคัญกันในช่วง 10 ปีล่าสุดนี่เอง)
ประเด็นหลักๆ คือไอ้คำว่าเมืองพุทธค้ำคอ เลยพูดเรื่องเพศแบบตรงๆ ไม่ได้ ผลคือไทยเลยมีอัตราแม่วัยรุ่นอันดับ 1 ของเอเชียไง สุดท้ายเลยมี กม. ออกมาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะในปี 59 (ตลกร้ายไหมล่ะที่ กม. นี้เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลทหารอีก แทนที่จะเป็นรัฐบาลเลือกตั้ง)
อีกอันก็โฆษณานี้ "ยืดอกพกถุง" เคยฮือฮามาก แต่สุดท้ายโดนแบนเพราะยุคนั้นคนยังไม่ยอมรับการพูดเรื่องเพศแบบตรงๆ ทั้งที่ใครๆ ก็รู้ว่าถุงยางป้องกันทั้งเอดส์ทั้งท้องไม่พร้อม
https://mgronline.com/qol/detail/9500000108391 (อ้าว ชื่อคนร้องเรียนคุ้นๆ นะ นี่มันองครักษ์ปกป้องตู่ยันวินาทีสุดท้ายของการเป็นนายกฯ เลยนี่หว่า)
https://www.youtube.com/watch?v=f5L1V_1Tk4s
https://www.youtube.com/watch?v=-uTvvrGdY-c