Fanboi Channel

โม่งอวกาศ สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น เอกภพที่ 1

Last posted

Total of 225 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:h4jRaq/Q67

ไว้รวบรวมข่าวสารด้านอวกาศ ไม่ว่าจะเป็นโครงการสำรวจอวกาศ สตาร์ทอัพอวกาศทั้งไทยและต่างประเทศ

ที่มาตั้งในห้องนี้เพราะต้องการคุยในแง่มุมต่างๆ ทั้งด้านการศึกษา เศรษฐกิจ

แสงอาทิตย์ทรงพลังแรงขึ้น ทำลายสถิติเกือบ 10 ล้านล้านอิเล็กตรอนโวลต์
https://www.bbc.com/thai/articles/clm1p4yly9yo

อนาคตแทนไอเอสเอส
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2714696

----------

บทความเก่าเกี่ยวกับสตาร์ทอัพอวกาศของไทย

เปิดหน้า 10 ดีพเทคสตาร์ทอัพอวกาศสอบผ่านโครงการ Space Economy : Lifting Off 2023
https://www.infoquest.co.th/2023/306319

บทความเก่าสรุปกรณี Voyager 2 ขาดการเชื่อมต่อกับโลก ปี 2023
https://spaceth.co/voyager-2-incident-2023/

2 Nameless Fanboi Posted ID:XwDeYko8SV

ขอนำบทความมาลงแบบไม่ระบุชื่อคนเขียน

ญี่ปุ่นเตรียมใช้นโยบายความปลอดภัยทางอวกาศทึ่จะขยายการใช้งานถึงในด้านกลาโหม
.
.
.
.
.
ญี่ปุ่นได้นำเสนอถึงแผนความปลอดภัยในอวกาศฉบับแรกมาซึ่งได้มีจุดประสงค์เพื่อใช้งานทางชายแดนอวกาศเพื่อวัตถุประสงค์ในการป้องกันประเทศให้ดียิ่งขึ้นในอีก 10ปีข้างหน้าเพื่อจะตอบสนองต่อการใช้กำลังทางทหารที่เพิ่มขึ้นในอวกาศของจีนและรัสเซีย และระบุว่าญี่ปุ่นจะเพิ่มความร่วมมือด้านอวกาศกับสหรัฐและพันธมิตรในการปกป้องดาวเทียม ขณะเดียวกันก็เน้นย้ำว่ากองกำลังป้องกันตนเองสามารถทำลายระบบบังคับบัญชาและการสื่อสารของชาติอื่นๆได้.

ในแผนการที่ร่างขึ้นตามยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติซึ่งได้รับการปรับปรุงเมื่อเดือนธันวาคม 2022 รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี คิชิดะ ได้ให้คำมั่นว่าจะผลักดันด้านโครงการป้องกันญี่ปุ่นให้ก้าวหน้าในการใช้เทคโนโลยีอวกาศของภาคเอกชน โดยสัญญาว่าจะเพิ่มความเร็วด้านการรับส่งข้อมูลในด้านดาวเทียมขนาดเล็กหลายดวงเข้าด้วยกัน และปรับปรุงเทคโนโลยีด้านข้อมูลโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์.

เสาหลักของแผนการนั้นคือ แผนสำหรับการเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบการรวบรวมข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการโจมตีตอบโต้หรือการโจมตีฐานของศัตรู แผนดังกล่าวได้รับการรับรองในขณะที่จีนนั้นยังคงผลักดันโครงการพัฒนาอวกาศของตนเองไปข้างหน้าซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าการแข่งขันระหว่างจีนและสหรัฐในเขตอวกาศจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น.

ระหว่างการประชุมของรัฐบาลเมื่อวันอังคาร คิชิดะกล่าวว่า"เพื่อความมั่นคงของชาติ จะเพิ่มขนาดการใช้งานในระบบอวกาศอย่างมาก และรับรองการใช้งานในพื้นที่อวกาศอย่างปลอดภัยและมีเสถียรภาพโดยแผนการดังกล่าวว่าการพัฒนาเทคโนโลยีในด้านอวกาศนั้นได้มีความหมายโดยตรงที่เกี่ยวกับความได้เปรียบทางทหารโดยอ้างถึงตัวอย่างในการใช้ข้อมูลจากดาวเทียมเชิงพาณิชย์ของสหรัฐและยุโรปซึ่งช่วยเหลือยูเครนในการปฏิบัติการทางทหาร.

รัฐบาลนั้นยังได้แสดงความกลัวเกี่ยวกับการขยายตัวอย่างรวดเร็วของภัยคุกคามจากบางประเทศอย่างเช่น จีน ที่ได้ทวีที่ความแข็งแกร่งให้กับระบบการรวบรวมข้อมูลของพวกเขาในอวกาศอย่างมาก เช่นเดียวกับการพัฒนาขีดความสามารถในการโจมตีดาวเทียม.

รัฐบาลของญี่ปุ่นยังได้กล่าวอีกว่าจะเน้นไปที่การส่งเสริมความร่วมมือของกระทรวงกลาโหมและ Japan Aerospace Exploration Agency (JAXA) ด้านในการประมูลงานเพื่อให้การสนับสนุนแก่บริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศที่สำคัญ ด้วยความพยายามที่จะกระตุ้นการพัฒนาซึ่งนำโดยภาคเอกชนในอวกาศ รัฐบาลญี่ปุ่นจะตั้งเป้าในการลดต้นทุนซึ่งเผชิญกับข้อจำกัดด้านงบประมาณ.

อ้างอิง

- https://www.japantimes.co.jp/news/2023/06/13/national/japan-space-strategy-china-russia/?fbclid=IwAR2y_XIhXeDSrdPIPXL51-DiCGYGLENUMjidm8XCOiziaONhaCrjStxTvsE

- https://mainichi.jp/english/articles/20230613/p2g/00m/0na/035000c?fbclid=IwAR2kIktAKYHgFCd4bAyGRYI8rw5F0sCyrSn400nOmhG7fzW0KPQhnLZVK3Q

- https://spectra.mhi.com/partner-japan-adopts-space-security-policy-vows-to-expand-defense-use?fbclid=IwAR2GxgfD7HbxlE8O8GzwtNGOhqJ88TlgFAruF7uB7OvP136cC7f9d4H3EsY

3 Nameless Fanboi Posted ID:TQTU5blH.6

NASA เตรียมเปิดตัว NASA+ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งด้านอวกาศ

https://www.tnnthailand.com/news/tech/152740/

4 Nameless Fanboi Posted ID:ftNsxDkKen

เรื่องจักรวาลมี 11 มิตินี่น่าจะจริงแฮะ มีหลายทฤษฎีพูดถึงเรื่องนี้

https://www.blockdit.com/posts/5e4cc82b81a0b90c908b700a

5 Nameless Fanboi Posted ID:KWgD8ugkQH

อีกหนึ่งชาติที่กำลังเป็นมหาอำนาจอวกาศ

โครงการอวกาศอินเดีย ขยับเข้าใกล้ความสำเร็จอีกขั้น ขณะ "จันทรายาน-3" เตรียมลงจอดดวงจันทร์

https://www.thairath.co.th/news/foreign/2715313

6 Nameless Fanboi Posted ID6:SBY1jDktzt

ไทย สร้างยานอวกาศไปดวงจันทร์ กับ ไปบอลโลกรอบสุดท้าย อะไรจะเกิดได้จริง

7 Nameless Fanboi Posted ID:CzhJQXVOk0

>>6 น่าไปบอลโลกรอบชิงก่อน เพราะไปดวงจันทร์ต้องใช้งบเยอะ เว้นเสียแต่จะมีสตาร์ทอัพที่ทุนสูงพอ

8 Nameless Fanboi Posted ID6:Ao06O6fbWi

>>7 ถูกต้อง เพราะเดี๋ยวมันจะขยายเป็นรอบ 80 ทีมสุดท้ายละ

9 Nameless Fanboi Posted ID:.hJ3H/oZFu

ดาวเทียมโหม่งโลก

https://youtu.be/w74iIj3x9Ac

10 Nameless Fanboi Posted ID:cbtk4KebPT

>>9 โหม่งกลับสิ

11 Nameless Fanboi Posted ID6:fVxZRP65gQ

>>10 มึงลองก่อนสิ

12 Nameless Fanboi Posted ID6:MB9+eaUgbk

Non-human intelligence ไม่ได้แปลว่าต้องมาจากนอกโลกเสมอไป มันอาจอยู่ใต้น้ำลึกในจุดที่เรายังสำรวจไม่ถึงก็ได้ จรรมวั้ย

13 Nameless Fanboi Posted ID:2bxFAUvCmH

https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0n9d1sW7yshPFK8fb4TDSD7epsgeu9pVFnSCMUyUTyiqeB9isxxdqxa1LmjHHjyohl&id=100063629178161&mibextid=Nif5oz

ปรัชญาการต่อสู้กับความโง่เขลาด้วยแสงเทียนของ “คาร์ล เซแกน”
.
วิทยาศาสตร์คือแสงเทียนที่จะช่วยให้มนุษย์ต่อสู้กับความโง่เขลา เป็นแนวคิดสำคัญจากหนังสือ The Demon-Haunted World (ในโลกที่เต็มไปด้วยปีศาจ) ของคาร์ล เซแกน ที่จะช่วยกระตุกจิตกระชากใจให้เรามองทะลุความสัมพันธ์ระหว่างวิทยาศาสตร์กับสังคมมนุษย์
.
คาร์ล เซแกน นักสื่อสารวิทยาศาสตร์ที่เราอาจรู้จักผ่านหนังสือ Cosmos (คอสมอส) และ Pale Blue Dot (เพลบลูดอต) หรือการมีบทบาทสำคัญในนาซาในการถ่ายทอดความยิ่งใหญ่ของจักรวาลให้กับทุกคน เคยเขียนมุมมองที่เขามีต่อปรัชญาวิทยาศาสตร์ไว้ในหนังสือชื่อ “The Demon-Haunted World: Science as a Candle in the Dark” แปลเป็นไทยได้ว่า “ในโลกที่เต็มไปด้วยปีศาจ วิทยาศาสตร์เปรียบเหมือนแสงเทียนในความมืดมิด”
.
ในหนังสือที่ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1995 ซึ่งเป็นเพียง 2 ปีก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เป็นเหมือนบทสรุปการเดินทางในชีวิตการต่อสู้กับปีศาจในคราบของความโง่เขลามาตลอดทั้งชีวิตของเซแกน เขาได้เปรียบเปรยความไม่รู้ของมนุษย์เป็นเหมือนปีศาจที่คอยทำให้เราตัดสินใจอย่างโง่เขลา ปราศจากการคิดไตร่ตรองถึงเหตุผล จนนำไปสู่ความเลวร้ายต่าง ๆ นานาที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นสงครามหรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ความโง่เขลานั้นแปลจากภาษาอังกฤษว่า “ignorance” ซึ่งถูกนิยามไว้ว่า “ความไม่รู้” หรือ “มีข้อมูลไม่มากพอ”
.
การที่มนุษย์มีความโง่เขลาเป็นการเปิดทางให้ปีศาจเข้ามาหลอกหลอนในโลกและการเอาชนะปีศาจนี้คือการจุดเทียนให้เกิดแสงสว่างไสว ปัดเป่าความมืดมิดออกไป ซึ่งการจุดเทียนก็คือการใช้ตรรกะ เหตุผล และการมองธรรมชาติในแบบที่มันเป็น ซึ่งก็คือกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม เซแกนเน้นย้ำหลายรอบว่าวิทยาศาสตร์นั้นเป็นเครื่องมือ ไม่ใช่คำตอบทั้งหมดของคำถาม และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เองในปัจจุบันก็อาจจะยังไม่รัดกุมพอที่จะทำให้เราตอบคำถามหรือขับไล่ปีศาจแห่งความโง่เขลาออกไปได้หมด แต่วิทยาศาสตร์ก็เป็นกระบวนการที่ดีที่สุดที่เรามี
.
ในหนังสือเล่มนี้เซแกนยังกล่าวไปถึงเรื่องการให้เหตุผล (Reasoning) วิทยาศาสตร์เทียม (Pseudoscience) และการประกอบสร้างความรู้ ซึ่งทั้งหมดนำไปสู่ข้อสรุปของการอธิบายสังคมมนุษย์ว่าเหตุใดโลกนี้ จึงได้วุ่นวายและเต็มไปด้วยความย้อนแย้งมากมายที่พวกเราไม่อาจก้าวข้ามได้
.
รวมถึงสิ่งที่มักจะถูกหยิบยกมาพูดถึงจากหนังสือเล่มนี้ก็คือตรรกะวิบัติ (Logical Fallacies) ที่เป็นความพยายามในการเชื่อมโยงข้อมูลและข้อเท็จจริงด้วยคำอธิบายที่ย้อนแย้งกับความเป็นจริงของธรรมชาติ เช่น การโจมตีตัวบุคคล (Ad Hominem) ที่เป็นการด้อยค่าผู้พูดแทนที่จะเป็นการพูดถึงเนื้อหาที่ผู้พูดเสนอออกมา หรือการบอกว่าอะไรที่ไม่พูดพิสูจน์ย่อมมีอยู่จริง (Argument from Ignorance) หรือที่เรามักจะได้ยินกันว่า “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” นั่นเอง กล่าวคือ ถ้าเราพิสูจน์ไม่ได้ว่า “ผีมีจริง” นั่นแปลว่าเราพิสูจน์ไม่ได้ว่า “ผีมีจริง” ไม่ใช่สรุปว่า “ผีมีจริง” หรือ “ผีไม่มีจริง” ทั้งนี้การพิสูจน์เรื่องผีก็ต้องมีกระบวนการที่ชัดเจนด้วย และนิยามว่าผีคืออะไร การบอกว่าผีคือ “สิ่งเหนือธรรมชาติ” จึงไม่อาจพิสูจน์ได้ เป็นการกล่าวที่ย้อนแย้งในตัวเอง เพราะเราต้องการนำผีเข้ามาสู่ขอบเขตที่เราอยากจะอธิบาย แต่เราดันพูดเองว่าผีอยู่นอกเหนือจากขอบเขตที่เราจะอธิบาย สรุปแล้วเราต้องการจะบอกว่าผีอยู่ในขอบเขตของธรรมชาติหรือไม่ได้อยู่กันแน่ ?
.
สิ่งเหล่านี้อาจจะดูเหมือนเป็นปรัชญาโต้เถียง แต่เซแกนเองก็อธิบายว่ามันคือการสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมและอารยธรรมของมนุษย์ และส่งผลต่อรูปแบบการใช้ชีวิต การเมืองการปกครอง และอนาคตของมนุษยชาติ
.
และวิทยาศาสตร์นี้เองก็จะเป็นเครื่องมือที่พวกเราใช้ในการต่อสู้กับความโง่เขลา โดยสิ่งสำคัญที่สุดของวิทยาศาสตร์คือการส่งต่อกระบวนการและข้อมูลเพื่อคนในรุ่นต่อไป
.
.
ที่มาภาพ: NASA
--------------------------
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ #ThaiPBSSciAndTech #ThaiPBS

14 Nameless Fanboi Posted ID:M7oGwIHae3

เวอร์จิน กาแลกติก นำนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกเดินทางสู่ขอบอวกาศ (ชมคลิป)
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2716449

15 Nameless Fanboi Posted ID:X2BNV4Ba5b

>>12 รวมทั้งใต้โลกด้วย

16 Nameless Fanboi Posted ID6:D6Ogy7zT99

>>12 แอตแลนติส มีจริงสินะ

17 Nameless Fanboi Posted ID:YkW2AiLcrp

ถ้ามนุษย์เราตัดต่อพันธุกรรมจะสามารถอาศัยนอกอวกาศได้รึเปล่า

https://www.blockdit.com/posts/600042e5d0bd7912d4239024

18 Nameless Fanboi Posted ID:Bhr4kbktWN

กล้องโทรทรรศน์อวกาศ XRISM ของญี่ปุ่นพร้อมสู่อวกาศ
https://www.thaipbs.or.th/news/content/330573

19 Nameless Fanboi Posted ID:PfCVvHTAhB

>>17 เซเลสเชี่ยล คือ มนุษย์โลก นี่เอง

20 Nameless Fanboi Posted ID:PcUPF/N155

>>19 สักวันนึง เทคโนโลยีดัดแปลงพันธุกรรมจะทำให้มนุษย์ไร้โรคภัย และอาจจะสามารถเลือกสีผิวกับผมได้
https://youtu.be/QH0dp9-b7C8

21 Nameless Fanboi Posted ID:PFYKUMJ6W.

Luna 25 ภารกิจดวงจันทร์ของรัสเซียที่รอนานกว่า 47 ปี

https://spaceth.co/luna-25/

22 Nameless Fanboi Posted ID:3O5N1hryWd

ค้นพบแรงที่ 5
https://www.bbc.com/thai/articles/c0k4kw5qv4lo

23 Nameless Fanboi Posted ID:Bs0uK4yyPA

เดี๋ยววิธีนี้จะถูกนำไปใช้ในสตาร์ทอัพอวกาศ
https://www.bbc.com/thai/articles/c1e0exxzn4yo

24 Nameless Fanboi Posted ID:jDVBoJreYg

ยานอวกาศสเตอริโอ-เอผ่านโลกครั้งแรกในรอบ 17 ปี
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2717228

25 Nameless Fanboi Posted ID6:RO4yFVx3zP

ทำไมเมกาไม่ส่งนักบินขึ้นไปอีกจั๊ฟ หรือกลัวคนจับผิดเรื่องจัดฉาก

26 Nameless Fanboi Posted ID:Bs0uK4yyPA

>>25 ก็กำลังจะกลับนี่ น่าเช็คข่าวก่อนพูดอะไรนะ

https://www.bbc.com/thai/international-63551416

https://www.nasa.gov/exploration/systems/sls/index.html

ขอไม่ระบุชื่อผู้เขียนละกัน

[ทำไมยังมีผู้คนจำนวนมากถึงเชื่อว่าการเหยียบดวงจันทร์ของสหรัฐนั้นเป็นเรื่องหลอกลวง]

©©อธิบายคร่าวๆ©©

ว่าด้วยเรื่องการไปดวงจันทร์ของสหรัฐในภารกิจ Apollo หากเรายังจำกันได้หรือใครที่เกิดทันโครงการ Apollo ในตอนนั้น เราก็จะเห็นสื่อต่างๆออกข่าวเกี่ยวกับเรื่องของโครงการ apollo ที่ NASA จะส่งมนุษย์ไปลงจอดบนดวงจันทร์แถบทุกสื่อ ซึ่งภารกิจ apollo 11 นับได้ว่าเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติและถือว่าเป็นจุดสูงสุดในด้านการแข่งขันอวกาศระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต

🛑ที่มาของทฤษฎีสมคบคิดเรื่องการจัดฉากหลอกลวงเรื่องเหยียบดวงจันทร์ของรัฐบาลสหรัฐ🛑

อันที่จริงเรื่องทฤษฎีสมคบคิดที่ว่าการไปเหยียบดวงจันทร์ของอเมริกาในภารกิจ apollo 11 เป็นเรื่องหลอกลวงนั้น หรือเป็นเพียงแค่การจัดฉากโดยการถ่ายทำในโรงภาพยนตร์หรือทะเลทรายแห่งหนึ่งนั้นเป็นเรื่องที่มีกระแสเกิดขึ้นตั้งแต่ภารกิจจบลงใหม่ๆ แต่ในขณะนั้นเองคนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรกับทฤษฎีสมคบคิดพวกนี้มากนักจนกระทั่งในปี 1976 เริ่มมีผู้ชายที่ชื่อว่า บิลล์ เคย์ซิง ซึ่งเขาเป็นอดีตทหารเรือและลูกจ้างของฝ่ายประชาสัมพันธ์บริษัทร็อคเก็ตไดน์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตจรวดขนส่งให้กับทางนาซ่า ได้ตีพิมพ์หนังสือที่มีชื่อว่า

"we never went to the moon : America's thirty billion dollar Swindle หรือจะให้แปลก็คือ พวกเราไม่เคยไปเหยียบดวงจันทร์ :กรณีฉ้อโกงเงิน 30,000 ล้านดอลลาร์ของรัฐบาลสหรัฐ

ซึ่งหลังจากที่หนังสือเล่มนี้ถูกตีพิมพ์และวางจำหน่ายก็ได้รับความนิยมและความสนใจจากผู้คนจำนวนมากและยังถูกใช้อ้างอิงในการผลิตภาพยนตร์สารคดีว่าด้วยเรื่องของโครงการอวกาศของอเมริกา และคนส่วนใหญ่ก็เริ่มเชื่อกันมากขึ้นว่าอเมริกานั้นหลอกลวงเรื่องการไปดวงจันทร์หลังจากหนังสือเล่มนี้ถูกวางจำหน่ายเช่นกัน

โดยหนังสือดังกล่าวเป็นการพูดถึงเรื่องการจัดฉากหลอกลวงของอเมริกาเรื่องการไปดวงจันทร์ที่สนับสนุนความเชื่อของเขาพร้อมกับภาพประกอบของนาซ่าที่ไม่มีความชัดเจนแต่สิ่งที่เขาได้ทำเอาไว้ในปี 1976 มันกลายเป็นสิ่งที่ต่อยอดให้คนเชื่อในเรื่องของทฤษฎีสมคบคิดว่าด้วยเรื่องอเมริกาหลอกลวงเรื่องการไปดวงจันทร์มาจนถึงทุกวันนี้จนมีการนำเอาไปอ้างอิงในสารคดีในภาพยนตร์ฮอลลีวูดหรือกระทู้บนโลกออนไลน์มากมายโดยเฉพาะเว็บอย่าง pantip นอกจากนี้แล้วความเชื่อดังกล่าวยังได้รับการสนับสนุนจากบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายคนไม่เว้นแม้แต่คนที่มีการศึกษาสูง รวมถึงคนรุ่นใหม่บางกลุ่ม

และจากการสำรวจความคิดเห็นเรื่องการไปดวงจันทร์ของสหรัฐในโครงการ apollo มีชาวอเมริกันมากถึง 5% ที่เชื่อว่าเป็นเพียงแค่การจัดฉากของรัฐบาลสหรัฐ และชาวบริติช มากกว่า 1 ใน 6 เชื่อว่าการลงจอดบนดวงจันทร์นั้นเป็นเรื่องจัดฉากของรัฐบาลสหรัฐ

https://www.facebook.com/1485447471720293/posts/3146513015613722/?mibextid=Nif5oz

27 Nameless Fanboi Posted ID:Bs0uK4yyPA

[คำถามที่ตามมาหลังจากเกิดทฤษฎีสมคบคิดกับขอชี้แจงของเหล่านักวิทยาศาสตร์จากนาซ่า ]

1.) เรื่องนี้เป็นการจัดฉากจริงหรอ

หลังจากที่มีเรื่องราวการจัดฉากบนดวงจันทร์ของเหล่านักทฤษฎีสมคบคิดทั้งหลาย แต่ล่าสุดอาจารย์ประจำหลักสูตรมหาบัณฑิตด้านการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ที่มีชื่อว่า ฮาวเวิร์ด เบอร์รี ซึ่งเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยฮาร์ทฟอร์ดเชียร์ของสหราชอาณาจักร ได้ระบุในบทความของเขาซึ่งตีพิมพ์ในเว็บไซต์วิชาการ the conversation โดยฟันธงว่าเหตุการณ์เหยียบดวงจันทร์ของภารกิจ apollo นั้นไม่สามารถจะถ่ายทำขึ้นด้วยเทคนิคทางภาพยนตร์หรือวิดีโออย่างแน่นอน

แต่ก็มีนักทฤษฎีสมคบคิดกล่าวหาว่า นายสแตนลีย์ คูบริก ผู้กำกับภาพยนตร์ฮอลลีวูดชื่อดังของยุคนั้นโดยกล่าวหาว่าบุคคลนี้ได้ช่วยนาซ่าถ่ายทำเหตุการณ์ที่มนุษย์ลงจอดบนดวงจันทร์ในโครงการ apollo ถึง 6 ครั้ง แต่ถ้าหากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการจัดฉากหลอกลวงนายเบอร์รีกล่าวว่าภาพวีดีโอที่จะได้ต้องมีอัตราเฟรมที่ 30 ภาพต่อวินาทีซึ่งเป็นมาตรฐานปกติของยุคนั้น แต่ภาพและวีดีโอที่ออกมาจากทาง NASA นั้นมีอัตราเฟรมอยู่ที่ 10 ภาพต่อวินาที เนื่องจากบันทึกภาพเหตุการณ์จริงด้วยกล้องชิ้นพิเศษซึ่งถ่ายทอดภาพนิ่งเป็นภาพเคลื่อนไหวผ่านสัญญาณวิทยุ

แต่ถึงจะอธิบายมาอย่างนี้ฝ่ายที่เชื่อในเรื่องทฤษฎีสมคบคิดบางรายก็ยังกล่าวหาอีกว่านาซ่าใช้วิธีการที่ทำให้ภาพนั้นสามารถเคลื่อนไหวช้าลงแบบสโลว์โมชั่นได้เพื่อที่จะได้ดูเหมือนนักบินอวกาศกำลังเคลื่อนไหวในภาวะแรงโน้มถ่วงต่ำ แต่ทางทางเบอร์รี ก็แย้งว่าวิธีการนี้จะต้องใช้กล้องที่บันทึกภาพด้วยอัตราเฟรมสูงขึ้นกว่าปกติหรือสร้างเฟรมภาพเพิ่มเติมแทรกลงไปซึ่งจะทำให้วีดีโอที่เป็นภาพเคลื่อนไหวช้ามีความยาวมากเกินกว่าจะเก็บบันทึกไว้ในจานแม่เหล็กของยุคนั้นได้ แต่ถ้าหากเรื่องทฤษฎีสมภพนี้เป็นจริงทีมงานที่ถ่ายทำเหตุการณ์เหยียบดวงจันทร์แบบปลอมๆจะต้องใช้จานแม่เหล็กที่มีความจุมากกว่ามาตรฐานของเครื่องก่อนถึง 3000 เท่าในการบันทึกภาพสโลโมชั่นความยาว 143 นาที ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้

2.) ทำไมธงชาติสหรัฐถึงไม่บกสะบัดบนดวงจันทร์ทั้งๆที่บนดวงจันทร์นั้นไม่ได้มีลม

อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่นักทฤษฎีสมคบคิดตั้งคำถามไว้ว่าเมื่อบนดวงจันทร์ไม่มีลมแต่ทำไมธงของอเมริกายังดูปลิวไสวตามแรงลมได้ แต่ถ้าเกิดเรามาดูข้อเท็จจริงเสาธงที่มนุษย์อวกาศในภารกิจ apollo 11 เอาไปปักบนดวงจันทร์นั้นเป็นเสาที่ทำมาจากอลูมิเนียมที่มีราวสำหรับแขวนธงถ้าเกิดดูตามภาพที่ผมให้ดีๆ ซึ่งนาซ่าเองก็รู้ดีอยู่แล้วว่าถ้าเกิดเอาเสาไปเฉยๆคงไม่ปลิวไสวเหมือนในรูป เลยทำราวแขวนให้สั้นกว่าผืนธงเล็กน้อยธงจะได้ย่นนิดหน่อยดูเหมือนกำลังโบกสะบัดนั่นเอง และพื้นผิวดวงจันทร์นั้นก็มีลักษณะเหมือนหินกรวดอัดแน่นฉะนั้นการปักธงบนดวงจันทร์จึงเป็นเรื่องที่ไม่ได้ง่ายเหมือนกับว่าต้องใช้แรงเทียบเท่ากับสว่านในการเจาะลงไป

3.)รถที่ใช้บนดวงจันทร์ใหญ่เกินกว่าที่จะเอาขึ้นไปในยานลงจอดได้หรือถ้าจะเอาขึ้นไปได้ก็สูบลมยางไม่ได้เพราะยังจะระเบิดทันทีเมื่อแรงดันในยานเจอสุญญากาศ

และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งทฤษฎีสมคบคิดที่พวกที่เชื่อว่าอเมริกาไม่เคยไปดวงจันทร์พากันกล่าวหาว่าทำไมถึงพารถแลนด์โรเวอร์ขนาดใหญ่คันนี้ไปได้ซึ่งทางนาซ่าก็ได้ระบุถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่ารถสำรวจดวงจันทร์นั้นถูกพัดติดไว้นอกลำตัวยานลงจอดพอจะใช้งานก็เอามาประกอบบนพื้นผิวดวงจันทร์ ส่วนล้อรถนั้นไม่ใช่ยางเลยผู้ออกแบบเขาก็ตระหนักดีอยู่แล้วว่ายางรถจะเกิดปัญหาในสูญญากาศจึงออกแบบรถให้ใช้ตะแกรงลวดเสริมคงแทนยางปกติ

4.) มีรอยเท้านักบินอวกาศบนพื้นแข็งได้อย่างไร

โดยเรื่องนี้ก็มีศาสตราจารย์จากมาร์ค โรบินสัน จากมหาวิทยาลัย arizona stage ของสหรัฐ บอกว่าเปลือกพื้นของดวงจันทร์นั้นแข็งมากก็จริงแต่ส่วนบนสุดก็ยังมีชั้นของดินและฝุ่นละอองที่เรียกว่า Regolith ปกคลุมอยู่ทำให้ผิวสัมผัสของดวงจันทร์ฟูนุ่มและถูกบีบอัดได้เมื่อมีแรงจากเท้าของคนที่เหยียบย่ำลงไป โดยอานุภาพของดินและฝุ่นละอองนี้ยังเกาะตัวกันได้ดีจนทำให้ส่วนขอบของรอยเท้ายังคงอยู่แม้มันจะผ่านไปนานแล้วก็ตาม โดยคาดว่ารอยเท้ามนุษย์จะยังคงหลงเหลืออยู่บนดวงจันทร์ในอนาคตหลายล้านปีนับจากนี้เพราะไม่มีกระแสลมพัดทำลายล่องลอยดังกล่าว

28 Nameless Fanboi Posted ID:Bs0uK4yyPA

5.)ถ้าเกิดออกจากวงโคจรระดับต่ำของโลกก็น่าจะมีรังสีอันตรายที่ทำให้นักบินอวกาศตายไม่ใช่หรือ

อันนี้ก็คือข้อต่างหากของบรรดานักบินอวกาศในโครงการ apollo ที่ยังมีชีวิตรอดหลังจากเดินทางผ่านแถบรังสีแวนอันเลน ซึ่งเกิดจากลมสุริยะทำปฏิกิริยากับสนามแม่เหล็กโลกมาได้อย่างไร โดยองค์การนาซ่าชี้แจงถึงเรื่องนี้ว่านักบินอวกาศในภารกิจ apollo 11 ใช้เวลาอยู่ในแถบรังสีดังกล่าวไม่ถึง 2 ชั่วโมงระหว่างมุ่งหน้าสู่ดวงจันทร์ทั้งอยู่ในจุดที่รังสีอันตรายจากห้วงอวกาศมีความรุนแรงสูงสุดเพียง 5 นาทีจึงไม่ได้รับผลร้ายแรงจากรังสีแต่อย่างใด

6.)ถ้ามนุษย์เคยไปเหยียบดวงจันทร์และทิ้งอุปกรณ์ไว้มากมายทำไมกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลจึงไม่เคยส่องเห็นของพวกนั้นเลย

ซึ่งข้อเท็จจริงมันก็คือความละเอียดของ WFPC2 ซึ่งเป็นกล้องถ่ายภาพในกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล ซึ่งเป็นกล้องดิจิตอลที่มีความละเอียดเพียงแค่ 800 x 800 พิกเซลเท่านั้น ในระยะห่างขนาดดวงจันทร์นั้น 1 พิกเซลเท่ากับ 1 สนามฟุตบอลฉะนั้นของที่เล็กกว่า 1 สนามฟุตบอลจะไม่มีผลต่อภาพเลยแม้แต่จุด pixel เดียว พูดอีกอย่างก็คือขนาดของตัวกล้องยังไม่ละเอียดพอนั่นเอง แต่ถ้าเกิดจะถามว่าทำไมภาพละเอียดสูงของฟากฟ้าจาก
กล้องฮับเบิลตั้งมากมาย ถ้าเกิดจะให้ตอบก็คือนั่นหมายความว่าวัตถุเหล่านั้นไม่ใช่วัตถุขนาดที่เล็ก

7.) เหตุใดท้องฟ้าของดวงจันทร์จึงมืดสนิทไร้ดวงดาว

คนที่เชื่อว่าการไปเหยียบดวงจันทร์ของอเมริกาเป็นเรื่องหลอกลวงก็ยังตั้งข้อสงสัยว่าทำไมท้องฟ้าของดวงจันทร์ดูมืดสนิทไม่มีดวงดาวต่างๆปรากฏให้เห็นตามที่คนจะเป็นเหมือนอยู่ที่โลก ทั้งความขาวสว่างจ้าบนดวงจันทร์ก็ดูเหมือนจะตัดกันมากเกินไปกับท้องฟ้าสีดำคล้ายกับการมีไฟดวงใหญ่อย่างสปอร์ตไลท์ส่องสว่างอยู่

โดยข้อกังหันนี้ศาสตราจารย์ไบรอัน ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์ดาราศาสตร์จากสถาบันเทคโนโลยีรอเชสเตอร์ของอเมริกา ได้ให้คำตอบเรื่องนี้ว่าสปอร์ตไลท์ที่ฝ่ายนักทฤษฎีสมคบคิดกล่าวหานั้นว่ามีอยู่จริงแต่เป็นแสงขนาดใหญ่ที่อยู่ไกลออกไปมากซึ่งถ้าจะให้พูดก็คือแสงเหล่านั้นเป็นแสงของดวงอาทิตย์นั่นเอง

https://www.google.com/url?sa=t&source=web&rct=j&url=https://www.bbc.com/thai/international-49016500&ved=2ahUKEwjEq6SAl5_8AhWS-DgGHR9sBKQQFnoECA4QAQ&usg=AOvVaw1fCta8olZvuQV7hpYcvHhx

https://www.google.com/url?sa=t&source=web&rct=j&url=http://thaiastro.nectec.or.th/library/article/268/&ved=2ahUKEwi04-SSl5_8AhVE2DgGHR8pCzAQFnoECB4QAQ&usg=AOvVaw0YVgOvJYApKCp4dkCLWEkx

29 Nameless Fanboi Posted ID:Bs0uK4yyPA

หลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงการไปเหยียบดวงจันทร์ของอเมริกา🛑

[นอกจากคำตอบของนาซ่าแล้วทาง NASA ก็ยังได้แสดงหลักฐานเรื่องการไปดวงจันทร์ของอเมริกาอีกด้วย]

โดยเมื่อปี 2009 องค์การนาซ่าก็สามารถส่งยันเข้าสู่วงโคจรรอบดวงจันทร์ได้สำเร็จรวมทั้งยานสำรวจของนานาชาติซึ่งได้แสดงภาพความคมชัดสูงที่เป็นหลักฐานของการไปเหยียบดวงจันทร์ในโครงการ apollo เป็นจำนวนมาก ทั้งภาพรอยเท้าของนักบินลอยล้อรถตระเวนสำรวจและอุปกรณ์ต่างๆที่ทิ้งไว้บนดวงจันทร์รวมทั้งธงชาติสหรัฐทั้ง 6 ผืน นอกจากนี้หลักฐานทางธรณีวิทยาเช่นตัวอย่างหินและแร่ธาตุต่างๆที่มีลักษณะเฉพาะซึ่งนาซ่าได้นำกลับมาจากดวงจันทร์ก็ยังเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าการเดินทางครั้งนี้มีจริงแน่นอน และอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีเลยก็คือนีล อาร์มสตรอง และอัลดริน ได้ไปลงเดินบนดวงจันทร์มาแล้วจริงๆก็คือแผงกรุบกระจกขนาดกว้าง 2 ฟุตที่มีกระจกนับร้อยชิ้นตั้งอยู่โดยพวกเขาได้ทิ้งกระจกนี้ไว้เพื่อให้นักวิทยาศาสตร์บนโลกทำการทดลองยิงลำแสงเลเซอร์ใส่แผงกระจกดังกล่าว โดยนักวิทยาศาสตร์หลายคณะก็ได้ทำการทดลองนี้และพบว่าลำแสงเลเซอร์สะท้อนกลับมายังโลกภายในระยะเวลาที่ถูกต้องซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ว่ามีกระจกดังกล่าวอยู่บนดวงจันทร์จริงและใช้วัดระยะทางระหว่างโลกและพื้นผิวดวงจันทร์ได้ด้วย

[ถ้าเป็นเรื่องโกหกทำไมสหภาพโซเวียตถึงไม่เปิดโปรงในเรื่องนี้]

โดยเรื่องราวนี้โรเบิร์ต ลอเนียส อดีตหัวหน้าทีมนักประวัติศาสตร์ขององค์การนาซ่าบอกว่าถ้าเกิดมันเป็นเรื่องหลอกลวงจริงๆทำไมสหภาพโซเวียตซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของอเมริกาในยุคสงครามเย็นกลับไม่เคยเปิดเผยเรื่องการหลอกลวงการไปดวงจันทร์ของอเมริกาเลยหรือทำไมไม่เคยแสดงออกถึงจุดยืนเดียวกันกับนักทฤษฎีสมคบคิดที่เชื่อว่าการไปเหยียบดวงจันทร์ของอเมริกาเป็นเรื่องหลอกลวง ทั้งๆที่การเปิดปมความจริงเรื่องมนุษย์ไม่ได้ไปเหยียบดวงจันทร์นั้นสามารถทำลายความน่าเชื่อถือและอิทธิพลของสหรัฐในเวทีการเมืองโลกได้อย่างมาก โดยทาง

ลอเนียส กล่าวว่าสหภาพโซเวียตในขณะนั้นมีทั้งศักยภาพและความปรารถนาที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าภารกิจ apollo 11 เป็นเรื่องโกหกแต่ถ้าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องลวงโลกจริงเหตุใดทางสหภาพโซเวียตถึงไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำแต่กลับทำท่าทีนิ่งเฉยเช่นนี้เป็นการแสดงออกที่ชัดเจนอย่างมากว่าการไปเหยียบดวงจันทร์ของสหรัฐเป็นเรื่องจริง

[ยานฉางเอ๋อ 2 ของจีนได้ทำการถ่ายภาพร่องรอยภารกิจโครงการ apollo ด้วยความละเอียด 7 เมตร ตั้งแต่ apollo 11,12,14-17 ]

แหล่งอ้างอิงที่สามารถยืนยันได้ว่าจีนพบเศษซากของยานอพอลโลซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางที่บ่งบอกได้ทันทีเลยว่าการไปเหยียบดวงจันทร์ของอเมริกาเป็นเรื่องจริง

https://news.qq.com/a/20120207/000750.htm

[ทำไมอเมริกาถึงไม่เคยไปดวงจันทร์อีกเลย]

สาเหตุหลักๆก็มาจัดในตอนนั้นรัฐบาลสหรัฐได้ทุ่มงบประมาณส่วนใหญ่ไปกับสงครามเวียดนามในขณะนั้นพร้อมกับมีกระแสต่อต้านของชาวอเมริกันจำนวนมากว่าการสำรวจอวกาศนั้นเป็นอะไรที่สิ้นเปลืองงบประมาณ ส่งผลทำไมนาซ่านั้นโดนตัดงบประมาณอย่างรวดเร็วหลายหมื่นล้านดอลลาร์จาก 4.4% ในยุค apollo เหลือเพียงแค่ 0.4% ในปัจจุบัน แล้วก็ยังไม่มีท่าทีปรับงบประมาณให้กลับมาเทียบเท่าสมัย apollo อีกเลย และสิ่งหนึ่งก็คือในตอนนั้นภาครัฐบาลอเมริกามองว่าการสำรวจดวงจันทร์นั้นไม่จำเป็นอีกต่อไปและให้ความสนใจเกี่ยวกับการก่อสร้างสถานีอวกาศและปฏิบัติการที่อยู่ในวงโคจรของโลกแทนและด้วยงบประมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนาซ่าก็ไม่สามารถก่อสร้างจรวดขนาดยักษ์ที่มีราคาแพงได้อีกต่อไปส่งผลทำให้ฐานการผลิตจรวดทั่วอเมริกาต้องทยอยปิดตัวลงคนตกงานเป็นจำนวนมาก แต่ด้วยในปัจจุบันต้นทุนของเทคโนโลยีอวกาศที่มีราคาถูกลงกว่ายุค apollo มากรวมถึงการไปเหยียบดวงจันทร์ในรอบ 50 ปีอย่างโครงการ artemis ก็ไม่ได้มีแค่นาซ่านั้นที่เป็นผู้แบกรับภาระงบประมาณเพียงฝ่ายเดียวอีกต่อไปเนื่องจากยังมีอีกหลายๆประเทศซึ่งถ้าเกิดรวมกันตอนนี้ก็มี 23 ประเทศได้แล้วที่ร่วมมือกับนาซ่าในการส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์อีกครั้งพร้อมกับการร่วมมือกับบริษัทเอกชน

🛑ขอเสริมเพิ่มเติม🛑

พวกที่ไม่เชื่อว่าอเมริกาเคยไปดวงจันทร์มักจะเอาหลักฐานนี้มาแสดงให้คนดูว่านี่คือข้อเท็จจริงที่อเมริกาหลอกชาวโลกเรื่องการไปดวงจันทร์

(คลิปทำให้ดูเหมือนจริงจนทำให้คนจำนวนมากเข้าใจผิด)
https://m.youtube.com/watch?v=4exHhUCD2mg&feature=youtu.be

(คลิปจริง ลองเปรียบเทียบกันได้ )
https://m.youtube.com/watch?v=xSdHina-fTk

https://m.youtube.com/watch?v=xSdHina-fTk

30 Nameless Fanboi Posted ID:UJdmCW6hVW

Starliner เลื่อนอีกแล้ว
https://www.blognone.com/node/135306

31 Nameless Fanboi Posted ID:FgYl4IqX8s

พึ่งเห็นข่าวนี้ โอเชียนเกตส์จะพานักท่องเที่ยวอวกาศทัวร์ดาวศุกร์ กูว่ามึงพักก่อนเหอะ

The cofounder of OceanGate, the firm whose CEO died on a deep-sea dive for the Titanic, now wants to send 1,000 people to Venus

https://fortune.com/2023/08/01/oceangate-co-founder-venus-expedition-titanic-deepsea-vehicle-submersible/

32 Nameless Fanboi Posted ID:Bj2m4zpuco

จะก๊อปทำไมไร้สาระทั้งหมดนั่นละ
จำได้ไหมว่า เมกามันเอาหินดวงจันทร์กลับมาด้วย แล้วแบ่งกระจายกันไปทั่วโลก หลายประเทศ
เมิงก็เอาหิน ที่มาจากจีนวิเคราะห์สิ ว่าเหมือนกันไหม

ลำพังจะไปดวงจันทร์ 2023 นาซ่า ยังไม่มีปัญญาเลย

33 Nameless Fanboi Posted ID:PfHq3lnCLR

>>32 กูก็อปจากเฟสกู

https://www.narit.or.th/index.php/astronomy-news/401-3818-earths-rock-on-the-moon

34 Nameless Fanboi Posted ID:D2yI5Hl07x

ในอวกาศน่าจะมีเศษอะไรๆลอยเต็มไปหมดทั้งเล็กและใหญ่ อยากรู้ว่ายานอวกาศจัดการเศษพวกนั้นยังไงให้พ้นทางไม่ให้มาชนยาน

35 Nameless Fanboi Posted ID:FgYl4IqX8s

>>34 ขยะอวกาศจัดเป็นปัญหาใหญ่ ช่วงแรกที่ยิงดาวเทียมก็เสี่ยงชนเยอะเหมือนกัน ปัจจุบันมีอุปกรณ์ป้องกันความเสี่ยงแล้ว Drag Sail ไง ดาวเทียมขนาดจิ๋วที่ช่วยลดความเสี่ยงลง และเมื่อหมดอายุจะตกลงสู่โลกทันที

https://www.gistda.or.th/news_view.php?n_id=6092&lang=TH

36 Nameless Fanboi Posted ID:bd0qE0q+8A

>>31 มีคนตายเป็นล้านแน่

37 Nameless Fanboi Posted ID:k0n6KUwezX

เชิงวิศวกรรมกับเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่สามารถสร้างลิฟต์อวกาศ แต่กูว่านะอีกสัก 300 กว่าปีน่าจะทำได้ จะได้ตอกหน้าอีลอน มัสก์

https://youtu.be/lldv_u4R6BU

https://youtu.be/6D0ykYONiMs

38 Nameless Fanboi Posted ID:FVYroYLlTQ

แรงเฉื่อยในอวกาศมีจำกัดไหม สมมติปล่อยยานสำรวจ เปิดทรัสเตอร์ให้เคลื่อนไปข้างหน้าแล้วดับเครื่อง(เพื่อประหยัดเชื้อเพลิง)มันจะเคลื่อนไปเรื่อยๆตลอดกาลเลยไหม

39 Nameless Fanboi Posted ID:k0n6KUwezX

>>38 ในอวกาศมีแรงเฉื่อยแต่ไม่มีแรงเสียดทาง แล้วก็แรงโน้มถ่วงของอวกาศจะทำให้ยานมันขยับไปตลอดแม้ดับเครื่อง

https://www.narit.or.th/index.php/earth-space/1769-to-the-moon-and-back-04

https://spaceth.co/you-will-not-be-able-to-drift-in-space/

40 Nameless Fanboi Posted ID:JPMrvTeXzJ

เริ่มแล้ว

https://www.thairath.co.th/news/foreign/2718206

41 Nameless Fanboi Posted ID:tOrGPA+iNq

https://www.thairath.co.th/news/foreign/2718422

42 Nameless Fanboi Posted ID:GndpDd4nXo

มูลค่าของอุตสาหกรรมอวกาศ ว่าที่เศรษฐกิจใหม่ในอนาคต
https://youtu.be/90P0oFWxfEA

43 Nameless Fanboi Posted ID6:tjJ/HnpHKg

Luna 25 พังไปแล้ว โครงการอวกาศรัสเซียหลังยุคโซเวียตนี่มีดีแค่ low earth orbit ไปไกลกว่านี้ล้มเหลวทุกรอบ

44 Nameless Fanboi Posted ID:ums/SZ3TOX

>>43 น่าเสียดายจริงเรื่องนี้

จุดร้อนสุดของอวกาศ
https://www.bbc.com/thai/articles/cjldk5j4n4lo

45 Nameless Fanboi Posted ID:rAmCuIFMQS

https://www.posttoday.com/international-news/698600

อินเดียกำลังจะกลายเป็นหนึ่งในผู้นำด้านอวกาศ

46 Nameless Fanboi Posted ID6:6dfgIckMqb

จันทรายาน ๓ ลงจอดที่ขั้วใต้ของดวงจันทร์สำเร็จแล้ว ทำให้อินเดียเป็นชาติที่ ๔ ที่สามารถซอฟท์แลนดิ้งบนดวงจันทร์ได้ ถัดจากอดีตสหภาพโซเวียต สหรัฐอเมริกา และจีน

47 Nameless Fanboi Posted ID:ktlj3hDkIx

https://youtu.be/DLA_64yz8Ss
คนดูสด 4 ล้านเยอะชิบหาย

48 Nameless Fanboi Posted ID6:.W8P6Tb73c

>>46 ไทย ล้าหลังกว่า อินเดีย อีกรึเนี่ย

49 Nameless Fanboi Posted ID6:SJ5.2rR8a0

มันก็ล้าหลังเพราะจำนวนประชากรสู้ไม่ได้แล้วป่ะ

50 Nameless Fanboi Posted ID6:6dfgIckMqb

>>49 ถ้าแบบนี้อินเดียเจริญสุด รองลงมาจีน เมกา อินโด ปากี

51 Nameless Fanboi Posted ID6:504/3HVk4H

ทะเลสีเลือดบนดวงจันทร์มันคืออะไร

52 Nameless Fanboi Posted ID6:2YRwy.eh7d

>>51 มีด้วยหรอวะ

53 Nameless Fanboi Posted ID6:pZQG1BG0N4

>>51 tabgha base ในอีวานเกเลี่ยน

54 Nameless Fanboi Posted ID:0hR1aO9TSk

https://youtu.be/e5sbeL55Bgo?si=dnZV1snMGAbkWHSY

https://spaceth.co/chandrayaan-3/

จันทราสาม

55 Nameless Fanboi Posted ID:UY++GRsYNh

วิเคราะห์เรื่องอุตสาหกรรมอวกาศของไทย

https://youtu.be/qikDJZMcLk4?si=QI8r-RZX7FSYSOD0

56 Nameless Fanboi Posted ID:p05r7AmuhQ

ทฤษฎีจุดเริ่มต้นจักรวาล
https://www.bbc.com/thai/articles/cz70dxwx986o

57 Nameless Fanboi Posted ID:APFE5Vf221

ทำไงกับศพตอนอยู่นอกอวกาศ
https://www.bbc.com/thai/articles/c4njr2k7rnyo

ดาวเสาร์ใกล้โลก
https://www.pptvhd36.com/news/สังคม/204246

จันทรา 3
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2720447

58 Nameless Fanboi Posted ID:huouBUq51v

พบซากกระสวยอวกาศในมหาสมุทรอินเดีย

https://www.dailynews.co.th/news/2671761/

59 Nameless Fanboi Posted ID:cCR0YwoylC

อินเดียเตรียมลุยอวกาศต่อแล้ว
https://www.tnnthailand.com/news/tech/154451/

60 Nameless Fanboi Posted ID6:0WZYjUyrF.

ความลับของทะเลสีเลือดบนดวงจันทร์กำลังถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ

61 Nameless Fanboi Posted ID6:qfIzo/eIZK

ชาวดาวจันทร์อาศัยอยู่ในนี้สินะ

62 Nameless Fanboi Posted ID6:7y4avCzirD

ต่อจากดวงจันทร์ ตอนนี้อินเดียกำลังไปเยือนดวงอาทิตย์แล้ว

https://www.bbc.com/thai/articles/cp40y51ywnko

63 Nameless Fanboi Posted ID6:x2UgdpavpM

กูคิดเล่นๆเบียวๆว่าจริงๆแล้ว อาจจะมีเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญาที่มาก่อนเรา เจริญก่อนเราจนถึงขีดสุดบนโลกนี้ และเราอาจเป็นลูกหลานพวกเค้า อาจจะเกิดเหตุการณ์สำคัญอะไรบางอย่างขึ้นในจักรวาลจนทำให้พวกเค้าต้องหนีออกจากโลกไป แล้วทิ้งพวกเราที่เกิดจากยีนส์ของพวกเค้าไว้บนโลก ให้วิวัฒนาการสร้างเผ่าพันธุ์ใหม่ขึ้นมาเอง ในยีนส์หรือdna ของเราพัฒนามาจากพวกเค้า ทำให้มนุษย์สามารถวิวัฒนาการจนครองโลกนี้ได้ และวันหนึ่ง พวกเค้าจะกลับมา อห.เบียวสัส

64 Nameless Fanboi Posted ID:NBuW/Z/sOr

>>63 เอาไปเขียนในกระทู้กวีได้เลย ไหนๆก็จินตนาการได้ขนาดนี้แล้ว

65 Nameless Fanboi Posted ID:9GyxpJ4q5I

ชาวต่างดาวอาจจะมีจริง แต่ระยะทางมันไกลเกิ๊น จึงยังเดินทางมาไม่ถึง หรือไม่ก็ ไม่รู้จะมาทำไม

66 Nameless Fanboi Posted ID:7B67TE0Vrl

>>65 ต่างดาวไม่มีเทคโนโลยีวาป?

67 Nameless Fanboi Posted ID6:S6rrRbvp/V

จุดสิ้นสุดอยู่ตรงไหน แล้วทำไมถึงเป็นจุดสิ้นสุด ทุกสิ่งอย่างมีอยู่เพื่ออะไรกันแน่

68 Nameless Fanboi Posted ID6:bM3FmOf9c4

>>63 เออจริงๆก็น่าคิดนะ ทำไมมนุษย์มันมีอะไรบางอย่างที่มันเชื่อมโยงกันได้แบบงงๆในประวัติศาสตร์เผ่าพันธุ์เรา เช่น เรื่องการสร้างพีระมิดที่มีอยู่ในอารยธรรมเก่าแก่หลายแห่งหลายที่ หลายทวีปบนโลก ทั้งๆที่แม้งอยู่คนละซีกโลกกันเลย แต่ดันสร้างพีระมิดได้เหมือนกัน เหมือนมันถูกฝังอยู่ใน Dna ไว้แล้วอะว่าจะต้องมีความรู้ความคิดในการสร้างสิ่งก่อสร้างรูปแบบสามเหลี่ยมนี้ในอารยธรรมมนุษย์ จริงๆพวกเค้าอาจจะทิ้งวิธีการสร้างพีระมิดนี้ไว้ในDNAเราไว้เป็นจุดเชื่อมต่อพลังกับจักรวาล ผ่านพิธีกรรมต่างๆที่มนุษย์ทำขึ้น เพื่อไว้เป็นจุดแลนด์มาร์ค จุดส่งสัญญาณ หรือเป็นจุดเชื่อมต่อ จุดส่งสัญญาณอะไรสักอย่าง เพื่อที่วันนึงพวกเค้าจะได้หาทางกลับบ้านเจอ

69 Nameless Fanboi Posted ID:fzeKG6Bmyr

อุกาบาตเอเลียน
https://www.bbc.com/thai/articles/c72nxy3w5rgo

70 Nameless Fanboi Posted ID6:ceEN1giF0o

>>68 กูคิดว่าพีระมิดมีเหมือนๆกันเพราะยุคโบราณที่ความรู้มนุษย์ยังน้อยจะสร้างสิ่งก่อสร้างใหญ่ๆมันก็มีตัวเลือกรูปทรงไม่มากล่ะมั้ง
แถมถ้าดูรายละเอียดแล้วพีระมิดของแต่ละที่ก็มีรายละเอียดที่ต่างๆกันไปอีก ไม่ได้คล้ายกันมากจนรู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลก
กูคิดว่าความบังเอิญที่คน 2 คนจะคิดอะไรเหมือนกันออกมาได้มันก็ไม่ได้แปลกขนาดนั้น
สมัยใหม่ยังมีเคสที่คนบังเอิญคิดค้นอะไรคล้ายๆกันออกมา แล้วสุดท้ายต้องมาฟ้องกันเป็นคดีเยอะแยะเลย
ส่วนถ้าในยุคโบราณอะไรที่เคยคิดกันว่าบังเอิญ จริงๆแล้วมันก็อาจจะไม่ได้บังเอิญนะ
เพราะมนุษย์ก็มีการเดินทางค้าขาย แล้วความรู้ ศิลปะ วัฒนธรรม มันก็เกิดการแลกเปลี่ยนกันกับการเดินทางพวกนี้มาตั้งแต่โบราณแล้ว

71 Nameless Fanboi Posted ID:e64.jtS2XL

>>70 ปังชา

72 Nameless Fanboi Posted ID6:ceEN1giF0o

>>71 ตอนพิมพ์กูไม่ได้คิดถึงปังชาเลยนะ 555
กูนึกถึงคดีสิทธิบัตรโทรศัพท์ https://www.blockdit.com/posts/5f1d3a207cf80c0cbd00b233

73 Nameless Fanboi Posted ID:ZNB6Cs4YFL

สี่นักบินอวกาศเดินทางกลับโลกแล้วด้วยเเคปซูลสเปซเอ็กซ์

https://www.voathai.com/a/four-astronauts-return-to-earth-in-spacex-capsule/7253813.html

74 Nameless Fanboi Posted ID:zLiMNis769

มนุษย์รุ่นบุกเบิก 22 คน เพียงพอต่อการตั้งอาณานิคมบนดาวอังคาร
https://www.bbc.com/thai/articles/c6pdn7z1r94o

สหรัฐฯ ลั่น ! เอกชนต้องพร้อมสร้าง-ส่งดาวเทียมใน 60 ชั่วโมง !
https://www.tnnthailand.com/news/tech/154687/

75 Nameless Fanboi Posted ID:4rptT2Z.Cj

ถึงตาญี่ปุ่นละ

ยานทดสอบลงจอด SLIM
https://spaceth.co/slim/

"ญี่ปุ่น" ปล่อยจรวจสู่อวกาศส่งยาน "สำรวจดวงจันทร์"
https://www.thaipbs.or.th/news/content/331413

76 Nameless Fanboi Posted ID:vhATP/7sd1

ใครๆก็อยากไปดวงจันทร์
https://youtu.be/8RILiIBTcp4?si=nmia_O4am7PD4kS_

77 Nameless Fanboi Posted ID:7ntVogVRay

ระบบดาวฤกษ์อื่นๆนอกจากดวงอาทิตย์

https://www.thairath.co.th/news/foreign/2723393

78 Nameless Fanboi Posted ID:ooz8KCP2NW

ดาวเทียม "THEOS-2" ตะลุยอวกาศ
https://www.pptvhd36.com/news/ไอที/205312

79 Nameless Fanboi Posted ID6:bSNuLYfekm

ประเทศที่มีโครงการอวกาศ คือประเทศที่จะอยู่รอดในอนาคตหลังดวงอาทิตย์ดับลงสินะ

80 Nameless Fanboi Posted ID:f4t9+WP+in

>>79 อีก5000ปีนู่นกว่าดวงอาทิตย์จะดับ

81 Nameless Fanboi Posted ID:f4t9+WP+in

>>80 พิมพ์ผิด ห้าพันล้านปี

82 Nameless Fanboi Posted ID:9Sj3lRR883

5000ล้านปี ก็จริงแต่ถ้าเกิดอะไรนอกเหนือจากนั้นเช่น อยู่ๆก็มีหลุมดำ กลืนกินดวงอาทิตย์
คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับโลกนี้ละ ก็จะเกิดสงครามฆ่ากัน เพื่อครอบครอง ดวงอาทิตย์จำลอง ไง
เราใช้ชีวิตสุขสงบมานานเกินไป

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.