สกีบีดีทอยเล็ต เล่าเรื่องความขัดแย้งระหว่าง ส้วมสกีบีดี (หัวคนไร้ร่างที่อาศัยอยู่ในส้วมที่เคลื่อนที่ได้ สามารถกำจัดได้การกดส้วมนั้น ๆ) และกลุ่มคนที่มีอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านเป็นหัว เช่น กล้อง, ลำโพง และ โทรทัศน์
Last posted
Total of 981 posts
สกีบีดีทอยเล็ต เล่าเรื่องความขัดแย้งระหว่าง ส้วมสกีบีดี (หัวคนไร้ร่างที่อาศัยอยู่ในส้วมที่เคลื่อนที่ได้ สามารถกำจัดได้การกดส้วมนั้น ๆ) และกลุ่มคนที่มีอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านเป็นหัว เช่น กล้อง, ลำโพง และ โทรทัศน์
โทรทัศน์ที่เปิดอยู่ฉายถึงศึกใหญ่ซอมบี้โอตะกับสาลิกาลิ้นทอง เจ้าของโทรทัศน์นี้คือ วานิลารสส้ม เขาอยากจะเห็นเหมือนกันว่า เจ้าสาลิกาจะรับมือกับดวงจิตแห่งความโมเอะยังไง
ทันใดนั้นเขาก็ใช้วิชาเรีย ไดอ้อลแห่งการให้
พร้อมป่าวประกาศดังกึกก้องทั่วจักรวาล
"จงเห็นแก่ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน"
ซอมบี้โอตะที่รับพลังให้แห่งไดอ้อลไม่ได้ร่างแหลกวิญญาณสลายไปทันทีมีเพียง6/100ส่วนที่รอด
โอตะซอมบี้ที่กลายเป็นโอตะปกติ ยังมีความทรงจำไปที่โดนดวงจิตแห่งโมเอะล้างสมอง ยังอกสั่นขวัญแขวนไม่หาย มีเพียงพวกตนที่รอด
จากนั้นดวงจิตโมเอะก็กรีดร้องโอตะของข้าาาา!
ดวงจิตแห่งความโมเอะที่แต่เดิมเป็นดอกบัว
เปลี่ยนเป็นกงจักรพุ่งเข้าโจมตีเจ้าสาลิกา
โผรดติดตามตอนต่อไป...
สุคุนะ ยังไม่ได้เอาจริง
เติมแล้วชิ่ง ซิ่งตาม ข้ามจังหวัด
เร่งสกัด ลัดเลาะ สืบเสาะหา
เกินร้อยโล ไล่บี้ มิโรยรา
หวังดับซ่า ตาลุง เชิดน้ำมัน(500)
ตัดมาที่ห้องล็อคเกอร์ของโรงเรียน แ บ ง ค อ ก
"สาระแนคุง" ผู้ชื่นชอบการเสือกไปตอบคอมเมนต์ทุกกระทู้ในบอร์ดของโรงเรียน
กำลังนั่งผ่อนคลายอย่างสบายอารมณ์
ทันใดนั้นมีชายใส่ชุดหนังเดินเข้ามาในห้อง มองแว๊บแรกรู้ทันทีว่านั่นคือ "เบียวคุง"
เพราะเขาถือย่ามที่มีข้อความ "ไม่โมเอะก็ไร้ค่า" โดยย่ามนี้เขาทำขายแต่ขายไม่ออก
สาระแนคุง : เฮ้ย !!! เมิงมาผิดห้องแล้ว ชมรมอีตุ๊ดชุดหนังห่างจากนี้ไปอีก 2 ช่วงตึกโว้ย
เบียวคุง : F U C K Y O U
สาระแนคุง : เออ... fuck เมิงด้วย กูจะทำให้เมิงรู้ว่าใครคือ lord ของห้องนี้
ทั้งคู่ถอดเสื้อผ้าออกเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว ศึกนี้จะต้องตัดสินกัน !!!
"หมับบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ"
"ฮึ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย"
สาระแนคุง : "เมิงเสร็จกุแน่ กุจะทำให้เมิงรู้ว่าใครเป็น BOSS ของที่นี่"
เบียวคุง : "ใครจะไปสน BOSS ของมรึงวะ กรูไม่สนหรอกของพวกนั้น ไม่โมเอะก็ไร้ค่า"
สาระแนคุงประสานมือกับเบียวคุงอย่างแนบแน่น ทั้งคู่ออกแรงดึงดันกันแบบชายชนชาย
แต่ดูเหมือนเบียวคุงจะได้เปรียบกว่าเพราะเบียวคุงมีสรีระแบบโอตาคุ อ้วน ขาเบียด หนักเกิน 100 กิโลกรัม
ส่วนสาระแนคุงผอมเหมือนคนติดยา เพราะเอาตังค์มาเติมเน็ตจนไม่เหลือค่าข้าวแถมไม่ได้ออกกำลังกาย
วันๆไม่ออกไปไหนอยู่แต่หน้าจอ เฝ้าบอร์ดแฟนบอย แ บ ง ค อ ก ทั้งวันเพื่อรอเสือกตอบทุกคอมเมนต์ทุกกระทู้
ถ้าวันไหนบอร์ดร้างก็แกล้งบ้า ฟลัดข้อความเหมือนคนโรคจิต บางทีก็ทำตัวสูงส่งเหยียดไปทั่ว หวังให้ใครซักคนมาด่าตอบ
ส่วนเบียวคุงถึงจะเอาเรื่องไอดอลไปแปะทุกห้องทุกกระทู้ตามประสาโอตาคุคลั่งไอดอล
แต่กิจกรรมประจำเขาคือการออกไปเจอไอดอล ต้องวิ่งควายแทรกไปอยู่ข้างหน้าเวที หรือไปนั่งจองข้ามวันน้ำไม่อาบ
กลิ่นเหม็นเปรี้ยวไล่ผู้คนให้หนีห่าง เบียวคุงได้ความสามารถพิเศษในการทนกลิ่น ทนอาการคันจากโรคผิวหนัง
เบียวคุงจับมือสาระแนคุงไว้แน่น การวิ่งควายไปจองที่หน้าเวทีกับการซ้อมโบกแท่งไฟ ช่วยให้เขามีพลังกายที่เหนือกว่า
สาระแนคุงเห็นท่าไม่ดีจึงพลิกแพลง สาระคุงใช้ตีนเขี่ยไปที่ง่ามตูดของเบียวคุง เบียวคุงร้องเสียงหลงด้วยความเสียวซ่าน
เบียวคุง : "เฮ้ยยยยยยยยยย มรึงทำอะไรวะ เอาตีนออกไปเลยนะ ไม่โมเอะก็ไร้ค่า"
ถึงแรงกายสาระแนคุงจะน้อยแต่นิ้วแข็งแรงมากเพราะต้องพิมพ์เสือกคอมเมนต์คนอื่นทุกวัน
สาระแนคุงสลัดมือออกมาได้ หวังดึงกางเกงในของเบียวคุงเพื่อเผด็จศึก
แต่สาระแนคุงก็ต้องตกอยู่ในภวังค์เมื่อได้เห็นตูดดำเป็นกลาก เป็นสิว ร่องรอยสังคังของเบียวคุง
สาระคุงพยายามประคองสติ เงยหน้าสูดหายใจเต็มปอด หวังให้ออกซิเจนช่วยให้เขาดีขึ้น
แต่เขาคิดผิด เขาเงยตรงกับรักแร้ของเบียวคุงพอดี อาการของสาระแนคุงตอนนี้เข้าขั้นโคม่า
เบียวคุงได้โอกาส จับสาระแนคุงล็อคแขนก่อนฉีกกางเกงในของสาระแนคุงจนเห็นตูดอันลีบเล็กแห้งเหี่ยวของเขา
สาระแนคุง : "เมิงแม่งโคตรเหี้ยเลย ไอ้ตัวโสโครกเอ้ย" สาระแนคุงพูดทิ้งท้ายก่อนจะสลบ
เบียวคุง : "แพ้แล้วยังปากดี ไอ้สัส ถ้าไม่ใช่การประลอง Gachimuchi กรูไม่มีวันจับกางเกงในแบบนี้เป็นแน่ ไม่โมเอะก็ไร้ค่า"
พูดจบ เบียวคุงโยนกางเกงในสาระแนคุงทิ้งแบบไม่ใยดี
เมื่อจบการแข่งขัน กะเทยฟ้าที่ซุ่มดูการแข่งขันตั้งแต่แรก เข้ามายินดีกับเบียวคุง
กะเทยฟ้า : "ยินดีด้วยนะคะ คุณชนะอย่างสมศักดิ์ศรี ขอให้ตูดแข็งแรงแบบนี้ต่อไปนะคะ"
เบียวคุง : "ใครสนกันวะ กรูไม่สนโว้ย ไม่โมเอะก็ไร้ค่า" โวยเสร็จเบียวคุงก็เดินออกไปจากห้องล็อกเกอร์
กะเทยฟ้ายิ้มแห้งๆก่อนจะเดินออกไปเช่นกัน ทิ้งสาระแนคุงนอนสลบโชว์ตูดอยู่อย่างนั้น
เซิ๋นเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดผ่านกล้องวงจรปิดที่แอบเอาไว้และบันทึกการต่อสู้ของ เบียวคุง VS สาระแนคุง ไว้ด้วย
ตัดไปที่ดาวยามาโตะ
ซามูไรมืดยาสุเกะ ได้โผล่มาที่กลางชิบูย่า
เขานั่งไทม์แมชชีนมาจากเซ็นโงกุ
ที่มิเรียวกาคุเอน
ไอเด็กเนิร์ดคนพบคลื่นอินฟาเรดบางอย่าง
จากอุปกรณ์ลึกลับของเขา
ไอ้เด็กเนิร์ด : ไม่ผิดแน่ นี่มันพลังงานจากไทม์แมชชีน
ที่โรงอาหารของโรงเรียน
เจไดเองก็รู้สึกถึงพลังบางอย่างเช่นกันนั่นเป็นเพราะพลังของไลท์เซเบอร์
หลังจากพ่ายแพ้ สาระแนคุงเลยคิดได้ว่า การหลบหลังจอแล้วเสือกกับทุกข้อความ ทุกกระทู้ ทุกห้อง
คือสิ่งที่เป็นตัวตนของสาระแนคุงที่สุด ไม่เสี่ยงโดนตีนจากการไปด่าต่อหน้าด้วย
ว่าแล้วก็กลับมาเลียแผลใจเหมือนหมาป่วยดีกว่า อยู่หลังจอเขาจะด่าใครก็ได้ เหยียดใครก็ได้
ไปค้น google มาตอบยังไงก็ได้เพราะไม่มีใครรู้ว่าสาระแนคุงเป็นไอ้เบียวขี้แพ้ตัวนึง
ถ้าโดนจับได้ก็แค่รีไอดี ทำทีพิมพ์ข้อความเหมือนๆกัน พูดถึงเรื่องเดียวกันแต่ไม่จิ้มตอบคอมเมนต์
ทำเหมือนกูคิดเองนะ ไม่ได้ลอกใครหรืออยากคุยด้วย ความเหงานี่มันมีอานุภาพรุนแรงจริง
สาระแนคุง : "ต่อไปนี้ กุจะทำให้พวกเมิงรู้ว่า ใครคือราชาแห่งบอร์ดแฟนบอย แ บ ง ค อ ก"
สาระคุงประกาศกร้าว โรงเรียน แ บ ง ค อ ก จะต้องรับรู้ว่าใครคือของแท้ในวงการเก่งอยู่หลังจอ
ณ เลาจ์โรงอาหารของโรงเรียน
กวีโม่งที่เป็นแฟนคลับจิตเวชร่ำร้อง "ช่วยด้วย ทำไมข้าต้องลงเอยแต่งนิยายโง่ๆด้วย
ข้าอยากกลับไปได้โปรด ข้าไม่อาจอยู่ที่นี่ได้นานกว่านี้ได้ ข้าจะเสียสติในที่สุด
ท่านจิตเวชผู้เกรียงไกรและองอาจ ข้าพร้อมจะเลียตีนท่านปล่อยข้าออกจากห้องกวีได้แล้ว
กวีโม่งได้แต่อ้อนวอนซ้ำๆเป็นแสนๆครั้ง"
จิตเวชปฐมบรรพชน มองไม่เห็นใบหน้า
ระดับพลังไม่สามารถวัดได้
กล่าวว่า
"ไม่ต้องห่วงสุดท้าย เจ้าก็จะกลายเป็นจิตเวชเหมือนที่คนอื่นได้เปลี่ยนเป็นดวงจิตเวชนั้นละ"
ลูกน้องที่ภักดีของข้าฮ่าๆๆ เช่นเดียวกับพี่น้องเหล่านี้ของเจ้า จิตเวชโบกมืออยู่ๆดวงจิตนับ10ก็มาปรากฏตัวทันที ได้แก่
จิตเวชพก จิตเวชฟันหัก จิตเวชหัวล้าน จิตเวชโลลิ จิตเวชหัง จิตเวชขี้โม้ จิตเวชมาสเตอร์48 จิตเวชสหภาพ จิตเวชกลอน
"สุดท้ายเจ้าก็จะเป็นจิตกวีโม่ง"
พอพูดจบ
จิตเวชปฐมบรรพชนหรือจิตเวชดั้งเดิมก็พาเหล่าจิตเวชนับ10 เป็นเงาแสงพุ่งจากไป
กวีโม่งที่กำลังเป็นบ้า พอได้ยินดังนั้นก็เริ่มทำลายโรงอาหาร
"ข้าติดอยู่ที่นี่ไม่ได้ ข้าต้องกลับไปอ้ากกกก ข้ากำลังเปลี่ยนเป็นดวงจิตเวช"
100ปีผ่านไป กวีโม่งได้เลิกทำลายโรงอาหาร
ตอนนี้เขาได้ ตื่นขึ้นมาในฐานะ ดวงจิตเวชกวีโม่ง
เรื่องแม่งมั่วซั่วชิบหาย ไอ้เอ๋อจิตเวชมาทำเรื่องเละอีกล่ะ
ตอน แพนเค้กที่เละอยู่บนพื้น ตอนพิเศษ
เหตุการณ์ตอนที่แล้ว :ตูมมมมม พลังโมเอะญี่ปุ่น ปฐมยุค ของจิตเวชแรกกำเนิด เข้าจู่โจม องญเกาหลีเกลือ พลังโจมตี 1000 ล้าน เข้าใส่ร่างองญ ไร้ทางต่อต้านโดยสิ้นเชิง องญเกลือพ่ายแพ้!! อย่างไม่คาดคิด ไม่มีผู้ใดคาดเดาถูก นี่คือพลังของจิตเวช ไร้เทียมทานเสียจริง
สิ่งที่เหลือ เป็นเพียงกระดาษพับจรวจสีสันผ้าฉูดฉาด แปลกตา 6 จรวจ เท่านั้น ราวกับของที่เหลืออยู่คือกระดูกขององญเกลือ ลูกกระจ๊อกที่เหลือต่างแตกรังทันที จิตเวชได้ส่งหน่วยต่างๆเข้า
จู่โจมทั้งทาง1000ทิพย์ ท่อแดง นกX เฟสบนบก การต่อสู้จบลงด้วยความรวดเร็ว นี่จะเรียกต่อสู้ได้อย่างไร มันคือการสังหารหมู่ชัดๆ
อยู่ๆ โม่งป้าข้างบ้านที่สะบักสะบอมหนีทัพ ก็กล่าว ข้าไม่อาจแพ้มินต์ๆๆ พวกเขาท่องย้ำๆในใจ ราวกับคนสูญเสียสติ
"เจ้าพ่ายแพ้ให้ข้าแล้วโม่งป้าข้างบ้าน แหล่งพลังงาน เกลือของเจ้า ได้ดับสูญไปเรียบร้อยแล้ว ตัวเจ้านั้นจะเอาพลังมาจากไหนมาต่อสู้ได้อีก ฮ่าาาา555555+"
การต่อสู้จบลงด้วย ด้วยความรวดเร็ว โม่งป้าข้างบ้านโดนกระทืบสะบักสะบอม ฟันร่วงหมดปาก ตาบอดทั้ง 2 ข้าง นิ้วมือทั้ง 10 ล้วนหัก ทั้งสิ้น ไม่สามารถพิมอะไรได้แล้ว
โม่งจิตเวชดั้งเดิม กำลังง้างเท้าพร้อมกระทืบโหลกให้แหลกเละคาตีน พร้อมกับพูดว่า " มีอะไรจะสั่งเสียไหม แต่จู่ๆได้กลิ่น แพนเค้ก เชื่อมน้ำผึ้ง หอมๆ จากโรงอาหารพอดี
โม่งป้าข้างบ้านกล่าว เราอยากให้ม่วงมินต์ยุบไปซะ ยังไงองญเกลือก็ไม่อยู่แล้ว แต่หางตาก็เกลือบไปเห็น แพนเค้ก
อยู่ๆ โม่งป้าข้างบ้านก็พูดด้วยเสียงแหบพร่า "อยากกินแพนเค้ก"
เอ้ากินซะสิ จิตเวชดั้งเดิม โยนแพนเค้ก จนเละลงพื้นดูไม่น่ากินสักนิด แล้วโม่งป้าข้างบ้านก็เริ่มคลาน ง่ำกินไปนึงคำ@#!#@!#@!$!#$%@$ อยู่ โม่งป้าข้างบ้านอาการกำเริบทันที
พร้อมน้ำตาที่หลั่งริน
"ข้ายังไม่อยากใต้ตีนมินต์ ข้าอยากมีตัวตน เราไม่อยากอยู่แล้วถ้าไม่มีองญเกลืออยู่ด้วย
เราอยากชิมเกลือ เราอยากให้ม่วงผงาด เราอยากดับสูญพร้อมกับองญเกลือ
เราอยากกินแพนเค้กของม่วง เราอยากมีชีวิตอยู่ต่อ ถ้าไม่มีองญเกลือ เราไม่อาจชนะมินต์
เราไม่อยากอยู่แล้ว ถ้าไม่มีองญเกลืออยู่ เราขอไม่มีชีวิตดีกว่า
ถึงจะไม่มีองญ เกลืออยู่ เราอยากกิน แพนเค้กของม่วง ขอแค่ได้กิน เราอยากมีชีวิต เราอยากมีชีวิต
เราไม่อยากตาย
ดวงจิตเวช มองร่างไร้สติ ที่กำลัง พยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอด หลังจากสูญเสียองญเกลือไป
"ดีแบบนี้แหละข้าชอบ 555555555+ ปิดฉาก องญเกลือที่เจ้าภาคภูมิใจซะ ปลิดชีวิต มันซะเดียวนี้ อย่าปล่อยให้เศษกระดูกกระดาษพับ6จรวจยังหายใจรวยรินอยู่"
โม่งป้าข้างบ้านกรีดร้องราวกับคนเสียสติ พุ่งเข้าหาองญเกลือทันที ฉีกกระดาษแล้วกระดาษเล่าจนไม่อาจปะติดปะต่อกันได้อีก
เมื่อนั้นจิตของเขา ก็เข้าสู่โลกนรกกันต์ทันที!!!
"ข้าจะช่วยให้เจ้าได้ใช้ชีวิตใหม่ในฐานะ โม่งป้าข้างบ้านไม่มีต่อไปอีกแล้ว คนพิการอย่างเจ้า โม่งม่วงvoid
ข้าจะเปลี่ยนเจ้าเอง ต่อจากนี้ เจ้ารับหน้าที่ดูแลพื้นที่ดับสูญ เจ้าจะมีชิวตอยู่ต่อในฐานตัวตนใหม่ ฮ่าๆๆๆ
ยิ่งข้าทำให้คนเป็นจิตเวชมากเท่าไร พลังก็กล้าแข็งขึ้นเท่านั้น นี่คือ โลกที่จิตเวชสร้างขึ้นมา
ผู้คนทั่วทุกสารทิศต่างหวาดกลัวเขา ชื่อเสียงกระฉ่อนไปไกล ตัวตน ไร้พ่าย จิตเวชปฐมบรรพชน ฉายา จิตเวชแรกกำเนิดoriginal
.
จบตอน... แพนเค้กที่เละอยู่บนพื้น
มามา กลุ่มโม่งไอดอลใหม่
https://www.facebook.com/share/p/YmWzEgFD6HoXDqwh/?mibextid=oFDknk
ตอน กำเนิดemperor หงส์บัวโรย ตอนที่1
ถัดกลับมาโลกไดออล เสียงของเจ้าสาลิกาลิ้นทองประกาศว่า " ต่อจากนี้อีก1ปีข้างหน้าจะมีแข่งประชันพลังสายร้องกัน มีทั้งหมด2 สาย
โดยผู้ชนะจะได้ครอบครองพลังโมเอะ!! ล้วนได้รับโชค วาสนาอย่งล้นหลาม ปราถนาสิ่งใดก็เป็นจริง" "นอกจากนี้เราจะสนับสนุนเจ้าโดยตรงให้เป็น ผู้ยืนหนึ่งหรือตำแหน่งเซนตี้นั่นเอง
และจะมอบทรัพยากรที่เจ้าต้องการด้วย
ขณะนั้นชาวไดออล โห่ร้องงคุยกันครึกคื้นเต็มไปหมดต่างคุยซุบซิบนินทากัน ว่าใครจะได้ครอบครองพลังโมเอะ ชาวไดออลแต่ละคนต่างหึกเฮิม
แลัวสนทนากันต่อ
"ไม่ว่ายังไงข้าก็จะครอบครองโมเอะสายนั้นให้ได้"
"ข้าร้องเพลงเก่งในที่นี้คนที่สู้กับข้าได้มีนับนิ้วได้"
"โอกาสข้ามาถึงแล้ว ข้าร้องไม่แพ้ใคร"
"คนนั้นต้องมีพลังโมเอะ ถึงจะครองพลังโมเอะได้"
ขณะนั้นไก่เน่า ที่ได้ยินก็ตาเปร่งประกาย
ข้าไก่ล่อนจ้อนจะเป็นไก่ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีให้ได้เลย!! ข้าจะชิงสายโมเอะนั้นมาครอบครองเอง
นี่คือจุดเริ่มต้นของเอ็มเพอเรอ จักพรรดิหงษ์นั่นเอง
มามา กลุ่มโม่งไอดอลใหม่
https://www.facebook.com/share/p/YmWzEgFD6HoXDqwh/?mibextid=oFDknk
ณ ห้องคอมฯ ของโรงเรียนแบงคอก
ชายร่างอ้วนคนหนึ่งกำลังอัพโหลดรูปลงเว็บ imgur .com
เบียวคุง : "มันต้องรูปแบบนี้สิถึงควรค่ากับบอร์ดแฟนบอยแบงคอก รูปอื่นไม่โมเอะก็ไร้ค่า"
เอ๋อคุง : "บูจาราตี้ ~ ทะ ทะ ทำไม นะ นะ เนื้อเรื่องมันมั่วแบบนี้ ว้าาาาาาาาาา
ยาเร ยาเร ~ ทะ ทะ ทำไม มะ มะ เมิงไม่ทำตามที่ กะ กะ กุบอก พะ พะ พวกเมิงเอ๋อนะเนี่ย มะ มะ เมิงเอ๋อ"
เบียวคุง : "เอ๋อเหี้ยไรสัส บอร์ดนี้พ่อมึงสร้างเหรอ ถึงเสือกกับคนอื่นจัง ไปไกลๆตีนเลย ไอ้สัส ไม่โมเอะก็ไร้ค่า"
ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงง !!! เสียงเปิดประตูอย่างรุนแรง
??? : "ไผมาเล่นในห้องนี้วะ มึงบ่รู้เหรอว่าเขาห้ามใช้นอกเวลาเรียน"
ชายชุด รปภ. เดินเข้ามาในห้อง โวยวายใส่เบียวคุงเป็นการใหญ่
เบียวคุง : "กล้าดียังไงมาห้ามวะ เดี๋ยวจะแสดงให้เห็นว่า ใครคือ BOSS ของห้องนี้ ไม่โมเอะก็ไร้ค่า"
เอ๋อคุง : "บูจาราตี้ ~ ทะ ทะ ทำไม นะ นะ เนื้อเรื่องมันมั่วแบบนี้ ว้าาาาาาาาาา
ยาเร ยาเร ~ ทะ ทะ ทำไม มะ มะ เมิงไม่ทำตามที่ กะ กะ กุบอก พะ พะ พวกเมิงเอ๋อนะเนี่ย มะ มะ เมิงเอ๋อ"
ยาม : "มึงอยากลองว่าซั่น มึงจะเอาจั๋งใดว่ามาเลย ไอ้เบียว"
เบียวคุง : "เฮ้ย มันจะมากไปแล้วนะ กลัาดียังไงมาเรียกกูว่าเบียว กูคือโอตะจอมอหังการเว้ย ไม่โมเอะก็ไร้ค่า"
เอ๋อคุง : "บูจาราตี้ ~ ทะ ทะ ทำไม นะ นะ เนื้อเรื่องมันมั่วแบบนี้ ว้าาาาาาาาาา
ยาเร ยาเร ~ ทะ ทะ ทำไม มะ มะ เมิงไม่ทำตามที่ กะ กะ กุบอก พะ พะ พวกเมิงเอ๋อนะเนี่ย มะ มะ เมิงเอ๋อ"
หังคุง : "หุบปากไป ไอ้สัส บอกแม่มึงพาไปหาหมอจิตเวชไป๊ ส่วนมึงจะเอายังไงก็ว่ามาเลย ไม่โมเอะก็ไร้ค่า"
ยาม : " Street Fight กูต่อให้มึงเลย มึงทำได้ทุกอย่าง ทีนี้มึงเข้ามาโลด ไอ้กระหัง"
หังคุง : "ปากดีนัก ไม่โมเอะก็ไร้ค่า มึงจะต้องรู้รสของศาสตร์การต่อสู้ขั้นสูง gachimuchi แกไม่รอดแน่ คนอีสาน"
หังคุงถอดเสื้อผ้าโชว์เรือนร่างอ้วนพุงย้อย หัวนม รักแร้ ขาหนีบดำปี๋
ตามร่างกายเต็มไปด้วยร่องรอยโรคผิวหนัง กลาก เกลื้อน ผื่นคัน
ยาม : "โอ้ย กูรังเกียจไอ้เบียวนี่เด้ บักห่ามึง"
หังคุงที่คิดว่าได้เปรียบเรื่องรูปร่างเหมือนตอนสู้กับสาระแนคุงถึงกับต้องคิดใหม่
ยามถอดเสื้อนอกออกเหลือแต่เสื้อยืด เสื้อรัดเห็นมัดกล้ามชัดเจน
กล้ามแขน กล้ามอก หน้าท้อง บ่งบอกถึงการออกกำลังกายเป็นประจำ
มือทั้ง 2 ข้างสวมนวม 10 ออนซ์ หลังจากถอดหมวก แมส แว่นดำ
เผยให้เห็นผมทรงลานบินและหนวดแบบ บิ๊กจ๊ะ สาธิต กรีกุล
>>869
ยาม : สูง 185 cm / หนัก 98-100 kg
หังคุง : สูง 170-173 cm / หนัก 140+ kg
หังคุงพุ่งเข้าใส่หวังใช้แท็คติกเดิมแต่ต้องผิดหวังเพราะมือยามใส่นวมไว้
ประสานมือแบบชายชนชายไม่ได้ พยายามจับเท่าไหร่ ยามก็พลิ้วหลบได้หมด
หังคุงคิดถึงท่ายิวยิตสูที่เคยดูใน youtube จึงคิดจะพุ่งเข้ารวบขาของยาม
หังคุงพุ่งเข้าใส่เต็มแรง ยามใช้มือดันไหล่หังคุงและถอยตามแรงเป็นระยะ
เพื่อลดแรงกระแทกและรักษาระยะห่าง ทำให้หังคุงคว้าขาไม่ได้
ด้วยน้ำหนักตัวและการพุ่งเข้าใส่เต็มแรง ทำให้หังคุงหลักไม่ดี
ยามใช้ขาขัดไว้ ก่อนใช้ท่าทุ่มข้างสะโพกผลักหังคุงหงายท้องพุงกระเพื่อมไปอีกทาง
หังคุงกลัวเสียหน้ารีบลุกขึ้นมาโดยไม่ได้ระวังตัว ยามเข้าประชิดตอนไหนไม่รู้
ในขณะที่เหวอแดก ยามปล่อยหมัด jab เข้าหน้า 3 หมัดใน 1 วินาที หังคุงติด stun
ยามปล่อยหมัดตัดลำตัว หังคุงตัวงอ ก่อนเจอหมัด hook หังคุงหน้าหงาย
ล้มลงไปนอนพุงกระเพื่อมเป็นครั้งที่ 2 ในเวลาไม่ถึง 10 วินาที
เอ๋อคุง : "บูจาราตี้ ~ ทะ ทะ ทำไม นะ นะ เนื้อเรื่องมันมั่วแบบนี้ ว้าาาาาาาาาา
ยาเร ยาเร ~ ทะ ทะ ทำไม มะ มะ เมิงไม่ทำตามที่ กะ กะ กุบอก พะ พะ พวกเมิงเอ๋อนะเนี่ย มะ มะ เมิงเอ๋อ"
ยาม : "มึงบ่นอีหยังของมึงวะ ตั้งแต่กูเข้ามาเห็นมึงบ่นไม่หยุด มึงเป็นบ้าเหรอ"
หังคุงรู้ว่าสู้ไม่ได้ จึงฉวยโอกาสที่ยามเผลอคว้าดาบเคนโด้ที่เขาเบียวเป็นซามูไรเป็นประจำ
หังคุง : "วิชามวยที่ไม่โมเอะแบบนั้นคือของไร้ค่า จงรับไปซะ เคนโด้วิถีแห่งดาบ แกน่ะไม่โมเอะก็ไร้ค่า"
เอ๋อคุง : "บูจาราตี้ ~ ทะ ทะ ทำไม นะ นะ เนื้อเรื่องมันมั่วแบบนี้ ว้าาาาาาาาาา
ยาเร ยาเร ~ ทะ ทะ ทำไม มะ มะ เมิงไม่ทำตามที่ กะ กะ กุบอก พะ พะ พวกเมิงเอ๋อนะเนี่ย มะ มะ เมิงเอ๋อ"
เนื่องจากหังคุงไม่เคยฝึกดาบ เบียวตามการ์ตูน บวกกับการโดนต่อยเมื่อกี้
การฟันดาบจึงง่อยมาก หลบได้ง่ายๆ ใช้มือสวมนวมรับดาบและแย่งได้สบาย
หังคุงเหมือนจะร้องไห้ หมดความหวัง แต่ก็ไม่ทำให้ยามปราณี
ยามเข้าประชิดก่อนปล่อยหมัด uppercut หังคุงหงายท้องพุงกระเพื่อมเป็นครั้งที่ 3
หลังจากเห็นหังคุงนิ่งไป ยามจึงหันมาหาเอ๋อคุง
ยาม : "มึงเป็นคนต่อไปแม่นบ่ บักผีบ้า"
เอ๋อคุง : "โอะ โอ้ย ไม่ใช่ครับคุณยาม ผมเป็นเด็กเฝ้าห้องครับ ผมคือน้องเวฟครับ เป็นลิ่วล้อเฝ้าห้องคอมฯ
เป็นอริกับแก๊งออลนิว พวกผมแต่งมอเตอร์ไซด์ พวกนั้นแต่งรถกระบะ"
ยาม : "เออ แล้วไป พอจะโดนส้นตีน หายบ้าเลยนะมึง"
ทันใดนั้นน้องเวฟสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
น้องเวฟ : "เฮ้ยยย นั่นใครน่ะ"
โครมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
ทันทีที่น้องเวฟเปิดประตูห้อง มีหญิงสาวคนหนึ่งเซถลาเข้ามา
หังคุง : "ห๊ะ !!! ซีต้าจัง ทำไมมาอยู่ที่นี่ !!!"
หญิงสาวคนนั้นชื่อ ซีต้า (Zeta) เหมือนเธอจะซุ่มดูเหตุการณ์อยู่
ซีต้า : เอ๋ ~~~ ทำไมคุณโอตะถึงแต่งตัวแบบนั้นล่ะคะ"
ซีต้าเห็นหังคุงในสภาพเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว
ซีต้าทนดูไม่ได้จนต้องหันหน้าหนี
ยาม : "โอ้ยยย ไผอีกหนอ ทำไมมันวุ่นวายแท้สู"
ตอน การปรากฏตัวโม่งกลอน กินสดมีรสหวาน
จากอดีตเมื่อ 6 แสนปีก่อน โม่งกลอนได้ปรากฏตัวขึ้นแล้วสร้างความตื่นตกใจสะท้านบก เนื่องจากการแต่งกลอนสุดอุบาทของมัน เหงื่อ***กินสดมีรสหวาน แม้จะผ่านไป 6 แสนปีแล้ว แต่ทุกคนย่อมจำบทกลอนนี้ได้ขึ้นใจ บางคนถึงกับยก
ให้เป็นผลงานชิ้นเอกระดับโลก ตอนนี้เขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งเพราะทนความเงี่ยนของตัวเองไม่ไหวเลย ต้องออกโรงอีกครั้ง นับว่าเป็นจุดด้อยมันก็ได้ สุดท้าย มันก็หลบอยู่ที่แห่งนี้เอง รังแฟนบ๋อย
จิตเวชปฐมบรรพชน ได้แต่ส่ายหน้าคราวก่อน "พลังโมเอะ ของย้อน ก็ทำให้มันเผยตัวมา คราวนี้ พลังโมเอะ ปญออส ได้ขจรไปไกลจนเรียกโม่งกลอน ออกมาได้เชียวเรอะ"
นับว่าโม่งกลอน กับ โม่งจิตกวี แม้จะมีความคล้ายกันอยู่บ้าง แต่ โม่งจิตกวีทำตัวโง่ บัดซบ สิ้นดี เมื่อเทียบกับ อัจฉริยะอย่างโม่งกลอน ตอนนี้ ดวงจิตเวช ไม่ได้มีแผนการณ์ต่อโม่งกลอน เขาทราบดีว่า ความโมเอะ ดึงดูดวาสนาย่อมมีคราเคราห์เช่นกัน วิกฤติเท่ากับโอกาส สองสิ่งนี้ไม่เกินจริง และ นอกจาก โม่งกลอนแล้ว"
"ปญออส" ศิษย์โมเอะของเขา ก็ต้องเผชิญหน้าอันตรายมากมายเช่นกัน ถ้าแค่นี้ยังรักษามรรคจิตโมเอะ ไม่ได้
ย่อมไม่คุ่ควรเป็นศิษย์ของเขาอย่างแน่นอน ความแข็งแกร่งที่ศิษย์คนนี้เจอมา6ล้านปี ย่อมหล่อหลอมให้ตัวเองมีความแข็งแกร่งขึ้น
เขาเรียก โม่งจิตกวี เข้ามา แล้วสั่งการ "เจ้าหมกหมุ่นกับข้าเกินไปแล้ว แต่งนิยาย ให้ข้าไม่เบื่อหรือไง"
"ไม่เบื่อขอรับ ข้ามีนิยายแต่งให้ท่านได้อีกเยอะเลย" โม่งจิตกวี ตอบกลับพร้อมกับ ยกนิยาย ที่เขียนถึงความเกรียงไกร
ของจิตเวชขึ้นมารัวๆ" "ดูนี่สินายท่านข้าแต่งนิยาย ให้ท่านตั้งมากมาย"
ดวงจิตเวช ได้แต่ส่ายหัว ขึ้นอีกครั้ง แม้โม่งกลอน กับ โม่งจิตกวี จะเป็นฝาแฝดกัน แต่สองคนนี้ต่างกันอย่างสุดขั้ว คนนึงเป็นไอโง่ อีกคนนึงเป็น อัจฉริยะ หาตัวจับยาก
แต่เขาไม่มีแผนการ จะจับกุมตัว โม่งกลอน ในขณะนี้ โม่งกลอนมีประโยชน์และมีความภักดีต่อ48 ไม่ได้คิดทรยศ
เอาละเดียว ค่อยวางแผนต่อละกัน โม่งกลอนต้องมีประโยชน์ในอนาคตข้างหน้าแน่ ข้าไม่คิดจะใช้เขาเร็วๆนี้
แต่เมื่อ48มีภัย โม่งกลอนไม่อยู่เฉยแน่ ตอนนั้นต้องออกโรงช่วย48 แน่นอน แม้ตอนนี้จะเป็นเดรัจฉานหื่นกามก็ตาม
ดวงจิตเวช คิดพลาง เขาไม่คิดจะเข้าควบคุม โม่งกลอน เลย ปล่อยให้เป็นแบบนั้นต่อไป
.
ในขณะเดียวกัน แดนสวรรค์ มีการรวมตัวสาวกของโม่งทั้งหมด ซึ่งมีประกาศสำคัญ นั่นต้องเป็นแรงกระแทกกก ไม่ผิดแน่
ศึกใหญ่ม่วงมินต์กำลังปะทุในไม่ช้า...
มามา กลุ่มโม่งไอดอลใหม่
https://www.facebook.com/share/p/YmWzEgFD6HoXDqwh/?mibextid=oFDknk
มึงอยากไปคุยเรื่องไอดอลไปคุยให้ถูกที่ดิ
เขาถึงรังเกียจมึงไงไอ้เอ๋อ
https://www.facebook.com/share/p/YmWzEgFD6HoXDqwh/?mibextid=oFDknk
กลุ่มกูก็แปะให้แล้วไอควายเอ้ย
เหงื่อน้องฟ้อนด์กินสดมีรสหวาน รับประทานทีละลิตรเป็นกะษัย หมักใส่ถังเติมหัวเชื้อด้วยขี้ไคล หมักเอาไว้ใส่ข้าวให้แม่กิน
>>875 มึงก็ไปเปิดประเด็นคุยสิไอ้เอ๋อ
https://www.facebook.com/share/p/YmWzEgFD6HoXDqwh/?mibextid=oFDknk
กลุ่มกูก็แปะให้แล้วไอควายเอ้ย
คนที่ผมจะยอมให้ทำร้ายก็มีแต่สิตาคนเดียวเท่านั้น อยากโดนสิตาเหยียบย่ำมาที่ตัว ถ่มน้ำลาย แล้วฟังสิตาด่า ปญออส ทั้งวันเลย
อยากโดนเหยียบย่ำด้วยส้นเท้าไอดอลศักดิ์สิทธิ์ ทั้งวันทั้งคืน ถ้าเหยียบย่ำจนเมื่อยแล้วเชิญสิตามานั่งทับหน้าได้เลยจั๊ฟ
https://imgur.com/Q9cRCB6
“เด็กเลี้ยงควาย…กับชายขี่ม้า”
คุณคิดว่าความสุขอย่างแท้จริงนั้นคืออะไร
การตะเกียกตะกายป่ายปีนขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุด
หรือเพียงแค่การอยู่อย่างเรียบง่ายบนความธรรมดา
ความสุขที่แท้จริงของคุณคืออะไร..??
……
……
เมื่อนานมาแล้ว… ที่กลางทุ่งนาอันแสนสงบ
มีชายผู้หนึ่งกำลังนั่งถอนหายใจอยู่บนหลังม้าขาว
ตัวที่มันเพิ่งจะช่วยชีวิตของเขาเอาไว้เมื่อซักครู่นี้
ด้วยการพาเขากระโจนขึ้นจากแม่น้ำที่กว้างถึงเก้าวา
เอาชีวิตรอดมาได้จากการตามไล่ล่าของคู่กรณี
ทั้งคนทั้งม้าต่างก็อยู่ในสภาพอิดโรยอ่อนล้า
ก่อนที่ชายคนนั้นจะคิดย้อนไปถึงโชคชะตาของตน
เมื่อสมัยเด็กนั้นเขายากจนมากต้องสานรองเท้าขาย
พออายุ 15 ปี ก็เข้าเรียนหนังสือศึกษาหาความรู้
จากนั้นเขาดิ้นรนจนสามารถหางานทำเองได้
เขาเริ่มทำงานอย่างจริงจังเมื่อตอนอายุได้ 23 ปี
ด้วยจิตใจอันเต็มเปี่ยมไปด้วยเป้าหมาย.!!
จนบัดนี้อายุของเขาล่วงเลยมาถึง 47 ปีแล้ว
นับเป็นเวลา 24 ปีที่เขาลงทุนลงแรงอย่างหนัก
แต่เหมือนกับว่าเขายังหาความสุขในชีวิตไม่เจอ
เริ่มจะไม่แน่ใจแล้วว่าไอ้การทำงานหนักเจียนตาย
จนแทบเอาชีวิตไม่รอดแบบนี้มันใช่ความสุขจริงไหม
ที่กำลังดิ้นรนทำอยู่ทุกวันนี้มันคือความสุขจริงหรือ
ในจังหวะที่อารมณ์ของเขากำลังอาวรณ์จนถึงที่สุด
ก็ได้ยินเสียงขลุ่ยอันไพเราะลอยแว่วมาจากทุ่งนา
เมื่อหันไปตามเสียงนั้นจึงพบกับเด็กชายคนหนึ่ง
เด็กน้อยที่ไม่มีเงินทองยศฐาบรรดาศักดิ์อะไรเลย
นั่งเป่าขลุ่ยอารมณ์ดีอยู่บนหลังเจ้าควายเพื่อนยาก
มันทำให้เขาตระหนักคิดอะไรขึ้นได้บางอย่าง
ก่อนที่จะรำพันอยู่ในใจเพียงลำพังว่า…
“เล่าปี่เอ้ย มึงต่อสู้ดิ้นรนมาเกือบทั้งชีวิต
ที่ทำงานหนักนั้นก็เพราะว่ามีเป้าหมาย
เด็กน้อยผู้นี้ไม่เห็นต้องดิ้นรนหนักเท่ามึง
ก็ยังรู้สึกว่ามีความสุขแท้จริงยิ่งกว่ามึงอีก”
……
……
มีหลายคนดิ้นรนเดินทางออกจากพื้นที่ความสงบ
มาต่อสู้แย่งชิงแข่งขันกันในเมืองใหญ่ที่วุ่นวาย
พยายามดิ้นรนขวนขวายสะสมปัจจัยภายนอก
เพียงเพื่อสุดท้ายแล้วจะได้กลับไปอยู่ในที่สงบ
อันนี้ไม่ว่ากันเพราะต่างคนก็ต่างมีเหตุผล
แต่ที่มันเหมือนกันก็คือทุกคนนั้นมี “เป้าหมาย”
แล้วความหมายที่แท้จริงของเป้าหมายนั้น
คุณทราบหรือไม่ว่ามันคืออะไร..??
เป้าหมายไม่ใช่เครื่องมือในการดำเนินชีวิต
แต่เป้าหมายคือ… “สิ่งที่ตอนนี้เรายังไม่มี”
หรือสิ่งที่ตอนนี้เรามีมันแล้ว…”แต่ยังไม่พอ”
คนส่วนมากเมื่อรู้ตัวว่าขาดอะไรก็จะบอกตนเองว่า
จะต้องเอามาให้ได้เพราะถือว่ามันคือเป้าหมาย
เล่าปี่เลือกที่จะทำเพื่อเติมเต็มในสิ่งที่เขาไม่มี
และมองว่าการกระทำนั้นคือ “เป้าหมายชีวิต”
ส่วนเด็กน้อยเลือกพอใจกับสิ่งที่ตนไม่เคยมีมาก่อน
และมองว่าทุกอย่างที่ตนมีนั้น “สมบูรณ์แล้ว”
คุณจะสุขอย่างไรก็ได้ มันสำคัญแค่ว่าคุณรู้ตัวไหม
ว่าความสุขที่แท้จริงของคุณนั้นมันเป็นอย่างไร
มันเป็นแบบ “เด็กเลี้ยงควาย” หรือ “ผู้ชายขี่ม้า”
ตอน งูมีปีก อยากเป็นพระเอก
บางทีพระเอก ก็ไม่ได้มาในรูปแบบ ผู้ชายขี่ม้าขาว แต่แค่คนขี่มอไซfood delivery คนนึง
นั่นคืองูมีปีกนั่นเอง
งูมีปีกผู้ปกป้องเด็กสาว เข้ามาในพระราชวังโมเอะ. คุกเข่าลงพื้น เมื่ออยู่เบื้องหน้าจิตเวชผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร ไร้ต้าน
เขาพินอบพิเทาอย่างเชื่อฟัง
จิตเวชปฐมบรรพชนกล่าวขึ้นว่า "ยังมีเศษกากเดนจากยุครุ่น1สมมติเทพ ไปปราบปรามมันซะ
และข้าจะลบความทรงจำของเจ้าบางส่วน
เพื่อให้คนอื่นคิดว่า เจ้าคืออัจฉริยะจอมปลอม
งูมีปีก ได้ยินแบบนั้นก็เข้าใจทันที
"ท่านจิตเวชต้องการให้ข้าสวมบทบาท อายาโนะโคจิ "
"ถูกต้อง เภทภัย หายนะ จะเกิดขึ้นรอบกลายเจ้า คนที่เจ้าโอชิ ล้วนแล้วแต่หนีไปมีวัว ไม่มีจุดจบที่ดี
นั้นคือ เทพหายนะ เข้าใจหรือไม่ " จิตเวชกล่าว
จิตเวชบรรพชน ได้มอบพลังแห่งเทพให้กับเขาได้หยิบยืมแต่ก็เพียงเล็กน้อยก็พอแล้วที่จะปราบ เศษกากเดนของสมมตุิเทพรุ่น1 ได้
เขามองไปในกระดานหมากรุก มองตัวหมากต่างๆ สาลิกาลิ้น
ปะทะ สมมุติเทพ เทพฤดูใหม่ เทพโบตั๋น
และ หมากตัวแปรสำคัญ "พลังในเงามืด"
เขาพลันเดินหมากสีดำ ตัวนี้ไปข้างหน้า
ในการตัดสินใจหลายอย่าง มีแต่ต้องเลือกสีดำเท่านั้น
ศึกใหญ่กำลังปะทุในไม่ช้า...
มึงอยากไปคุยเรื่องไอดอลไปคุยให้ถูกที่ดิ
เขาถึงรังเกียจมึงไงไอ้เอ๋อ
https://www.facebook.com/share/p/YmWzEgFD6HoXDqwh/?mibextid=oFDknk
กลุ่มกูก็แปะให้แล้วไอควายเอ้ย
ตอน มหันตภัยติ่งเกาเด็กน้อย ภาระหน้าที่
จิตเวชปฐมบรรพชน เรียกรวมตัวเหล่าแฟนคลับ มาในห้องกวีแห่งนี้ "พวกเจ้ารู้ไหม ทำไมเราต้องกำจัดพวกติ่งเกาเด็กน้อย"
จิตเวชกล่าวต่อไปว่า "เพราะเด็กเหล่านั้นหลงเดินทางชั่ว เหมือนลูกแกะที่หลงทาง เป็นมารรเายที่เดินทางผิด เมื่อถึงตอนนั้นเราคงต้องกำจัดทิ้งๆ
"จำไว้ว่าถ้าเราเชื่อมจิตโมเอะ เข้าหากัน มันก็จะเป็นพลัง unite as one แม้สิ้นชีพวิญญาณสลาย
แต่ความโมเอะจะยังคงอยู่ตลอดไป"
"และพวกเจ้าก็จงเป็นแบบอย่างพิทักษ์ ความโมเอะเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ให้ดี ความโมเอะจะอยู่กับตัวพวกเจ้าตลอดไม่มีใครพรากมันไปได้"
แฟนคลับจิตเวชพากันร้องโฮ ต่างร้องตะโกน
ด้วยความตื้นตัน
แสงเทพโมเอะ ที่ส่องออกมาจากทั่วร่างจิตเวชกลายเป็นแสงเจิดจ้าที่สว่างไสวที่สุดในสายตาของฝูงชน เป็นตัวแทนของความหวัง ตัวแทนแห่งชัยชนะ นี่คือตำนานไร้พ่ายจิตเวชปฐมลรรพชน
"หากพวกเจ้ามีความสามารถจริงก็จงพึ่งพาพลังของตัวเองเพื่อแบกรับความรับผิดชอบของเจ้าเองดีกว่า!”
จิตเวชได้แต่ส่ายหัว ให้กับแฟนคลับจิตเวชน่าโง่พวกนี้ เขาจำเป็นต้องออกโรงทุกครั้งเลยหรอ
ตอน โศกนาฏกรรมอาสึกะแลงลี(สิต)สาวน้อยผู้มาจากเทือกเขา106
แม้ว่าจิตเวชชินจิ จะยอมตายเพื่อช่วยชีวิตของอาสึกะ(สิต) แต่ว่ากะหัง(เกนโด) ทำการบังคับจับจิตเวชไปฉีดยาให้นอนหลับไป
ในระหว่างที่ชินจิหลับไปนั้น หังคุง(เกนโดเกิดจิตวิปริตสั่งหน่วยจู่โจมพาอาสึกะ(สิต)ไปฝึกขับเอวา02 ระหว่างการฝึกนั้น อาสึกะ(สิต) ก็ถูกเกนโดจับกด
ขู่บังคับให้เยี่ยวใส่ปากหังคุง ซึ่งระหว่างนั้นในสนามรบจะไม่มีการขัดคำสั่งผู้ฝึก อาสึกะ(สิตา)จึงจำยอมกลายเป็นกระสอบทรายของกะหังคุง(เกนโด)
"แหม หวานอุ่นชื่นใจจริงๆ กลิ่นหอมคล่องคอยิ่งกว่าชาบริทิซที่ต้มบนเทือกเขาแอลป์ เสียอีก เยี่ยวของเธอเนี่ยมันช่างอร่อยเหาะเสียจริงเชียว"หังคุงกล่าวในขณะยืนจิบเยี่ยวอาสึกะ(สิต)
"คนจิตใจมืดมนอย่างเธอน่ะไม่ควรขับเอวา02หรอก ไม่โมเอะก็ไร้ค่า" หังคุง(เก็นโด)ยิ้มมุมปากพลางดมกลิ่นเยี่ยวจากถ้วยชา
"ปันยาอ่อนไอ้สัส!!!" อาสึกะ(สิต)ตะโกนด่าหังคุงด้วยความกี้ยวกราด
เวลาผ่านไปจนกระทั่งจิตเวชชินจิ ตื่นขึ้นมาพร้อมกับการแข็งตัวหนั้ดกระเจี๊ยวบวมเป่ง
เดินโซซัดโซเซไปพบเทปลับการฝึกของ ออาสึกะ(สิต)และหังคุง(เก็นโด)
จิตเวชชินจิระเบิดความเกรี้ยวกราด ได้ใช้ปืนยาวจุดสองห้อยบังคับสั่งให้อาสึกะถอดชุดบอดี้สูทออก
แล้วสั่งให้หังคุง(เก็นโด)ใส่ชุดบอดี้สูทสีแดงแทน
"หังคุงแกหักหลังฉัน แกจงหยิบชุดบอดี้สูทนั่นแล้วใส่มันซะ!"
ด้วยความรุ่มร้อน จิตเวชชินจิจับหังคุง(เก็นโด)กลับหันหลังแล้วเอากระเจี๊ยวบวมเป่งสอดใส่เข้าไปในรูตูดของกะหังอย่างรุนแรง
ซอยกะแทกคาชุดบอดี้สูท
จิตเวชชินจิกระแทกตูดหังคุงด้วยความหื่นกระหาย ขี้แทบเล็ด ปริ้ดๆๆ
อาสึกะ(สิต)ที่แก้ผ้าล่อนจ้อนยืนดูอยู่นั่นอ้าปากค้าง ตกใจสะพรึงในความกลัดกลุ้มของจิตเวช
จิตเวชชินจิหิวน้ำ จึงสั่งบังคับให้ หังคุงเยี่ยวออกมา จิตเวชชินจิก้มดูดน้ำจากเจี๊ยวหังคุงอย่างหิวกระหาย
จนหังคุง(เก็นโด)ตัวกระตุกไปสามวิ
อาสึกะ(สิต)ได้จังหวะจึงหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายวีดีโอไว้ แล้ววิ่งหนีขึ้นขับเอวา02หนีหายไป
ทิ้งจิตเวชชินจิและหังคุง ซอยตูดกันอย่างเมามันส์ จั๊ฟๆๆๆ
และในขณะนั้นเอง
แอ้ด... เสียงบานประตู
อายานะมิ เรย์(ขี้โม้คุง) เปิดประตูเข้ามาพอดิบพอดี
"เสียงตั๊ฟๆนี่มัน...พวกเธอกำลังทำอะไรกันน่ะ" (ขี้โม้คุง)ถามด้วยเสียงกระเส่า
ขนาดกูยังโดนเอาไปแต่งฟิควาย
ฟุโจชิมันน่ากลัวเกินไปแล้ว
ฟิควายเหล่านั้นคือสิ่งที่ปรากฏออกมาหลังไฟที่ไหม้โรงเรียน แ บ ง ค อ ค ลามจนกำแพงห้องน้ำชั้นนอกถล่ม เผยให้เห็นกำแพงเก่าชั้นในที่เหล่าอดีตโม่งในรร.รุ่นพ่อรุ่นแม่เขียนฟิคไว้
ทำไมตัวละครเหมือนรุ่นปัจจุบันเหรอ? นั่นคือคนในรุ่นพ่อแม่ที่ส่งต่อพันธุกรรมความเบียวมาให้รุ่นลูกไง
ตัวละครที่มีชื่อในฟิคควรภูมิในความเป็นลูกหม้อนะ
"น่าเสียดายที่ไม่มีเวลาอ่านฟิคนี่ต่อ แต่ถ้าไม่ดับไฟตอนนี้ห้องน้ำคงไหม้จนถล่ม เหม็นไปทั่วแน่"คาเมนไรเดอร์ออลนิวที่วิ่งผ่านมาระหว่างตามจับนอเมี๊ยะเปรยก่อนจะยิงปืนฉีดน้ำแรงดันสูงใส่กำแพงเก่า ดับไฟจนมอดและล้างเอามรดกฟิคมากมายที่บรรพชนทิ้งไว้อย่างน่าเสียดาย
ขอตัวนอนก่อน โอเล่คุงที่กดแรงค์ Rov กับ
น้ำคุง เพราะพรุ่งนี้เขามีนัดกับแฟนที่เยาวราช
ณ เยาวราช " บ้านหนูทำรังนก
กินอยู่แล้วทุกวัน "
แพนดี้ บ้านมีคนใช้เยอะสินะ ลูกคุณหนู
ซินดื้อ "...."
ภาคต่อมาแล้ว
การโต้กลับของแอดมินเทียน
หลังจากแอดมินเทียนพ่ายแพ้สูญเสียพลังการเป็นอมตะไปจากการโดนบล็อกจากเพจเกมถอกบอกด้วย เขาก็หลบไปพักร้อนที่อเมริกาเพื่อหลีกเลียงศัตรู แต่บัดนี้เขากลับมาแล้ว ที่พัทยา เขาแอบมากลบดานที่พัทยา เพื่อฝึกฝนตัวเองใหม่เพื่อกลับมาอีกครั้ง
แอดมินเทียน : ในที่สุดก็สำเร็จสักที วิชานี้ มวลกล้ามเนื้อระดับ 10 ตัน
ใช่แล้วนี่คือสิ่งที่แอดมินเทียนนั้นฝึกฝนสำเร็จ ณ ที่ยิมในรีสอร์ทแห่งหนึ่งในพัทยา
พลังที่สามารถทำลายตึกได้เพียงแค่หมัดเดี๋ยว
"พี่สุเทียนของน้อง ในที่สุดก็กลับมาดาวสยามแล้วสินะคะ" นรีรัตน์สาวยันจากรร.สตรีปิตาธิปไตย สตอล์กเกอร์ของสุเทียนก็กลับมาเช่นกัน "ช่างหัวแผนการบุกSalientของผอ.สามารถเถอะ น้องจะไปตามส่องพี่สุเทียน"
ว่าแต่ทำไมนรีรัตน์ ถึงรู้ว่าสุเทียนกลับแล้วมากันนะ หนึ่งในตัวประกอบใน รร.สตรีปิตาธิปไตย สงสัย ในขณะที่กำลังอ่านข่าวดราม่าของ อิมาน เคลิฟ ไปด้วย
การแข่งขันมวยไทยสากลสมัครที่กรุงปลารีด จักรวรรดิฝาหรั่งเศษ นักมวยจากสยามจะพบกับนักมวยเพศคลุมเครือชาวซาลามจากแอฟริกาตอนเหนือ นักมวยสยามจะทุ่มทุกสิ่งที่มี ทะลวงมันให้ทะลุอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อคว้าเหรียญทองโอลิมปัสกลับสยามให้จงได้
หลังจากส่งนักมวยเพศคลุมเครือ ไม่มีมดลูก
โครโมโซม XY แต่มีอวัยวะเพศ (คล้าย) เพศหญิง
เหล่าชาวซาลามผู้รักความสงบ 💥
และรู้จักปรับตัวไม่ว่าจะอพยพไปอยู่ที่ไหน 🪳
ต่างโห่ร้องดีใจและภูมิใจสุดๆกับการมีนักมวยที่ใช้
ความผิดปกติทางร่างกายมาสร้างข้อได้เปรียบโดย
ไม่สน 4 สน 8 ใดๆ ชนะอย่างสมศักดิ์ศรี ม ว ย ห ญิ ง
สมกับเป็นชาวซาลามจริงๆ ซาลามของแทร่
ส่วนนักมวยชาวสยามที่มีอวัยวะเพศหญิง มีมดลูก
มีโครโมโซม XX ได้เหรียญทองแดงกลับบ้าน
เงินอัดฉีดหลายล้านพดด้วง มีติดยศเข้ากองทัพแน่ๆ
"โม่งคุงตื่นๆ" โม่งจังเพื่อนสาวตบประตูเรียกโม่งคุง ทอมนักมวยที่กำลังเศร้าเรื่องนักชกสาวรุ่นพี่ได้แค่เหรียญทองแดง "พรรคก้าวไก่ของพิต้าคุงกับโรมคุงโดนยุบพรรคไปแล้ว เธอยังจะนอนเศร้าเรื่องผลมวยโอลิมปัสเมื่อคืนอีกเหรอ! แต่งตัวแล้วไปก่อม็อบที่สกายวอล์คกันเร็ว!"
ตอนนี้โลกโมเอะ กำลังขยายตัวเรื่อยๆ
โม่งได้มีการจัดตั้งกลุ่มกองกำลังต่างๆมากมาย
เช่นกลุ่มพันธมิตรแห่งเงา กลุ่มสว่างสะอาดสงบ
กลุ่มแฟนคลับจิตเวช และร่างแยกจิตเวช
รวมทั้งโม่งน้ำก๊อก เป้าซ้อมมวย
จิตเวชแรกกำเนิดยิ้มเล็กน้อยกับโลกใบนี้ ถึงพวกนี้จะไร้ค่าขยะเพียงใด แต่ไม่มีเครื่องมือที่ไม่มีประโยชน์
ในยุคสมัยไร้ขอบเขต ล้วนมีตัวตนที่ขึ้นมาเหนือ
จิตเวชแรกกำเนิดได้ทั้งนั้น เขาต้องไม่หย่อนยาน แต่ต้องบำเพ็ญโมเอะให้หนักขึ้นไปอีก
เราต้องไม่ลืม ความดาร์ค ความโมเอะ
ที่สกายวอล์คตอน6โมงเย็น เหล่าประชาชนผู้ไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรคก้าวไก่มารวมตัวกันและผลัดกันขึ้นปราศัย ส่วนใหญ่ก็เข้ากับสถานการณ์ดี แต่ก็มีบางส่วนปราศัยอะไรก็ไม่รู้ฟังแล้วงงๆเช่น >>894
ระหว่างหนึ่งในจิตเวชปราศัย เหล่าสยามมุงก็เริ่มคุยกันเรื่องเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในวันนี้
"มึงเห็นข่าวไฟไหม้โรงเรียน แ บ ง ค อ ก รึยัง" ประชาชนAถาม
"เห็นดิ ขึ้นหน้าฟีดทุกแอปเลย"ประชาชนBตอบ"เห็นว่ามีคาเมนไรเดอร์คนใหม่ที่ใช้ปืนฉีดน้ำเป็นอาวุธจับตัวคนวางเพลิงส่งตำรวจด้วย"
"คนวางเพลิงที่ลือกันว่าเป็นกะเหรี่ยงหัวรุนแรงสินะ"ประชาชนCเข้าร่วมวง"ไฟไหม้ยับแบบนี้งานโรงเรียนวันที่เหลือคงต้องยกเลิกแล้วสินะ"
"ไม่ยกเลิกหรอกค่ะ"โม่งจัง นักเรียนรร.อาร์คแองเจิ้ลที่ได้ยินบทสนทนาหันมาตอบ "ผอ.ประยุทธ์ประกาศลงเพจโรงเรียนว่างานวันพรุ่งนี้จัดต่อตามกำหนดการณ์เดิมค่ะ"
เหล่าปชช.ทั้งหลายพากันวิเคราะห์ว่าทำไมผอ.รร.แ บ ง ค อ ก ถึงดึงดันจะจัดงานต่อ
แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด วันพรุ่งนี้จะเป็นวันรัฐประหารโรงเรียนของกลุ่มอุ้งอิ้งและพันธมิตร วันบุกชั้น14ของกลุ่มอินดี้ และวันบุกSalientรร.แ บ ง ค อ ก ของนักเรียนรร.สตรีปิตาธิปไตยแล้ว!!!
เพื่อนสาวนักตบไปยืนฟังปราศัยคนเดียว เมื่อยก็เมื่อย ร้อนก็ร้อน จึงหวนคิดนึกถึงคำพูดของทอมนักมวย >>893
ทอมนักมวย : "อีโง่ !! มึงจะไปทำไม"
"ยุบชมรมก้าวไก่ มึงก็ตั้งชมรมใหม่สิ คนไหนโดนตัดสิทธิ์หัวหน้าชมรม มึงก็ไปหาคนใหม่มา"
"มึงเห็นคณะบริหารโรงเรียน แ บ ง ค อ ก ไหม ทีมใหม่ชื่อใหม่แต่หน้าเดิม เตรียมตัวแดกงบต่อ อีเหี้ย !!"
"ตัวอย่างเลวๆ มีให้ดูแล้ว หัดใช้สมองมาประยุกต์ซะมั่ง"
"ยิ่งมึงสร้างความวุ่นวายยิ่งเข้าทางพวกนั้น มึงอยากให้เขาตั้งคณะกรรมการพิเศษมารวบอำนาจปกครองอีกหรือไง"
"สมัยก่อนมึงเคยเห็นคนสนับสนุนชมรมอื่นที่ไม่ได้มาจากคณะบริหาร แ บ ง ค อ ก เยอะขนาดนี้ไหม"
"จากการบริหารส้นตีน มีคนไม่ชอบพวกคณะบริหารมีมากขึ้นเรื่อยๆ ขนาดคนที่เคยอยู่กับคณะบริหารยังมาเข้าร่วมชมรมก้าวไก่"
"กว่าคณะบริหารจะมีอำนาจขนาดนี้ เขาวางรากฐานมาเป็นร้อยปี ตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียน แ บ ง ค อ ก"
"มึงจะใช้เวลาวันสองวันเพื่อเปลี่ยนแปลงมันเป็นไปไม่ได้หรอก อีห่า !!"
"แต่พวกมึงมาถูกทางแล้ว ยิ่งคณะบริหารใช้อำนาจแบบนี้ คนยิ่งลุกฮือ"
เพื่อนสาวนักตบ : "จ๊ะๆ ฉันไม่ไปก็ได้" (แต่สุดท้ายก็ไป)
ทอมนักมวย : "เอาเวลามาซ้อมกีฬาดีกว่า สมัยนี้มีแต่คนอยากเป็นอินฟลูฯ ยูทูปเบอร์ คนอยากเป็นนักมวยหายาก"
"แล้วยิ่งมวยหญิงนะ หนทางของกูสดใสเลยล่ะ ถ้าไปแข่งแล้วได้ซักเหรียญคงได้อัฐได้เบี้ยมีกินมีใช้สบาย"
เพื่อนสาวนักตบได้แต่ถอนใจ หิว อยากกลับบ้าน ไม่น่ามาเลยกู ฮืออออออออออออออ
หลังจากชมรมก้าวไก่ถูกยุบ "ภูมี่" สุดยอดราชานักศึกษาวิชาทหาร
ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยฝ่ายนักเรียนของโรงเรียน แ บ ง ค อ ก
ได้เข้าร่วมงานเสวนาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การปกครองของสยาม
เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้รับทราบถึงประวัติศาสตร์การปกครองของสยามที่ถูกต้อง
ตรงตามจุดประสงค์ของคณะบริหารโรงเรียน แ บ ง ค อ ก
https://pbs.twimg.com/media/GUd4A0sbAAANCj1?format=jpg&name=large
https://pbs.twimg.com/media/GUd4A0sbwAEgPMr?format=jpg&name=large
อุ๊งอิ๊งประกาศกร้าวพร้อมเผ็นประธานนักเรียนคนต่อไป
^ประโยคนั้นเป็นสัญญาณเริ่มต้นการรัฐประหารรัฐบาลน้ำท่อมของเอมมี่
เช้าวันพุธเวลา7นาฬิกา บาเรียป้องกันผู้ใหญ่ของโรงเรียน แ บ ง ค อ ก เริ่มทำงาน กวาดต้อนเอายาม ครูเวรและภารโรงเวรดึกออกจากบริเวณโรงเรียนจนหมดในไม่นาน ส่วนนักเรียนที่อายุไม่เกิน20เดินเข้ามาได้ตามปกติ
เวลา8โมงเช้า หลังการเคารพธงชาติที่วันนี้ไม่มีครูมาคุม เอมมี่ก็เริ่มปราศัยเรื่องน้ำท่อมซอฟท์พาวเว่อร์ตามปกติ
แต่หลังเอมมี่พูดไปได้ไม่ถึง5นาที อุ๊งอิ๊งก็เดินออกจากแถวมาพร้อมโทรโข่ง ประกาศว่า " เอมมี่! วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายในการเป็นประธานนักเรียนของแก! ฉันพร้อมจะเป็นประธานนักเรียนคนต่อไปแล้ว!"
เอมมี่ไม่ตกใจแม้แต่น้อย เขารู้อยู่แล้วว่าวันนี้จะต้องมีรัฐประหาร แค่ผิดคาดนิดหน่อยที่สุดท้ายอุ๊งอิ๊งเป็นผู้นำจริงๆ
"ภูมี่สั่งการนสท.รักษาความสงบ! คณะกรรมการนักเรียนจับนังอุ๊งอิ๊งซะ!"เอมมี่สั่งการอย่างฉาดฉาน แต่ทันทีที่เหล่ากรรมการนักเรียนเข้าใกล้อุ๊งอิ๊งก็โดนนักรบชุดพรางปิดหน้าปิดตากลุ่มหนึ่งเข้ามาต่อสู้ติดพัน
ที่แท้อุ๊งอิ๊งลงทุนใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อเหล่ากรรมการนักเรียนนี่เอง
ฝั่งนสท.ของภูมี่ ก็ปะทะกับกลุ่มอินดี้และแนวร่วมที่นำทีมโดยออนิวและ4จตุรเทพอินดี้ ชาดทินกร ดนัย และทราย
"บ้าน่า!"ภูมี่อุทาน "เจ้าออนิวมันยกเลิกการบุกชั้น14เพื่อมารัฐประหารเรอะ! ถอนกำลัง80%จากอาคารเรียนรวม มาช่วยทางนี้ก่อน" เขาสั่งการกลุ่มนสท.ทางวิทยุสื่อสาร
หารู้ไม่ว่า 3ใน5แกนนำอินดี้เป็นขุนพลเงา ตอนนี้ ชาด ทินกร และดนัยตัวจริงกำลังรอจังหวะบุกอาคารเรียนรวม ทรายที่ทำงานทางไกลได้กำจังเริ่มเจาะระบบชั้น14จากหน้าเสาธงที่ฝูงชนประทะกัน มีออนิวแค่คนเดียวที่กำลังสั่งการม็อบอยู่จริงๆ
ถ้าสถานการณ์วุ่นวายพอแล้ว ออนิวจะส่งต่ออำนาจสั่งการให้มาร์ค สากกะเบือผู้นำกลุ่มยิว แล้วแปลงร่างเป็นคาเมนไรเดอร์พาทรายตามไปสมทบอีก3คนเพื่อบุกอาคารเรียนรวมที่เหลือกองกำลังแค่20%
กองกำลังเหล่านั้นคือ เศษสวะจากตีมเมอร์ ที่คิดร้ายต่อไอดอล และเชิดชูตีมเมอร์
ได้หาเรื่องคนอื่นไปทั่ว พลางคร่ำครวญว่า "ทำไมนรกยังไม่ถูกจัดระเบียบ"
จิตเวชปฐมบรรพชน ก็แค่ตบมือ ร่างเศษสวะตีมเมอร์ ก็กลายเป็นฝุ่นตั้งแต่มือทั้ง2ข้างลามไปทุกส่วนของร่างกาย
"ข้าไม่เชื่อ อ้ากกก... เป็นไปไม่ได้ ไม่จริง"
ทุกคนต้องหวั่นเกรงจิตเวชกันหมด คือ ความหวาดกลัวอย่างไร้สิ้นสุด
https://i.imgur.com/5JjaSDj.png
แต่หนูก็โมเอะมากนะคะ อุแหวะ แค่กๆๆ จะอ้วกกก
กลุ่มไอดอลโดนทำลายไปแล้วเนื่องจากไม่สวมฮิญาบแล้วนี่
ไอดอลที่รอดตายจากการล่มสลายของซีสกรงทอง ถือกำเนิดใหม่เป็นดั่งนกฟีนิซ์ ทุกครั้งที่เหล่านักรบไดเวอเจ้นลุกขึ้นต่อสู้กับผู้คุมวิญาณ
จะต้องมีการหลั่งน้ำตา ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ให้คำนิยามว่า โม่งคือนรก! เป็นสังคมที่ย่ำแย่
https://imgur.com/RygvRmM
การต่อสู้ของไอเรดกับคุณพียังไม่จบลง
ไอเรดยอมรับเองเขารู้สึกเหมือนพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก แต่ว่าครั้งต่อไป เขาได้หาอาจารย์ที่จะมาฝึกฝนให้เขาแล้วน้ั้นก็คือทนายปลาวาฬ พร้อมสหายบิ๊กบ่วงยอดนักชกจะเป็นคู่มือฝึกฝนให้ไอเรดไปต่อสู้กับคุณพีอีกรอบในยกที่สอง
ทนายปลาวาฬเผย เป็นเพราะเขารู้จักกับเสินเขาจึงให้เสินสั่งปิดเว็บโม่งได้
ระหว่างที่อุ๊งอิ๊งและแนวร่วมทำรัฐประหารอยู่ ขั้วอำนาจฝ่ายต่างๆก็ตีกันนัวในโรงเรียน แ บ ง ค อ ก
ที่อาคารเรียนรวม ออนิวกับสหายทั้ง4ได้บุกเข้าไปถึงห้องลับในชั้น14และปล่อยบุคคลปริศนาที่ถูกขังอยู่ในนั้นออกมา
เขาคือ สตีฟ ชาย3ตูดผู้รีเซ็ตจักรวาลไอดอลจนกลายเป็นโลกนี้นั่นเอง
"ออนิว เจ้าได้ปลดปล่อยข้าจากการจองจำของรัฐบาลดาวสยาม เจ้าต้องการให้ข้ารีเซ็ตรักระวาลอีกรอบหรือไม่"
A.ไม่รีเซ็ต ขอพลังเพิ่มแล้วลงไปรัฐประหารต่อ จะเปลี่ยนแปลงโลกนี้ด้วยพลังใหม่
B. รีเซ็ต กลับไปเล่นจักรวาลเก่าๆที่จบกลางคันในฐานะตัวละครใหม่->ไว้เลือกจักรวาลอีกที
C.รีเซ็ต เริ่มจักรวาลใหม่ที่ยังไม่เคยมี
โม่งคนถัดไปมึงเลือก จะรีเซ็ตหรือไม่!
"สรุปโลกนี้มันมีมากี่จักรวาลวะ แล้วมันรีเซ็ตมากี่รอบแล้วเนี้ย" ออนิวถามด้วยความสงสัย
"พอ ๆ กับฮารูฮิวนรูปนั้นแหละ"เสียงค่อย ๆ ดังขึ้นพร้อมการปรากฏกายของชายสวมหน้ากากคนหนึ่ง
"พวกรัฐบาลสยามมันไหวตัวแล้วหรอ" ชาด พูดขึ้นด้วยความตกใจ ต่อเสียงที่ได้ยิน
"แต่ว่าตอนบุกเราก็ยืนยันชัดเจนแล้วว่า จะพวกรัฐบาลยังไม่รู้ตัว" ทรายพูดตอบ
"อย่าบอกนะว่าแกคือ TVA มาจัดระเบียบไทม์ไลน์ศักดิ์สิทธิ์อย่างงั้นหรอ" ชาดพูดเดาขึ้นโดยไม่รู้ว่าเสียงนั้นคือผู้ใด
"ใช่แล้ว เราคือตัวแทนของTVA" ชายสวมหน้ากากตอบ "การรีเซ็ตจักรวาลของสตีฟในรอบที่แล้วล้างความจำของผู้คนไม่หมด ทำให้เกิดไทม์ไลน์ที่บิดเบี้ยวนี้ พวกเจ้าต้องเลือก ถ้าจะรีเซ็ตจักรวาลเราจะลบความทรงจำในจักรวาลนี้ของทุกคน แต่ถ้าเลือกไม่รีเซ็ตแล้วสู้ต่อในจักรวาลนี้เราไม่สามารถตามไปลบความจำของคนอื่นได้ ทำได้แค่ให้ข้อมูลพวกเจ้าไปสู้กับความได้เปรียบของผู้มีความจำจักรวาลเดิมเท่านั้น"
ระหว่างที่ออนิวกับสหายกำลังพูดคุยกับสตีฟและชายสวมหน้ากาก จู่ๆ มิติพิศวงก็เปิดขึ้น เขาคือ เต้ เอ็กซเซนไฟเยอร์ จากโลกที่ 6969
"TVA ถูกฉันทำลายไปแล้ว" เต้ เอกไฟเยอร์กล่าวหลังปรากฏตัวขึ้น พร้อมใช้ดาบคาตานะแทงทะลุชายสวมหน้ากาก
"เป็นไปได้ยังไงกัน!" ชายสวมหน้ากากตกใจ "ฉันฆ่าแกไปแล้วนี่ แกรอดมาได้ยังไง เต้"
"หึ ที่แกฆ่าฉันไปน่ะ มันเป็นแค่หนึ่งในตัวแปรของฉันเท่านั้น" เต้พูดพร้อมดึงดาบคาตานะออกจากร่างชายสวมหน้ากากที่เสียชีวิตทันที
"เต้ เพื่อนยาก ไม่นึกว่าจะมาเจอแกในที่แบบนี้ แกไปทำอะไรมา" สตีฟถามเต้
"เรื่องมันยาวนะสหาย แต่เหตุการณ์ที่ฉันเจอมามันเลวร้ายมาก และแกคือต้นเหตุ" เต้บอกกับสตีฟ
"หมายความว่า..." สตีฟสงสัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลยเพราะถูกกักขังไว้นาน
แต่ไม่มีเวลาให้คิด เต้พุ่งเข้าไปหาสตีฟหวังใช้ดาบปลิดชีพ ทำให้สตีฟไม่มีทางเลือก สตีฟใช้พลังที่ได้มาจากโลกลูปที่แล้วเปิดช่องว่างมิติ โลกถูกแบ่งออกเป็นหลายส่วน
"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?" ออนิวงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ตอนนี้โลกถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ ออนิวและสหายทั้ง 4 ยืนอยู่บนอีกส่วนหนึ่ง พวกเขาเห็นโรงเรียนบางกอกลอยอยู่อีกส่วน เห็นแม้กระทั่งเมืองอุดรธานีที่กำลังลอยอยู่ สตีฟใช้โอกาสชุลมุนพุ่งตัวหนีไปที่เมืองอุดรธานีทันที
ตอนนี้ทั่วทุกที่เกิดความโกลาหลแบบสุดขีด ไม่ว่าจะเป็นเหล่านักเรียนที่ชุลมุนกับการปฏิบัติงานแต่กลับมาเจอส่วนต่างๆ ของโลกแยกตัวออกแบบนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
"นี้คือคือการซ้อนทับของมิติและเวลายังไงล่ะครับ"
เมื่อออนิวและสหายหันไปมองก็ได้พบกับชายสวนหน้ากากที่ควรจะตายไปแล้ว
"แ..แกมัน! ตัวแทนของTVAนี้! แกถูกเต้สังหารไปแล้วไม่ใช้หรอ!"
สตีฟได้ชี้ไปที่บุรุษใส่หน้ากากด้วยมือที่สั่นเทา
"กระผมเป็นถึงพนักงานดีเด่น 10 สมัยของ TVA เลยน่ะครับแค่นี่ทำอะไรผมไม่ได้หรอกครับ"
ชาวสวมหน้ากากเอ๋ยขึ้นพร้อมกล่าวต่อ
"แต่...ดูเหมือนจะเหลือเวลาไม่มากแล้วนะครับ
คุณสตีฟถ้าคุณไม่ทำอะไรตอนนี่ละก็คราวนี้ได้จบสื้นไปจริง ๆ โดยไม่มีโอกาสแก้ตัวครั้งที่สองแล้วนะครับ"
"อย่าบอกนะว่าเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิด secret war มันมีอยู่จริงอย่างงั้นสินะ" ชาดพูดแทรกขึ้น
"ตอนแรกก็คิดว่าเป็นแค่เรื่องหลอกลวงในอดีต" ชาดพูดต่อ "นั้นเป็นเรื่องราวเมื่อนานมาแล้วชาดได้ไปค้นเจอความลับของโลกบางอย่างที่กำแพงหินในปราสาทขอม มันจารึกไว้หลายข้อความ แต่เมื่อข้อความนั้นถูกค้นพบกลับถูกรัฐบาลสยามปกปิดข้อมูลไว้" ซึ่งชาดเขาเองก็ไม่รู้ข้อมูลที่แน่ชัด เพื่อมาหาข้อมูลที่แน่ชัดนั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขามาเข้าร่วมขบวนการปฏิวัตินี้
ตัดมาห้องล็อกเกอร์รูมของโรงเรียน แ บ ง ค อ ก
หังคุงที่นั่งผ่อนคลายหำอย่างสบายอารมณ์ ตอนนี้เขาครองแทบทุกห้องของโรงเรียน เพราะคนอื่นออกไปปฏิวัติกันหมด
ทันใดนั้นประตูห้องเปิดมาผ่างงงงงงงงงง
เสือกคุงผู้เฝ้าบอร์ด "แฟนบอยแบงคอก" คอสเพลย์เป็นชายสวมหน้ากากเพื่อตามไปเสือกเรื่องปฏิวัติก็เดินเข้ามา
"เฮ้ย มรึงมาผิดห้องแล้ว ชมรมอีตุ๊ดสวมหน้ากากอยู่ถัดไปอีก 2 ช่วงตึกโว้ย" หังคุงเริ่มบทสนทนา
" Fuck You" เสือกคุง Ver.สวมหน้ากาก สบถใส่อย่างไม่สบอารมณ์
"เออ Fuck มรึงด้วย กรูจะทำให้รู้ว่าใครเป็น Boss ของห้องนี้" หังคุงท้าทาย
หังคุงและเสือกคุงถอดเสื้อผ้าเหลือแต่กางเกงในตัวด้วย พร้อมทำศึกแบบ ลู ก ผู้ ช า ย ด้วยอารมณ์เมามันส์ Come on !!!
เปิดตัวอัลเลาะห์ เทพเจ้าแห่งสามโลก
"หึ มนุษย์ชั่งโสมมยิ่งนักมัวแต่ต่อสู้กัน"
อัลเลาะห์ได้ตื่นขึ้นมาแล้วหลังจากเขาถูกฝังไว้ในโลงที่อ่าวเจ้าพระยาลึกว่า 300 เมตร แต่ว่ากับมีเรือชาวประมงค้นพบโลงนั้นขึ้นมาจากน้ำเขาคิดว่าโลงนั้นคือสมบัติ แต่ไม่ใช่ นั้นคือที่อัลเลาะห์ได้จำศิลตัวเองไปหลังจากต่อสู่กับยะโฮวา แล้ว อัลเลาะห์เหลือแต่หัว อัลเลาะห์ได้ชิงร่างของยะโฮวา เอามาเป็นของตัวเอง แล้วซ่อนตัวเองในโลงศพเป็นเวลากว่าหมื่นปีแล้ว ตอนนี้อัลเลาะห์ได้ตื่นขึ้นแล้ว
... ซึ่งในวันนั้นเอง มีคนค้นพบเรือ ที่มีการใช้เครื่องมือในการงัดโลงนั้น ซึ่งในเรือ ไม่มีใครเลย ไม่มีร่องลอยการต่อสู้ มีเพียงแพะสามตัวเท่านั้น
สปีดคุงเดินทางมาเที่ยวที่ดาวสยาม
ตอนที่สตีฟเปิดประตูมิติหนีไปประเทศอุดรธานี ที่นั่นกำลังมีน้ำท่วมใหญ่
น้ำป่าได้ไหลทะลักผ่านประตูมิติจากอุดรไปท่วมประเทศเชียงรายที่ไม่เคยเตรียมการรับมือมาก่อนเพราะไม่เคยท่วม
ในรพ.เขตปกครองแม่สายที่โดนน้ำล้อมอยู่นั้น นายแพทย์K ศัลยแพทย์ที่เพิ่งผ่าตัดไส้ติ่งให้คนไข้เสร็จก็ได้รับความทรงจำจากพหุจักรวาลคืนมาอย่างกะทันหัน
"สตีฟ เต้ นี่พวกแกทำอะไรลงไป?"
...
"คุณหมอK น้ำท่วมมาถึงหน้าตึกแล้ว เราจะผ่าตัดเคสต่อไป หรือจะปิดห้องผ่าตัดก่อนดีคะ?" พยาบาลห้องผ่าตัดถาม
Kตรวจดูรายชื่อคนไข้ พบว่าไม่มีใครเร่งด่วนจึงสั่งการ "ปิดห้องผ่าตัดครับ ผมขอลาด่วนด้วย พอดีมีธุระฉุกเฉิน" พูดจบKก็กลับห้องพักแพทย์เพื่อเตรียมตัวเดินทาง
"ต้องรีบตามหาเจ้าพวกนั้น"Kเปรยกับตัวเองขณะจัดกระเป๋า "ก่อนทุกอย่างกงจะสายเกินไป ก่อนที่พหุจักรวาลนี้จะล่มสลาย"
ระหว่างที่หมอK ยืนดูน้ำท่วมอยู่หน้ารพ.และกำลังคิดว่าจะว่ายน้ำออกไปหรือรอเรือกู้ภัยดี
สปีดคุงก็ขับเจ็ทสกีผ่านมาและเอ่ยว่า "Hey doctor! ยูจะไปไหน?ให้ไอไปส่งมั้ย"
"ผมจะไปสนามบินน่ะ ต้องรีบไปตามหาเพื่อนที่ประเทศอุดร"Kตอบ "แต่ทางไปน่าจะมีสิ่งกีดขวางเยอะ รบกวนคุณไปส่งจะดีเหรอ"
"No problem 'cause I am Speed" สปีดคุงตอบ "ไอจะพายูพุ่งทะลวงอุปสรรคไปเอง โดดขึ้นมาเลยพวก!"
Kขึ้นเจ็ทสกีตามคำชวน แล้วสปีดก็ขับเจ็ทสกีพุ่งทะลุกำแพงวัดพาKไปถึงสนามบินได้จริงๆตามคำอวดเป๊ะ
เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไปน้้นติดตามใน Avenger Allahday ได้ข่าวว่า โรเบิร์ต กลับมารับบทเป็นเป็นอัลเลาะห์ด้วย
"ยาเระ ยาเระ ดาเซ่" สตีฟ ทะลุ Fourth wall ออกมาบ่น
Mong Cinematic Universe
แต่ก่อนที่จะรับชมกับตันอเมริกา 5 ก่อนนั้นก็คือเรื่องราวต่อไปนี้ของสตีฟ หลังจากที่สตีฟใช้ Made in heaven รีเซ็ตโลกไปในภาคก่อนหน้า กับตันอเมริกา 4 ได้เกิดโลกแห่งใหม่ขึ้น สตีฟได้พบกับ อัลเลาะห์ผู้สร้างโลก ด้วยความเข้าใจผิดบางอย่างสตีฟได้ต่อสู้กับอัลเลาะห์ในตอนที่เขากำลังสร้างโลกอยู่ ทำให้อัลเลาะห์สูญเสียการควบคุมบางอย่าง ที่กำลังจะพัฒนาสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าแพะ แต่กลับสร้างไม่สมบูรณ์เลยทำให้เกิดสัตว์ที่เรียกว่าหมูขึ้น หลังที่สู้ไปสักพัก สตีฟก็พ่ายแพ้ เขาสูญเสียพลังบางส่วนไป และเข้าสู่ภาวะจำศีล
แต่ในยุคสงครามโลกเขาเองได้ตื่นขึ้นและก็ได้เข้าร่วมต่อสู้ เพื่อที่จะคืนพลัง เขาเลยเดินทางไปที่ปัตตานีเพื่อที่จะตามหาต้นตอของพลัง เขาเจอกับอาจารย์สามารถที่กลายเป็นสุลต่าน จากการโดนพลังบางอย่างที่ทำให้อิสลามหายไป
"นี่มันโลกที่รีเซ็ตไปแล้วไม่ใช่หรอ ทำไมเรื่องราวยังเดินตามลูปเดิม" สตีฟสงสัย ตอนนี้เขาอยู่ระหว่างการต่อสู้กับอาจารย์สามารถที่ตามหาความทรงจำที่หายไป อาจารย์สามารถมีพลังมาก แต่ก็พ่ายแพ้ให้แก่สตีฟ สตีฟดูดกลืนอาจารย์สามารถเข้าไปในร่างกายทำให้รู้เรื่องราวต่างๆเช่น
-โลกทุกลูปล้วนสิ้นสุดที่ปัตตานี พร้อมกับการสิ้นสลายของอิสลาม
-ในร่างของอาจาร์ยสามารถดูดกลืนนักสู้เก่งๆของโลกไว้มากมาย เช่น โกฮัง พิกโกโร่ จอทมารบู
ก่อนที่มันจะเป็นอย่างนั้นสตีฟใช้พลังทั้งหมดหลังจากรวมร่างกับอาจารย์ แยกโลกออกเป็นดาวต่างๆ เช่น ดาวสยาม ดาวยามาโตะ ดาวขแมร์ ดาวจิ๋นซี
นี้แหละคือเรื่องราวที่ก่อนจะเกิดขึ้นของลูปล่าสุด ลูปที่ 10⁰0001
"Make in heaven! จงหยุดทุกอย่างนี้ซะ! ตอนนี้ทุกอย่างมันเกินควบคุมแล้ว จักรวาลจงรีเซ็ตซะ!"
*วูป*
.....
...
เที่ยงคืนสิบห้านาที ผมก็ยังนอนไม่หลับ ได้แต่นอนไถมือถือเน่าๆบนเตียงนอนพร้อมตดไปมาเพราะรอขี้จะออกมาจะได้ไปเข้าห้องนํ้าต่อ แต่ทันใดนั้น…
"ก๊อกๆ" เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น สตีฟหยุดไถมือถือด้วยความงุนงน ใครมาเคาะประตูตอนเที่ยงคืน15นาทีวะ
เด็กหนุ่มระงับความปวดขี้แล้วไปเปิดประตู คนที่ยืนอยู่หน้าห้องคือเต้กับK นั่นเอง
"สตีฟ ฉันได้ข้อมูลจากTVA"Kกล่าวอย่างเยือกเย็น "ไม่ว่านายจะรีเซ็ต จักรวาลอีกกี่รอบก็ยังล้างพลังทำลายจักรวาลของอัลเลาะห์ที่อ.สามารถได้มาจากปัตตานีออกไปไม่ได้"
"ทางเดียวที่เราจะหยุดวงจรนี้คือต้องกลับไปทำลายพิธีสาปแช่งที่ปัตตานี"เต้กล่าวบ้าง "รีบๆไปขี้ให้เสร็จแล้วจัดกระเป๋าซะสตีฟ เราจะขึ้นเครื่องบินนาริตะ-ปัตตานี รอบ6โมงเช้า ครั้งนี้เราจะไม่แพ้พวกมูจาฮีดีนเพราะเรามีกลุ่มนักรบจากหลายดาวในลูป10⁰0001มาร่วมมือด้วย"
"อืม ไปจบเรื่องนี้กันเถอะ" สตีฟพยักหน้ารับแล้วเข้าส้วมไปขี้
การต่อสู้ครั้งสุดท้ายจะเริ่มขึ้นแล้ว
โม่งทุกท่าน เรามาสู้จัดเต็มกันให้จบในอีก76โพสต์ของมู้นี้กันเถอะ!
น้ำที่ไหลเชี่ยวกราก หญิงสาวตัวเปียกมอมแมม ถูกน้ำพัดมาจากอีกหมู่บ้านนึง เธอเกาะรั้วเก่าๆไว้ได้ เธอนั่งรอความชั่วเหลืออย่างแน่นิ่ง
เวลาผ่านไปจนพลบค่ำ แสงไฟมืดสนิท มีเพียงเสียงน้ำที่ไหลผ่านซอกเท้าเธอไปอย่างไม่มีหยุด เธอหวาดกลัวสัตว์ต่างๆที่ไหลมากับน้ำ เธอจึงหยิบมือถือขึ้นมากดดูคลิปนายกออ๊ส่งมินิฮาร์ทเพื่อบรรเทาความหวาดกลัวตลอดค่ำคืนที่น่าวิตก เธอดูคลิปจนแบตหมดและเผลอหลับไป เวลาผ่านไปย่ำรุ่งสาง
ทันใดนั่นเองเธอได้ยินเสียงเครื่องยนต์ 600cc เข้ามาใกล้ เธอเหลือบเห็นชายหนุ่มรูปร่างกำยำ ผิวคล้ำหัวล้านขับเจ๊ตสกีสีดำทมิฬมีหัวเรือเป็นรูปแมวดำ ใช่แล้วมันคือ "มากิเจ็ตสึ" และ ในสายตาเธอจ้องมองไปที่ผมบนศรีษะ นามของเขาคือ ไฟเซอร์ ผู้ทีมีชื่อเสียงของจังหวัดเจียงฮาย เขาทำอะไรก็ดูหล่อไปเสียหมด ราวกับเป็นคนดี พ่อพระของคนในย่านทุ่งลั่นกก ไม่นานนักหญิงสาวนิรนามก็ถูกช่วยเหลือไว้ โดยไฟเซอร์จับเธอมัดใส่ถุง หอบหิ้วลากหายไปในพุ่มไม้ไม่มีใครพบเห็นเธออีกเลย รุ่งอรุณแห่งแสงสว่างของชาวเจียงฮาย ยังมืดมิดต่อไป
https://imgur.com/xCiP7Mx
"อ่านข่าวนี่สิสตีฟ" Kส่งแท็บเล็ตที่เปิดข่าวไฟเซอร์ลักพาตัวสาวในเหตุการณ์ทำท่วมเชียงรายให้เพื่อนอ่าน "ทั้งที่นายรีเซ็ตจักรวาลแล้ว แต่เหตุการณ์น้ำท่วมเชียงรายก็ยังดำเนินต่อไป การรีเซ็ตไม่สามารถหยุการล่มสลายของโลกได้แล้ว เราต้องรีบไปปัตตานีให้ได้"
ขณะนี้เวลาตี2ครึ่ง สตีฟ เต้ และK กำลังนั่งรถไฟความเร็วสูงไปสนามบินนาริตะ พวกเขาภาวนาให้สหายชาวสยามในโลกโน้นเอาตัวรอดในประเทศเทยโลกนี้ได้จนกว่าทุกคนจะเดินทางไปถึงปัตตานี
ในที่สุดก็ถึงสนามบินแล้ว
สตีฟ เต้ K หลังจากเช็คอิน สแกนสัมภาระ
เขาได้ขึ้นเครื่องไป แต่หารู้ไม่ อาบัง ปริศนาได้ตามเขาขึ้นเครื่องไปด้วย
แต่ว่าสตีฟที่ผ่านลูปมาหลายรอบรู้เรื่องราวว่าต้องมีอาบังปริศนาโผล่มาป่วนระหว่างที่เครื่องบินกำลังเดินทางอีกแน่
ขณะเดียวกัน หญิงสาวนิรนาม ได้ตื่นขึ้น สายตามองไปด้านหน้า เป็นผนังห้องที่เป็นไม้พยุง 0.01%
มีโปสเตอร์ ชายหัวล้านยิ้มรับโล่เกียรติยศจาก รองผู้ว่า เพราะผู้ว่า ติดประชุมที่กรุงเทพ ติดอยู่
ข้างๆ มีผ้าโม่ยของพี่หมอน ท่อนล่างถูกเจาะรู
"นี่เราอยู่ที่ไหนกันนะ "สาวนิรนามง่วงซึม คิด จนเขี้ยวเสน่ห์ออกมา
"ไง ตื่นแล้วรึ หิวหรือเปล่า" หนุ่มใหญ่หัวล้าน เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
"กู้ภัยคร้าบ! มีคนติดน้ำท่วมอยู่ในบ้านมั้ยคร้าบ!" เสียงประกาศดังมาจากนอกบ้านทำให้หญิงนิรนามตื่นเต็มตา
จริงด้วย! เธอขึ้นเรือหนีน้ำท่วมแต่โดนเบียดจนตกเรือนี่นา แล้วที่นี่มันที่ไหน ชายหัวล้านที่ยิ้มกรุ้มกริ่มนี่เป็นใคร ทำไมสถานการณ์มันดูเหมือนการ์ตูนโป๊แบบนี้
"ทำไมทำสีหน้าหวาดกลัวแบบนั้นล่ะสาวน้อย อาแค่ช่วยหนูขึ้นมาจากน้ำแล้วเปลี่ยนชุดที่เปียกไม่ให้หนูหนาวตาย ไม่ได้คิดจะทำอะไรไม่ดีซักหน่อย" หนุ่มใหญ่หัวล้านกล่าวอย่างเป็นมิตร แต่กลับมีแววตาวิบวับดูกรุ้มกริ่ม
หญิงสาวตัดสินใจเชื่อสัญชาตญาณตัวเอง แล้วเปิดหน้าต่างกระโดดหนีลงน้ำไปโดยไม่สนใจเสียงโวยวายของชายหัวล้าน
"ลูกพี่!มีคนตกน้ำตรงนั้น!" กู้ภัยที่อยู่ใกล้ๆตะโกนบอกนายเรือและพากันขับเรือเข้ามาช่วยหญิงสาวขึ้นจากน้ำ
"เธอ! กุลปรียางั้นเหรอ?" นายเรือหนุ่มผิวเข้มโพกผ้าแบบซิกข์อุทาน
"กุลปรียา?" สาวนิรนามทวนชื่อที่ได้ยินก่อนจะตกใจที่เพิ่งรู้ตัวว่าเธอจำชื่อตัวเองไม่ได้ ไม่มีความทรงจำอะไรเลยนอกจากที่ตกเรือเมื่อวาน "คุณรู้จักฉันเหรอคะ? รู้มั้ยคะว่าครอบครัวฉันอยู่ที่ไหน"
นายเรือหนุ่มเกาหัวแกรกๆ "ฉันรู้จัก"เธอ"แต่ไม่ใช่เธอในโลกนี้น่ะสิ ความทรงจำเธอเสียหายจากการรีเซ็ตหรือแค่ความจำเสื่อมเพราะอุบัติเหตุในโลกนี้ก็ไม่รู้อีกต่างหาก เอาเป็นว่าฉันพาเธอไปรพ.แล้วกัน"
"แต่ลูกพี่ แล้วกำหนดการณ์ไปปัตตานีของเราล่ะครับ"กู้ภัยอีกคนถาม
"เลื่อนไปก่อน"นายเรือตอบ เรายังมีหน้าที่ในโลกนี้นี่นา
กุลปรียามองพวกเขาคุยกันอย่างสนใจ ไม่รู้ทำไมคำว่า"ปัตตานี"กระตุ้นความจำที่ขาดหายของเธออย่างมาก เธอ"รู้"ว่ามีคนอันตรายมากอยู่ที่ปัตตานี
"พาฉันไปด้วยเถอะค่ะ"หญิงสาวขอร้อง"ฉันจำไม่ได้ก็จริง แต่ฉันรู้สึกว่าตัวเองก็ต้องรีบไปปัตตานีเหมือนกัน"
"ถ้าเธอว่างั้นก็ไปกันเถอะ"นายเรือรับคำ แล้วเริ่มออกเรือ
"ว่าแต่ขอบคุณที่ช่วยฉันนะคะ พวกคุณชื่ออะไรกันบ้างเหรอ"
"วิชัย ซิงห์"นายเรือชาวซิกข์ตอบ "ส่วน2คนนั่นคือศรายุทธกับศักดิ์ชัย"
"วิชัย ซิงห์? ฉันคุ้นชื่อคุณมากเลยค่ะ"
"ความจำเริ่มกลับมาแล้วสินะ ฉันจะเล่าส่วนทีาเหลือให้ฟังระหว่างเดินทางเองแล้วกัน"
วิชัย ซิงห์ แล่นเรือโดยผ่าน มหาสมุทรอีสาน (ในโลกนี้ ภาคอีสานนั้นไม่ใช่พื้นที่ราบสูงแต่เป็นมหาสมุทร อุดรเป็นเพียงเกาะๆนึงเท่านั้น) เพราะฉะนั้นเรือเดินสมุทรของพวกเขาสามารถขับตรงไปที่ปัตตานีได้เลย
เรือเดินสมุทรของวิชัยผ่านน่านน้ำอีสานมาได้อย่างสงบดี แต่เมื่อเข้าเขตเมืองบาดาลรัตนโกสินทร์ พวกเขาก็ถูกยิงปืนใหญ่ใส่ โดยกลุ่มโจรสลัดหลวงของรัฐปัตตานีที่ลาดตระเวนอยู่
โจรสลัดหลวงแห่งรัฐปัตตานีประกอบด้วย กลุ่มไฟนอลแฟนตาซีของสุเทียน กลุ่มกปปส.ของซายัม กลุ่มเมียสื่อของนาเดีย กลุ่มคัตโธรทของมะห์ลิกะห์ และกลุ่มกอริลล่าสองกลุ่ม
โชคดีที่กลุ่มที่ปะทะกับวิชัยเป็นแค่กอริลล่า พวกเขาจึงเอาชนะมาได้อย่างไม่ลำบากนัก
"เดินทางทางทะเลก็เจอโจรสลัด"วิชัยบ่น"แบบนี้เจ้าพวกที่ขึ้นเครื่องบินก็คงเจอสลัดอากาศของรัฐปัตตานีไม่ต่างกันสินะ"
"เฟี้ยววววว...ตู้ม" เสียงจรวดเฉี่ยวใส่ท้ายเรือ
วิชัยหันไปดู ปรากฏ เรือโจรสลัด จากธง รูป หัวกระโหลกดำบนผืนผ้าสีขาว
"บ้าเอ๊ย โจรสลัด Black skull นี่เอง มันมาได้ไงนะ"
บนเรือลำนั้น มีชายหัวล้าน จากเชียงราย พูดผ่านลำโพง ด้วยเสียงโกรธว่า
"เอาเจ้าสาวกูคืนมา อีกนิดเดียวจะสำเร็จอยู่แล้ว มึงมายุ่งอะไรด้วย" ไฟเซอร์ตัวร้ายนั่นเอง
มันได้ขอความช่วยเหลือ จาก โจรสลัด Black skull อย่าง โจรสลัด ปู หัวดำ เขยรุ่นแรก ของ bnk48 นั่นเอง
"ไม่ได้ พวกแกมัน อาชญากรมีค่าหัวกันทั้งนั้น ไสหัวไปซะ ไม่งั้นเจอ อาวุธโบราณ แน่ๆ" วิชัย ซิงห์ ตอบพร้อมขู่พวกมัน
"ดู๊... ดูมัน พี่ปูต้องช่วยไฟเซอร์นะครับ ในฐานะ เขย bnk48 ด้วยกัน"ไฟเซอร์พูด
"เรื่องจะเป็นแนว 18+ อยู่แล้ว จะมาตัดหน้าเค้ก เป็นไซไฟ ได้ไงละท่านผู้ชม"ไฟเซอร์ หันมาคุยกับคนดู
ปู โจรสลัด หน้าหล่อ ดูหน้าอ่อนกว่าไฟเซอร์ เพราะกินผล แจนแจน เข้าไป
ชูดาบในมือ มีประกายไฟขึ้น แล้วกล่าวดังไกลในระยะ 7 โยชน์ทะเล
"คืนผู้หญิงขาสวยคนนั้นมา แล้วท่านจะไปไหน ก็ไป เราให้เวลาอีก 5 นาที ไม่งั้นชะตาชีวิตของท่านจะเป็นเยี่ยงนี้"
ปู หัวดำ ฟาดดาบไปทางเกาะ ข้างๆ สายไฟฟ้า สีดำ ตัดเขาบนเกาะ พังพินาศในพริบตา
"ตัดสินใจให้ดี" ปู เดินไปที่เก้าอี้ มีไฟเซอร์ ตั้งนาฬิกาทราย ไว้บนโต๊ะ เพื่อจับเวลาทันที
บนเรือเดินสมุทร ของ วิชัย
สาวนิรนาม ในกุงเกงขาสั้นสีขาว เสื้อชมพู ได้พูดว่า
"เพื่อไม่ให้พวกท่านต้องลำบาก ข้าคงต้องไปกับเรือโจรนั่น"
สาวเชียงรายคิด เพราะเห็น ลุงอาวุธโบราณ เดินแทบจะไม่ไหว มีหวังโดนโจมตี ด้วย กระแสไฟฟ้าทมิฬ นั่น แน่ๆ
"ใจเจ้าช่างประเสริฐนัก" วิชัย ซึ้ง
อีกอย่าง ไฟเซอร์ก็เป็นข้าราชการ ถึงจะขึ้เงี่ยนไปหน่อย แต่อย่างไรก็คงเลี้ยงดูเธอได้ สาวนิรนามคิด
"ครบ 5 นาทีแล้ว ว่าไง" เสียงไฟเซอร์ ลอยมา โดยมี พี่ปู อยู่ ข้างๆ
วิชัยครุ่นคิดถึงทางเลือก อาวุธนั่นก็ร้ายกาจอยู่ ถ้าจะสู้คงต้องเอาอาวุธโบราณที่เตรียมไว้รบที่ปัตตานีออกมาตอนนี้เลย
กุลปรียาตอนนี้ความจำเสื่อมเป็นกำลังรบไม่ได้เต็มที่ การเปิดเผยอาวุธโบราณปกป้องเธออาจเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า
แต่การทอดทิ้งผู้หญิงให้ไปเป็นเจ้าสาวของชายแปลกหน้าโดยไม่เต็มใจนั้นผิดหลักศาสนาซิกข์ เป็นความชั่วร้ายแบบพวกซาลามต่างหาก
คิดได้ดังนั้นวิชัยจึงเตรียมใช้อาวุธโบราณ แต่คราวนี้โชคเข้าข้างวิชัย ก่อนที่เขาจะตัดสินใจยิงตอบโต้ เรือดำน้ำขนาดใหญ่ก็โผล่ขึ้นมาระหว่างเรือโจรสลัดและเรือของวิชัย
"พวกแกมาเอะอะอะไรกันเหนือน่านน้ำกรุงรัตนโกสินทร์อันศิวิไลซ์แห่งนี้ไม่ทราบคะ!"
เสียงอันทรงพลังของหญิงสาวคนหนึ่งดังมาจากลำโพงเรือดำน้ำ มันเป็นเสียงของหญิงสาวที่ทุกคนในประเทศเทยรู้จักดี
เธอคือ อุ๊งอิ๊ง นายกรัฐมนตรีหญิงคนปัจจุบันของประเทศเทยนั่นเอง เธอกำลังหงุดหงิดเต็มที่เพราะเพิ่งโดนวิจารณ์ว่าจัดการน้ำท่วมได้ล่าช้าและเอาเรือดำน้ำประจำตระกูลออกมาใช้เดินทางไปจังหวัดที่น้ำท่วมให้เร็วที่สุด
แต่พอขึ้นมาผิวน้ำดันเจอไอ้โจรสลัดงี่เง่าที่มาทำลายเกาะในเขตเมืองตามใจชอบอีก
"ฉันให้เวลาพวกแกอธิบาย3นาที ว่ามาเตรียมสู้กันในเหตุห้ามยิงอย่างรัตนโกสินทร์ทำไม ถ้าตอบไม่เข้าท่าฉันจะเป่าทิ้งทั้ง2ฝ่ายเลย"อุ๊งอิ๊งขู่ "คนยิ่งกำลังรีบอยู่"
"ผมกับเพื่อนกำลังเดินทางไปปัตตานี" วิชัยรีบอธิบาย "เราช่วยผู้หญิงที่ กระโดดน้ำหนีจากที่คุมขังได้ระหว่างทาง แต่ฝ่ายนั้นจะบังคับเอาตัวเธอไปเป็นเจ้าสาวโดยที่เธอไม่เต็มใจ"
"เรื่องจริงค่ะท่านนายก"กุลปรียาเสริม"ฉันไม่อยากเป็นเจ้าสาวของผู้ชายคนนั้นค่ะ!"
"ฉันเข้าใจสถานการณ์แล้ว"นายกอุ๊งอิ๊งกล่าว "พลทหารปืนใหญ่เลเซอร์ ชาร์จกำลังสูงสุดแล้วยิงเรือโจรสลัดนั่นซะ!"
"เฮ้ย ท่านนายก ท่านจะมาทำแบบนี้กับผมไม่ได้นะ"ไฟเซอร์โวยวาย "ผมเป็นถึงข้าราชการซี9ที่ภักดีต่อราชวงศ์มังกรฟ้า ท่าจะสั่งยิงผมโดยไม่ฟังคำชี้แจงฝั่งผมไม่ได้นะครับ"
"หุบปาก!" อุ๊งอิ๊งสั่ง "ฉันคนนี้เป็นเจ้าของพลังทะลุ4th wallคนแรกของพหุจักรวาลนี้ ฉันได้ยินที่แกพูดกับผู้อ่านแล้วว่าจะทำให้เรื่องนี้เป็น18+ คนอย่างแกไม่จำเป็นกับโลกโว้คในอุดมคติของฉันหรอก" ที่แท้นี่คือเจตนาที่แท้จริงของอุ๊งอิ๊ง
"ดับสลายไปซะเถอะ ไอ้พวกผู้ชายเหยียดเพศ" อุ๊งอิ๊งพูดอย่างสะใจก่อนหัวเราะเสียงแหลมด้วยมาดนางร้าย
ลำแสงจากปืนใหญ่เลเซอร์พุ่งไปยังเรือแบล็คสกัล จะมีอะไรหยุดยั้งมันได้มั้ยนะ
ระหว่างเดียวกันที่ เครื่องบินที่สตีฟ โดยสารมา
อาบัง ปรากฏกาย
"คิดไว้แล้วว่า ต้องออกมา" สตีฟพูดขึ้นกับอังปริศนาที่มัดระเบิดกับตัว เขารู้อยู่แล้ว เพราะเขาเองได้วนลูปมาแล้วเป็นล้านๆรอบ
"นักฆ่าของอัลเลาะห์อย่างงั้นหรอ" เต้คาดเดา
"ใช่แล้วฉันคือนักฆ่าของอัลเลาะห์ มาเพื่อพิพากษาพวกแก ใครต่อต้านต้องเจอ.." แต่ว่าอาบังพูดไม่ทันจบ เต้ก็เอาดาบคาตานะแทงทะลุปากอาบังทันที แต่ว่าไม่ทันการ อาบังระเบิดทันที ตอนนี้เครื่องบินนั้นยังไม่ถึงปัตตานี แต่อยู่ในเขตน่านฟ้ารัตนโกสินทร์
"แย่แล้ว เครื่องบินเสียหายหนัก" Kกล่าว ตอนนี้เครื่องบินโดนระเบิดใกล้ที่ทางปีกขวาของเครื่องบิน ถึงแม้เต้จะรอดจากระเบิดได้ด้วยวิชาดาบคาตานะที่ฟันแรงระเบิดให้แยกออกเป็นสองส่วนได้แต่ว่า ความเสียหายเครื่องมันมากเกินกว่าที่จะบินต่อไหว
ตัดไปที่ด้านล่าง ศรายุทธ สังเกตเห็นเครื่องบินที่กำลังตกลงมายังที่ที่เรือกำลังประทะกัน
ศรายุทธ : แย่แล้ว นั้นมัน....
"หัวหน้าวิชัย! เครื่องบินนั่นจะตกใส่พวกเราครับ"ศรายุทธ ตะโกน
"แย่ละสิ ระยะแค่นี้หลบไม่พ้นแน่"วิชัยบ่น
"ยกเลิกการยิงปืนใหญ่เลเซอร์ กระจายพลังงานไปที่ปืนแม่เหล็ก ชะลอการตกกับเปลี่ยนวิถีเครื่องบินนั่นซะ"อุ๊งอิ๊งสั่งการอย่างคล่องแคล่ว สิ่งมีชีวิตเหนือกำแพงที่สี่อย่างเธอรู้อยู่แล้วว่าคนสำคัญของศึกนี้อย่างสตีฟ เต้ และKอยู่บนเครื่องบินลำนั้น "ที่เหลือให้คนบนเครื่องบินจัดการ"
"แต่ท่านนายก ชิ้นส่วนเครื่องบินทีาจะตกใส่พวกเราล่ะครับ" พลทหารปืนแม่เหล็กถาม "ถ้าเอาพลังงานไปชะลอการตกของเครื่องบิน เราจะยิงชิ้นส่วยไม่ทันนะครับ"
"วิชัย! ฉันหวังพึ่งอาวุธโบราณของนายได้มั้ย"อุ๊งอิ๊งถามออกลำโพง
"คุรุโควินท์ ต้องขอรบกวนท่านแล้วครับ" วิชัยกล่างกับชายชราท่าทางบอบบางที่ถูกเรียกว่าอาวุธโบราณ ชายชราพยักหน้าช้าๆ ก่อนชักดาบและฟันชิ้นส่วนเครื่องบินเป็นชิ้นๆอย่างคล่องแคล่วเกินวัย
ที่แท้อาวุธโบราณผู้นี้คือโกล่า มนุษย์โคลนผู้มีความทรงจำของ โควินท์ สิงห์ ศาสดาคนที่10 ยอดนักรบในตำนานแห่งซิกข์นั่นเอง
สาวนิรนาม พลัดไหลตามน้ำไปไกลถึงดินแดนแห่งนึง ซึ่งมีชื่อเรียกขานว่าโม่งแลนด์ เป็นสถานที่อันนรก เป็นสถานที่ย่ำแย่ มีแต่คนเหีย เธอถูกช่วยเหลือไว้ได้โดยกองทัพของท่านนายพลจิตเวช
แม่หมอแห่งโม่งแลนด์ตรวจร่างกายเธอพบว่า สาวนิรนามความจำสูญหายจากความมืด แต่สาวนิรนามคนนี้มีพลังงานบางอย่างที่สามารถนำมาใช้ในการกอบกู้แผ่นดินได้ ท่านนายพลจึงสั่งให้ส่งตัวเธอไปฟื้นฟูความทรงจำที่ศรีธัญญาอินดัสทรี่
"ถ้าฉันจะจำอะไรไม่ได้ขนาดนี้ ช่วยฉีดยาให้ฉันตายไปเถิด คุณหมอ.."
สารนิรนามทิ้งท้ายก่อนถูก กระทรวงเวทมนต์ควบคุมตัวไปศรีธัญญา
เวลาเที่ยงวันบนถนนของโม่งแลนด์ จราจรติดขัด
"มึง สิ อี กะ เทย!!! มึงสิๆๆ กูจะแจ้งๆๆ" สภาพวุ่นวายบนขบวนรถ
ตูม!!... เสียงระเบิดm26 ที่หัวขบวนรถ ชายหัวล้าน ไฟเซอร์ เข้าจู่โจมหวังชิงตัวสาวนิรนาม
"วอห้าเก้าแจ้งศูนย์ควบคุม เกิดการปะทะ เปลี่ยนเส้นทางด่วนๆ มีผู้บุกรุก" สิ้นเสียงวิทยุสื่อสาร ขบวนรถหยุดนิ่ง
สาวนิรนามถูกไฟเซอร์อุ้มหายตัวไปอีกครั้ง
หลงเหลือไว้เพียง ป้ายชื่อ ผู้ช่วยอบต.เชียงราย
ตัดภาพไปยังห้องลับ บนตึกร้าง เงียบสนิทและอับชื้น
สาวนิรนาม หมดสตินอนฟุบไปแน่นิ่ง
เสียงฝีเท้าเดินมาหยุดที่ปลายเตียง
ไฟเซอร์ ยืนมองเอามือลูบหัวล้านของตัวเอง
สแยะยิ้มมุมปากโดยไม่รู้ตัว
https://imgur.com/PalmCH0
ณ เครื่องบินที่กำลังจะตก เปิดตัวนักรบแห่งยามาโตะ เจได โกโจ ปวิน สามหนุ่มสามมุม พวกเขาก็โดยสารเครื่องบินลำนั้นมาด้วย
"หึ ถึงตาเราออกโรงแล้วสินะ อาจารย์ปวิน" เจไดเรียกอาจารย์ปวิน และ อาจารย์โกโจ
"กางอาณาเขต" โกโจ ซาโตรุ แสดงวิชา
เครื่องบินที่น่าจะตกกลับลอยขึ้น
"ไอ้พวกสมุนอัลเลาะห์หน้าโง่ คิดว่าจะสู้พวกเราได้ยังงั้นหรอ" ปวินยิ้มสะใจ
"ทำไมพวกล้มเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่" อุ๊งอิ๊งตกใจเมื่อมองไปยังรูที่แตกออกของเครื่องบินกลับเจออาจารย์ปวินในนั้น
"เช้าใจล่ะ ตกลงพวกจิตเวชก็ได้ความทรงจำข้ามจักรวาลมาสินะ"สตีฟสรุปหลังฟังข้อมูลจากออนิวที่ในโลกนี้เป็นนายพลบัญชาการเรือดำน้ำอีกลำของกองทัพรัตนโกสินทร์ โดยแกนนำอินดี้อีก4คนก็อยู่บนเรือดำน้ำลำนี้
เมื่อ4ชม.ก่อน ขณะเครื่องบนตกใกล้น่าน้ำรัตนโกสินทร์ สตีฟ เต้ และ Kได้สวมชูชีพว่ายน้ำออกมาจากเครื่องบินที่กำลังจม อุ๊งอิ๊งในสั่งการให้ออนิวเอาเรือดำน้ำลำที่2ไปรับพวกเขา ส่วนเธอเองเดินทางไปเชียงรายตามกำหนดการณ์เดิม
"ว่าแต่ ผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนกุลปรียาถูกน้ำพัดหายไปสินะ"เต้ถามขึ้นขณะเปรียบเทียบข้อมูลกับทรายที่เป็นฝ่ายข่าวกรองของทางนี้
"ตอนนี้เรวี่ โม่งคุง กับปาล์มมี่กำลังตามหาเธอ" ทรายตอบ "เราเชื่อว่าความทรงจำของเธอคนนั้นไม่ได้เสียหายแต่ถูกผนึกไว้ เพราะในโลกก่อนกุลปรียาเป็นลูกศิษย์คนโปรดของอาจารย์สามารถที่รู้ข้อมูลเรื่องรัฐปัตตานีมากกว่าทุกคน"
"เธอจำไม่ได้แม้แต่ชื่อตัวเอง"วิชัยนึกย้อนความ "แต่เธอมีปฏิกิริยารุนแรงกับคำว่าปัตตานี ความจำของเธอต้องเป็นกุญแจสำคัญในการจบสงครามแน่"
"เรือดำน้ำลำนี้จะพาพวกเราไปถึงปัตตานีได้ทันก่อนพิธีกรรมสาปแช่งจะเริ่ม"ชาดผู้เป็นพลขับเรือกล่าว "แต่เราไม่มีเวลาแวะที่อื่นแล้ว เรื่องผู้หญิงปริศนาคนนั้นคงต้องฝากหน่วยของเรวี่ที่กำลังตามแกะรอยแล้วล่ะ"
ดังนั้น สมาชิกเรือดำน้ำที่2จึงมุ่งหน้าสู่ปัตตานีเพื่อเตรียมทำลายพิธีสาปแช่งและแย่งพลังอัลเลาะห์คืนจากอาจารย์สามารถ
(อะพิมพ์ชนกันอีกแล้ว งั้น หลังรอดจากเครื่องบินแก๊งยามาโตะขึ้นเรือดำน้ำลำที่2มาด้วยกันเถอะ)
"อาจารย์ปวิน คุณมีความเห็นยังไงกับแผนการณ์ของพวกเราครับ"ออนิวถามความเห็นนักวิชาการชื่อดังผู้กลับมาเยือนบ้านเกิดเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
"ดิชันเชื่อว่า โกโจ ซาโตรุ จะชนะแน่นอนในศึกครั้งนี้ เพราะเขาไม่เคยแพ้ใคร" ปวินตอบด้วยความมั่นใจ
เมื่ออาจารย์ปวินยืนยันชัยชนะเช่นนั้น เรือดำน้ำที่2จึงมุ่งหน้าสู่ปัตตานี
ออนิวถอนหายใจย้อนคิดถึงตอนที่มาถึงจุดเกิดเหตุ หลังโกโจกับเจไดพาผู้โดยสารที่รอดชีวิตอพยบขึ้นเรือดำน้ำอย่างปลอยภัย สลิ่มตัวแม่อย่างอุ๊งอิ๊งพยายามจะจับตัวอาจารย์ปวินไปขึ้นศาลในข้อหาล้มเจ้าให้ได้โดยไม่แคร์ซักนิดว่าตัวเองเพิ่งใช้เส้นสายพาโทนี่พ่อแท้ๆของตนออกจากคุกทั้งที่โดนตัดสินว่ามีความผิด พวกเขาแก๊งอินดี้เกลี้ยกล่อมนายกแทบตายกว่าจะยอมปล่อยตัวนักวิชาการมาด้วยเหตุผลว่าอาจารย์ปวินจะช่วยเพิ่มโอกาสชนะในศึกปัตตานี สหายอีก2คนของอ.ปวินก็มีพลังน่าสนใจดี แต่ยังประมาทไม่ได้ ถ้าได้ความจำของสาวปริศนาที่หน้าเหมือนกุลปรียามาด้วยถึงจะประเมินได้ว่าจะชนะจริงมั้ย
.....
ตัดฉากไปที่ตึกร้างไม่ไกลจากอาณาเขตโม่งแลนด์ เรวี่ ปาล์มมี่ และโม่งคุงกำลังเปรียบเทียบข้อมูลที่หามาได้
"ดูจากข้อมูลทั้งหมดแล้ว คาดว่าไฟเซอร์ ผู้ช่วยอบต.เมืองเชียงรายเป็นคนชิงตัวสาวนิรนามที่หน้าตาเหมือนกุลปรียา แม่ทัพแห่งรร.สตรีปิตาธิปไตยในโลกก่อนมาซ่อนไว้ที่นี่"ปาล์มมี่สรุป "ตึกร้างที่ดูโง่ๆนี่มีระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนาพอๆกับชั้น14ในโลกก่อน และไอ้ไฟเซอร์เป็นคนขี้ระแวงมาก ถ้ามีอะไรน่าสงสัยแม้แต่น้อย มันจะพาสาวนิรนามหนีไปรังลับแห่งอื่น เรามีโอกาสครั้งเดียว พวกเธอพร้อมบุกมั้ย"
Peak literature
ตู๊ดๆๆๆ เสียงวิทยุดังขึ้นกลางดึง เป็นการส่งข่าวจากเกาะเอลเดีย มีผู้หลบหนีออกนอกเกาะไปได้ พร้อมไททันเกวียน ยืนยันข้อมูลว่าเธอคือชื่อ มิคาสะ
ตอนนี้หายตัวไป 72 ชั่วโมงแล้วยืนยันรหัสแดง ขอให้แนวป้องกันยกระดับเป็น ระดับ5
ในขณะที่ชายหัวล้าน ได้ทราบข่าวนั่นเขาไม่ได้รู้สึกแยแสแต่อย่างใด เขาเพียงคิดแค่ว่าจะดูแลฝูงเป็ดและปั้นรถถังอยู่ในเซฟเฮ้าส์ของเขาเท่านั้น
ซึ่งแน่นอน สาวนิรนามเธอยังไม่ได้ความทรงจำของเธอมาง่ายๆหรอกนะ รัฐบาลโลกจะต้องออกล่าไอ้ไฟเซอร์ หัวล้าน ในไม่กี่ชั่วโมงนี้แน่ๆ
ปังๆๆๆๆ บึ้มๆ เสียงปืนและระเบิดดังมาจากหน้าเซฟเฮ้า
ไฟเซอร์ที่กำลังแช่น้ำในอ่างอย่ารื่นนม ก็สไลด์ตัวขึ้นลำกระสุนFGM-148 Javelin พร้อมยิงหันอาศาไปทางมุมของสนามหน้าบ้านเพื่อเตรียมปะทะกับกองกำลังไม่ทราบสัญชาติ
โครม! เพล้ง! แก็สน้ำตาพุ่งเข้าหน้าต่างทะลุ ควันพวยพุ่ง บดบังทัศนวิสัยการมองเห็นเหลือ 10%
สาวนิรนามได้กลิ่นแก็สน้ำตาสะดุ้งตื่น เปิดประตูออกมาเห็นชายหัวล้านแก้ผ้า กับเครื่องกระสุน และหรรมอันเหี่ยวย่น
เธอถอนหายใจทิ้งแล้วสลบไปกับภาพหรรมเหี่ยวย่นนั้น ใช่แล้วล่ะสมองของเธอไม่สามารถรับภาพหรรมอันเหี้ยวย่นนี้ได้
ตัดภาพไปที่ปัตตานี คฤหาสน์ของอาจารย์สามารถ ที่กำลังบูชาอัลเลาะห์
"อัลเลาะห์อักบาล อัลเลาะห์อักบาล อัลเลาะห์อักบาล" เหล่ตาผู้ศรัทธาในอัลเลาะห์กล่าวขาว
(ย้อนอดีต)
นี่คือเรื่องราวเริ่มต้นของอัลเลาะห์ ลูกที่ 1 ของมหาจักวาล เริ่มต้นที่มีเพียงความว่างเปล่า จู่ๆก็เกิด บิ๊กแบงครั้งใหญ่ขึ้น หลังจากนั้นได้เกิดไข่สองฟองอยู่กลางความว่างปล่าว ไข่นั้นฟักตัวออกมา เป็น อัลเลาะห์ และ ยะโฮวา ทั้งสองเป็นมีพลังดั่งพระเจ้า สามารถสร้างทุกสิ่งได้อย่างที่ใจปรารถนา ตอนแรกทั้งสองสร้างกฏที่เรียกว่าแรงโน้มถ่วงทำให้ลูกบอลนั้นดึงดูดหากันไปมา นานนับหลายล้านปี
"น่าเบื่อจังเลย" อัลเลาะห์เอ่ยไปที่ยะโฮวา ไม่อะไรให้ทำมากกว่านี้หรือ
"นั้นสินะ" ยะโฮวา ตอบเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันก็พวกเขาเกิดมาทำไมในมิติที่ว่างเปล่านี้
"อยากรู้จักว่าพลังของพวกเราสามารถรถสร้างสิ่งที่รู้คิดแบบพวกเราได้ไหม" อัลเลาะห์ผุดไอเดีย
ใช่แล้วนั้นคือสิ่งที่ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าโลก อัลเลาะห์และยะโฮวา เขาต้องการสร้างสิ่งที่รู้คิด เขาจินตนาการทั้งหมดและสร้างระบบต่างๆขึ้นนั้นเป็นเรื่องหลายปีที่แล้ว แต่ว่าเรื่องราวก็ดำเนินต่อไปหลายล้านๆๆๆๆๆๆๆปี ยะโฮวาอยู่ๆก็ลงไปที่โลกมนุษย์เพื่อประกาศศักดาและสร้างอารายะธรรมขึ้น มนุษย์ฉลาดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอัลเลาห์พอเห็นสิ่งนั้นก็เลยเอามั่งเขาลงไปเพื่อ สร้างความพักดีแก่มนุษย์เพื่อพักดีเขาเช่นกัน
ซึ่งอัลเลาะห์นั้นกลับมีความขี้อิจฉาแบบเด็กๆ เขาใส่ไฟเรื่องราวความเชื่อในยะโฮวาเป็นสิ่งที่เลวร้าว ทำให้เกิดสงครามที่ ฆ่ากันของมวลมนุษยชาติ
"ทำไมทำอย่างนั้นล่ะ อัลเลาะห์" ยะโฮวาถามอัลเลาะห์
"ก็มัน ฮาดีนี่ สิ่งมีชีวิต ที่บอกว่ามีสติปัญญา แต่สุดท้ายก็ฆ่ากันไม่ต่างจากเดรัจฉาน" อัลเลาะห์ตอบ
ยะโฮวา มองดูที่มนุษย์กับลังฆ่ากันแล้วก็รู้สึกสังเวช
"น่าเบื่อ จริงๆ ไอ้พวกมนุษย์น่าโง่" อัลเลาะห์พูดอย่างไม่สบอารมณ์
อัลเลาะห์ที่อยู่ในระหว่างเบื่อหนายนั้นก็คิดขึ้นมาได้
"ยะโฮวา พวกเรามาเล่นเกมส์เดืมพันกันไหน?"
"หือ เล่นอะไรล่ะ" ยะโฮวากล่าวตอบ
"เจ้ากับข้าจะเลือกตัวแทนมาหนึ่งคนโดนมาสู้ในศึกสุดท้ายถ้าเจ้าชนะข้าจะปล่อยพวกเขาสู่'แดนสวรรค์ที่แท้จริง'"
"แต่ถ้าเจ้าแพ้ข้าจะกวาดล้างพวกมันให้สิ้นและส่งพวกมันไปสู่'ดินแดนนรก'"
"เจ้าจะลองเดิมพันดูไหนล่ะ"อัลเลาะกล่าว
ยะโฮวาดูคุมคิดเล็กหน่อยก่อนตอบ
"ได้สิข้าเดิมพัน!"
"งันเจ้าจะเลือกใครล่ะ"
"ข้าจะแบ่งพลังให้ชายหนุ่มที่ชื่อสตีฟ"
"งั้นข้าจะเลือกเจ้าหมอนั้นแล้วกัน"
อัลเลาะห์ที่ชายคนหนึ่งส่วนชุดมิดชิดที่กำลังเพยแพ่ศาสนาให้กับผู่คนอยู่
(กลับมาในปัจจุบัน)
ในระหว่งที่ผู้ศรัทธาในอัลเลาะห์กำลังเรียกขานอยู่นั้นจู่ก็มีแสงสีทองปราฎขึ้น
"อัลเลาะห์ทรงปราฎกายแล้ว!" ผู้ศรัทธาในอัลเลาะห์ต่างตะโกนด้วยเสียงขำรามก้อง
ผู้คนในบริเวณนั้นต่างตื่นตะลึงกับภาพที่เห็น
บนท้องฟ้านั้นปรากฎร่างเงาที่แทบจะบดบังดวงอาทิตย์ทั้งดวงได้
ร่างนั้นค่อยทอดมองมาที่คฤหาสน์
ที่สถานที่ทำพีธี ชายที่ส่วมชุดมิดชิดเดิมเข้ามาข้างหน้าเหล่าสาวกก่อนคุกเข่าลง
"ยินดีต้อนรับครับท่าน"ชายที่ส่วมชุดมิดชิดตอบ
"สมกับเป็นคนที่ข้าเลือก ในสุดเจ้าก็ทำสำเร็จข้าจะประธานพลังให้กับเจ้า"
"พลังนั้นมีนามว่า Over Soul!!!"
แต่ที่นี่ไม่เบื่อหน่าย
หมอนๆ ตื่นนอนขึ้นมาก็เจอ ห้องเดิม หัวล้านคนเดิม
"ไง คนขี้เซา วันนี้ วันแต่งงานของเรานะ อย่าตื่นสายสิ เดี๋ยวเสียฤกษ์ " ไฟเซอร์ ในชุดเจ้าบ่าว พูด
หมอนๆ งุนงง อยู่ ก็พบ แม่ปาดน้ำตา ส่วนพ่อก็ดีใจ ที่ลูกเป็นฝั่งเป็นฝาสักที
"อจ.น้องไหน ใช้วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตา พามานะ อาบน้ำแต่งคัวเถอะลูก" แม่พูด
หมอนๆ ก็ไปอาบน้ำแบบงงๆ น้ำจากฝักบัว ไหลไปตามส่วนสัดของวัยสา่ว
เธอรู้สึก over heat ขึ้นมาทันที วันนี้ก็มาถึงแล้วสินะ
เธอถูสบู่ไปทั่วๆ อก 35 ที่มีฟองสบู่ได้ไหลออก เผยถึงผิวอันขาวเนียน
ร่างอวบอัด ได้ถูกถูไปตามซอก ต่างๆ เพื่อการใช้งานในเม้นหน้า
เมื่อหมอนๆ ออกจากห้องน้ำ ช่างได้รอ พรอมชุดเจ้าสาว
หมอนๆ ในขุดเจ้าสาว ทำให้ แม่น้าตาไหล แล้วพาเธอ ไปรดน้ำสังข์ทันที
หัวล้านยิ้มยินดี วันนี้ มีได้เพราะ อจ.น้อง คืนนี้คงยาวนานแน่ๆ
จนเสร็จงาน
เจ้าสาวหมอนๆ อยูาบนเตียง ไฟเซอร์ เดินมาเชยคาง แล้ว จุมพิ๖ ไป 1 ที
"วันนี้ คุณสวยมากที่รัก เรามาต่อ ให้จบกันเถอะ" หัวล้านพูด ขณะ ถอดชุดตัวเองออก
"ไม่นะ" หมอนๆ ขัดชืน เมื่อไฟเซอร์ เริ่มไซ้ซอกคอเธอ หมอนๆกลัว ไฟเซอร์น้อย ขนาดยาว 3 เซน มาก
แต่แรงหญิงหรือจะสู้แรงชาย โดนไซ้ หนักๆ หมอนๆ มีคราง
ชุดเจ้าสาว ถูกเปลื้องออกทีละชิ้น ส่วนไฟเซอร์ ก็เลื่อนลงมาดูดนม 35 ทันที
"ซีด.." หมอนๆนอนส่ายไปมา
หลังจากจัด นม ทั้ง 2 เต้า หัวล้าน มุ่งไปที่ ป่าอาถรรพ์ที่เนินล่าง ทันที
แต่ สติ ของไฟเซอร์ ก็หายไป
จอดำ
end credit ขึ้น
ผู้กำกับตบมือ "ถ่ายจบแล้วน้อง ไปกินหมูกระทะกัน"
ขณัที่ หัวล้าน งง ก่อนขะโวยวายอีกครั้งว่า
"จบแบบนี้ได้ไง ไหนว่าจะ 18+ ไง ขี้โกง"
ผกก มีสีหน้าเยื่อๆ ว่า เขาคุยกันแล้ว จบแบบนี้ สนุกกว่า
เป็นปลายเปิด ไง ไปๆ ไปกินหมูกระทะกัน ไปช้า อดนะมึง
ไงๆ หนังเราก็สนุกกว่า คนที่เล่นประเด็นศาสนาอยู่แล้วละ
แล้ว ผกก กับ ทีมงาน ก็เดินจากไป พร้อม คุยว่า โปรเจคหน้า จะไปทำหนัง ฮิปโปแคระ ที่ เขาเขียว
ทิ้งให้หัวล้าน คลุ้มคลั่ง อยู่คนเดียว
หมอนๆนั่งกินหมูกระทะกับผู้กำกับหนังอย่างสบายใจ นึกชมตัวเองที่สร้างสถานการณ์ให้หนีรอดจากไฟเซอร์มาได้โดยไม่ต้องเสียตัว
ถูกเล้ว ชื่อของเธอคือ หมอนๆ หรือ "สายสมร" เธอไม่ใช้กุลปรียาที่พวกนักรบข้ามจักรวาลกำลังตามหา ความจำของเธอกลับมาจากแรงระเบิดในคืนที่กลุ่มของเรวี่และมิคาสะบุกบ้านลับของไฟเซอร์ในโม่งแลนด์พร้อมกันจนเกิดการปะทะใหญ่โต ที่แท้เธอเป็นน้องสาวของกุลปรียาที่ไม่เคยมีส่วนร่วมในการต่อสู้เมื่อโลกก่อน
หมอนๆมอบข้อมูลให้เรวี่เท่าที่เธอรู้ เรื่องกุลปรียาตัวจริงอยู่ที่ปัตตานีและอาจารย์สามารถไม่ใช่ผู้สิบทอดพลังสูงสุดของอัลเลาะห์ แต่ผู้สืบทอดตัวจริงคือชายมุสลิมชื่อ "อับดุลรอนิง" ที่นั่งกินเนื้อกระทะอยู่หน้ามัสยิดในภาคไอดอล
ทีมของเรวี่ตอบแทนข้อมูลของหมอนๆด้วยเงิน10ล้านบาทและคอนแทคต์ทีมภาพยนต์ที่มาช่วยเธอจากไฟเซอร์ ตอนนี้หมอนๆเป็นอิสระจากทั้งการต่อสู้และคนโรคจิตหำเหี่ยวแล้ว เธอจะใช้ชีวิตฟินๆด้วยเงินที่ได้มาจนกว่าโลกนี้จะล่มสลายอีกรอบ หรือถ้าพวกนั้นกู้โลกสำเร็จก็ดีไป
(ตัดไปที่เรือดำน้ำของสตีฟ)
"ถึงเวลาที่ดิชั้นจะแสดงความสามารถแล้วสินะ" อาจารย์ปวิน พูดขึ้น พร้อมกับเรียกทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องทีวี
"อาจารย์ปวิน คุณจะทำอะไรหรอ" ออนิวเอ่ยถาม
"หึ เดี๋ยวก็รู้" อาจารย์ปวิน เอามือขึ้นมาวางบนทีวีพร้อมแสดงพลังบางอย่องเขากล่าวเรียกสแตนด์ของเขา Hermit Purple
"อย่าบอกนะว่า อาจารย์ปวิน"
"ใช่แล้วล่ะออนิว นี่คือความสามารถในการอ่านความคิดของศัตรูโดยการอ่านพลังจิตผ่านทีวียังไงล่ะ"
ปวินเริ่มทำการใช้ Hermit Purple ไปยังทีวี
*ฟึบ ฟับ ฟึบ ฟับ
ทีวีที่กำลังเปลี่ยนช่องไปมา
"ข้อความจากทีวีเหมือนกำลังออกมาแล้ว" เจไดพูดขึ้นด้วยท่าทางตื่นเต้น
และข้อความในทีวีก็ปรากฏว่า "ใน หมู่ พวก เรา มี คนทรยศ" ทำให้ทุกคนในเรือดำน้ำมีสีหน้าตกใจ
"หมายความว่ายังไงกันอาจารย์ปวิน" เจไดถามด้วยความสงสัย
"ก็หมายความว่าอย่างที่ทุกคนได้เห็นไปนั้นและ" อาจารย์ปวินตอบ "ในหมู่พวกเรามีคนทรยศ"
นี่มันคือเรื่องอะไรกันแน่ และใครกันที่คือ Imposter ที่แฝงตัวเข้ามา
เป็นรุกแต่รูโบ๋ ผิดปกติหรือเปล่าครับ
เคยเป็นรับแค่ครั้งเดียวเอง รูโบ๋เลยครับ
โบ๋ ดีกว่าปลิ้นนะ
นั้นคือคำพูดของซามูไรมืด ยาสุเกะ นี่พูดอะไรก็ไม่รู้
"พูดอะไรของแกน่ะ ยาสุเกะ" เจไดถามอย่างสงสัย
ยาสุเกะ คือหนึ่งในตัวละครที่เคยโผล่มาที่ดาวยามาโตะ เขาตามพวกของเจไดมาโดยไม่มีใครทราบสาเหตุ
*เพล้ง จู่ๆยาสุเกะก็เอาดาบทาจิ ฟาดไปที่ทีวีที่อาจารย์ปวินใช้โทรจิตความคิดของศัตรูทันที
"ทำอะไรของแกน่ะยาสุเกะ" เจไดตะโกนถามทันที
ไม่ทันที่ยาสุเกะจะตอบ เต้ก็เอาดาบคาตานะ พุ่งไปที่ยาสุเกะแล้วฟันยาสุเกะขาดครึ่งทันที
แต่ว่าภาพที่ยาสุเกะถูกฟันตัวขาดครึ่งกลับจางหายไป กลายเป็นภาพลวงตา พร้อมทุกคนที่มองหายาสุเกะตัวจริง ก็พบยาสุเกะนั่งแอคที่โซฟาอยู่ข้างหลังพวกเขา พร้อมยาสุเกะที่พุดประโยคว่า "อัลลอฮุอักบัร"
"หมายความว่ายังไงกันแกคือผู้ทรยศอย่างสินะ ยาสุเกะ"
ท่ามกลางความงุงงงของผู้คน และแล้วผู้ทรยศก็ปรากฏกาย
การต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว ยาสุเกะเปิดฉากการโจมตีด้วยดาบทาจิของเขา ดาบทาจิของเขามีคุณสมบัติพิเศษสามารถยืดได้ยาวถึง 50 เมตร เขาตวัดดาบแค่สองสามที เรือดำน้ำก็ถูกฟันเป็นส่วนๆไม่ต่ำกว่า 10 ส่วน
"แย่แล้วเรือดำน้ำเรา" "อาจารย์โกโจคุณต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว" ปวินตะโกนไปที่โกโจ
อาจารย์โกโจกำลังจะใช้ความสามารถบางอย่าง แต่ว่า สตีฟ ได้หยุดโกโจไว้พร้อมบอกว่า "ผมจัดการการเอง" พร้อมใช้พลังบางอย่าง สตีฟพูดเรียกใช้ความสามารถ "สมาน!!!!" เรือดำน้ำที่ควรจะถูกทำลายไปแล้วกลับคืนสู่ภาพเดิม
"คุณทำอะไรน่ะครับคุณสตีฟ" เจไดที่คิดว่าทุกคนจะไม่รอดแล้วถามขึ้น
"นั่นคือหนึ่งในความสามารถของฉันยังไงล่ะ" สตีฟตอบ "แต่ว่าเพื่อป้องไว้ว่าเจ้า ยาสุเกะจะไม่ทำลายเรือเราอีกรอบฉันจะใช้พลังเพื่อป้องกันไม่ให้เรือดำน้ำถูกทำลาย เต้ คุ้มกันเราด้วย "ได้เลย สตีฟ" เต้ขานรับ
ระหว่างนี้เลยทำให้สตีฟและเต้ ไม่สามารถเข้าร่วมการต่อสู้กับยาสุเกะได้
และออนิวเขาโดนดาบของยาสุเกะฟันเข้าให้แล้วในตอนที่ยาสุเกะตวัดดาบฟันเรือทำให้เขาได้รับบาดเจ็บแต่ว่าไม่ใช่แค่นั้น การฟันของยาสุเกะไม่ได้มีแค่นั้น ออนิว ค่อยๆกลายร่างเป็น นิโกรคนดำแล้ว
"ความสามารถอีกอย่างของยาสุเกะอย่างนั้นหรือ ที่ทำให้คนที่โดนฟันกลายเป็นนิโกรได้" ปวินวิเคราะห์ความสามารถของยาสุเกะ พร้อมเหงือที่ไหลริน แล้วปวินก็หันไปมองที่อาจารย์โกโจพบว่า อาจารย์โกโจเองก็ได้โดนลูกหลงตอนที่ยาสุเกะตวัดดาบฟันไปนิดนึงที่แก้มของเขา
"อาจารย์โกโจ คุณเองก็โดนกำลังจะโดนความสามารถนั่น"
นี่หรอคือพลังที่ของยาสุเกะ และอาจารย์โกโจที่โดนคมดาบของยาสุเกะกำลังจะกลายเป็นนิโกรอีกคนอย่างนั้นหรือ
"ไม่ปล่อยให้ทำแบบนั้นหรอกน่า!"วิชัยที่นั่งเงียบไม่มีบทมานานตะโกน ก่อนสั่งการอาวุธโบราณที่เตรียมมาใช้กับพวกมุสลิม
"คุรุโควินท์ กรุณาใช้วิชาลับด้วยครับ!"
ชายชราชาวซิกข์ชักดาบสั้นกิรปาณออกมาปาดที่แผลโดนดาบทาจิของออนิวและอาจารย์โกโจไปคนละที
การกลายเป็นนิโกรมุสลิมของทั้งคู่ช้าลงแต่ยังไม่หยุดสนิท
"ดาบสั้นของท่านคุรุโควินท์มีพลังเปลี่ยนคนใช้เป็นนักรบซิกข์บ้าคลั่งที่ฆ่ามุสลิมไม่หยุดได้"วิชัยอธิบาย
"ตอนนี้พลัง2อย่างกำลังสะเทินกันเองในตัวพวกเขา ก็ต้องลุ้นล่ะนะว่าอย่างไหนจะชนะ หรือพวกเขาจะเอาชนะพลังทั้ง2อย่างได้เอง"
ตอนต่อไปมาวันไหน
คนแต่งหมดไอเดีย
ต่อจากนี้นะ >>950
ณ สวนสัตว์แปลก เขาเขียวเหนี่ยวทรัพย์
สิต ไอดอลสุดน่ารัก ในชุดเสื้อยืด กุงเกงขาสั้น กำลังอาบน้ำให้ คาปิบาร่า
แต่มันก็สะบัดตัวจน ทำให้ เสื้อของ สิต เปียกปอน
เหล่าทีมงาน กล้องเมม 2 ถ่ายเสย เก็บไว้พอดี อ่า....
หลังถ่ายinsert เสร็จ ก็พักกลางวัน ทีมงานเตรียมไปถ่าย ฮิปโปแคระต่อ
"งานนี้ ต้องดีที่สุดเท่าที่มีมา หลังถ่าย softcore ก็ต้องต่อด้วย soft power นี่ละ "ผกก อัครพล คิด
จะว่าไปถ้า ไม่ได้พี่ชายที่เป็น รมช ท่องเที่ยว ยื่นมือมา งานนี้ เขาและ เพื่อนพ้อง พับจี อาจไม่ได้ทำงานนี้เลยก็ได้
ขณะเดียวกัน รมช อัครเดช ได้เดินออกมาจะกินข้าว นักข่าวได้กรูมายิงคำถามทันที
"ท่านค่ะ จริงไหมค่ะ ที่โครงการถ่ายหนังหมูเด้ง ของทางการ มีการล็อคสเปคไว้ "
ทั่น รมช หันกลับไปตอบว่า
" ท่านเราเลือกเฟ้นมาดีแล้วครับ รับรองว่า งานดี แน่นอน " รมช ยิ้ม
โอ้ย หิวข้าวโว้ย ถามเพื่อ รมช คิดในใจ
" แล้วจริงไหมค่ะ ที่งานนี้ คนรับไปทำ คือ น้องชายท่าน ที่ก่อนหน้านี้ มีงานหนัง R 1 เรื่องเท่านั้น เพราะ
ก่อนหน้านี้ ต้องดูแลแม่ที่ป่วย จนตอนนี้ แม่ท่านเสียแล้ว ท่านเลยหางานให้น้องท่านทำงาน
ส่วนเหล่าทีมงาน คือ อดีต นีทพับจี ที่เพิ่งมาทำงานกัน " นักข่าวสาว ยิงรัวๆ
บ้าเอ้ย สิงเสาเอกบ้านกูรึไงว่ะ รู้ดีเหลือเกิน สาด แล้ว รมช ก็ตอบกลับไปว่า
" ทีมงานมีคุณภาพ อย่าเพิ่งด้อยค่า ผมมั่นใจในฝีมือ พวกเขาครับ ขอตัวนะครับ "
การ์ด นาฬิกา โอแเวอร์วอท มาช่วยกัน รมช ออกไปทันที
"ท่านค่ะๆ เดี๋ยวก่อนค่ะ " นักข่าวพูด
ส่วนที่ เขาเขียว ไฟเซอร์ ได้เดินหน้าเคร่งเครียดไปหา ผู้กำกับกองถ่ายทันที
" จะถ่ายหนังผม กับ หมอนๆ อีกเมื่อไหร่ " ไฟเซอร์ ถาม
ผกก ไม่มองหน้าไฟเซอร์ คลำ โอเด้งย่า มากิน ก่อนตอบว่า
" พอแล้ว ไม่รู้รึ คนแต่งพิมพ์ คราวก่อน มีหมาไปบอก บอสเซิร์น ให้แบนไป 2-3 วัน
เลยแต่งได้แค่ ประมาณนี้ " บ้าจริงขนมหมดสะได้ ใส่น้อยจีงว่ะ ผกก คิด
" แต่ ผกก ค้องถ่ายเรื่องใหม่ ผมนะ สนืทกับ เทวดาที่เชียงรายมากนะ " ไฟเซอร์เบ่ง จนตัวพอๆ กับ สลอธ เชาเขียว
ผกก หันไปมองหน้า " คนที่นี้ ก็มีเทวดา ดูแลทั้งนั้นนะ อย่าเรื่องมาก กลับไปจัดไฟซะ "
ผกก หันไปคุยกับทีมงาน " วันนี่ โชคดีเว้ย ผู้สมัคร มิสแกรนด์อินเตอร์มา 70 กว่าคน ถ่ายเสยให้เต็มที่ ว่ะฮะฮะ"
ขอบคุณครับ นี่ arc ขั้นเวลาสินะ
เชี่ยเอ้ยกูเม้นก่อนอ่าน ไอสัส เสื่อมชิบหาย
ในกรณีที่มีการสอบสวนหรือดำเนินคดีโดยรัฐบาลหรืออะไรที่คล้ายกัน ข้าพเจ้าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับกลุ่ม หรือบุคคลที่อยู่ในกลุ่ม ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าตัวข้าพเจ้านั้นเข้ามาอยู่ได้ด้วยสาเหตุอันใด ข้าพเจ้าอาจถูกบุคคลที่สามนำบัญชีของข้าพเจ้ามาเข้ากลุ่มนี้ ข้าพเจ้าขอยืนยันว่า ข้าพเจ้าไม่ได้สนับสนุนการกระทำที่เกิดจากสมาชิกในกลุ่มนี้ใดๆ 連邦機関などによる調査の場合、私はこのグループまたはその中の人々と関与していません。私はここにどのように住んでいるのか知りません。おそらく第三者によって追加されたものです。このグループのメンバーによる In case of an investigation by any federal entity or similar, I do not have any involvement with this group or with the people in it, I do not know how I am here, probably added by a third party, I do not support any actions by the members of this group. En caso de una investigación por parte de cualquier entidad federal o similar, no tengo ninguna participación con este grupo o con las personas que forman parte de él, no sé cómo estoy aquí, probablemente agregado por un tercero, no apoyo ninguna acción por los miembros de este grupo. Im Falle einer Untersuchung durch eine föderale Einrichtung oder ähnliches habe ich keine Beteiligung an dieser Gruppe oder den Menschen darin, ich weiß nicht, wie ich hier bin, wahrscheinlich von einem Dritten hinzugefügt, ich unterstütze keine Maßnahmen von den Mitgliedern dieser Gruppe. 如果任何联邦实体或类似机构进行调查,我与该团体或其中的人员没有任何关系,我不知道我在这里,可能是由第三方添加,我不支持任何行动由这个小组的成员。 В случае расследования со стороны какого-либо федерального субъекта или аналогичного, я не имею никакого отношения к этой группе или к людям в ней, я не знаю
เชียงรายในตอนนี้ปกคลุมไปด้วยโคลน ทั้งในบ้านเรือน และไร่นา ตัดขาดจากโลกภายนอก
แต่ก็ยังโชคดีได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบานโลกตระบัดสัตยฒ กองทัพส่งรภถังมาตักดินออกจากบ้านผู้คนที่ยากไร้
แม้ว่ารองนายกอบต. ไฟเซอร์ สุภาพบุรษบอสฝูงเป็ด รักใครรักจริง รักเดียวใจเดียว จะต้องอาศัยนอนในวัดมาแล้วหลายเดือน
เพราะบ้านเปลอะขี้โคลน ผ้าโม่ย โฟโตเซตและรูปโป๊ที่สะสมมาปลิวหายไปกับกระแสน้ำวิปโยค แต่กระนั้น
ไฟเซอร์ยังคงส่องกระจกดูหัวล้านของตัวเอง แล้วพูดคนเดียวในลำคอเสียงนุ่มๆ
"จะเป็นให้ได้เลยสินะ...คนขับรถถังน่ะ หึ หึ"
กูแต่งต่อเอง
นี่เป็นเรื่องราวของนาย เค หรือชื่อ เคคุง แห่งดินแดนข่าวปด
กลุ่มปดตอนนี้พัฒนาไปไกลมากจนนาย เค ไม่มีที่ยืน ในอดีตชีวิตของนายเคนั้น เรียนจบแค่ มอ.3 ขึ้น ม.4 เข้าชมรมดนตรีเป็นแรปเปอร์ ฝึกฝนแร็ป ออกประกวดกับกลุ่มเพื่อนเพื่อทำตามความฝัน กำลังจะได้ขึ้นเวทีประกวดแรปอิสนาว แต่ว่าจับได้ใบแดง ติดทหารสองปี อดเป็นแรปเปอร์แบบที่ฝันไว้
ชีวิตของชั้นช่างน่าอดสูนักนายเค ออกมาจากทหารหางานไม่ได้เรียนจบแค่ ม.3 เขาระเห็ดเร่ร่อน สุดท้ายเขาไปจบที่ดินแดนแห่งสายสัมพันธ์
"นี่มันดินแดนแห่งพันธสัญญาสินะ" เขามาถึงจุดแคมป์ของเหล่าโอตะ ที่มาออกันหน้างานกว่า 3 ล้านคน กลิ่นตัวเหล่าโอตะคะคลุ่งไปทั่ว
"แม่งเอ้ยทำไมพวกมันไม่ยอมทาโรออน" เคคุงทนกลิ่นเหม็นสาปไม่ไหว เขาคิดถึงสหายเก่าทั้งเพื่อนทหารเกณฑ์ และ ชาวปด เขาโหยหวน เคคุงจะทำยังไงต่อไปกันนะ
ใช่แล้วเขานึกถึงสมัยแรปอิสนาว เขาว้ากตะโกน "พวกโอตะเหม็นเปรี้ยวเอ่ย จงฟังชั้นซะ นี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาจมปลักกับการตามไอเด้าเต้นกินรำกินพวกนี้" เคคุงประกาศกร้าว
นี่คือบทเพลงแรปของเขา
"พวกโอตะไร้ค่า แกเป็นบ้าอะไร
ตามหอยโง่งมงาย ตัวมึงเหม็นเหมือนควาย โย่วๆ
พวกโอตะเดนนรก สกปรกเกินไป โรออนทาบ้างไหม
เอาเวลาที่ว่าง ทำให้สมองสร่างไหม เอาเวลาที่ว่าง ไปซักผ้าล้างจานไหม โย่วๆ
โอตะสกปรก อัปลักษณ์ซกมก โสโครกหมดจด ลบไม่หมด ลบไม่หมด
โอตะสกปรก อัปลักษณ์ซกมก ลบไม่หมด ลบไม่หมด"
เสียงแรปของเคคุงดังก้อง
เหล่าโอตะได้ยินถึงกับบรรลุในพระธรรม
"เหล่าเสียเวลาไปทำไมกัน" โอตะคนหนึ่งถึงกับพูดขึ้นพร้อมร้องไห้
"แทนที่เราจะเอาเวลาไปอาบน้ำ"
"ใช่แล้วพวกมึงน่ะควรเอาเวลาไปดูแลตัวเองก่อนล้าหี" เคคุงสั่งสอนพวกโอตะ
โอตะทั่วแผ่นดินซึ้งในคำสอนของเคคุง โอตะเลิกเป็นสวะสังคม
"พวกเราไปอวบน้ำล้างจาน" เหล่าโอตะแห่หนีออกจากงานไอดอล
และแล้วยุคสมัยของโอตะและไอดอลก็จบลง
ตอน แพนเค้กที่เละอยู่บนพื้น ตอนพิเศษ
เหตุการณ์ตอนที่แล้ว :ตูมมมมม พลังโมเอะญี่ปุ่น ปฐมยุค ของจิตเวชแรกกำเนิด เข้าจู่โจม องญเกาหลีเกลือ พลังโจมตี 1000 ล้าน เข้าใส่ร่างองญ ไร้ทางต่อต้านโดยสิ้นเชิง องญเกลือพ่ายแพ้!! อย่างไม่คาดคิด ไม่มีผู้ใดคาดเดาถูก นี่คือพลังของจิตเวช ไร้เทียมทานเสียจริง
สิ่งที่เหลือ เป็นเพียงกระดาษพับจรวจสีสันผ้าฉูดฉาด แปลกตา 6 จรวจ เท่านั้น ราวกับของที่เหลืออยู่คือกระดูกขององญเกลือ ลูกกระจ๊อกที่เหลือต่างแตกรังทันที จิตเวชได้ส่งหน่วยต่างๆเข้า
จู่โจมทั้งทาง1000ทิพย์ ท่อแดง นกX เฟสบนบก การต่อสู้จบลงด้วยความรวดเร็ว นี่จะเรียกต่อสู้ได้อย่างไร มันคือการสังหารหมู่ชัดๆ
อยู่ๆ โม่งป้าข้างบ้านที่สะบักสะบอมหนีทัพ ก็กล่าว ข้าไม่อาจแพ้มินต์ๆๆ พวกเขาท่องย้ำๆในใจ ราวกับคนสูญเสียสติ
"เจ้าพ่ายแพ้ให้ข้าแล้วโม่งป้าข้างบ้าน แหล่งพลังงาน เกลือของเจ้า ได้ดับสูญไปเรียบร้อยแล้ว ตัวเจ้านั้นจะเอาพลังมาจากไหนมาต่อสู้ได้อีก ฮ่าาาา555555+"
การต่อสู้จบลงด้วย ด้วยความรวดเร็ว โม่งป้าข้างบ้านโดนกระทืบสะบักสะบอม ฟันร่วงหมดปาก ตาบอดทั้ง 2 ข้าง นิ้วมือทั้ง 10 ล้วนหัก ทั้งสิ้น ไม่สามารถพิมอะไรได้แล้ว
โม่งจิตเวชดั้งเดิม กำลังง้างเท้าพร้อมกระทืบโหลกให้แหลกเละคาตีน พร้อมกับพูดว่า " มีอะไรจะสั่งเสียไหม แต่จู่ๆได้กลิ่น แพนเค้ก เชื่อมน้ำผึ้ง หอมๆ จากโรงอาหารพอดี
โม่งป้าข้างบ้านกล่าว เราอยากให้ม่วงมินต์ยุบไปซะ ยังไงองญเกลือก็ไม่อยู่แล้ว แต่หางตาก็เกลือบไปเห็น แพนเค้ก
อยู่ๆ โม่งป้าข้างบ้านก็พูดด้วยเสียงแหบพร่า "อยากกินแพนเค้ก"
เอ้ากินซะสิ จิตเวชดั้งเดิม โยนแพนเค้ก จนเละลงพื้นดูไม่น่ากินสักนิด แล้วโม่งป้าข้างบ้านก็เริ่มคลาน ง่ำกินไปนึงคำ@#!#@!#@!$!#$%@$ อยู่ โม่งป้าข้างบ้านอาการกำเริบทันที
พร้อมน้ำตาที่หลั่งริน
"ข้ายังไม่อยากใต้ตีนมินต์ ข้าอยากมีตัวตน เราไม่อยากอยู่แล้วถ้าไม่มีองญเกลืออยู่ด้วย
เราอยากชิมเกลือ เราอยากให้ม่วงผงาด เราอยากดับสูญพร้อมกับองญเกลือ
เราอยากกินแพนเค้กของม่วง เราอยากมีชีวิตอยู่ต่อ ถ้าไม่มีองญเกลือ เราไม่อาจชนะมินต์
เราไม่อยากอยู่แล้ว ถ้าไม่มีองญเกลืออยู่ เราขอไม่มีชีวิตดีกว่า
ถึงจะไม่มีองญ เกลืออยู่ เราอยากกิน แพนเค้กของม่วง ขอแค่ได้กิน เราอยากมีชีวิต เราอยากมีชีวิต
เราไม่อยากตาย
ดวงจิตเวช มองร่างไร้สติ ที่กำลัง พยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอด หลังจากสูญเสียองญเกลือไป
"ดีแบบนี้แหละข้าชอบ 555555555+ ปิดฉาก องญเกลือที่เจ้าภาคภูมิใจซะ ปลิดชีวิต มันซะเดียวนี้ อย่าปล่อยให้เศษกระดูกกระดาษพับ6จรวจยังหายใจรวยรินอยู่"
โม่งป้าข้างบ้านกรีดร้องราวกับคนเสียสติ พุ่งเข้าหาองญเกลือทันที ฉีกกระดาษแล้วกระดาษเล่าจนไม่อาจปะติดปะต่อกันได้อีก
เมื่อนั้นจิตของเขา ก็เข้าสู่โลกนรกกันต์ทันที!!!
"ข้าจะช่วยให้เจ้าได้ใช้ชีวิตใหม่ในฐานะ โม่งป้าข้างบ้านไม่มีต่อไปอีกแล้ว คนพิการอย่างเจ้า โม่งม่วงvoid
ข้าจะเปลี่ยนเจ้าเอง ต่อจากนี้ เจ้ารับหน้าที่ดูแลพื้นที่ดับสูญ เจ้าจะมีชิวตอยู่ต่อในฐานตัวตนใหม่ ฮ่าๆๆๆ
ยิ่งข้าทำให้คนเป็นจิตเวชมากเท่าไร พลังก็กล้าแข็งขึ้นเท่านั้น นี่คือ โลกที่จิตเวชสร้างขึ้นมา
ผู้คนทั่วทุกสารทิศต่างหวาดกลัวเขา ชื่อเสียงกระฉ่อนไปไกล ตัวตน ไร้พ่าย จิตเวชปฐมบรรพชน ฉายา จิตเวชแรกกำเนิดoriginal
.
จบตอน... แพนเค้กที่เละอยู่บนพื้น
ภาคต่อไป 5 ปลิงดูดเลือด แห่งควายร่า
ปะทะ พลังในเงา
จิตเวชเหงาเลยวันนี้มีมันคุยอยู่คนเดียวในมู้ไอดอล ID6:OSJRrnSPqD >>>/music/19025/
จิตเวชน้ำก๊อกคู่ขาที่คอยคุยกับมันก็ไม่อยู่ พวกมึงก็ระวังไว้นะเล่นโม่งมากๆชีวิตจะไร้ค่าน่าสมเพชแบบจิตเวช
ดันกลบหนังสือเอ๋อ
โม่งหมอซึ่งโดนซัมมอนไปที่มู้ใหม่ปฏิเสเสียงเรียกและกลับมานั่งมองมู้ในตำนานอย่างอาดูร
"กูทำผิดพลาดตรงไหนนะ มู้นี้ถึงกลายเป็นมู้ล้างบางมุสลิมที่เต็มไปด้วยจิตเวชกับเรื่องเสียวที่ไม่ต่อเนื่องกัน วันนั้นที่ชิคกี้เริ่มแต่งเพลงด่าอัลเลาะห์กูควรจะห้ามคนอื่นๆรึเปล่านะ หรือกูควรจะแจ้งแอดมิน(?)แบนจิตเวชตั้งแต่เนิ่นๆ"โม่งหมอรำพึง
"แต่นั่นไม่สำคัญแล้ว พวกสตีฟกับพันธมิตรเดินทางมาเกือบถึงประเทศปัตตานีแล้ว กูจะทำให้การต่อสู้แห่งโชคชะตานี้จบลงในเม้นที่1000ให้ได้ แม้จะมีกูต่อเรื่องอยู่คนเดียวก็ตาม"
โม่งหมอออริจินิลประกาศกร้าว เม้นต่อไปจะตัดกลับไปที่เรือดำน้ำ แต่ตอนนี้รอกูก่อนนะเพื่อนโม่ง กูพิมพ์ตอนพักเข้าส้วม ขอกลับไปตรวจคนไข้ก่อน เดี๋ยวเที่ยงมาต่อ
พวกมึงคิดว่าเม้นต์ที่แล้วโม่งหมอออริจินอลแค่รำพึงรำพันไปตามเรื่องตามราวสินะ แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่หรอก
โม่งหมอออริจินิลผู้อยู่คู่มู้นี้มาตั้งแต่จักรวาลแรกสุด(ที่บอกว่ามึงเป็นมะเร็ง)กำลังรวบรวมพลังของผู้สร้างในฐานะคนที่เมนต์เยอะถึง1ใน3ของมู้นี้(กูเล่นหลายไอดี) เพื่อมอบพลังที่เป็นทางสว่างให้ตัวละครที่โม่งหมอเป็นผู้สร้างขึ้นตั้งแต่แรก
"K! จงรับพลัง'Wokeอย่างพอดี'จากผู้สร้างผู้นี้ไปซะ!"
...
ในเรือดำน้ำ หลังสตีฟใช้พลังสมานและป้องกันเรือดำน้ำสำเร็จภายใต้การคุ้มครองของเต้
เคก็ได้ยินพระวัจนะของผู้สร้าง
"อย่างนี้นี่เอง ให้โว้คอย่างพอดีสินะ"เคเปรย "สตีฟ เต้ โจมตีส่วยหัวของ ออนิว อ.โกโจ และยาสุเกะให้กะโหลกแตกแต่ไม่ตายไม่หมดสติทีสิ!"
สตีฟพยักหน่ารับคำแม้จะไม่เข้าใจว่าให้ทำไปทำไม เขาหยิบปิ๊คกีตาร์เหล็กที่เหลาขอบจนคมขึ้นมาสามอัน ส่งให้เต้ไปจัดการยาสุเกะอันนึง ส่วนตัวเขาเองเอาปิ๊คอีก2อันที่เหลือไปเฉาะหัวออนิวกับอาจารย์โกโจ
เต้อาศัยจังหวะที่ยาสุเกะสู้ติดพันอยู่กับวิชัยและพวก ซัดปิ๊คอันสุดท้ายเฉาะหัวซามุไรมืดได้สำเร็จ
เคเอาขั้วอิเล็คโทรดสำหรับตรวจคลื่นสมองที่ติดกระเป๋ามาไปต่อกับปิ๊คกีตาร์ทั้ง3อัน (โดยวิชับกับเต้ช่วยกันรั้งยาสุเกะไว้) ปลายสายไฟอีกด้านต่อเข้ากับกีต้าร์ไฟฟ้าที่สตีฟพกมาด้วย
เคดีดคอร์ด G/C ดังกังวาลใสพร้อมประกาศ "หยุดตีกัน! จงฟังพระวจนะของผู้สร้าง1ใน3ของโลกนี้!"
สามคนที่โดนปิ๊คเหล็กปักหัวชักเกร็ง1ทีก่อนนิ่งไป คนอื่นๆเลยได้หยุดสู้และยืนฟังเคพูดแบบงงๆ
เคเริ่มดีดเพลง Imagine ของจอห์น เลนน่อนพร้อมพูดกับยาสุเกะ "ฟังนะยาสุเกะ การที่นายเป็นคนดำนั้นไม่ผิดเลย การเป็นมุสลิมก็ไม่ผิดด้วย แต่การที่นายเปลี่ยนคนอื่นให้กลายเป็นคนดำมุสลิม อันนี้ผิดแน่ๆ นี่คือโลกที่นายอยากสร้างจริงๆเหรอ บังคับคนให้เปลี่ยนเชื้อชาติ เปลี่ยนศาสนาตามใจผู้แข็งแกร่ง แบบนั้นมันต่างจากที่คนขาวทำกับบรรพบุรุษนายตรงไหน
คนดำไม่ใช่ความชั่วร้าย ศาสนาอิสลามก็ไม่ใช่ความชั่วร้าย โว้คเองก็ไม่ใช่ความชั่วร้ายด้วยถ้าทำอย่างพอดี
ยาสุเกะ พวกเราไม่ได้เดินทางไปปัตตานีเพื่อทำลายศาสนาอิสลาม เราไปเพื่อหยุดอ.สามารถที่เอาศาสนาของนายมาใช้ก่อสงครามในทางที่ผิด มาร่วมมือกับเราซะยาสุเกะ นำทางพวกเราไปวิหารหลักที่อ.สามารถกับอับดุลรอนิงอยู่ซะ!"
สิ้นสุดคอร์ดสุดท้ายของเพลง การเบิกเนตรด้วยโว้คอย่างพอดีก็สัมฤทธิ์ผล
อ.โกโขงจ กับออนิวกลับมาเป็นปกติ ส่วนยาสุเกะเองก็มีแววตาที่ใสกระจ่างขึ้น
"ข้าเข้าใจแล้ว"ซามุไรมืดกล่าว "ข้าจะพาพวกท่ายไปวิหารลับเอง"
ในที่สุดเรือดำน้ำก็เทียบท่าที่ท่าเรือปัตตานี ทางหลังจากนี้ต้องเปลี่ยนยานพาหนะกันแล้ว
ว่าแต่จะใช้อะไรเดินทางล่ะ?
รออ่านต่อครับ
ส่วนที่โม่งอาวุธต่อไว้...
ยามเย็นที่ท่าเทียบเรือ Pattani pier 4
บนหอยามด้านหน้า ทั้ง 8 หอ มี ทหารยามบนป้อม ป้อมละ3 นาย โพกผ้า มีอาวุธปืนกลRPD ดัดแปลง ให้ป้อนกระสุนด้วยสายกระสุนยาว5เมตร แทนที่จะเป็นจาน เหมือนตอนมันมาจากโซเวียต
ส่วน ที่โต๊ะด้านล่างของป้อมทางเข้า ทหารโพกผ้าไว้หนวดเครา เช็คเอกสาร และอาวุธจากกลุ่มของสตีฟ
สตีฟและกลุ่มในชุดคลุมปลอมตัวเป็นนักบวช โดยให้มียาซุเกะนำเอกสารปลอมให้ทหารยาม บอกว่าว่าเป็นกลุ่มนักสอนศาสนา จะเข้าเมืองไปทำพิธี ในพรุ่งนี้ แน่นอน ด้วยเอกสารของจริง บวกค่าผ่านทาง 50ดีนาร์ ทหารยามก็ได้ให้เข้าไป
ยาซุเกะรู้สึกโล่งอก ที่ผ่านไปได้อย่างนุ่มนวล ขณะเดียวกัน มีเสียงหญิงสาว หน้าตาดีที่พาแม่ของเธอจะเข้าสู่ นครปัตตานี
ขอเข้าไปในเมือง แม่ของเธออาการไม่ดีปวดท้องน้อยด้านซ้ายคล้ายเป็นไส้ติ่งแตก
ทหารยามหนวดเฟิ้มไม่ให้เข้า เนื่องจากเธอไม่มีเงิน 50 ดีนาร์
เธอคุกเข่าอ้อนวอน ทหารยามบอกงั้นเธอต้องจ่ายด้วยร่างกาย
หญิงสาวอึ้ง แต่ก็ต้องยอม เพื่อแม่ของเธอ
สตีฟ ขยับ จน ยาซุเกะ เตือนว่า เรื่องของคนอื่น แต่สตีฟ ไม่สน
สตีฟ ยื่นเงินให้ ทหารหนวดงาม 50 ดีนาร์ ทหารรับ แต่ยังจับมือสาวคนนั้นไว้
แล้วบอกว่า เธอผิดกฎอีกข้อ ที่มาตอนด่านปิดแล้ว คงต้องมาปรนนิบัติเขาจนกว่าจะถึงเวลาเช้า ที่ด่านเปิด
สดีฟ ได้พุ่งเข้าชกทหารยามจนลอยไปกระแทกต้นไม้ ทุกคนตกใจ ทหารยามบนป้อม ระดมยิงมาที่กลุ่ม สตีฟทันที
ออนิวกดช่องเก็บของคาดเอวเรียวผ้าคลุมวิทยาการของเผ่าม่าน(ซึ่งก็คือสิ่งที่เรียกว่าภูษาเวทของยามาโตะในโลกก่อน ทนทาน แต่ผ่านเครื่องตรวจจับโลหะได้) มันทำงานได้ดี ผ้าขึ้นบังรับห่ากระสุน 5.56 mm ที่รัวจนปลอกกระสุนตกสูงระดับหน้าแข้ง หมดเสียงกระสุน ผ้าของออนิวไม่มีแม้แต่รอยกระสุน
สตีฟพุงขึ้นไปจัดการทหารยาม แม้ทหารยามจะมีวิชาปันจักสีลัต แต่หมัดตรง และหมัดฮุกของเขา ก็เพียงพอต่อการจัดการทหารบนป้อมในเวลาไม่นาน
"สตีฟ นายทำอะไรลงไป พวกมันได้แห่กันมาตามล่าเราแน่ เราไม่ได้ติดอาวุธหนักมาเลยนะ" ยาสุเกะตำหนิ
ขณะเดียวกัน เสียงดังได้ทำให้คนดูจอมอนิเตอร์ที่ท่าเรือยิ้ม
"มีหนูมากัดทหารยามว่ะ ค่อยมีอะไรสนุกๆทำสักที ไปกันเถอะ ไปสังหารฝูงหนูที่น่าสมเพชกัน"
ทหารในชุดเกราะกันกระสุน มีตรา ดาบกุรข่าสีทอง เดินไปหยิบอาวุธ รถหุ้มเกราะจอดอยู่ข้างหน้า พร้อมลุยในทันที
...จบส่วนที่โม่งอาวุธต่อไว้
เม้นต์ถัดไปจะเป็นส่วนที่โม่งหมอมาต่อ ขอเวลาเรียบเรียงชั่วโมงนึง กูรำคาญคำผิดของตัวเอง
คณะนักเดินทางต่อสู้กับกองทหารพิทักษ์รัฐปัตตานีอย่างห้าวหาญแม้จะมีแค่ผ้าคลุมป้องกันกับอาวุธลับติดตัวที่ทำจากหินควอทซ์เสริมแกร่งกับหน้าไม้เสริมกำลังที่ไม่มีส่วนประกอบโลหะ แม้ลูกดอกควอทซ์เสริมแกร่งจะแข็งเท่าเพชรและเจาะเกราะได้ แต่แน่นอนว่าพลังโจมตีอาวุธเหล่านี้ไม่สามารถสู้ปืนหนักและรถหุ้มเกราะได้เลย
พวกสตีฟโดนโจมตีจนถอยร่นไปอยู่ในโกดังเก็บเรือหมายเลข13 ลากซากเรือเก่ามากั้นประตู แต่ดูท่าสิ่งกีดขวางจะทนการโจมตีของรถหุ้มเกราะได้อีกไม่เกินครึ่งชม.
"แม่งใครเลือกโกดังวะ เลขอัปมงคลชิบ" สตีฟบ่นขณะเตรียมอาวุธขว้างชุดใหม่
"หยุดบ่นไอ้ห่า"เต้สละเวลาบรรจุลูกดอกชุดใหม่มาตบหัวเพื่อนรัก "ที่เราต้องมาหลบในโกดังเลขอัปมงคลนี่ก็เพราะมึงทำตัวเป็นพระเอกแบบไม่ดูสถานการณ์แท้ๆ"
"ขอโทษนะคะ" สาวปริศนาที่สตีฟช่วยไว้ที่ติดร่างแหเข้ามาหลบในโกดังพร้อมแม่ผู้กำลังป่วยกล่าวอย่างรู้สึกผิด "พวกคุณต้องเจอเรื่องเลวร้ายเพราะช่วยฉันกับแม่แท้ๆเลย แต่ก็ขอบคุณนะคะ ทั้งที่ช่วยฉันตอนแรก และช่วยดึงฉันกับแม่ให้รอดกระสุนหลงของกองทหารด้วยค่ะ ไม่งั้นพวกเราคงไม่รอดแล้ว"
"อย่าเพิ่งรีบขอบคุณเลย" เคกล่าวหลังตรวจอาการแม่ของหญิงสาว "แม่คุณมีอาการท้องเกร็งเหมือนผนังหน้าท้องอักเสบ(peritonitis) แปลว่าไส้ติ่ง-หรือไม่ก็ถุงยื่นผนังลำไส้ที่อักเสบ(diverticulitis)ใกล้จะแตกแล้ว ถ้าไม่รีบผ่าตัดภายใน3ชม. แม่คุณก็อาจจะตายได้อยู่ดี"
เชิงอรรถจากโม่งหมอ: ไส้ติ่งจะอยู่ด้านขวาเป็นส่วนใหญ่แต่เจอด้านซ้ายได้20%ของประชากร แต่กรณีคนแก่เจ็บซ้ายล่างต้องสงสัยDiverticulitisด้วย
"ไม่นะ ฮือๆ" หญิงสาวร้องไห้ "จะทำยังไงดีแม่ถึงจะรอด"
"หรือว่าเราจะยอมแพ้-"
"หุบปากสตีฟ" ออนิวตัดบท "ถึงเราจะยอมแพ้พวกมันก็ไม่ไว้ชีวิตเราหรอก และถึงมันจะไว้ชีวิตหญิงสาวคนนี้ ก็คงไม่ได้ใจดีขนาดยอมพาแม่เธอไปรพ.ใน3ชม.หรอก"
"สหาย ซากเรือที่เรายันประตูไว้ใกล้พังแล้ว" เจไดเตือน "น่าจะเหลือเวลาแค่5นาที เราต้องตัดสินใจแล้วว่าจะสู้หรือหนี"
"สู้น่าจะไม่รอด"ยาสุเกะประเมิน "แต่เราจะหนีไปไหนนี่สิ"
ทันใดนั้นเหมือนกับตอบคำถามของซามุไรหนุ่ม ฝาท่อบนพื้นที่ใหญ่พอให้คนมุดที่โดนฝุ่นกลบจนไม่มีใครสังเกตก็เปิดขึ้น
คนที่เปิดฝาเป็นหญิงสาวสวบฮิญาบแต่งตัวทะมัดทะแมง
"แยสมีน! เปิดขึ้นไปทำไมกัน! เขารบกันอยู่แท้ๆ" เสียงหญิงสาวอีกคนเรียกมาจากในท่อ แต่หญิงสาวคนแรกที่ถูกเรียกว่าแยสมีน กวาดสายตามองกลุ่มคนที่อึ้งอยู่ และจ้องมองหญิงสาวปริศนากับมารดาตาเป็นประกาย
"ฉันไม่ได้หูฝาด นูราห์! มีผู้หญิงร้องไห้อยู่จริงๆ มีหญิงแก่ป่วยอยู่ด้วย" แยสมิสกล่าวกับเพื่อนก่อนหันมาอธิบายสถานการณ์ในกลุ่มคนบนพื้นฟัง "ข้างใต้นี้มีหลุมหลบภัยของพวกผู้หญิงในเขตนี้อยู่ ส่งผู้หญิงมา เราจะดูแลพวกเธอเอง ส่วนผู้ชายห้ามเข้า"
"เธอ! ริโกะใช่มั้ย?!" เต้ผู้จำหน้าคนแม่นร้องเรียก "ริโกะจากโลกไอดอล! ขอพวกเราลงไปหลบข้างล่างทีเถอะ! เราสัญญาว่าจะไม่เข้าเขตอาศัยพวกเธอ ไม่เกิน1ชม.จะไป"
แยสมีนหรือริโกะส่ายหน้า "ฉันจำพวกนายได้ แต่ไม่อนุญาตให้ผู้ชายเข้าอยู่ดี"
"พวกคณะเดินทางปราบอ.สามารถเหรอ?" นูราห์ ซึ่งออนิวจำได้ว่าคืออาภาพร/มลุลีโผล่ขึ้นมาแบกแม่ของสาวปริศนาลงท่อไปพร้อมแนะนำทิ้งท้าย "พวกนายตีฝ่าหนีไปทางศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวซะสิ มีกำลังเสริมอยู่ที่นั่น"
คณะเดินทางจะทำยังไงดี
1.ต่อรองของหลบภัยให้ได้
2.บุกฝ่าไปหากำลังเสริม
3.คิดทางใหม่
โม่งคนถัดไป มึงเลือก
[ส่วนที่โม่งอาวุธเขียน]
อีก10นาทีจะเที่ยงคืน นอกโกดัง13
เสียงเกลี้ยกล่อมให้กลุ่มนักเดินทางมอบตัวได้เงียบลงแล้ว เหมือนกับว่า มันจะเป็นความเงียบก่อนมโหรีจะบรรเลง
Hira นักรบกูรข่าดาบทอง ผู้ได้อับดับ 1 ของการผ่านบททดสอบ Doko race แต่ถูกออกจากกองทัพอังกฤษเพราะความคะนองที่ไม่เหมือนชาวกูรข่าคนอื่น
กลุ่มนายหน้าค้าความตายได้แนะนำเขาให้มาทำงานที่นี้ ทำให้ฐานะทางบ้านดีขึ้น
เขารู้สึกทึ่งในฝีมือของคนที่เขาเรียกว่าหนูในตอนแรก น่าเสียดายที่การเจรจาให้มาดวลมีดกันไม่เป็นผล ฝ่ายผู้บุกรุกคงคิดว่าเราจะแอบลอบกัด
ขณะเดียวกันในโกดัง
สตีฟสำรวจหาของในโกดังเพื่อใช้ให้เป็นประโยชน์ แต่ยิ่งหายิ่งเศร้าใจ
มีโลงหลากหลายขนาด มีทั้งโลงไม้ โลงเหล็ก มีตำราทำศพ กองพะเนิน ลวดอะลูมิเนียม
ว่าแต่คนที่นี่ไม่มีอุปกรณ์เผาศพ เชื้อเพลิงอะไรก็ได้ รึเน้นฝังกัน แต่แล้ว สตีฟ ก็นึกอะไรบางอย่างได้
"ขอquartzหน่อย" สตีฟพูด ท่ามกลางสีหน้าสงสัยของทุกคน
ที่นอกโกดัง
Hira แจ้งขอคำสั่งเพื่อพังโกดัง13 ที่ เก็บอุปกรณ์งานศพ จากการถามคนดูแล มันไม่มีสิ่งที่ใช้เป็นอาวุธได้เลย
แต่อยู่ ๆโกดังก็พัง เหมือนมันโดนผ่าครึ่งยันหลังคาและล้มลงไปทั้ง 2 ด้านเปิดให้โล่ง เห็นกองมืดๆของวัสดุ และเงาผ้าที่โปร่งออกผูกโลงไม้ กำลังลอยเหนือพื้น เหมือนบอลลูน เหมือนโคมยี่เป็ง
'จะหนีสินะ เข้าใจเล่นนะ มิคกี้' Hiraยิ้มอารมณ์ดี
"ยิง!" Hiraสั่ง
สารพัดอาวุธสงครามสาดกระสุนไปที่ บอลลูน จนมันร่วงลงมา
Hiraสั่งให้ล้อมและยิงอีกครั้ง
ฟรึ้บ! เกิดประกายแสงสีขาวจ้าจนตาทุกคนพร่ามัว
"จังหวะนี่ละ!" สตีฟให้สัญญาณออนิวเปลี่ยนสภาพผ้าจากโคมให้เป็นลูกบอลคลุมทุกคน
ลูกบอลยักษ์ได้กลิ้งทับทหารรับจ้างแล้วก็กระดอนข้ามไปลงทางในท่าเรือ ก่อนกลิ้งไปตามทางสู่ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวต่อไป
เชิงอรรถ: สตีฟใช้quartz บดลวดทำผงอะลูมิเนียม และบดโลงเหล็กทำผงตะไบเหล็ก ผสมดินปืนจากปืนที่ได้มาตอนประทะกันตอนแรก บวกกับความร้อนที่มีลูกกระสุนปืนอันมหาศาลที่ยิงเข้ามาทำให้เกิดแสงสีขาว
ลูกบอลกลิ้งด้วยความเร็วสูงตลอดทาง10กม.โดยไม่มีอุปสรรคเพรากองกำลังส่วนใหญ่ไปรวมพลที่ท่าเรือแล้ว
ที่หน้าศาลเจ้าแม่ ทุกคนล้วนอ้วกไปตามๆกัน เพราะกระเด้งกระดอนอยู่ในลูกบอลยักษ์มาตลอดทาง
[จบส่วนที่โม่งอาวุธเขียน เม้นต์ต่อไปเป็นส่วนของโม่งหมอ รอประมาณชั่วโมงกว่าๆ]
ที่หน้าศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว
หลังสมาชิกคณะเดินทางอ้วกกันจนหายมึน ไม่มีการเคลื่อนไหวที่ประตูหน้าศาลที่ถูกปิดตายตามคำสั่งคณะปกครองมุสลิม แต่ประตูเล็กข้างศาลแง้มออกเล็กน้อย
"กลุ่มของสตีฟ ออนิว เจได มากันครบสินะ"เสียงผู้หญิงที่ฟังดูคุ้นๆดังขึ้น "รีบเข้ามาในศาลเร็วเข้า ก่อนที่หน่วยลาดตระเวนจะมาตรวจ"
ทุกคนรีบย่องตามกันเข้าประตูอย่างเงียบเชียบ หญิงปริศนาในเสื้อคลุมนำทางพวกเขาไปที่ทางลับใต้ดิน พอคนเข้าครบจึงล็อกประตู เปิดไฟ และถอดหมวกเสื้อคลุมเผยใบหน้าที่คุ้นเคย
"เป็นเธอเองเหรอคำแก้ว" ออนิวทักทายอดีตเพื่อนร่วมงานจากโลกเก่า
"พวกเราลักลอบขนอาวุธเข้ามาที่นี่ทีละนิดหลายวันแล้ว" คำแก้วอธิบายทันทีพร้อมเปิดคลังอาวุธให้ผู้มาถึง "ไม่มีอาวุธพิเศษของพวกนายแต่น่าจะมีของที่ใช้แทนกันได้ รีบเลือกอาวุธซะ จะได้ไปวางแผนกับกองหนุน"
"กำหนดการณ์พิธีสาปแช่งของอ.สามารถคือพรุ่งนี้หลังตะวันขึ้น สถานที่คือวิหารลับที่ใต้เมืองโบราณยะรัง ข้อมูลของเราถูกต้องมั้ย"เต้รีบถามขณะคนอื่นๆเลือกอาวุธ
"สถานที่ถูกต้อง แต่มีการเปลี่ยนแปลงเวลาเป็นหลังการละหมาดซุบฮิตอนตี5 เรามีเวลาไม่เยอะแล้ว"คำแก้วตอบพร้อมกวาดตามองกลุ่มคนในคลังแสง ก่อนจะขมวดคิ้ว "อ.ปวินกับอ.โกโจไม่ได้มากับพวกนายเหรอ? เราต้องพึ่งพวกเขาในการทำลายพิธีนะ"
"2คนนั้นแยกไปอีกทางน่ะ" เจไดเป็นคนตอบ "ป่านนี้คงถึงเมืองโบราณแล้ว"
"ไปกันแค่2คนถ้าถูกลอบโจมตีจะทำยังไง"คำแก้วนึกห่วงขึ้นมา
"ไม่เป็นไรหรอก เราส่งกำลังเสริมไปทางนั้นแล้ว"ออนิวตะโกนตอบจากอีกฝั่งห้อง
"พี่ดนัยกับทรายสินะคะ"ประโยคนี้คำสร้อยแฝดน้องของคำแก้วที่เพิ่งเดินเข้ามาเป็นคนถาม"2คนนั้นแฝงตัวเจาะระบบสะเดาะกลอนเก่งมาก คงพาพวกอ.หลบหลีกอุปสรรคเข้าวิหารลับได้ แต่ถ้าเจอศัตรูซึ่งหน้าล่ะคะ ถ้าอ.โกโจออกหน้าสู้จะไม่ถูเจอตัวเหรอ"
"ไม่ต้องห่วง มีKที่สะกดจิตได้ไปอีกคนแล้ว" สตีฟตอบ "แต่หมอนั่นติดภารกิจผ่าไส้ติ่ง-ไม่ก็ถุงยื่นลำไส้คนไข้ฉุกเฉินอยู่น่ะสิ"
ทั้ง3คนนั้นแยกตัวออกไปในทางลับใต้ดินกับพวกแยสมีนตั้งแต่ในโกดังนั่นเอง
ทรายที่เป็นผู้หญิง(แม้จะแต่งชายเข้ามา)ต่อรองขอให้นูราห์ยอมพาผู้ชาย2คนปิดตาเข้าทางใต้ดินเพื่อช่วยแม่ของหญิงสาวปริศนา ดนัยที่เป็นนักสะเดาะกลอนสำหรับการบุกใช้รพ.ยะรังที่ถูกทิ้งร้าง กับเคที่เป็นหมอผ่าตัดมือดี โชคดีที่สาวๆยอมเข้าใจ 3คนนั้นเลยไม่ต้องมากลิ้งกระดอนกับพวกเขา
"งั้นทุกอย่างก็เรียบร้อยตามแผนคร่าวๆของเราแล้ว" คำแก้วประกาศ "ตอนนี้เที่ยงคืนครึ่งแล้ว ถ้าทุกคนได้อาวุธแล้วรีบไปประชุมกันเถอะ เราต้องออกเดินทางก่อนตีสาม"
"โอ้!" ทุคนขานรับ เก็บอาวุธแล้วเดินเรียงแถวไปห้องประชุม
ศึกสุดท้ายจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงแล้ว
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.