ระหว่างที่สายของคุณโบว์และเจ้าหน้าที่ปลอมหลุดไป เธอได้พยายามโทรไปที่สถานทูตไทยในวอชิงตัน ดี.ซี. แต่ไม่มีใครรับสาย ตอนนั้นเอง "เจ้าหน้าที่ตำรวจปลอม" ที่แอดไลน์ไปก็ติดต่อกลับมา อ้างว่าเขาเป็นทีมจากกองสอบสวนกลาง ซึ่งเป็นหน่วยงานของตำรวจไทย ส่งสำเนา PDF รายงานแจ้งความมาให้ และบอกต่อว่าคุณโบว์เป็น 1 ใน 239 รายชื่อคนที่อาจเกี่ยวข้องกับแผนการฟอกเงินระหว่างประเทศ
.
ตำรวจปลอมคนนั้นได้ทำการสอบสวนคุณโบว์ผ่านการโทรผ่านวิดีโอ ถามคุณโบว์ว่ารู้จักใครในแผนนี้หรือไม่ หลังจากที่เธอบอกว่าเธอไม่รู้จักใครเลย ตำรวจปลอมคนนั้นแสร้งทำตัวเป็นคนที่จะเข้ามาช่วยเหลือเพื่อเคลียร์ชื่อให้คุณโบว์ หลังจากนั้นก็บอกให้คุณโบว์ต้องยืนยันตัวตน ด้วยการส่งรายงานวันตอนนี้อยู่ที่ไหนทำอะไรอยู่วันละสี่ครั้ง
.
คุณโบว์ต้องส่งรูปของตัวเองสามรูป ตำแหน่งที่อยู่ และคำอธิบายว่ากำลังทำอะไรอยู่วันละสี่ครั้ง ตอนเวลา 9.00 น. 12.00 น. 17.00 น. และ 20.00 น. ตำรวจปลอมอ้างว่าถ้าไม่ปฏิบัติตาม เขาจะส่งเจ้าหน้าที่มาเฝ้าดู หรือถ้าคุณโบว์พยายามหนีหรือพลาดการรายงานประจำวันครอบครัวของคุณโบว์อาจถูกจำคุก และทรัพย์สินที่มีทั้งหมดอาจถูกอายัด
.
สแกมเมอร์ยังบอกอีกว่าระหว่างการพิสูจน์ความบริสุทธิ์นี้ คุณโบว์ไม่สามารถบอกใครได้เพราะอาจรบกวนการสืบสวนที่มี FBI เข้าร่วมด้วย ถ้ามีใครรู้เข้า คุณโบว์ก็เสี่ยงที่จะถูกจำคุก ถูกปรับ หรือส่งตัวกลับ
.
คุณโบว์ กล่าวว่า “สแกมเมอร์ใช้ความกลัวเล่นงานฉัน หลังจากทำงานหนักเพื่อการศึกษาและชีวิตที่ดีขึ้นตั้งแต่ย้ายมาอยู่ในสหรัฐฯ เมื่อ 10 ปีก่อน และฉันกลัวว่าจะถูกส่งกลับบ้านและสูญเสียสถานะของตัวเอง พวกสแกมเมอร์ยังแกล้งหลอกว่ามีคนที่ถูกฆ่าโดยกลุ่มอาชญากรรมพวกนั้นด้วย ทุกครั้งที่อออกจากอพาร์ตเมนต์เพื่อไปทำงานหรือซื้อของชำกลายเป็นเรื่องน่ากลัวทันที ฉันคิดว่ามีคนกำลังตามล่าฉันจริงๆ และทุกขณะอะไรก็อาจเกิดขึ้นได้”
.
แม้จะมีหลายครั้งที่สงสัยว่าตัวเองกำลังถูกหลอก และได้รับข้อความทาง LINE จากสถานกงสุลไทยในแอลเอเตือนเกี่ยวกับพวกหลอกลวงที่แอบอ้างเป็นตำรวจไทย แต่พวกสแกมเมอร์ก็ทำให้คุณโบว์เชื่อได้ว่าข้อความเตือนนั้นถูกส่งมาโดยอาชญากรเพื่อไม่ให้คุณโบว์ปฏิบัติตามการสืบสวน
.
“จากการถูกข่มขู่ ความหวาดระแวง ความเครียด และการอดนอน ฉันพบว่าตัวเองเชื่อทุกคำที่พวกเขาพูดเลย” คุณโบว์แชร์กับ Business Insider
.
[ กว่าจะได้โดนหลอกให้โอนเงินครั้งแรก สแกมเมอร์ใช้เวลาถึง 11 วัน ]
.
11 วัน หลังจากการติดต่อกันครั้งแรก เมื่อวันที่ 3 เมษายน คุณโบว์ได้โอนเงิน 81,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,750,000 บาท) ซึ่งเป็นเงินเก็บแทบทั้งหมดที่มีไปให้สแกมเมอร์
.
สแกมเมอร์ค่อยๆ ป้อนข้อมูล ต้อนให้กลัว ทำให้เชื่อใจ ใช้เวลาหลายวันก่อนที่จะเริ่มให้โอนเงิน
.
ตอนนั้นคุณโบว์ถูกกล่าวหาว่าเปิดบัญชีม้าให้กับกลุ่มอาชญากรรม เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ คุณโบว์ต้องโอนเงินไปที่ธนาคารแห่งหนึ่งในฮ่องกงเพื่อให้เจ้าหน้าที่ฮ่องกงที่เชี่ยวชาญด้านการฟอกเงินตรวจสอบ
.
ตอนนั้นสแกมเมอร์ก็ไม่ได้ขู่เข็ญจนน่ากลัว เพราะในตอนนั้นเหล่าสแกมเมอร์ยังแนะนำคุณโบว์ว่าเธอสามารถสำรองเงินไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและค่าเช่าได้
.
สองสามวันต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจปลอมก็บอกกับคุณโบว์ว่าเงินของเธอผ่านการตรวจสอบแล้ว แต่ศาลจะต้องตรวจสอบหลักฐานทั้งหมดอีกครั้ง และคุณโบว์จำเป็นต้องไปให้การที่ศาลที่ประเทศไทยเพื่อเข้าสู่กระบวนการตัดสิน ซึ่งการเดินทางไปศาลที่ไทยตอนนี้มีความเสี่ยง และเตือนคุณโบว์ว่ามีคนถูกลอบสังหารระหว่างการเดินทาง เพื่อความปลอดภัยคุณโบว์สามารถให้คนอื่นไปแทนได้
.
ด้วยความเป็นห่วงและไม่อยากให้ใครในครอบครัวตกอยู่ในความเสี่ยง คุณโบว์จึงขอให้เจ้าหน้าที่เป็นตัวแทนของไปให้การที่ศาล เจ้าหน้าที่ปลอมคนนั้นแกล้งทำเป็นบอกว่าต้องใช้เวลาเพื่อตัดสินใจ และใช้เวลาเป็นวันในการตอบกลับมาว่าจะไปให้ แต่คุณโบว์ต้องส่งเงินค้ำประกันมาให้เขาก่อน
.
คุณโบว์ที่ไม่มีเงินเหลืออีกแล้วจึงโกหกครอบครัวไปว่าตัวเองกำลังสมัครเรียนปริญญาเอกและต้องแสดงให้ทางมหาวิทยาลัยเห็นว่ามีเงินในบัญชีธนาคาร 200,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 6,800,000 บาท) เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับการตอบรับ
.
ครอบครัวของคุณโบว์ให้คุณค่ากับการศึกษามาก และส่งเงินจำนวนนั้นให้โดยไม่ถามอะไรมาก เงินส่วนใหญ่มาจากเงินเกษียณของป้าคุณโบว์ และสุดท้ายคุณโบว์ก็โอนเงิน 150,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,100,000 บาท) ให้ "เจ้าหน้าที่ ที่จะไปให้การแทน" สองก้อน ก้อนแรก 100,000 ดอลลาร์และจากนั้นอีก 50,000 ดอลลาร์
.