มีคนเล่าให้ฟัง เหตุเกิดในห้องงบประมาณ ไม่รู้เล่าได้ไหมว่าคนเล่าคือ Jirat Thongsuwan - จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ เนอะ
กองทัพเข้ามาชี้แจงงบประมาณ คนเล่าก็ถามถึงงบประมาณสวนสนามของกองทัพซึ่งขอเอาไว้ 30 ล้านบาท และตั้งข้อสังเกตุว่าจริง ๆ สวนสนามในหน่วยไม่น่าจะใช้งบเยอะขนาดนี้ สามารถสวนสนามโดยลดงบประมาณลงหน่อยได้ไหม
พูดไปพูดมาแล้วมาดูคำปฏิญาณที่ใช้ในการสวนสนาม ในคำปฏิญาณมีคำว่าข้าพเจ้าจักรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คนเล่าเลยตั้งข้อสังเกตว่าสวนสนามแล้วปฏิญาณไปก็ทำไม่ได้อย่างที่ปฏิญาณ เพราะมีการก่อรัฐประหารอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจะสวนสนามไปทำไม
ผู้แทนของกองทัพตอบด้วยเสียงอันดังว่า "เราก่อรัฐประหารกับคนชั่วเท่านั้น" แล้วทหารครึ่งนึงก็หัวเราะกันครื้นเครง
.... ปัญหาก็คือ ส.ส. ก้าวไกลไม่เจ็บนะ เพราะยังไม่เคยถูกรัฐประหาร แต่ส.ส. ที่เจ็บก็คือ ส.ส. เพื่อไทยที่โดนรัฐประหารมาสองรอบแล้วนี่แหละ คนเล่าบอกว่าสังเกตุอาการหลายคนดูตกใจ
มันเลยเกิดปฏิกิริยาต่อเนื่อง จากที่ ส.ส. เพื่อไทยพยายามพูดสนับสนุนงบประมาณให้กองทัพ กลายเป็นช่วยกันยกมือ แขวนงบมันซะเลย
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ทหารส่วนใหญ่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าการรัฐประหารเป็นเรื่องผิด กลับรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมและควรทำด้วยซ้ำ สังเกตุได้จากการพูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่าก่อรัฐประหาร และหัวเราะกันเหมือนกับเห็นด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ทหารที่มาชี้แจง ก็มาในนามของผู้บังคับบัญชาของตัวเอง เช่นทหารจากกองทัพบกก็มาแทนผู้บัญชาการทหารบก ดังนั้นคำพูดหรือการกระทำของตัวแทน ก็ถือเป็นคำพูดและการกระทำของผู้บัญชาการทหารบกด้วย
ฟังเรื่องนี้ผมก็ยิ่งมั่นใจเหมือนใจความที่เคยพูดใน Daily Topics กับ Winyu John Wongsurawat นี่แหละว่า กองทัพไม่เคยหยุดเล่นการเมือง และหาจังหวะก่อรัฐประหารแน่นอน
อย่าคาดหวังให้กองทัพไทยมีความเป็นมืออาชีพให้มากนักเลยครับ ถ้าประชาชนอยู่เฉย ๆ เขาไม่มีทางเป็นทหารอาชีพได้หรอก ดังนั้นประชาชนอย่าหยุดที่จะกดดันกองทัพและตรวจสอบกองทัพครับ อย่าให้เขาคิดว่าประเทศนี้อยู่ใต้รองเท้าบูทของเขา จะทำอะไรก็ได้ตามใจไม่มีใครต่อต้านได้