ผมต้องยอมเสียเงิน 300,000 บาท เพื่อบินไปดูตลาดออนไลน์ในประเทศจีน ที่ว่ากันว่า เขานำหน้าไทยไป 2 ปี
.
แน่นอนว่า เงินจำนวนนี้มันไม่น้อยเลย ถ้าเทียบกับรายได้เฉลี่ยของคนไทย
.
แต่ทันทีที่ผมได้ล่วงรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดออนไลน์ของจีนในปีนี้
.
มันกลับทำให้เงิน 300,000 บาท กลายเป็นของราคาถูกไปเลย !!
.
นั่นก็เพราะ ถ้าผมไม่ได้รู้เรื่องนี้ล่วงหน้า ผมต้องเสียเงินไปมากกว่า 300,000 บาท แน่นอน 100%
.
ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะ การเดินทางไปดูงานในครั้งนี้ มันทำให้ผมได้คำตอบว่า “ทำไมคนจีนที่ขายสินค้าราคาถูก กำไรบางๆ ถึงได้หนีมาขายที่ประเทศไทยมากมายขนาดนี้ ?”
.
ซึ่ง 3 สิ่งที่ทุกๆ บริษัทจีนที่ผมไปดูงานมา พูดเป็นเสียงเดียวกัน ก็คือ
.
1. ตอนนี้ที่ประเทศจีน ถ้าอยากให้คนดูเห็นคอนเทนต์ เห็นคลิป จะต้องจ่ายเงินซื้อการมองเห็นเท่านั้น ที่ไทยแพลตฟอร์มเขายังเปิดการมองเห็นอยู่ ให้รีบทำตั้งแต่ตอนนี้ !!
.
2. ค่าธรรมเนียมทุกอย่างนั้น ราคาแพงพอๆ กับเอาของไปขายในห้างดังๆ เลย !!
.
3. Influencer และ KOL ที่มีคุณภาพค่าตัวแพงขึ้น จนธุรกิจระดับเล็ก ถึง ระดับกลาง จ่ายไม่ไหว !!
.
.
นั่นหมายความว่า ธุรกิจที่จะอยู่ได้ มีเพียงธุรกิจ 2 ประเภท เท่านั้น คือ
.
1. แบรนด์ใหญ่ ที่สามารถขายสินค้าราคาสูงได้
.
เพราะเมื่อขายราคาสูงได้ Gap กำไร ก็เหลือเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายทั้งหมด
.
แถมแบรนด์ใหญ่นี่แหละ ที่จะสามารถทำเงิน ทำกำไร ให้กับแพลตฟอร์มได้จริงๆ
.
เพราะเมื่อเขาสามารถขายได้โดยไม่ต้องลดราคา แพลตฟอร์ม ก็ไม่ต้องซัพพอร์ต โค้ตส่วนลด หรือ ส่งฟรี ให้ !!
.
ยกตัวอย่าง ถ้าคุณจะซื้อสินค้า Apple ในแอปจีน คุณคิดว่า คุณจะได้ส่วนลด 20% 30% 50% เหมือนกับสินค้าอื่นๆ ไหม ?
.
คำตอบ คือ ไม่ !! จริงไหม ? เผลอๆ ต้องซื้อราคาเต็มด้วยซ้ำ
.
และ เมื่อแบรนด์สามารถขายได้ในราคาเต็มโดยไม่ต้องลดราคา แพลตฟอร์มเขาก็สามารถเก็บเงินค่าธรรมเนียมมาได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยไม่ต่างจากการเก็บค่าเช่าในห้างเลย
.
ที่สำคัญ คือ ค่าเช่าที่ว่านี้ ไม่ได้คิดเป็นแบบเหมาๆ แต่คิดตามยอดขายอีกต่างหาก
.
เพราะอย่าลืมว่า ราคาที่คุณซื้อสินค้าทั่วไปในแอปจีนตอนนี้ มันไม่ใช่ราคาที่แท้จริงของสินค้า และ กำไรที่ผู้ขายได้ไป ก็ไม่ใช่กำไรที่แท้จริงที่มาจากราคาที่ลูกค้ายอมจ่ายเหมือนกัน
.
สมมติคุณหาผ้าห่มต้นทุนผืนละ 200 บาท มาตั้งราคาขาย 300 บาท
.
แต่แอปจีนให้โค้ตส่วนลด 50% เหลือ 150 บาท แถม ส่งฟรี !!
.
เงินกำไรเข้ากระเป๋าคุณ 100 บาท ก็จริง !! แต่ในความเป็นจริงมันก็ไม่ใช่กำไรที่แท้จริงที่คุณขายได้ !!
.
คำถาม คือ ถ้าคุณขาย 300 บาท จริงๆ คุณจะขายมันได้ไหม ?
.
คนที่ขายมันได้จริงๆ คือ แอปจีนต่างหาก คุณเป็นแค่ซัพพลายเออร์ที่หาของมาให้เขาขายเท่านั้น
.
นั่นคือ สิ่งที่ผู้ขายหลายคนก่อนหน้านี้ หลงระเริง ลืมตัว เพิ่มคน สร้างตึก ขยายโกดัง โดยไม่คิดถึงต้นทุนที่แท้จริง กำไรที่แท้จริง และ ราคาที่ลูกค้ายอมจ่ายที่แท้จริง
.
จนสุดทัายปรับตัวไม่ทันแล้วก็ต้องเจ๊งไปตามระเบียบ
.
ยิ่งตอนนี้แอปจีนเขาทำระบบนี้เป็นเรื่องเป็นราวแล้ว ทั้ง ส้ม choice และ ม่วง choice โดยการเรียกคนที่ขายในแพลตฟอร์มไปคุย แล้วให้ส่งสินค้ามาที่โกดังของเขา เดี๋ยวเขาจะเป็นคนขายเอง กำหนดราคาเอง คุณเป็นแค่ซัพพลายเออร์ที่หาของราคาดีๆ ถูกๆ มาให้เขาก็พอ
.
2. ถ้าขายสินค้าราคาแพงไม่ได้ ก็ต้องสามารถผลิตสินค้าได้ในราคาที่ต้นทุนถูกที่สุดมากๆ ไปเลย เพราะต้นทุนการผลิต เป็นต้นทุนทางเดียวที่จะสามารถลดลงเพื่อทำให้เหลือกำไร
.
แต่ปัญหาของคนไทยก็คือ “จะขายแพงก็อยู่ยาก แต่จะขายถูกมากก็อยู่ไม่ไหว“
.
นั่นหมายความว่า ถ้าคุณไม่วางกลยุทธ์รับมือตั้งแต่วันนี้
.
สุดท้ายเขาก็จะบีบคุณให้เป็นได้แค่พนักงานลูกกระจ๊อกของแอปจีน ที่เป็นได้แค่นายหน้า ที่เขาจะขึ้น จะลด จะปรับ จะบีบ จะควบคุม คุณยังไงก็ได้ !!
.
ไม่มีสิทธิ์พูด ไม่มีสิทธิ์ขัด ไม่มีสิทธิ์ขืน ถ้าไม่พอใจ ก็ทำได้แค่นั้น ต้องทน ต้องยอม ก้มหน้าก้มตา ทำตามกฎที่เขาวางไว้เท่านั้น
.
.