🙏ขออนุญาติแชร์เคสลูกค้าที่ถูกสรรพากรเรียกจากยอดขายในช้อปปี้ให้ทุกท่านทราบและหาทางออกกันนะคะ
ลูกค้าท่านนี้ขายในช้อปปี้มา 3 ปี ปีแรกยอด 1 ล้าน ปีที่ 2 ยอด 2.5 ล้านบาท ปีที่ 3 (ปี 66) ยอด 2 ล้าน
ก็ยื่นภาษีแบบประเมินตนเองไปประมาณ 1.3 ล้าน แต่ยื่นแค่ปีเดียว คือยอดปีที่ 2 (ปี 65)
👉 อยู่ๆได้รับจดหมายจากสรรพากรเรียกเข้าไปหา พอเข้าไปคุยทางสรรพากรแจ้งว่า ส่วนกลางเป็นคนส่งเรื่องมา และมีข้อมูลยอดขายทั้งหมดแล้ว ซึ่งยอดที่ส่งมา 1.3 ล้าน ทางส่วนกลางแจ้งว่าไม่ตรงกับข้อมูลที่มี ทำให้เรียกมาดูข้อมูลใหม่
ซึ่งก็มีการเตรียมข้อมูลและเข้าออกสรรพากรหลายรอบสุดท้าย มียอดจ่ายภาษีเกือบล้าน เพราะโดน Vat และค่าปรับด้วย จึงมีการเจรจากับเจ้าหน้าที่ของงดเว้นเบี้ยปรับเพราะไม่ทราบข้อกฎหมาย เจ้าหน้าที่ใจดีมาก ทำการช่วย ทำเรื่องงดเว้นเบี้ยปรับให้ สรุป ยอดจ่ายภาษีทั้งหมดของ 3 ปี 440,000 บาท
เคลียร์จบ และ ได้มีการวางแผนเริ่มเปิดบริษัท ได้เริ่มต้นใหม่ แบบถูกต้องและไม่ต้องกลัวอีกต่อไป
.
.
❤ อยากบอกว่าคนที่โดนจดหมายจากสรรพากร ไม่ต้องกลัวนะคะ อย่างมากก็เข้าไปคุยกับเขา แล้วเคลียร์ให้จบ จ่ายให้จบ ยิ่งโดนเร็ว ยิ่งเริ่มต้นเร็ว
แต่ถ้าใครที่ยอดเยอะๆอยากให้ศึกษาเรื่องภาษีดีๆและระวังเรื่องนี้มากๆเพราะสรรพากรแจ้งว่าทางสรรพากรมีข้อมูลทั้งหมดอยู่แล้ว อยู่ที่จะหยิบข้อมูลใครขึ้นมา
✔ ปีนี้สรรพากรเอาจริงมากๆ ข้อมูลการขายในช้อปปี้ทางสรรพากรทราบ จึงไม่สามารถที่จะทำการหลบเหมือนปีที่ผ่านๆมาได้นะคะ
ลองวางแผนกันให้ดีนะคะ จะเปิดบริษัท หรือ จะขยายร้านแบ่งเป็นหลายๆร้านก็ได้แต่ไม่ควรที่จะมียอดเกิน Vat เพราะถ้าโดนย้อนหลังมา ก็ค่อนข้างจุกนะ 😅
👉 ถ้าเมื่อไหร่ที่เราคิดว่าภาษีเป็นต้นทุนของสินค้า เราจะรวมเข้าไปในต้นทุนเราด้วย พอเวลาที่ต้องจ่ายภาษี ก็จะไม่เจ็บมาก เหมือนเราจ่ายค่าสินค้าหรือค่าขนส่งนั่นล่ะค่ะ แล้วเราก็จะได้รู้กำไรที่แท้จริงด้วย
เพราะฉะนั้นอย่ามองภาษีเป็น สิ่งที่ต้องจ่ายนอกเหนือจากนั้นให้มองภาษีเป็นต้นทุนสินค้านะคะ แล้วร้านจะไปต่อได้อย่างยาวๆและมั่นคง เป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบการทุกท่านนะคะ 😊❤