อะไรคือภัยภิบัติที่ร้ายแรงที่สุด แต่ไม่เคยถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์?
มันไม่ใช่น้ำท่วม สึนามิ ไฟไหม้ป่า แต่มันคือภัยพิบัติจากเงินเฟ้อ
อัตราเงินเฟ้ออย่างน้อยๆ มันต้อง 5-10% ต่อปี และตั้งแต่ช่วงโควิดจนถึงวันนี้ อาจจะแตะ 2 หลักมาตลอดก็เป็นได้
แต่เราไม่มีวันรู้ความจริง...
เงินเฟ้อ ที่ฟังดูน่ารักมุ้งมิ้ง เหมือนท้องอืดท้องเฟ้อนี้ควรถูกเรียกใหม่ว่า "เงินเสื่อมค่า" เพราะมันคือภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่สุด ตัวแปรหลักที่นำพามนุษยชาติถอยหลังลงคลอง
ราว 50-60 ปีก่อน แม่ผมเข้ารับราชการที่บ้านนอก รับเงินเดือนครั้งแรก 1300 บาท ข้าวจานละบาท ยังพอหากินได้ มันซื้อได้เป็นพันจาน มันกินเองเหลือๆ
รับราชการในยุคนี้ วุฒิ ป.ตรี เงินเดือน 15,000.- ข้าวจานละ 40 บาท เริ่มหายากแล้วและกินก็ไม่อิ่ม ไม่ก็อิ่มเพราะได้ข้าวเยอะ กับข้าวแทบไม่มี และที่สำคัญเอาเงินทั้งเดือนไปซื้อข้าวได้แค่ 300 กว่าจาน รวมค่าใช้จ่ายทุกส่วนแล้ว ผลคือ มันไม่พอ!
ความสามารถในการเลี้ยงดูตัวเองจากเงินเดือนเริ่มต้น ของคนยุคนี้มันต่ำกว่าคนยุคก่อนมากมายหลายเท่า ไม่แปลกเลยที่คนทำงานประจำโดยทั่วไปจะมีชีวิตที่ลำบากมาก เก็บออมไม่ได้ สร้างทรัพย์สินไม่ได้ และดูท่าจะค่อยๆ แย่ลงด้วยซ้ำเพราะรายได้มันโตไม่ทันราคาข้าวของที่แพงขึ้น
ต้องพึ่งพาการช่วยเหลือจากพ่อแม่ แทนที่จะให้เขาพึ่งพาเรา พ่อแม่ใครทำไว้ดีก็รอดไป ส่วนใครที่บ้านมีฐานะยากจนเป็นทุนเดิม ชีวิตคุณจะยากลำบากกว่าหลายเท่าตัว
คนเริ่มทำงานยุคนี้ คุณต้องมีเงินเดือนเริ่มต้น 6-70,000.- คุณถึงจะมึกำลังซื้อเท่ากับคนยุคก่อน
ไหวเหรอ? โลกมันผิดเพี้ยนไปกันใหญ่
เอาแบบหลักการหน่อย CPI หรือดัชนีราคาผู้บริโภค คือตะกร้ารวมสินค้าที่รัฐเอามาคำนวณเงินเฟ้อ มันใช้การไม่ได้ ไม้บรรทัดที่ใช้วัดมันยืดหดได้ มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อะไรแพงเอาออก อะไรกระจอกเอาเข้า มันจึงไม่เคยสะท้อนภาระต้นทุนที่แท้จริงที่ประชาชนต้องแบกรับเพิ่มเลย สรุปง่ายๆ คือมีไว้ทำอะไรก็ไม่รู้ครับ
โดยที่ให้เหตุผลเราว่า "สินค้าเหล่านี้มันควบคุมไม่ได้" ว๊อทเดอะ....! ทั้งๆ ที่สินค้าที่คุณเอาออกมันคือสินค้าจำเป็นที่เราไม่ซื้อก็ต้องซื้อ ไม่อยากใช้ก็ต้องใช้ คือต้นทุนชีวิตหลักของผู้คน เช่น เนื้อสัตว์และพลังงาน เนื้อวัว หมูแพง ก็เอาปลามาใส่แทน น้ำมันราคาพุ่งสูงไปไกลก็เอาตากตะกร้าคำนวณไปเลย
ถ้าหลักการเป็นแบบนี้ แล้ว CPI มันจะสะท้อนเงินเฟ้อได้อย่างไร?
รัฐและธปท. จะหาสูตรคำนวณทุกวิถีทางให้ตัวเลขมันต่ำที่สุด เพื่อความสบายใจของประชาชน ตัวเลขสูงๆ แล้วผู้คนจะใจสั่นกินไม่ได้นอนไม่หลับ ประชาชนไม่รู้ความจริงเลยว่า ชีวิตเขากำลังจะเผชิญกับอะไรที่รออยู่ข้างหน้า
แม้ว่าหายนะของเงินเสื่อมค่านี้ คือตัวแปรที่ทำร้ายทำลายชีวิตของผู้คนอย่างแสนสาหัสที่สุดแล้ว
มันขโมย เวลา หยาดเหงื่อแรงกาย ความพยายามทุ่มเท ของผู้คนที่ขยันหมั่นเพียรตั้งใจทำมาหากินออกไป และมันหนักขึ้นทุกวัน
หลายคนใช้เวลาทำงานทั้งชีวิตเพื่อบ้านเล็กๆ แค่ 1 หลัง ที่มันจะปลอดหนี้และได้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของแค่ไม่กี่ปีในช่วงบั้นปลายของชีวิต และหลายคนไม่มีสิทธิ์ที่จะมีที่ซุกหัวนอนเป็นของตัวเองไปจนวาระสุดท้ายของชีวิตด้วยซ้ำ
ในวันนี้รู้ตัวอีกที คนส่วนใหญ่ก็อยู่ในสถานะไม่เหลือ "อนาคต" อีกต่อไป
เรื่องที่สำคัญกับชีวิตประชาชนขนาดนี้คุณยังโกหก แล้วเราที่เป็นประชาชนธรรมดา จะหวังพึ่งพาอะไรจากคุณได้?