Last posted
Total of 612 posts
https://www.youtube.com/watch?v=d3d8bRDAP3s
บอกว่าต่อต้านธนาคาร แต่สุดท้ายก็โกงกว่าเสียเอง เป็นอย่างนี้กันหมด
ส่วนคนที่บอกว่า btc จะชนะระบบการเงินโลกได้ ตราบใดที่มึงยังไม่ได้ใช้ btc ซื้อข้าวแกง วันนั้นไม่มีทางมาถึงภายใน 3 ทศวรรษ
Silicon Valley Bank ล่มจริงๆเป็นอะไรที่ติ่งคริปโตน่าจะออกมาถ่มถุยกันนะ แต่ถ่มถุยไม่ออกเพราะแม่งดันลาก USDC ร่วงไปด้วยนี่แหละ 555
VC start up แม่งอยู่นี่เยอะ โดนหางเลขด้วย
อ่านมู้นี้แล้วนึกถึง earth flatter vs scientist เลย
เงินเข้า btc เฉยว่ะ
FED ประกาศ QE ไม่ให้ SVB ล้ม BTC เตรียมขึ้นยาวๆเลย น่าเล่นมาก
>>455 ไม่เชิงเข้า btc ต้องเรียกว่าไหลมาทางคริปโต
คือตอนนี้รัฐเข้าไปอุ้ม SVB เพราะถ้าแบงค์ใหญ่ล้ม คนจะแห่ถอนเงินออกแบงค์เล็กจะล้มตามเป็นโดมิโน่
ทำให้ fed ขึ้นดอกเยอะๆอีกไม่ได้
วิธีง่ายสุดคือ ลดดอก>ปล่อยกู้ให้แบงค์>ทำ qe
คือยังไงเศรษฐกิจมึงก็พังครับเมกาน่ะ แต่เค้าพยายามแลนดิ้งให้เบาที่สุดอยู่
ทำ qe > เงินเฟ้อขึ้น > ขึ้นดอก > เศรษฐกิจพัง > ทำ qe
เฟ้อรอบที่แล้วโทดรัซเซีย รอบนี้จีนโโนแน่
ระบบ Proof Of Work เป็นระบบที่บังคับให้คนแข่งขันในเกมส์เดียวกันบนทรัพยากรที่ไม่สามารถเสกขึ้นมาได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร จะเป็นพระเจ้า หรือคนเดินดิน
HSBC เข้าเทค SVB ว่ะแน่จริงๆ
ปี 2023 จึงเหลือ Option เดียวในการ Restructure ระบบการเงินคือ ทองคำดิจิทัล ได้แก่ Bitcoin (BTC) นั่นเอง!
ที่ BTC จะไม่ fail เราอีกรอบเหมือนทองคำ เพราะ
- BTC มีอยู่จำกัดจริงๆ 21 ล้านเหรียญ
- Proof ได้ โดยดู Opensource code
- ไม่มีการสร้าง Token ใหม่ขึ้นมา
- สิ่งที่วิ่งอยู่ใน Layer 2 พิสูจน์ได้ว่า มีอยู่จริงใน Layer 1
นอกจากนี้ BTC ไม่มี Yield วิธีที่จะได้ Benefit จากการถือ BTC คือการที่ Bitcoin มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเอง ซึ่งนั่นหมายความว่า มีคนอยากเก็บสะสม นี่คือกฎข้อนึงของการสร้าง Civilization (ความเจริญ)
ซึ่งทั้งหมดนี้สรุปได้ว่า BTC สามารถ Fix ข้อเสียของทองคำ ทำให้ไม่เกิด Fractional reserve
ในเมื่อมีแหล่งเก็บมูลค่าที่เราสร้าง โดยไม่มีใครมาทำร้ายได้ (Bitcoin) เราจะอยากเก็บเงินมากขึ้นไหม ? ฝากไว้ให้คิด
ไทยคำอังกฤษคำ เหมือนหลุดมาจากแผนกมาร์เกตติ้งของบริษัทฝรั่งที่รับแต่อิสานเข้าทำงาน
เหมือนโฆษณาชวนเชื่ออะไรซักอย่าง
การที่จะหลุดจากเป็นทาส btc คือทางออกของอิสรภาพอย่างแท้จริง รัฐไม่จะไม่สามารถบังคับกดขี่เราจากการใช้ fiat money
พอเหรียญมีจำกัด คนจนก็จะมากขึ้นตาม
ถ้ายังใช้ซื้อก๋วยเตี๊ยวไม่ได้ก็เป็นได้แค่ลูกโซ่
ป้าคิดตังด้วยคับ ผมโอนจ่ายนะคับเป็นเงินดิจิตอลนะคับ
ขอถามเป็นความรู้หน่อย ถ้าคนที่ถือbtcโดนอุบัติเหตุตาย เหรียญที่คนตายถืออยู่จะทำยัง
คิดง่ายๆนะถ้าเป็นอย่างที่ติ่งมันว่า มันจะขยันมาโฆษณาชวนเชื่อไปเพื่ออะไร คนซื้อเยอะมันเองก็ยิ่งต้องซื้อแพง สู้ซุ่มซื้ออยู่เงียบๆจะไม่ดีกว่ารึ
จริงๆมันอยากขายไม่ได้อยากซื้อ เพราะทางเดียวที่จะสร้างมูลค่าคือมีคนโลภกว่าไปซื้อต่อ ตามทฤษฎี the greater fool
ใครลุกช้าก็จ่ายรอบวงไป/ซวยไป
มันก็เหมือนพวกขายคอร์สสอนวิธีรวยทางลัด ถ้ามันมีเคล็ดลับทำเงินดีอยู่แล้วมันจะมาสอนคนอื่นทำไม แต่ก็มีคนโลภไปเป็นเหยื่อให้เห็นประจำ
คดีกระดานซิป ตอนนี้เรื่องถึงไหนแล้ว
>>478 fiat money ก็แชร์ลูกโซ่ไม่ต่างกันหรอก แค่มีกฎหมายบังคับไม่ให้ล้มแค่นั้น จริงๆแล้ว fiat money ล้มง่าย และล้มเยอะกว่า bitcoin เยอะมาก ไปแล้วหลายประเทศให้ยกตัวอย่างก็ เวเนซูเอล่า บราซิล อาเจนติน่า ตุรกี พม่า หลายประเทศล้มเพราะ fiat money สร้างอำนาจให้กับรัฐมากเกินไป จนรัฐเข้าไปควบคุมความมั่งคั่งไว้ให้กับตัวเอง ประชาชนต้องโดนเงินเฟ้อกัดกินจนไม่สามารถพึ่งพาตัวเองได้
ท้ายที่สุด bitcoin standard ยังไงก็จะมาแทนที่ fiat standard ได้อยู่ดี จากการที่ ธ.สวิส ล่ม เพราะพึ่งพาเงิน fiat มากเกินไป
พูดซะหน้าพี่แซมคนดี(และอีกหลายๆคน)ลอยมาเลย
พยายามจะทำให้ คริปโต เป็นอมตะ มันทำไม่ได้อยู่แล้ว มนุษย์ยังเป็นอมตะไม่ได้เลย และสิ่งของที่ชื่อว่าบิทคอยน์ ไม่มีค่าเท่ามนุษย์ที่สามารถทำงานได้จริงๆ มันจะไปมีค่าอะไรตั้งแต่แรก มันคือคำลวงอยู่แล้ว จนมันกลายเป็นศาสนา ความเชื่อ สถานะทางสังคม และbtc ไม่ใช่พระเจ้า
และถ้าไม่มีใครหยุดมัน บางทีโลกอาจถึงจุดจบได้
ติ่งเงิน fiat ถามว่าชาติไหนธนาคารจะล่ม ล่มให้ดูแล้วนะครับ ติ่ง fiat ว่าไงครับ
หวยล็อกอีกละ เลขท้ายสองตัวกับรางวัลที่หนึ่งเลขเดียวกันเลย
>>485
เขาหมายถึงระบบธนาคารล่ม ไม่ใช่ธนาคารไม่กี่แห่งล่ม
จำนวน crypto exchange ที่ล่มยังมีมากกว่าอีก ไม่ต้องนับเหรียญต่างๆที่มูลค่ากลายเป็น 0
หรือ project เกี่ยวกับคริปโตต่างๆที่ล่มไป มีเป็นพันเป็นหมื่น
ว่าแต่ที่ธนาคารที่ล่มไปนี่ก็เพราะคริปโตไม่ใช่รึ
ปล. กูไม่ใช่ติ่งฟิแอต กูสาย commodity
กูแค่เห็นว่าคริปโตมันแย่กว่าฟิแอต
เห็นมันชงหวยบนดินก่อนยุบสภาละ
แต่ถึงล็อคมันก็กินเต็มเหมือนเดิม
กูเกือบถูกเลขหน้าสามตัวผิดไปตัวเดียวโคตรลุ้น แต่พอดูรางวัลแล้วแค่สี่พันเอง กูโทรไปขอพ่อกริ๊งเดียวก็ได้ละ นอกจากรางวัลที่หนึ่งแล้วรางวัลอื่นแม่งน้อยชิบหายเลย มากสุดแสนเดียวซื้อบิ๊กไบค์ยังไม่ได้เลย ทำไมคนมันชอบเล่นกันวะถูกยากรางวัลก็น้อย
หวยกูซื้องวดละ 1-2 ใบ เอาไว้ลุ้นสนุกๆเผื่อฟลุ้กได้รางวัลที่ 1
ส่วนพวกที่ซื้อเยอะๆจริงจังเลยนี่ กูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันคุ้มตรงไหน
>>490 เมิงก็ลองซื้อดิ จะได้รู้ 15 วันมีความหวังว่าจะถูกรางวัลที่ 1
วันหวยออก เศร้าวันเดียว มันซื้อความหวังของผู้คนด้วยราคา 80 บาท มันคือความสุขอะ
แต่กุเอาไปเติมเกมดีกว่า อย่างน้อยกุก็ได้เล่นได้ของจริงๆ ไม่ใช่หวังลมๆแร้งๆ ยิ่งซื้อเยอะ 10ชุด 100ชุด เมิงจะเริ่มติดกับดักละ
รอดูหวยบนดินที่จะออกกุว่าขายดีกว่าพวกหวยชุด
ไม่ต้องกลัวเจ้ามือชักดาบแถมมันไม่น่าจะจำกัดใบแบบหวยธรรมดา
เพราะมันหารรางวัลกับคนที่ซื้อเลขเดียวกันคนซื้อเยอะคนหารก็เยอะ
ไปๆมาๆ Bank ดันล่มสลายก่อน Crypto 🫢 อุ้ย
แบบนี้เรียกแชร์ลูกโซ่ได้มั้ยคะ🫢
>>490 มันซื้อง่ายด้วยมั้ง เดินไปที่ไหนก็เจอ ผ่านคนแรกไม่คิดจะซื้อ พอผ่านไปสักสิบคนเริ่มมองเลข ผ่านไปอีกสิบคนลองสักใบก็ได้วะ แต่พอคิดดู 80 บาท เอาไปซื้อขนมแพงๆในเซเว่นได้เลย
>>491 พวกซื้อเยอะมันมีโอกาสถูกสูงนะไม่รู้ทำไม พวกหวยชุดหวยที่ราคาแพงๆแม่งมีโอกาสถูกเยอะจริง เพื่อนกูถูกโคตรบ่อย ไม่รู้พวกพ่อค้าแม่ค้ามันรู้ได้ไง
งงว่า ถ้าBTCเป็น only true god ทำไม ต้องมีอาชญากรรม โกงกัน ฆ่ากัน เพื่อ BTC
กุขอเชื่อพี่ต้านดีกว่า ที่พี่ต้านบอกว่า คริปโตมันยังไม่สมบูรณ์
แต่ถ้ามีคนทำสำเร็จ มันก็ไม่ใช่BTC แน่นอน
ทั้งยูโร ดอลลาร์ และหนี้สินของธนาคารในสหรัฐฯ ... ล้วนมีที่มาจากปากกาของนักบัญชีทั้งสิ้น
- มิลตัน ฟรีดแมน (Milton Friedman)
ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ ปี ค.ศ. 1976
แม้แต่ผู้ที่รับรางวัลโนเบลบางคนยังไม่ส่งเสริมให้มีการพิมพ์เงินและส่งเสริมเงินเฟ้อเลย แต่สหรัฐกลับทำในสิ่งตรงกันข้าม
ในตอนนี้ QE ครั้งใหญ่กำลังกลับมาล่ะ btc เป็นทางเลือกหนึ่งในการหนีเงินเฟ้อ จากการพิมพ์เงินอันมากมายมหาศาลของสหรัฐในครั้งนี้ได้
>>499 fiat money ไม่มีอาชญากรรมเลยเหรอเนี่ยเพิ่งรู้เลย งั้นแก๊งค์ call center ไม่ใช่อาชญากรรมสินะ บ่อนพนันออนไลน์ไม่ใช่อาชญากรรม
กรรม คือการกระทำ เกิดจากคนไปสร้างกรรม (กระทำการใดๆ) จะมองว่า btc เป็นตัวการให้เกิดอาชญากรรม แต่ fiat money เป็นคนทำงั้น อย่ามองแบ่งแยกสิ
เห็นใน social ถกกันเยอะ ว่าตกลง fed QE หรือไม่ QE มันขึ้นกับคนมองว่า QE คืออะไร..? สำหรับผมมันคือกลไกการเพิ่ม balance sheet หรือ “พิมพ์เงินเพิ่มมาจากอากาศ” ซึ่งในกรณีนี้คือเอามาแลกกับพันธบัตร
สิ่งที่แตกต่างรอบนี้คือ มันเป็นการปล่อยกู้ให้ธนาคาร โดยให้ธนาคารเอาพันธบัตรมาค้ำ
บางคนบอกว่า “นี่ไม่ใช่การพิมพ์เงิน” งั้นคงต้องถามว่า แล้ว fed เอาเงินสดที่ไหนมาแลกพันธบัตร ถ้าไม่พิมพ์เพิ่ม..? แล้ว balance sheet ที่โดดขึ้นมามันมาจากไหน ถ้าไม่ได้พิมพ์เพิ่มมา
เอาจริงๆ มันไม่ได้สำคัญหรอกครับ ว่าเราจะเรียกมันว่า qe หรือเปล่า ตราบเท่าที่ fed ยังโกงเกมส์เพิ่มงบดุลตัวเองตามใจชอบ เราจะเรียกชื่อว่าอะไรมันก็ไม่สำคัญ 😅
คำถามง่ายๆ คำถามนึง สำหรับคนที่บอกว่า QE ไม่มีผลทำให้คุณจนลง, เงินไม่ได้เฟ้อเพราะ QE, ฯลฯ
ลองมองมุมกลับ ถ้าเงินในระบบเพิ่มขึ้นมา 10 เท่า แล้ว wealth ของคุณไม่ได้เพิ่มขึ้นมา 10 เท่า เงิน 10 เท่าที่ธนาคารกลางพิมพ์เพิ่มเข้ามามันไหลไปอยู่ในกระเป๋าใคร..?
ความมั่งคั่งเชิงเปรียบเทียบ (Comparative Wealth) ของคุณเมื่อเทียบกับคนทั้งโลก ลดลงไหม ถ้าคำตอบคือใช่ แปลว่า ทุกๆ วินาที กำลังมีคนที่มี Wealth มากขึ้นกว่าคุณมากขึ้นไปเรื่อยๆ
สิ่งนี้อาจจะไม่ได้ก่อให้เกิดเงินเฟ้อที่ real sector แต่มันก่อให้เกิด..
📍 เงินเฟ้อที่ risk asset ซึ่งคนที่ถือ risk asset เช่นตลาด S&P500 ที่ราคาวิ่งขึ้นมาเป็น 10 เด้งหลัง QE
📍 Wealth Gap ที่ฉีกห่างขึ้นเรื่อยๆ จากที่บอกข้างบน ว่า Comparative Wealth ของคนมันจะมีความถ่างออกมากขึ้นจากเงินที่พิมพ์เข้ามา เพราะคนที่ได้เยอะขึ้น และได้เป็นสัดส่วนใหญ่ "ไม่ใช่กลุ่มรากหญ้า"
บางคนอาจจะบอกว่า นี่คือการแก้ปัญหาที่ต้องทำ ไม่งั้นเศรษฐกิจโลกจะล่มสลายตั้งแต่ปี 2009 แล้ว ผมก็เห็นด้วยครับ
แต่สิ่งนึงที่เราต้องเข้าใจคือ ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ โดยไม่ต้องจ่าย และเมื่อถึงเวลาที่เราต้องจ่ายสิ่งนี้ ปัญหาทั้งหมดที่ซุกซ่อนหมักหมม เตะถ่วงเวลามาเรื่อยๆ มันกำลังเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่สุด ที่ระบบเศรษฐกิจโลกเคยรู้จักมา
PS. จากภาพ เงินที่ธนาคารกลางปั้มออกมา กำลังไหลขึ้นไปก้อนเขียวๆ ด้านบนมากขึ้นๆ ตลอดสิบกว่าปีมานี้ และก็ยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป
ผมเองจะสนับสนุน QE ทันที ถ้าเงินมันไหลลงไปด้านล่าง เพราะการปั้มเงินจะทำให้ equality ของคนเท่ากันมากขึ้น แต่มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย (ยกเว้นนักทฤษฏี Modern Monetary Policy บางคนที่บอกว่า theoritically possible แต่ก็ไม่มีใครพิสูจน์ได้)
เจอกัน21000ครับชาวบิทคอย
fiat money = your fiat money / infinity
bitcoin = your bitcoin / 21,000,000 btc
เมื่อปริมาณเงินไม่เฟ้อขึ้น ความมั่งคั่งของคุณก็ไม่ได้หายไปไหน bitcoin จะเป็นผลจากการทำงานที่ทำให้คุณรู้สึกว่ามีคุณค่ามากที่สุด เนื่องจากความมั่งคั่งของมูลค่าไม่ได้ถูกลดลงไปจากการพิมพ์เงินของรัฐ
ยิ่งคุณทำงานมากขึ้น เพื่อรับ bitcoin จะยิ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงคุณค่าการทำงานของคุณอย่างแท้จริง
>>503
- การตามบัญชีม้า แต่ตามไม่ถึงตัวคนบงการอยู่ดี แล้วเงินที่ตามกลับมาได้ เท่ากับเงินที่ผู้คนเสียไปไหม แล้วคนที่เสียเงินตรงนี้ไปแล้ว ได้รับความเชื่อใจว่าจะได้เงินคืนทั้งหมดหรือไม่ก็ไม่ออกข่าว เดี๋ยวก็เงียบตามสายลม เพื่อกูเชื่อว่าคนของรัฐบาลอยู่เบื้องหลังในการส่งเสริมแก๊งค์ callcenter และ เวปพนันออนไลน์
- ส่วนการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าก็พอจะโอเคอยู่นะ แต่ก็ละเมิด pdpa กลายๆในการที่ระบบธนาคารเก็บข้อมูลของเราแล้ว แล้วไม่มีระบบที่สามารถรับรองได้ว่าข้อมูลจะหลุดไปแบบไหน ท้ายที่สุดจะมีปัญหาเรื่องข้อมูลหลุด แล้วโดนขโมยเงินได้อยู่ดี
ข้าว21จานมันเลี้ยงคนได้21คน แต่พอเวลาผ่านไปข้าว21จานมันจะไม่พอเลี้ยง30คน 40คน 50ตน
เก่งจริงทำไมยังใช้เงินที่ออกโดยรัฐบาลอยู่ล่ะครับ เก่งจริงทำไมไม่ไปใช้บิทโคย100%อ่ะครับ
รบกวนท่านกูรู้คริปโตทั้งหลายpractice what you preachด้วยนะครับ ไม่งั้นถือว่าเป็นหมา
ใดๆ บิทคอยน์ กับ รัฐบาล ก็เหมือนกันคือไม่มีผู้แข่ง
แล้วอะไรที่ไม่มีผู้แข่งให้เปรียบเทียบจะบอกได้ไงว่าสิ่งนั้นดีจริง
คนที่โกงคริปโต แล้วโดนลักพาตัว ไปรุมกระทืบ มีคลิปไหมละ เดียวนี้พึ่งศาลไม่ได้จริงๆ กว่าจะได้เงินคืน จบเรื่อง
มันมีรัฐบาลที่ไหนรับรองคริปโตด้วยเหรอวะ ตอนนี้อ่ะ? เอลซาวาดอร์ ก็เพิ่งจะชิบหายไปหยกๆ
https://www.cftc.gov/PressRoom/PressReleases/8680-23
มุแง้ รัฐรังแกวงการคริปโตครับ
ไปหานิวเคลียร์มาค้ำประกันซัก 4-5 ลูกก่อน กูถึงจะยอมรับคริปโต
วันที่คริปโตชนะคือวันที่พอมีข่าวว่า CTFC หรือ SEC ฟ้องใครราคาคริปโตเทียบกับ Fiat ต้องพุ่งขึ้น เพราะนั่นแปลว่าคริปโตได้บรรลุสิ่งที่มันเกิดขึ้นมาแล้ว
"การเป็นอิสระต่อภาครัฐ"
แต่ถัายังร่วงอยู่มันก็ยังเป็นแค่ของเล่นทางการเงินต่อไป
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ถ้าวันนึงczถูกจับหรือไบแง้นล้มbtcจะเหลือกี่บาทวะ Decentralizeเหี้ยไรมูลค่าอยู่ที่คนไม่กี่คน มโนคำคมอยากเป็นอิสระต่อภาครัฐแต่ทำตัวเองให้เป็นอิสระต่อexchangeให้ได้ก่อนเหอะ
1btc = 1btc เป็นการเงินที่จะไม่ถูกรัฐยึดเงิน และรัฐไม่สามารถกำหนดการใช้เงินของประชาชนได้
ถ้าเป็นอิสระทางการเงิน ทำไมมีข่าวมาเฟียรัสเซียปล้นคริปโตนักท่องเที่ยวได้ล่ะ
มโนเก่ง
ความยากจนคือการเป็นทาส แต่ความยากจนไม่ใช่ปัญหา คุณไม่สามารถกินสิ่งที่ต้องการ ไปในที่ที่ต้องการ นอนในที่ที่ต้องการได้
คุณเอาเวลาของคุณไปแลกกับเงินเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อเอาเงินของคุณไปแลกเวลา
ที่แย่ไปกว่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปคุณจะลงเอยด้วยการแลกเปลี่ยนเวลาที่มากขึ้นกับเงินที่มีค่าน้อยลง
ถ้าคุณไม่รับเงินพวกเขาก็สั่งคุณไม่ได้เงินเป็นสิ่งที่ถูกที่สุด! เสรีภาพ อิสรภาพเป็นสิ่งที่มีราคาแพงที่สุด..
.
หาเงินเพื่อซื้อเวลาของคุณกลับคืนมา
ต้องซื้อจากนายทาสคนปัจจุบันของคุณ
นั้นเป็นวิธีที่โลกทำงาน
ต้องการที่จะเป็นอิสระ ?
คุณต้องซื้ออิสรภาพของคุณ
ทาสสมัยใหม่นั้นไม่รู้ว่าตนเป็นทาส อย่าหลงในอำนาจของเงินเฟียต เงินเป็นสิ่งสำคัญมันทำให้เราทำสิ่งที่เราไม่อยากทำ อย่าตกเป็นทาสของเงิน 😼
เงินเฟียต มันคือเงินวิปลาสของรัฐบาลอันชั่วร้าย แรงงานทาสนั้นมีมาก่อนยุคเฟียต พวกนั้นมันวางแผนมาก่อนยุคเริ่มของเฟียตเพื่อที่จะควบคุมแรงงานของตน พวกนั้นมันฉลาดเป็นกรดนั่งยิ้มเยาะให้กับผู้คน สัตว์เศรษฐกิจที่มันสร้างขึ้นกลไกการสร้างทาสนั้นมันเริ่มต้นเป็นขั้นตอน 1-2-3-4 หากการใช้ชีวิตมันง่าย..
แล้วใครเล่าจะทำงานรับใช้เศรฐกิจให้พวกมัน?
หากผู้คนไม่ป่วย แล้วหมดตัวจากค่ารักษา?
หากผู้คนไม่หิวโซตลอดเวลาจนไม่เหลือเวลาคิด และตระหนักรู้?
หากผู้คนไม่ดิ้นรนทำงานกระเสือกกระสนหาเศษเงิน?
ที่เพียงพอแค่การใช้ชีวิตไปวันต่อวันด้วยค่าครองชีพที่วิ่งตามไม่จบสิ้น... หากผู้คนมีชีวิตที่มั่นคงจนสามารถหยุดงานได้
ใครเล่าจะทำงานให้มัน? ใครเล่าจะมาเลี้ยงไก่? ใครเล่าจะมาเลี้ยงวัว? ใครเล่าจะมาเป็นวิศวกรใหญ่? เพราะสิ่งที่มันโกงไม่ได้คือ พลังงาน และเวลา มันไม่สามารถเสกไข่ออกมาได้ ทุกอย่างมันต้องจ่ายด้วยเวลา หยาดเหงื่อแรงงานของผู้คน
เรียนรู้ที่จะเคารพหยาดเหงื่อแรงงานของคุณ เพราะมันคือทุนของคุณ ผู้คนนั้นเกิดมาพร้อมกับทุนที่เหมือนกัน ทุนคือเวลาหยาดเหงื่อแรงงาน
ประวัติศาสตร์ต้องไม่ซ้ำรอย แรงงานทาสต้องได้รับการปลดปล่อย ปลดแอกเสรีภาพจากอำนาจล้นฟ้า ออกจากเรือนจำขังจิตสู่อิสรภาพที่แท้จริง
ตื่นได้แล้วนีโอ..หากเลือกรับยาเม็ดสีน้ำเงินทุกอย่างจบไม่สามารถหวนคืนได้อีกต่อไป อีกไม่นานผู้คนจะตกเป็นทาสโดยสมบูรณ์เมื่อทุกอย่างพร้อม
คิดซิ่! ทำไมเขาถึงอยากให้เราเป็นมังสวิรัติ
คิดซิ่! ทำไมแบงค์เล็กถึงล้ม
พวกมันต้องการรวมศูนย์อำนาจเบ็ดเสร็จ CBDC และจองจำสติปัญญาผู้คน คนไม่ฉลาดนั้นปกครองง่ายมังสวิรัตินั้นเป็นกลุ่มเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ หลงลืม สติปัญญาอ่อน
อย่าละทิ้งความหวังสำหรับผู้ที่พยายามคิดค้นตัวแปรเหล่านี้ในอดีตที่ยาวนาน และมอบยาเม็ดสีส้มอ่อน ๆ ให้กับผู้ที่ยังไม่ตื่นรู้และไม่ได้เข้าใจ Bitcoin ให้พวกเขาได้ค่อย ๆ รู้
Walk out fiat standard Go to Bitcoin standard the road to sage.
Steak 👏 doesn't 👏 cause 👏 colon 👏 cancer 👏
Stop👏believing👏the lies 👏of the elite👏
สู่ขิตแน่นอน... ผู้ที่หลงรักเงินเฟียต บอกฉันหน่อยซิว่าคุณไม่ได้หลงรักมัน❗เฟียตนั้นสอนให้ผู้คนเป็นทาสที่ซื่อสัตย์จงใช้ชีวิตแบบนี้ จงเก็บเงินในธนาคาร จงอดออมเงินที่ดี เงินรัฐคือเงินที่ดี การแทรกแซงตลาดเป็นสิ่งที่ดี นโยบายนี้ดี เอาเงินไปใช้คนละหมื่น พวกเขาสัญญาว่าจะไม่มีคนตกงานและมีชีวิตที่อดอยากยากไร้ 🤡🌍
สังคมที่ผู้คนยากจนและมีชีวิตที่อดสู่ เป็นเครื่องหมายของอารายธรรมที่เสื่อมโทรม
ไม่มีสังคมใดที่จะเจริญและมีความสุขได้ถ้าหากคนส่วนใหญ่ยังยากจนและทุกข์เข็ญ ーอดัม สมิธ | นักเศรษฐศาสตร์ชาวสก๊อต 1723-1790
"หากต้องการเรียนรู้ว่าใครปกครองคุณ คุณก็แค่ค้นหาว่าคุณไม่ได้รับอนุญาตจากใคร" ชีวิตเป็นของคุณอย่าให้ใครมาสั่ง ตลาดเสรีจะสอนคุณเองว่าคุณเลือกผิด
เลือกอิสรภาพ เลือกบิทคอยน์ 💯
เงินของรัฐบาลคือคำมั่นสัญญา.. สิ่งนี้เป็นทรัพย์สินสาธารณะที่รัฐมีอำนาจในการใช้มันเพื่อปกครองเศรฐกิจต่างๆ เงินเฟ้อไม่ใช่เพราะมันเฟ้อของมันเองค่าครองชีพจะสูงขึ้นตลอดเวลาได้เยี่ยงไรในระบบเศรษฐกิจที่มีการค้าและทรัพยากรหมุนเวียน ไก่ยังออกไข่ให้วันละ 1ฟอง:1ตัวทุกวัน อัตราการผลิต:ความต้องการ
เงินเฟ้อเป็นเพียงนโยบายทำลายค่าเงินเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้องผลักดันแนวความคิดวัฒนธรรมเร่งรีบแก่สังคม เสนอหนี้และเงินทุนราคาถูกให้ผู้คนและเรียกคืนกลับสองเท่าด้วยอำนาจควบคุมเปลี่ยนแปลงนโยบาย นำหยาดเหงื่อแรงงานและผลผลิตส่วนตนย้ายจากทรัพย์สินสาธารณะไปเก็บไว้ในทรัพย์สินส่วนตนที่เป็นสิทธิของเราจริงๆ มูลค่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่สำคัญรองลงมา สิทธิในการเป็นเจ้าของนั้นสำคัญยิ่งกว่า...
บิทคอยน์คือทรัพย์สินเสี่ยง? ไม่! ความเสี่ยงที่แท้จริงคือเราเป็นเจ้าของบ้านแต่ดันฝากกุญแจบ้านไว้กลับคนแปลกหน้าและเขาแอบย่องเข้าบ้านในตอนที่ไม่อยู่เพื่อลักรอบขโมยของเราโดยไม่ให้รู้ตัว
https://www.blognone.com/node/133919
ตลาดหลักทรัพย์ของออสเตรเลียล้าหลังจังเลยครับ
ขอบคุณที่เอาภาษีไปเผาทิ้งอย่างไร้ค่า 🙂 น่าสมเพชที่สุดระบบภาษีการจัดการเละเทะ รวมมิตรมั่วกันหมดประเทศไม่เคยพัฒนาการเก็บความมั่งคั่งยากลำบากสุดๆ ทองคำที่ได้กำไรก็โดนขอส่วนแบ่งภาษีทั้งๆที่มันไม่ได้กำไรอะไรหากเทียบยังสามารถแลกอาหารได้จำนวนเท่าเดิม
ผลิตเงิน >> เก็บภาษี >> ทำลายค่าเงิน
ระบบถูกออกแบบมาให้เป็นทาส ไม่สามารถสะสมความมั่งคั่งได้โดนทั้งภาษี โดนทั้งเงินเฟ้อ โดนทั้งกฎหมายบังคับ ทุกวันนี้งานเดียวไม่พอต้องดิ้นรนหารายได้เพิ่มจนเกินฐานรายรับต้องโดนภาษีรายรับอีกรอบเมื่อเกินเกฎกำหนด มืดแปดทิศเลย ถนนดีๆยังไม่มีให้เห็นเลยเก็บภาษีมาหลายสิบปี
คนรวยปลิ้นเงินได้เยอะกว่าคนจนและเลี่ยงภาษี และแจ้งล้มละลาย
https://www.blognone.com/node/134179
มุแง้ รัฐรังแกวงการคริปโตอีกแล้ว
ไม่สนใจเสมอ.. เพียงแค่เวลา ยังไม่ถึงครึ่งทางของ GDP โลกเลยหนทางยังอีกไกลผู้คนส่วนมากยังคงชอบทำงานหนักให้กับระบบที่ขโมยผลผลิตพวกเขาอยู่ตลอดเวลา 🤔 ผมเชื่อในทฤษฎี 3ชั่วอายุคน เพราะคนยุคนี้โดนล้างสมองทางความคิดไปหมดแล้ว ต้องกำเนิดชนรุ่นใหม่ในความคิดที่แตกต่าง เทคโนโลยี การสื่อสาร เงิน ความรู้ความเข้าใจ ความเชื่อมั่นและความจริง ตลาดเสรียังคงทำงานอยู่ ณ ราคายุติธรรมในตลาด
เด็กเกิดมาเป็นโรคตาแดงในทันทีที่ลืมตาดูโลกเพื่อเขียนโครงสร้างของอารยธรรมบทใหม่ ความจริงคือมนุษย์ เพราะมนุษย์บอกว่ามันคือของจริง
อาหาร>>เกลือ>>หอยเบี้ย>>ทองคำ>>ตั๋วแลกทอง>>เงินเฟียตแบ็คทอง>>เงินเฟียตแบ็คความโง่เขลาประชาชน>>ระบบApp>>CBDCระบบทาสเข้มงวด
นำผลผลิตของคุณเก็บไว้ในสิ่งที่คุณเชื่อมั่นด้วยความเต็มใจ..
บิทคอยน์คือระบบเงินกระจายอำนาจและความมั่งคั่งอย่างตรงไปตรงมาไม่มีการตุกติ๊กในนโยบายการเงิน
THE BITCOIN STANDARD
สิ่งที่โรงเรียนไม่สอนคือ ความเข้าใจเรื่องเงินและวิธีหาเงินล้าน เขาไม่อยากให้คุณร่ำรวยและประสบความสำเร็จในการมีชีวิต
นับเป็นสายพานการผลิตทาสในระบบด้วยเช่นกัน
- การค้าขายไม่ต้องใช้ปริญญา
- ผู้ประกอบการไม่ต้องใช้ปริญญา
- ทำธุรกิจไม่ต้องใช้ปริญญา
- นักลงทุนไม่ต้องใช้ปริญญา
- โปรแกรมเมอร์ไม่ต้องใช้ปริญญา
- งานออกแบบไม่ต้องใช้ปริญญา
- ช่างฝีมือไม่ต้องใช้ปริญญา
- โฆษณาสินค้าไม่ต้องใช้ปริญญา
- สื่อออนไลน์ไม่ต้องใช้ปริญญา
- นักคิดสร้างสรรค์ไม่ต้องใช้ปริญญา
- การทำคอนเทนต์ไม่ต้องใช้ปริญญา
- ที่ปรึกษาส่วนตัวไม่ต้องใช้ปริญญา
- นักขายคอร์สตัวยงไม่ต้องใช้ปริญญา
- การหาเงินไม่ต้องใช้ปริญญา
มีช่องทางมากมายในการหาเงินและแน่นอนสิ่งเหล่านี้ใช้เพียงทักษะและความสามารถเท่านั้น!!
ปริญญามีไว้ใช้เพียงอย่างเดียวคือการเป็นแรงงานทาสในระบบสังคมสร้างกฎระเบียบมากมายและข้อจำกัดในการใช้ชีวิตที่ซับซ้อนมันย้อนแย้งมากจริงๆ
องค์กรต้องการคนมีความสามารถทำงาน หรือว่าใบปริญญาแต่ไม่ต้องการคนมีความสามารถก็ได้ ?
ลืมเรื่องการศึกษาไปได้เลย.. หน้าที่คือการหาเงินและใช้ชีวิตให้มีความสุขทั้งหมดเป็นเพียงสายพานผลิตทาสในระบบเท่านั้น
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสวัสดิ์การเรียนฟรีจากรัฐบาล สร้างโอกาส? อย่ามาทำให้ขำเข้าไปเรียนเพื่อเรียนรู้สิ่งปลูกฝังไร้สาระที่ไม่มีประโยชน์ในการมีชีวิตนอกจากหลักคำสอนสู่การเป็นทาส
รัฐบาลริดรอนเสรีภาพในการใช้ชีวิตของมนุษย์ไปเรียบร้อยแล้ว
คุณควรนำเงิน 5แสนค่าเล่าเรียนไปเริ่มต้นชีวิตและมองหาโอกาสเสียดีกว่า ฝึกฝน ขัดเกลา ชำนาญ
The fiat เป็นเพียงระบบคุก จุดประสงค์หลักมีเพียงทำให้ทั้งโลกมีเพียงสองชนชั้นเท่านั้นขุนนางกับทาส
การรับปริญญาเป็นเพียงหลักสูตรจิตวิทยาแห่งความภาคภูมิ
ที่พิมพ์มายาวๆ พรี่ๆใช้อะไรจ่ายค่าเน็ตอ่ะครัฟ
เน็ตข้างบ้านคับ
>>541 เงินบาท แล้วไง ก็เพราะพวกนายทุนใหญ่มีอำนาจรัฐพวกตามมาด้วยไงล่ะ ยกตัวอย่างอินเตอร์เน็ตสองเจ้าใหญ่ปัจจุบันก็ได้ ทางเขามีอำนาจของรัฐในมือจากการเอื้อประโยชน์ระหว่างกันกับระบบทุนและอำนาจรัฐ จะเห็นได้ชัดเลยว่า ส่วนของ บ.โทรคมนาคม ในปัจจุบันอิงแอบอยู่หลังอำนาจรัฐ และทำให้อำนาจรัฐมากขึ้นจากการบังคับขู่เข็ญให้ประชาชนไม่มีทางเลือกจากการใช้เงินที่พิมพ์ได้อย่างไม่มีจำกัด ทำให้ประชาชนจนลงทุกปีๆ
ท้ายที่สุดคนจะเป็นทาสต่ออำนาจของรัฐ ต้องจำนนต่อมัน แต่ btc ถ้าประชาชนร่วมกันใช้ยังไงรัฐจะไม่สามารถกำหนดชะตาชีวิตเราะได้ด้วยการใช้ btc
โชคดี กูใช้เงินหยวน
นี่คือขั้นตอนแรกในการหลบหนีจากระบบ
คุกที่ใหญ่ที่สุดที่ผู้คนอาศัยอยู่คือความกลัวในสิ่งที่คนอื่นคิด "mental prison" เรือนจำขังจิตใจของคุณเอง
เนื่องจากมนุษย์มีความหลากหลายในความคิดลืมเรื่องความเท่าเทียมหรือสิ่งปลูกฝังไปได้เลยค่านิยมของสังคมความคิดของสังคม คุณไม่จำเป็นต้องมาแคร์เพื่อนข้างบ้านที่ความเห็นไม่ตรงกับคุณ มนุษย์สามารถอยู่ร่วมกันได้เพราะมีบางอย่างคล้ายกัน คุณเกิดมาเพื่อรับใช้ตนเองเชื่อมั่นในตนเองเดินตามทางของตนเอง เคารพตนเองก่อนเสมอ
สื่อกระแสหลักนั้นเป็นสิ่งหลอกลวงอย่างมากที่คอยชักใยชีวิตผู้คนให้เดินตามแนวทางคำสั่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
มนุษย์มีความหลากหลายต้องยอมรับตรงนี้เลิกไร้สาระว่ารัฐบาลจะหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับมนุษย์ได้ด้วยการแทรกแซงกลไกตลาด
ความคิดเป็นสิ่งที่เปิดกว้างรับฟัง แสดงความคิดเห็น ไม่ใช่เห็นด้วยเพียงอย่างเดียวสังคมทุกวันนี้ไม่คิดกันแล้ว
คุณต้องเริ่มมองปัญหาและเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาที่ละขั้นตอนไม่มีใครสามารถแก้ปัญหาโดยไม่รู้จักปัญหาก่อน
The Fiat เป็นระบบที่สร้างปัญญาหาและก็ส่งตัวแทนมาแก้ปัญหาที่ตนเองก่อทุกๆ 4 ปี และผู้คนเชื่อไปแล้วว่าพวกตัวแทนที่เข้ามาจะแก้ปัญหาได้ ไม่เลย.. คนที่จะแก้ปัญหามีเพียงตัวคุณเองเท่านั้นจดจำสิ่งนี้
โครงสร้างเศรษฐกิจเอาใจคนขี้เกลียดและลงโทษคนขยันเพราะพวกเขาไม่อยากให้คุณหลุดพ้นจากพัธนาการที่ฉุดรั้งชีวิตนี้
คุณได้รับยาส้มไปแล้วดวงตาของคุณเริ่มสามารถมองเห็นภาพลวงตาเหล่านี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น หากคุณเริ่มมองเห็นภาพลวงตาคุณก็มาได้ครึ่งทางแล้ว แต่ดวงตาของคุณจะไม่สามารถมองเห็นอะไรเลยหากหัวใจมืดบอด
พิมพ์ยาวๆใช้อะไรซื้อข้าวสารกรอกหม้อครับพรี่
การคอรัปชั่นเกิดจากความต้องการของมนุษย์ CBDC จะไม่สามารถแก้ไขการคอรัปชั่นได้ เพราะสุดท้ายแล้วรัฐบาลจะทำเองเพราะมีความต้องการ ยิ่งผู้คนยกอำนาจการดูแลรักษาเงินทุนของตนเองให้กับผู้อื่นดูแลในวันนั้นชีวิตได้จบสิ้นแล้ว ความไว้วางใจไม่สามารถเกิดขึ้นได้โดยเฉพาะคนที่ขโมยเงินของเรามาตลอดประวัติศาสตร์ 🫡 ความผิดพลาดเกิดขึ้นซ้ำรอยเดิม
คุณจะถูกหักหลังอย่างเลือดเย็น... รัฐบาลเป็นเพียงงูพิษที่คอยแว้งกัดผู้คน คุณจะไม่ไว้ใจใช่มั้ย ?
คุณทำงานเสียหยาดเหงื่อแรงงานอย่างยากลำบากแต่คุณกับฝากเงินไว้กับโจร หยาดเหงื่อแรงงานคุณสูญเปล่า.. ไม่ใช่เพราะคุณไม่เก่งไร้สามารถแต่มันผิดที่คุณไว้ใจโจร
การบริโภคส่วนเกินของผู้คนในวัฒนธรรมแห่งความเร่งรีบเกิดจาก Fractional Reserve Banking, Central Banking and Infinite dollar. 💸
ชะลอการบริโภคด้วย Bitcoin ⚡, สินทรัพย์ที่มีความแข็งแกร่งเชิงมูลค่าทางเวลา, การค้าเสรี และการค้นพบราคาที่แท้จริงจากกลไกตลาดเสรี
ต้องการระบบที่จูงใจให้เกิดการบริโภคที่เลื่อนออกไป ทำการศึกษา BITCOIN SYSTEM ⚡ ระบบที่ต่อต้านวัฒนธรรมแห่งความเร่งรีบ และต่อต้านการเป็นทาสในระบบคำสั่งจากการกดขี่
จิบกาแฟของคุณในวันอาทิตย์อย่างสบายใจ ☕ ความโกลาหลจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้เหมือนเดิมผู้คนยังต้องเร่งรีบหาเงินสำหรับปัญหาในชีวิตประจำวันไม่สิ้นสุดไม่ว่าคุณจะเป็น เศรฐฐี ชนชั้นกลาง ต่ำหรือยาจก ทุกชีวิตต้องเร่งรีบหาเงินที่เสื่อมค่าตลอดเวลาเพื่อแก้ปัญหาชีวิตทั้งหมดอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนกับเงินที่มีอุปทานที่ไม่สิ้นสุด
กรอบเวลาการใช้เงินจะยิ่งสั้นลง ๆ ความเร่งรีบก็จะยิ่งเร็วขึ้นๆ
คุณลองคิดดูว่า(ถ้า)เรามีอัตราเงินเฟ้อที่ 5% ในระดับรายเดือน 🤌🫴
คุณสะดุ้งตื่นราวกับฝันร้ายและพบว่าทุกอย่างหายไป
พิมพ์ยาวๆใช้อะไรซื้อกาแฟมาจิบครับพรี่
กุสแกนหน้าไม่ผ่าน อส!
ทำไม Bitcoin เป็นสินค้าประเภทเงิน ที่ดีที่สุด?
เงิน คือ อะไร? “เงิน” เป็นเครื่องมือแลกเปลี่ยนที่ดีกว่าระบบการแลกเปลี่ยนในอดีตแบบ บาร์เธอร์ (Barter) ตลอดประวัติศาสต์ของมนุษยชาติ เราต้องพยายามซ้ำแล้วซ้ำเล่าในการควานหาสิ่งที่จะถูกนำมาใช้เป็น “เงินที่ดีที่สุด”
.
เงิน คือ สินค้าที่ทำหน้าที่ในการกำหนดมูลค่าการแลกเปลี่ยนให้กับสินค้าประเภทอื่นๆ ในอดีตนั้นมีสินค้าหลากหลายชนิดถูกนำมาใช้เป็นเงิน เช่น เปลือกหอย, ลูกปัด, หิน, ขนนก และลูกปัดที่ทำมาจากเปลือกหอย (Wampum) ซึ่งก็เกิดคำถามตามมาว่าสินค้าบางอย่างทำไมจึงกลายเป็นเงินที่ดีได้ แต่ทำไมบางอย่างกลับไม่สามารถเป็นเงินที่ดีได้?
.
นักเศรษฐศาสตร์ และ นักประวัติศาสตร์ ได้นำเสนอ “คุณลักษณะของการเป็นเงินที่ดี” [1] เอาไว้หลายประการด้วยกัน สินค้าใดก็ตามที่ยิ่งมีคุณสมบัติต่างๆ ตามที่ระบุไว้มากเท่าไหร่ จะยิ่งมีโอกาสกลายเป็นเงินที่ดีได้มากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้รับการยอมรับในฐานะ “เงิน” มากยิ่งขึ้นด้วย
.
นักลงทุนแบบดั้งเดิมมักจะนำกรอบการลงทุนทางเทคโนโลยีมาใช้กับ bicoin ซึ่งทำให้ได้ข้อสรุปว่า bitcoin เป็นเพียงเหรียญแรกที่นำเสนอเทคโนโลยีบล็อคเชน และจะถูกแทนที่อย่างง่ายดายโดยเทคโนโลยีที่เหนือกว่าในอนาคต แถม bitcoin ยังให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่า แต่ตามที่เราได้ให้ข้อมูลไว้ในงานวิจัยนี้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของ bitcoin ไม่ใช่ประเด็นของการเป็นระบบการชำระเงินแต่อย่างใด
.
แต่ bicoin เป็นระบบการเงินที่ดีกว่า ในฐานะเงิน bitcoin นั้นมีคุณสมบัติเฉพาะตัว ดังนั้นเราไม่เพียงแค่เชื่อว่านักลงทุนควรพิจารณา bitcoin ก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อทำความเข้าใจกับสินทรัพย์ดิจิทัลเท่านั้น แต่ควรพิจารณา bitcoin ก่อน และแยก bitcoin ออกจากสินทรัพย์ดิจิทัลตัวอื่นๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นตามมาด้วย
ดีที่สุดแต่ไม่มีคนใช้
"รถยนต์ไม่ใช่ความคิดที่ดี" - ม้า
"อินเทอร์เน็ตไม่ใช่ความคิดที่ดี" - หนังสือพิมพ์
"อีเมลไม่ใช่ความคิดที่ดี" - ที่ทำการไปรษณีย์
"โทรทัศน์ไม่ใช่ความคิดที่ดี" - สถานีวิทยุ
"การสตรีมไม่ใช่ความคิดที่ดี" - โรงภาพยนตร์
" ฐานข้อมูลที่เปิดกว้างไม่ใช่ความคิดที่ดี " - โรงเรียน
"BITCOIN ⚡ไม่ใช่ความคิดที่ดี" - ธนาคารกลาง
ฉันเรียนรู้เศรษฐศาสตร์มหภาค และระบบการเงินพื้นฐานนอกห้องเรียน เรียนรู้ข้อมูลในการดำรงชีวิตพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ถูกต้องการกินนอนดูแลสุขภาพนอกห้องเรียน และใช้ทักษะการหาเงินที่ไม่ได้มาจากห้องเรียนเลย 😂 และที่สำคัญ BITCOIN ⚡
เจอกัน9300ครับชาวบิทคอย
กูสามาีถเรียนข้อผิดพลาดของการลงทุนได้จากที่ไหนเป็นตัวอย่างบ้างวะ คือกูไม่ได้อยากจะเรียนอะไรแต่โลกสวย ลงทุนแล้วได้ผลกำไรแน่นอนโม้ชิบหาย
2.9ล้านเหรียญเหลือ4เหรียญ พรี่ๆชาวขลิบโตว่าไงควัฟ
>>561 nft แค่ jpeg ที่บางคนเห็นค่าเท่านั้น แถม nft ถ้าไปดูก็แต่ ใบเสร็จ ตัวรูปมันเราเป็นเจ้าของไม่ได้ด้วยซ้ำ การที่คนอื่นเอาไปตั้งรูปโปรไฟล์ เจ้าของ nft ก็ฟ้องไม่ได้ ที่มันจะไม่มีค่าก็เรื่องปกตินะ
แต่ btc ต่างหาก ตือความจริงของระบบการเงิน เป็น sound money ที่แท้จริง ที่เราควรมีไว้ ไม่ว่าจะอิสระจากรัฐ การที่รัฐเข้ามาแทรกแซงเงิน fiat ได้ แต่ไม่สามารถแทรกแซงหรือทำลาย btc ได้ ต่างหาก เป็นสิ่งที่เราควรถืออย่างแท้จริง
คริปโต โทเคนมันก็อิงกับระบบไง
ถ้าบริษัทเจ๊ง มูลค่าหุ้นก็เป็น0 มันก็แค่currency ที่ไว้อิงกับตัวสินค้าไม่ได้มีมูลค่าในตัวมันเอง
เพียงแต่เจ้าของกำหนดราคาตลาดให้คนซื้อขายตามราคาได้ และมีประโยชน์ไว้ใช้ฟอกเงินผิดกฏหมาย
https://www.youtube.com/watch?v=a5qr1DrsleY
ซื้อหลักแสน ขายหลักสิบหลักร้อย ฮา
ใครคิดว่าคริปโตเป็นการสู้กับทุนนิยมนี่ตลก
คริปโตนี่ล่ะทุนนิยมตัวดี
คริปโต คือ การพนัน สินะ
ใกล้ปิดฉาก NFT หลังตลาดเริ่มวาย มูลค่าลด ปลดพนักงานทิ้ง https://mgronline.com/stockmarket/detail/9660000100223
https://www.youtube.com/watch?v=IWzwAmjaqtw
Another Crypto Exchange Founder Guilty - CZ's Charges Explained
ทำไมเทพคอยน์ชอบโดนชกบ่อยๆนะ
อะไรคือภัยภิบัติที่ร้ายแรงที่สุด แต่ไม่เคยถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์?
มันไม่ใช่น้ำท่วม สึนามิ ไฟไหม้ป่า แต่มันคือภัยพิบัติจากเงินเฟ้อ
อัตราเงินเฟ้ออย่างน้อยๆ มันต้อง 5-10% ต่อปี และตั้งแต่ช่วงโควิดจนถึงวันนี้ อาจจะแตะ 2 หลักมาตลอดก็เป็นได้
แต่เราไม่มีวันรู้ความจริง...
เงินเฟ้อ ที่ฟังดูน่ารักมุ้งมิ้ง เหมือนท้องอืดท้องเฟ้อนี้ควรถูกเรียกใหม่ว่า "เงินเสื่อมค่า" เพราะมันคือภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่สุด ตัวแปรหลักที่นำพามนุษยชาติถอยหลังลงคลอง
ราว 50-60 ปีก่อน แม่ผมเข้ารับราชการที่บ้านนอก รับเงินเดือนครั้งแรก 1300 บาท ข้าวจานละบาท ยังพอหากินได้ มันซื้อได้เป็นพันจาน มันกินเองเหลือๆ
รับราชการในยุคนี้ วุฒิ ป.ตรี เงินเดือน 15,000.- ข้าวจานละ 40 บาท เริ่มหายากแล้วและกินก็ไม่อิ่ม ไม่ก็อิ่มเพราะได้ข้าวเยอะ กับข้าวแทบไม่มี และที่สำคัญเอาเงินทั้งเดือนไปซื้อข้าวได้แค่ 300 กว่าจาน รวมค่าใช้จ่ายทุกส่วนแล้ว ผลคือ มันไม่พอ!
ความสามารถในการเลี้ยงดูตัวเองจากเงินเดือนเริ่มต้น ของคนยุคนี้มันต่ำกว่าคนยุคก่อนมากมายหลายเท่า ไม่แปลกเลยที่คนทำงานประจำโดยทั่วไปจะมีชีวิตที่ลำบากมาก เก็บออมไม่ได้ สร้างทรัพย์สินไม่ได้ และดูท่าจะค่อยๆ แย่ลงด้วยซ้ำเพราะรายได้มันโตไม่ทันราคาข้าวของที่แพงขึ้น
ต้องพึ่งพาการช่วยเหลือจากพ่อแม่ แทนที่จะให้เขาพึ่งพาเรา พ่อแม่ใครทำไว้ดีก็รอดไป ส่วนใครที่บ้านมีฐานะยากจนเป็นทุนเดิม ชีวิตคุณจะยากลำบากกว่าหลายเท่าตัว
คนเริ่มทำงานยุคนี้ คุณต้องมีเงินเดือนเริ่มต้น 6-70,000.- คุณถึงจะมึกำลังซื้อเท่ากับคนยุคก่อน
ไหวเหรอ? โลกมันผิดเพี้ยนไปกันใหญ่
เอาแบบหลักการหน่อย CPI หรือดัชนีราคาผู้บริโภค คือตะกร้ารวมสินค้าที่รัฐเอามาคำนวณเงินเฟ้อ มันใช้การไม่ได้ ไม้บรรทัดที่ใช้วัดมันยืดหดได้ มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อะไรแพงเอาออก อะไรกระจอกเอาเข้า มันจึงไม่เคยสะท้อนภาระต้นทุนที่แท้จริงที่ประชาชนต้องแบกรับเพิ่มเลย สรุปง่ายๆ คือมีไว้ทำอะไรก็ไม่รู้ครับ
โดยที่ให้เหตุผลเราว่า "สินค้าเหล่านี้มันควบคุมไม่ได้" ว๊อทเดอะ....! ทั้งๆ ที่สินค้าที่คุณเอาออกมันคือสินค้าจำเป็นที่เราไม่ซื้อก็ต้องซื้อ ไม่อยากใช้ก็ต้องใช้ คือต้นทุนชีวิตหลักของผู้คน เช่น เนื้อสัตว์และพลังงาน เนื้อวัว หมูแพง ก็เอาปลามาใส่แทน น้ำมันราคาพุ่งสูงไปไกลก็เอาตากตะกร้าคำนวณไปเลย
ถ้าหลักการเป็นแบบนี้ แล้ว CPI มันจะสะท้อนเงินเฟ้อได้อย่างไร?
รัฐและธปท. จะหาสูตรคำนวณทุกวิถีทางให้ตัวเลขมันต่ำที่สุด เพื่อความสบายใจของประชาชน ตัวเลขสูงๆ แล้วผู้คนจะใจสั่นกินไม่ได้นอนไม่หลับ ประชาชนไม่รู้ความจริงเลยว่า ชีวิตเขากำลังจะเผชิญกับอะไรที่รออยู่ข้างหน้า
แม้ว่าหายนะของเงินเสื่อมค่านี้ คือตัวแปรที่ทำร้ายทำลายชีวิตของผู้คนอย่างแสนสาหัสที่สุดแล้ว
มันขโมย เวลา หยาดเหงื่อแรงกาย ความพยายามทุ่มเท ของผู้คนที่ขยันหมั่นเพียรตั้งใจทำมาหากินออกไป และมันหนักขึ้นทุกวัน
หลายคนใช้เวลาทำงานทั้งชีวิตเพื่อบ้านเล็กๆ แค่ 1 หลัง ที่มันจะปลอดหนี้และได้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของแค่ไม่กี่ปีในช่วงบั้นปลายของชีวิต และหลายคนไม่มีสิทธิ์ที่จะมีที่ซุกหัวนอนเป็นของตัวเองไปจนวาระสุดท้ายของชีวิตด้วยซ้ำ
ในวันนี้รู้ตัวอีกที คนส่วนใหญ่ก็อยู่ในสถานะไม่เหลือ "อนาคต" อีกต่อไป
เรื่องที่สำคัญกับชีวิตประชาชนขนาดนี้คุณยังโกหก แล้วเราที่เป็นประชาชนธรรมดา จะหวังพึ่งพาอะไรจากคุณได้?
Nick Ragan
"เพื่ออะไร ?
ผมจนลง. หรือรวยขึ้น เพราะ กูรู จิ๋มหมาตัวใหน มัน คิดว่ามัน ฉลาดกว่าตลาด รึป่าว?
เวลาคุณอายุ มากขึ้น คุณจะเริ่มเข้าใจ ว่า เวลามีค่ามากขึ้นสำหรับคุณ ทุกวัน.. คุณเริ่ม ประเมิน risk /reward ทุกอย่าง เป็น เวลา ..ไม่ใช่ เงิน.
เพราะ ยิ่งคุณ อายุมากขึ้น.. เวลา เป็น commodity ที่ คุณเอาคืนมา ไม่ได้.
ยิ่ง ข้าม 60 ไปแล้ว เรื่อง พวกนี้ you don't give a shit anymore.
ถาม..
ถ้า Bitcoin มันร่วง จาก $69k ลงไป $16k แล้วมันกลับมา $75k ได้อีกครั้ง... ยังมี อะไรเหลือที่ ผมจะต้อง พิสูจน์ ให้ ไอ้พวก กูรู หีหมา พวกนี้ อีก ? มี มั้ย ? ถ้าไม่มี จะต้อง ไปพูด กับ มัน ทำไม ?
ถ้า 15 ปี bitcoin มันกล่อมคนพวกนี้ไม่ได้..ผม เป็นใคร ที่จะเอา 15 วินาที ไปโยนทิ้่ง กับ มัน
They cannot and will never be convinced. Their egos won't allow it.
You do you.
They can-do them.
I'm gonna do me."
เงินเฟ้อไม่มีจริง
Bitcoin คือ เครื่องสูบความมั่งคั่ง จากทรัพย์สินที่ทำผิดหน้าที่
ทอง เป็นเครื่องประดับ และทำอุตสาหกรรม ชิป
ที่ดิน เป็นที่เพราะปลูก
อสังหา เป็นที่ซุกหัวนอน
หุ้น เป็นที่ระดมทุนและได้ปันผล
พระเครื่อง เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ
นาฬิกา เป็นที่บอกเวลา
Bitcoin
สอนให้คนมีแนวคิด
เหมือนคนร้อนเงิน คือ
"ขยันทำงานแล้วเก็บออม"
อัตราเงินเฟ้อถือเป็นภาษีที่ใหญ่ที่สุด เนื่องจากใช้กับทุกสิ่งที่คุณซื้อและเงินที่คุณประหยัดได้ พวกมันทำลายคุณค่าของการทำงานหนักที่คุณสร้างขึ้น การประหยัดเงินเพื่อแลกเปลี่ยนสินค้าได้น้อยลงสำหรับอนาคต แนวคิดนี้จะเปลี่ยนพฤติกรรมชีวิตให้เร่งรีบใช้เงินออกไป
คุณพร้อมแล้วหรือยัง?.. Bitcoin no inflation 21 Million coin only!
Q : ทำไม ไมเคิลเซย์เลอร์ ถึงซื้อ btc มาแล้ว ไม่ขาย ทั้งที่คนปกติซื้อมาแล้วก็ขาย อาจจะเพื่อทำกำไร หรือส่งต่อให้กับลูกหลาน ?
A : คนที่ใช้เงิน fiat เราเรียกคนเหล่านั้นว่า Poor
การที่คุณจะมีสินทรัพย์ที่สามารถข้ามผ่านกาลเวลา ถ้าหากคุณขายคุณก็จนลงเรื่อยๆ
ก่อนศึกษาบิตคอยน์ => บิทคอยน์ดูคล้ายแชร์ลูกโซ่
หลังศึกษาบิทคอยน์ => แชร์ลูกโซ่ตัวจริง คือระบบธนาคารทั้งหมด ไม่ใช่บิทคอยน์
😏😏😏😏
วันนี้เมื่อ 13 ปีที่แล้ว (23 เมษายน 2011) ผู้สร้าง #Bitcoin หรือ "Satoshi Nakamoto" ได้ทิ้งอีเมลฉบับสุดท้ายเอาไว้ให้แก่ Mike Hearn ก่อนที่จะหายไปตลอดกาลและไม่เคยตอบอีเมลใครให้โลกได้รับรู้อีกเลย (มากสุดคือแค่มาโผล่ในช่องตอบกระทู้ในรอบ 5 ปี) 📩
.
จะบอกว่าเป็น "จดหมายลา" ก็คงไม่ผิดนัก เพราะเข้าได้ระบุเอาไว้ในอีเมลดังกล่าวว่า "ฉันจะย้ายไปทำอย่างอื่นแล้ว Bitcoin อยู่ในมือของเหล่าคนที่ดี..." 💬
.
ซึ่งเหล่าคนที่ดีที่เขาพูดถึงในอีเมลคือ Gavin เพื่อนร่วมอุดมการณ์ของเขา และคนอื่น ๆ (เขาใช้คำว่า "... with Gavin and everyone") 👨👨👧👦
.
ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความ "หายห่วง" และ "วางใจ" จนสามารถปล่อยมือจาก #BTC ได้แล้ว และเขาคงหวังว่าชุมชน Bitcoin จะสามารถเติบโต พัฒนา และปกป้องแก่นแท้ของตัวมันเองเอาไว้ได้ด้วยกลุ่มคนเหล่านี้ ❤
.
13 ปีผ่านไป ไม่รู้ว่าตอนนี้บุคคลหรือกลุ่มคนที่สร้าง Bitcoin ขึ้นมานี้ยังมีชีวิตอยู่ไหม แต่ถ้ายังมีชีวิตอยู่ เขาคงได้เห็นภาพอย่างทุกวันนี้ และคงได้เห็นว่ามันเติบโตมามากขนาดไหน มีการพัฒนาอะไรมากมายข้างบนเครือข่าย และยังมีเครื่องขุด โหนด รวมถึงสาวกอีกมากมาย ที่ยังศรัทธาและยึดมั่นในแนวทางอย่างทุกวันนี้ 🥰
.
มาร่วมฉลองครบรอบ 13 ปี วันที่จดหมายฉบับสุดท้ายนี้ได้ถูกทิ้งไว้กันเถอะสหาย !!! โดยเว็บไซต์ Bitcoin Holidays ได้บรรจุวันนี้ลงในปฏิทินประจำปีของ Bitcoin และได้ตั้งชื่อมันว่าวัน "Bitcoin in Good Hands" 🗓📌
.
#พ่อมดคริปโต
แล้วทำไมเรื่องการจ่ายภาษีมันถึงกลายเป็น”หน้าที่“ละครับ ทั้งที่มันเป็นสิ่งที่เราควรตั้งคำถาม ถ้าบอกว่าอย่างนั้นเรามีสิทธิที่จะไม่จ่ายภาษีรึเปล่า? การที่เราก้มหน้าก้มตายอมรับให้เรื่องแบบนี้เป็นหน้าที่ก็ไม่ต่างกับการบอกว่าการเป็นทาสมันคือหน้าที่ การเป็นทาสคือการที่นายทาสมีสิทธีเหนือร่างกายและผลผลิตของทาส100% การขัดขืนของทาสนำมาซึ่งท้ายสุดคือคุกหรือความตาย แล้วอย่างนี้ ทาส 2% 10% 20% ยังเป็นทาสอยู่รึเปล่า?? สำหรับผมแล้วคำตอบนั้นชัดเจน ใช่การเป็นทาส 2%อาจดีกว่าการเป็นทาส100% แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ความจริงในการเป็นทาสนั้นเปลี่ยน เผื่อนึกภาพไม่ออก ถ้าผมเลือกไม่จ่ายภาษีเป็นไงครับ ติดคุกครับแล้วถ้าเรา push to the extreme ก็คือความตาย ภาพทาสขึ้นมายังครับแค่มันไม่ extreme เท่าและทาสขัดขืนได้เล็กน้อย(ถึงแม้นายทาสอย่างรัฐจะมีเครื่องมือในการขโมยเงินอย่างเงินเฟ้ออยู่ดี)
ผมบอกว่าตอนนี้ฐานะเรากับรัฐคือ “ทาสกับนายทาส” in extreme view เพราะเราโดนมัดมือชกให้จ่ายภาษี(บังคับเอาแรงงานผลประกอบการให้) ในมุมมองนายทาส ทาสมีหน้าที่ๆจะต้องจ่ายภาษีให้นายทาส แต่นั่นคือมุมมองนายทาส ในความจริงแล้วในฐานะปัจเจกเราไม่ได้ต้องมอบ แรงงานจาก private property(ร่างกายเรา)ให้คนอื่นเลยเพาาะนั้นคือ ”สิทธิ“ที่มีมาตั้งแต่กำเนิดของเรา ไม่ต้องให้มีใครมาบอกว่าเรามีสิทธินั้นรึเปล่า ซึ่งถ้าเราเห็นแบบนี้แล้ว การที่นายทาสหรือเพื่อนมองว่าการจ่ายภาษีเป็นหน้าที่ก็คือการสนับสนุนให้มีการละเมิด“สิทธิ”ของเรานั่นเอง
คุณแม่งปัญญาอ่อน และสิ่งที่คุณบอกว่า รัฐ provide นู้นนี่นั่น คุณแม่งปัญญาอ่อนอ่ะ สินค้าไม่ได้ประสิทธิภาพ ไม่เคยยกระดับชีวิตมนุษย์ครับ และเอาเข้าจริงๆ การเดินทางไปต่างประเทศ ก็ไม่เห็นต้องติดต่อใครเลยจริงๆก็ได้ ถ้างั้นคุณจะอ้างเสรีภาพได้ยังไง ในเมื่ออยู่ในกรงของ รัฐฐะ
โอ้วววว อย่าลืมเสียภาษีให้ฉันนะ ฉันจะอยู่เหนือความดีและชั่วเอง 555
สังคม ancap มันเคยเกิดขึ้นนะ แล้วผมไม่เคยแปลกใจกับความคิดเห็นทำนองแบบคุณเท่าไหร่ เพราะ
1.) คุณอยู่ในโลกที่อยู่ภายใต้ modern state คุณก็จะมี mindset ที่ต้องสยบสมยอมอย่างไม่สมัครใจกับการกระทำของคนที่มีอำนาจสูงกว่า ดังนั้น ความคิดคุณจึงจะมองว่าสิ่งที่ outside เลยมันเป็นไปไม่ได้... มันสุดโต่ง คนที่คิดแบบนี้มันอันตราย ดังที่ Murray N. Rothbard เคยพูดเปรยไว้ใน Anatomy of the state ไว้ว่า "สิ่งที่อันตรายที่สุดของรัฐคือการปล่อยให้ปัญญาชนวิจารณ์มัน" ถ้าคุณจะเถียงว่ารัฐยังคง "จำเป็น" ผมไม่ว่าอะไรกับโลกแห่งความเป็นจริง ณ ตอนนี้นะ แต่ถ้าพูดถึงว่า "มันได้ไหม" หรือ "มันเป็นไปได้ไหม" ผมต้องขอตอบว่าทำได้และเป็นไปได้ ยกตัวอย่างเช่น Republic of Cospaia ที่อยู่ได้ถึง 386 ปี หรือ Acadia อยู่ได้ถึง 105 ปี และอื่น ๆ หรือ ใกล้เคยอีกก้คือ Old Swiss Confederacy
2.) รายละเอียดเกี่ยวกับรัฐมี function อะไรที่จะมอบพลเมืองตัวเองได้บ้างเช่น สาธารณูโภค, สาธารณสุข, ทหารและอื่น ๆ ถ้าพูดอย่างเป็นกลางจริง ๆ "ควร" พูดว่า สิ่งที่กล่าวมาเอกชนมันก็ทำได้ กล่าวคือ ชุมชนหนึ่งสามารถสร้างถนนเองและเก็บค่าผ่านทาง/ค่าเหยียบได้, บริษัทหนึ่งสามารถเป็นบริษัททหารในรูปแบบ mercenary/private militia ที่จงรักภักดีต่อนายจ้างได้ และอื่นๆ ทีนี้ถ้าจะถกเถียงกันก็ต้องไปดูตัวอย่างครับและเหตุผลเบื้องหน้าเบื้องหลังถึงความสำเร็จและล้มเหลว ด้วย literature ทั้งสองฝ่าย....
3.) ผมชื่นชอบคนเรียนเศรษฐศาสตร์นะ แต่มันก็ต้องจำเป็นต้องตั้งคำถามทางเศรษฐศาสตร์ โดยเฉพาะคำถาม "พื้นฐาน" ของเศรษฐศาสตร์ ทุกวันนี้เราเห็นพวกจบ PhD, postdoctoral, professor หรือใครหลายคนมักจะเป็นพวกมองข้ามพื้นฐานของศาสตร์ที่ตนเชี่ยวชาญ ยกตัวอย่างเช่น การแทรกแซงของรัฐในเรื่องหนึ่งมันมี trade-off อย่างไรบ้าง? เป็นต้น
แต่บ่อยครั้งเราจะพบว่ามีบางคนพยายาม balance ความคิดตลาดกับรัฐอยู่ซึ่งเป็นไปไม่ได้ สัจธรรมของโลกต้องเอียงไปทางด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น การผสมของแนวคิดในประเด็นหนึ่งให้ลงตัวมันเป็นไปไม่ได้ ยกเว้นจะสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมาโดยอาจมีลักษณะบางอย่างเหมือนกันกับสิ่งอื่น
4.) ถ้าพูดถึง "ภาษี" ก็ต้องยอมรับ logic ที่เหมือนกับการเก็บภาษีได้
ยกตัวอย่างเช่น ภาษีเป็นการที่เราถูกบังคับจ่ายผ่านการออกกฎหมาย ถ้าไม่จ่ายมีความผิดติดตาราง ดังนั้นมันจึงมีการเปรียบเทียบว่ามันคือ "การปล้น" ในที่นี้คุณเห็นด้วยเพราะจำเป็นต้องพึ่งพากัน ผมเปรียบเทียบแบบนี้ให้เห็นภาพนะ สมมติคุณต้องการให้สังคมมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ คุณให้โจรมาปล้นของบ้านคนรวยหรือร้านขายของไปให้คนยากจน คุณยอมรับการปล้นของโจรใช่หรือไม่หากต้องการสร้างสังคมที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่? คุณอาจจะมองว่ามันคนละเรื่องนะ แต่ภาษีก้มีหน้าที่ในการสร้างสังคมที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ด้วยการทำสวัสดิการโดยการปล้นเงินคนอื่นมาแจกให้คนจนและคนที่ไม่ได้จ่ายภาษี นี่คือประเด็นปัญหาของภาษี อีกอย่างสวัสดิการโดยรัฐไม่เคยคุ้ม คุณเอาเวลาไปสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเอง ปล่อยกลไกตลาดทำงานในภาคประกันสังคมและการกุศลยังมีประสิทธิภาพกว่าอีก
https://www.youtube.com/watch?v=1QhF4m3Yjew
สงครามที่เราต้องตื่นตัว ไม่ใช่สงครามรัสเซียยูเครน หรือ สงครามอิสราเอล แต่เป็นสงครามระหว่างรัฐกับประชาชน ที่รัฐกำลังบีบบังคับประชาชนให้เป็นทาส ต้องทำงานเพื่อให้รัฐเอาไปใช้กับกลุ่มทุน
รัฐบีบบังคับเราสองทาง คือการเก็บภาษี และสร้างเงินเฟ้อ ทำให้ประชาชนไม่สามารถเก็บออมไว้ให้ตัวเรายามแก่หรือลูกหลานได้เลย
การใช้พลังงานในการขุดบิทคอยน์
50% มาจาก พลังงาน หมุนเวียน
ที่ถือว่าเป็นพลังงานสะอาด
อีก 23% มาจากพลังงานน้ำ
อีก 7% มาจากพลังงานโซลาร์
ต่อไปจะมีการทำให้พลังงานโซลาร์
ใช้ในการขุดมากขึ้น และ มากขึ้น
ก็จะลดการใช้พลังงานจากฟอสซิลไปได้อีก
แต่ปัญหาต่อมาคืออายุของแผงโซลาร์ มีวันหมด
ก็กลับไปกระบวนการรีไซเคิล
เช่นพวกสายทองแดง , กรอบอลูมิเนียม, พลาสติก
แล้วก็มีวัสดุที่ถูกพัฒนาให้เป็น bio-degradable ด้วย
แต่วัสดุบางชิ้นอย่างทองแดง
เราก็ยังต้องทำเหมือง
เพื่อเอามันมาใช้งาน
แต่โดยรวม ถ้าชั่งน้ำหนักแล้ว
การทำให้พลังงานโซลาร์มัน viable ได้
มันจะดีกว่าการใช้ฟอสซิลมาก
แต่ละอย่างก็จะค่อยๆพัฒนาตามๆกันไป
ผมคิดว่าเด็กๆ ควรเรียนรู้เรื่องBitcoin ไม่ใช่เพราะแค่มันมีจำกัด มันช่วยเราต้านเงินเฟ้อ
แต่มันบทเรียนหลายๆ อย่าง และบทเรียนที่ว่าคือ "ทำไมหนูต้องทำงาน" , "ทำไมหนูต้องเก็บออม" และ "เวลาหนูมีจำกัด"
"ก็ถ้าหนูไม่ทำงาน ก็อดแตกตาeสิค่ะลูก"
เออจะตอบแบบนั้นก็ง่ายดี แต่ถ้าคิดในอีกมุม การที่เราทำงานและได้เงินมา มันต้อง Trade off 2 สิ่ง นั้นคือ "เวลา" และ "คุณค่า" ที่เราทำ
สมมุติลูกเราออกไปทำงานพนักงานเซเว่น ได้เงินเดือนเฉลี่ย 15,000 เฉลี่ยต่อวันได้เงินวันละ 500 บาท นั้นหมายความว่า ลูกเราเสียเวลา 1 วัน และสร้างคุณค่า หรือ productivity ให้กับสังคมและได้รับผลตอบแทนเป็นจำนวนเงิน 500 บาท/วัน ถูกไหม?
ถ้าลูกเราอยากจะได้เงินมากกว่าเดิม เขาก็แค่พยายามสร้างคุณค่าให้มากกว่าเดิม ในเวลาที่เท่าเดิม อาจจะขยันทำ OT หรือจัดการร้านได้ดีจนได้แต่งตั้งเป็นผู้จัดการ หรือออกไปทำงานอื่นที่ได้เงินเฉลี่ยมากกว่า 500 บาท/วัน
นี้คือจุดประสงค์ของการมีชีวิตอยู่ของพวกเขา คือการออกไปสร้างคุณค่าแก่สังคม อาจจะสานต่อเส้นทาง Proof of Work ของครอบครัวเสียพวกเขาเสียสละเวลาทำมา หรือสร้างเส้นทางของตัวเองใหม่ตั้งแต่เริ่ม ไม่รู้แหละด้วยวิธีไหน แต่ถ้ามันเวิร์ค สังคมจะตอบแทนคุณคุณค่ากลับมา
"หนูเกิดมาเพื่อสร้างคุณค่าในแก่สังคมนะลูก"
และเงินไม่ใช่แค่เงิน แต่ : เงิน = เวลา+คุณค่า /// เรากำลังแลกเปลี่ยนคุณค่ากับคุณค่าด้วยกันในสังคม
ที่นี้ ถ้าลูกอยากจะได้ไอโฟนซักเครื่อง เอาไอโฟน 13 128GB ตีกลมๆ ขายตอนนี้ 20,000 บาท และเขายังทำงานที่เซเว่น แสดงว่าเขาก็ต้องเก็บเงิน หรือ เก็บ "เวลา+คุณค่า" จำนวน 40 วัน (เข้ เยอะวะ) เพื่อแลกไอโฟน 1 เครื่อง
แต่อย่าลืมว่า ระหว่างที่ลูกๆ เก็บเงินรอซื้อไอโฟน เขาอาจจะใช้เวลาเก็บจริงเกิน 4-5 เดือน++ และระหว่างนั้น "ตลาดเสรี" ก็กำลังทำงาน และกำลังพัฒนา productivity ให้แกสังคมมนุษย์
มนุษยชาติมันมีกิเลส มันขี้เบื่อ ขี้เกียจ เลยพัฒนา Productivity ให้ตัวเองสบายขึ้นอยู่เสมอ
ใครจะไปรู้ว่าระหว่างที่ลูกค้าเราเก็บ "เวลา+คุณค่า" เอาไว้ อยู่ดีๆ ไอโฟน 13 ราคาอาจจะลดลงด้วยต้นทุนการผลิตที่ถูกลง ลดเหลือ 18,000 บาท (จากเดิมใช้เวลา 40 วัน ใช้แค่ 36วัน) หรือมีไอโฟน 16 ผลิตออกมา แล้วกดดันราคาไอโฟน 14 ให้เท่ากับไอโฟน 13 เพราะกำลังจะตกรุ่น ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นผลพ่วงของกลไกลตลาดเสรีทั้งสิ้น
"กลายเป็นว่ายิ่งลูกของเรา Low Time มากเท่าไหร่ ยิ่งเก็บ เวลา+คุณค่านานเท่าไหร่ เขาจะจ่ายเวลา+คุณค่าที่เขาเก็บไว้ น้อยลงเพื่อครอบครองสิ่งของหรือบริการที่ดีกว่าเดิม"
ยิ่งลูกเก็บออม ชีวิตยิ่งดีขึ้น ยิ่งเติมเต็ม Self esteem , Self sufficient และ Self secure พวกเขาจะรู้ว่า "เวลา+คุณค่า" ของพวกเขา "มันมีความหมายจริงๆ" มันมี " Meaning of Life จริงๆ" ชีวิตพวกเขามันมีค่าจริงๆ การสร้างคุณค่าให้สังคมมันคุ้มจริงๆ
ยิ่งทำงานได้เงินเยอะ ก็เป็นการโชว์ให้สังคมรู้ว่าเขาเป็นคนที่ทำคุณค่าให้สังคมสูง และมีเงินเก็บเยอะ ก็เป็นโชว์ว่าตัวเขาเป็นผู้เสียสละ ขยัน อดทน เก็บเยอะกว่าแดรก โดยเฉพาะยิ่งรายได้น้อยแต่เก็บออมเยอะ จะยิ่งน่านับถือมากๆ
- แต่เรื่อง Meaning of Life พวกนี้คุณปาทิ้งไปได้เลย หากลูกเราเอา เวลา+คุณค่า ไปเก็บในสิ่งที่มันไม่สามารถรักษาเวลา+คุณค่าของพวกเขาไว้ได้-
"เวลาหนูมีจำกัดนะลูก"
เราไม่รู้หรอกลูกเราจะมีอายุเท่าไหร่ อาจจะมีอายุในชีวิตนี้สัก 70 ปี ตีเป็นวันก็ 25,550 วัน กว่าจะทำงานจริงจังอาจจะอายุ 20 เหลืออีก 18,250 วัน
ทำงานเซเว่นมีเงินเก็บ 10,000 บาท เฉลี่ยก็ใช้เวลา20วัน แต่ดันทะลึ่งเอาไปปั่นสล็อต ติดพนัน เล่นฟิวเจอร์พอร์ตแตก และปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไร ไม่เล่นของพวกนี้แล้ว เดือนหน้าเก็บเงินใหม่
"ไม่ใช่นะหนู" ลูกเราเสียเวลาไป 20 วัน หรือ 0.07% ของเวลาทั้งหมดไปฟรีๆ และ 20 วันนั้นเอาคืนไม่ได้ ย้อนเวลาไปห้ามตัวเองไม่ได้ หรือจะยืดเวลาชีวิตตัวเองเป็น 70 ปี กับ 20 วัน ในอนาคตก็ไม่ได้ ถ้าชะตาฟ้ามันลิขิตไว้ให้ชีวิตต้องdedใน 70ปี
เพราะไอ้การที่เวลามีจำกัดเนี่ยแหละ ลูกเราจึงจะต้องคิดให้ดี ว่าจะเอาไปใช้กับอะไร หรือเก็บเวลาไว้ที่ไหน
ส่วนผม ที่อายุกำลังเข้าเลข 3 แล้ว อาจจะมาได้ครึ่งทาง กระสุนผมใช้ไปแล้วครึ่งแม็ค เหลืออีกครึ่ง ผมจะเอาเวลา+คุณค่า ของผมไปเก็บไว้ที่ไหนดี?
"เวลาเรามีจำกัด จงเก็บมันในสิ่งที่จำกัดเหมือนเวลาเรา"
คนเงินเดือน 100,000 บาท ไม่ได้รวย เหมือนในอดีต อีกต่อไปแล้ว ....
สมัยเด็กๆ 10-20 ปีที่แล้ว เราจะคิดกันว่า คนเงิน หลักแสน คือ เทพ คือ โคดเก่ง โคดรวย
แต่ความเป็นจริง คือ คนเงิน 100,000 บาท ทุกวันนี้ หากคิดด้วยอัตราเงินเฟ้อ 5% ....
แล้วย้อนกลับไป 10 ปีที่แล้ว คุณ จะมี purchasing power หรือ อำนาจในการจับจ่ายใช้สอย เท่ากับ คนเงินเดือน 61,391 บาท
ย้อนกลับไปไกลกว่านั้น เทียบกับ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว คุณจะเท่ากับ คนเงินเดือน 37,689 บาท !!!!!
สรุป คือ คนเงินเดือน 100,000 บาท ในปัจจุบัน เท่ากับ คนที่เงินเดือน 30,000 กว่าบาท ในอดีต เท่านั้น !!!!
แล้ว ถ้า เราอยากมี purchasing power เท่ากับ คนเงินเดือน 100,000 บาท เมื่อ 20 ปีที่แล้ว เราต้องมีเงิน เท่ากับ 100,000*1.05^20 = 265,330 บาท !!!! แปลว่า ปัจจุบัน คุณต้องมีเงินเดือน 265,330 บาท แล้ว
หลายคน ก็จะติงว่า เห้ย เงินเฟ้อไทย ที่ ภาครัฐ รายงาน จริงๆ เฉลี่ยแค่ 2% ต้องบอกว่า ตัวเลขมันต่ำเกินไปครับ ด้วยน้ำหนักของสินค้าในตะกร้าเงินเฟ้อ ที่ คนทั่วไป ไม่ได้ใช้ตามนั้นเลย รวมถึงเทคนิค ต่างๆ ที่ภาครัฐ ทำให้เงินเฟ้อ ที่รายงาน ต่ำกว่าความเป็นจริง
แต่สมมติ ให้ เงินเฟ้อ 2% จริง คนเงินเดือน 100,000 บาททุกวันนี้ ก็เทียบเท่ากับ คนเงินเดือน 67,000 บาท เมื่อ 20 ปีที่แล้ว เท่านั้น เหมือนกัน
สิ่งที่อยากสื่อคือ อย่าให้ ภาพจำ ในอดีต มาหลอกตาเราครับ เมื่อคนพูดกันว่า คนนูู้น คนนี้ เงินเดือน เกินแสน มันไม่ได้เยอะแล้วครับ มันเท่ากับคนเงินเดือน 3-4 หมื่นบาท ในยุคพ่อแม่เราครับ
นี่คือ ธรรมชาติ ของยุค global fiat currency ที่สามารถ money printing ได้ และ รัฐบาล มี bias ที่จะ สร้างเงินเพิ่ม เพื่อ ฐานคะแนนเสียงทางการเมือง และ ลดภาระหนี้สินในอนาคต และ มันจะเป็นแบบนี้ ต่อไปเรื่อยๆ ในอนาคต จนกว่าทุกอย่างจะพังครับ แต่เราควรจะมีสติ และ รู้ว่าอะไร กำลังจะเกิดขึ้นกับเราครับ
ขอบคุณครับ
คริปโตไม่ต่างจากการพนัน
ใจความที่น่าสนใจเกี่ยวกับคลิปนี้เรื่องเงินเฟ้อ เงินฝืด
- เงินฝืด หรือเงินฝืดอ่อนๆ คือสิ่งที่จะช่วยโลกนี้เอาไว้ได้ เพราะจริงๆแล้ว เงินฝืด ควรจะมีชื่อว่า appreciation money เงินที่มีมูลค่าเพิ่มหรือคงที่เมื่อเวลาผ่านไป จะเป็นกลไกสำคัญที่จะกระจายความมั่งคั่งให้กับผู้คนที่ตั้งใจขยันขันแข็งทำงานสร้างประโยชน์ให้กับสังคม เอาเงินออกจากผีดูดเลือดเพื่อไปสร้างผลงานที่เป็นประโยชน์ให้กับสังคมได้
- ภาวะเงินเฟ้อ ที่เงินสามารถสร้างได้โดยรัฐ โรงเรียนธุรกิจในปัจจุบัน เมื่อคุณสามารถสร้างมูลค่าและผลตอบแทนได้ คุณต้องสร้างคูน้ำล้อมรอบไม่ให้คู่แข่งเข้ามาแข่งขันได้ เมื่อธุรกิจคุณสามารถสร้างเงินจนขนาดใหญ่ขึ้น ธุรกิจก็จะเข้าไปล็อบบี้รัฐบาล และรัฐบาลจะเป็นจรเข้ที่อยู่ในคูน้ำ ที่จะคอยบอกว่าธุรกิจนี้เป็นเจ้าแรกในไทย และประสบความสำเร็จ เลยไปบอกรัฐบาลว่าเจ้าใหม่ๆ ที่จะมาแข่ง ผมกลัวว่าเจ้าใหม่ที่จะมาแข่งจะไม่สะอาดเท่าผม รัฐบาลต้องมีใบอนุญาตในการผลิต ต้องมีใบอนุญาตตรวจความสะอาดในโรงงานด้วย หรือต้องตรวจมาตรฐานการผลิตว่าต้องเหมือนกับโรงงานของผมถึงจะได้มาตรฐาน ถึงจะสามารถสร้างโรงงานได้ ตัวอย่างนี้เห็นได้ชัดเลย ก็โรงงานเบียร์ ที่เจ้าตลาดมีไม่กี่ราย และต้องใช้ทุนสร้าง 300-500 ลบ. เพราะมาตรฐานโรงงานที่สูงเกินไป
- ไม่ต้องห่วงว่าเงินฝืดจะทำให้คนไม่ใช้เงิน จะทำเศรษฐกิจจะชลอตัวลง ลองดู btc ก็ได้ เมื่อเงินขึ้นไปสูง ก็ขายมาซื้อรถหรูบ้าง เพราะตัวเราก็ต้องมีความอยากได้อยากมีอยู่แล้ว
- การที่เงินเพิ่มมูลค่ามากขึ้นเรื่อยๆ เราก็จะรู้สึกปลอดภัยในชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วพอเรารู้สึกปลอดภัยในชีวิตมากขึ้น เราก็จะใช้เงินมากขึ้น พอเรามีความมั่งคั่งมีความสามารถในการจับจ่ายมากขึ้น เราก็จะซื้อของได้มากขึ้น ซื้อของที่มีคุณภาพสูงขึ้น เพื่อทำให้ชีวิตเราดีขึ้น ไม่มีใครอยากจะกอดความร่ำรวยแล้วไปนอนใต้สะพานลอย
- ในที่นี้ เงินที่เราเก็บต้องเพิ่มมูลค่าขึ้นเรื่อยๆ เป็นการให้รางวัลกับคนที่มีวินัยทางการเงินมากขึ้นเรื่อย และเมื่อเวลาผ่านไปเงินเก็บของเขามีมูลค่ามากขึ้นเรื่อยๆ เอาเงินนั้นมาใช้เพื่อสร้างความสุขในชีวิตได้ ยิ่งมีเงินเก็บมากขึ้นเท่าไร ก็จะยิ่งมีเงินหมุนเวียนในสังคมมากขึ้นเท่านั้น นี่ล่ะ จุดเริ่มต้นของทฤษฎีของ จอห์น เมนาร์ด เคนส์
FED คือ Ponzi Scheme
https://www.youtube.com/watch?v=ZD42JsHjjMc
สมุนอาชญากรต่อมนุษยชาติ คือ นักวิชาการ fiat หลอกคนหมู่มากแลกกับเงินของรัฐบาล
จากระบบทาสที่เคยล่ามด้วยโซ่โบยด้วยแส้
มาสู่การล่ามด้วยหนี้สินและโบยด้วยดอกเบี้ย
ทาสต้องทำงานอย่างหนักไปชั่วชีวิต
เพื่อผลิตผลกำไรให้คนบางกลุ่มที่เสกเงินจากอากาศได้
ทำไมหยุดทำงานไม่ได้?
เพราะไม่มีเงินเก็บ
เพราะเงินเก็บเสื่อมค่า
เพราะหนี้สินใหญ่(บ้าน-รถ) ยังไม่พ้น
เพราะการช่วยเหลือแบบ centralized ไม่ได้ตามต้องการ (รัฐ ประกันสังคม กองทุน)
มีชีวิตอยู่เพื่อแบกหนี้ ทำงานไม่หยุด ห้ามตาย
นี่คือ fiat life ที่แท้เลย (คำนี้เคยมีใครสักคนในกลุ่มพูดไว้ แต่ไม่ให้นิยาม)
ผู้ได้ประโยชน์คือธนาคาร มีเงินจ่ายเข้ามาต่อไป และรัฐบาลมีข้ออ้างขยายอำนาจทางการเงินให้ธนาคารอีกที
ในยุคชาตินิยม ไม่มีลูก อาจเป็นปัญหาของรัฐ แต่ยุคเฟียตนี้ ใครกันยังเชื่อว่าการไม่มีลูก จะทำให้ระบบเฟียตล่มสลาย? ตรงกันข้ามต่างหาก
#เวลามีค่าศึกษาบิตคอยน์
23 ส.ค. ของทุกปี นับเป็น "วันระลึกการค้าทาสและการเลิกทาสสากล" ไม่มีทาสแล้วจริงดิ ? 🤔
.
พวกเจ้าหารู้ไม่สหาย ? ในปัจจุบันนี้ทาสก็ยังมีอยู่ทั่วไป เพียงแค่เปลี่ยนรูปแบบและวิธีการควบคุมเท่านั้นเอง 👀
.
#Bitcoin #BTC #พ่อมดคริปโต
" หากการพิมพ์เงินยุติความยากจนแล้ว การพิมพ์ประกาศนีย์บัตรก็จะยุติความโง่เขลา "
#JavierMilei #สัจวจนะ
จากการที่กุใช้tokenมาจาก86บาทมา68บาทแล้วจะลดลงเรื่อยๆ
คนที่รวยคือคนที่ออดโทเคนต่างหาก มันคือแชร์ลูกโซ่ชัดๆ
คนที่แอนตี้บิทคอยน์ไม่ใช่เพราะเขาไม่ฉลาด หลายคนประสบความสำเร็จมากกว่าผม แต่คำเดียวสั้นๆที่เขายังคงแอนตี้บิทคอยน์คือ
“อีโก้” ล้วน ๆ
เงินเฟ้อทำให้เงินเสื่อมค่า เป็นคำลวงของรัฐ
เงินที่ดีคือเงินที่เราสามารถเก็บไว้ได้โดยไม่เสียมูลค่า เลือก btc เพื่ออนาคต
https://www.youtube.com/watch?v=8gNK4d1Q2YI
ดีเบต 'เงินเฟ้อ' อาจารย์พิริยะ vs ซีเค เจิง จากเวที THBW2024
มีอะไรน่าลงทุนบ้าง
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.