เมื่อเด็กดูดน้ำนมจนได้ปริมาณน้ำนมที่พอเหมาะ ก็จะเข้าสู่กระบวนการกลืน ซึ่งในส่วนนี้ถ้าไม่ใช้จุกที่คล้ายนมแม่ หรือไปใช้ขนาดรูของจุกนมใหญ่เกินไป เพราะพ่อแม่ส่วนหนึ่งเข้าใจไปเองว่าถ้าเด็กไม่ต้องใช้แรงดูดเยอะ เด็กก็จะได้กินนมเยอะ ๆ ไม่เหนื่อย ไม่หมดแรงก่อน และอิ่มเร็ว เพื่อที่คุณแม่จะได้พักผ่อนมากขึ้น ทำให้ตำแหน่งลิ้นของเด็กที่ใช้ในการกลืนจะเปลี่ยนไป จากปกติที่ลิ้นต้องแตะเพดานปากเพื่อสร้างสูญญากาศแล้วกลืน จะเปลี่ยนเป็นการเอาลิ้นไปแตะที่รูจุกนมเพื่อไม่ให้น้ำนมออกมาเพิ่ม หรือหากใช้จุกนมที่รูปร่างแปลก ก็จะยิ่งทำให้เด็กต้องวางลิ้นในการกลืนผิดตำแหน่งไป นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เด็กที่เพิ่งหย่านมในช่วงแรก พอได้ดูดนมผ่านขวดแล้วมีการสำลัก เนื่องจากความไม่คุ้นเคยกับสภาพจุกนมและเมื่อความผิดปกติของการดูดและการกลืนนั้นกลายเป็นนิสัยติดตัว ก็จะเกิดผลลัพธ์บางอย่างตามมาเมื่อเด็กเหล่านี้โตขึ้น
เมื่อการกลืนโดยการใช้ลิ้นปิดรูจุกนม เปลี่ยนเป็นการใช้ลิ้นดันฟันหน้าแทน จะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ให้ฟันหน้ากางและเหยินออกมา ทำให้เด็กจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบจัดฟันต่อไป แถมด้วยลักษณะดังกล่าวทำให้ต้องใช้ระยะเวลาในการจัดฟันนานขึ้น และอาจจะได้ใส่ “รีเทนเนอร์” ไปตลอดชีวิต เพราะเคยชินกับพฤติกรรมใช้ลิ้นดันฟันออกมา (ในขณะที่หมอจัดฟันพยายามจะดันฟันเข้าไป) แล้วถ้าแก้ไม่ได้จนจัดฟันเสร็จ เมื่อคุณลืมใส่รีเทนเนอร์ไปซักระยะ ก็จะพบว่าการนำรีเทนเนอร์อันเดิมกลับมาใส่นั้นทำได้ลำบาก หรืออาจจะถึงขั้นใส่ไม่ได้เลย เนื่องจากฟันโดนลิ้นดันจนเคลื่อนจากจุดเดิม โดยไม่มีรีเทนเนอร์ช่วยคุมหรือตรึงฟันเอาไว้
และการที่เด็กไม่ได้ฝึกการดูดที่มากพอ จะส่งผลให้กล้ามเนื้อในช่องปากไม่แข็งแรง กระดูกขากรรไกรจะเติบโตได้ไม่ดี (อารมณ์เหมือนไม่ได้ออกกำลังกาย) จึงส่งผลให้กระดูกขากรรไกรเล็ก ในขณะที่ตัวฟันจะมีขนาดตามที่ DNA ของเขากำหนดไว้แล้วตั้งแต่แรกเกิด จึงทำให้เกิดภาวะฟันซ้อนเก และฟันคุดได้ นำไปสู่การจัดฟันที่อาจจะต้องร่วมกับการขยายขากรรไกร
นอกจากนี้เมื่อปอดไม่แข็งแรงจะส่งผลต่อประสิทธิภาพของการหายใจ ทำให้ต้องหายใจสั้นและถี่ จนกลายเป็นต้องหายใจทางปากร่วมกับจมูก ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพช่องปาก ลำไส้ และคุณภาพการนอน
ซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มี Fiat Product รองรับเพื่อตอบสนองสิ่งที่เกิดขึ้นรออยู่ทั้งสิ้น มันเป็นระบบสายพานที่ส่งทอดต่อกันไปอย่างแนบเนียนสนิท ทั้งที่แก้ได้ง่าย ๆ ได้เลยที่ต้นน้ำ นั่นคือจุกนม!!!!
“การสร้างเด็กให้อ่อนแอนั้น เราย่อมได้ผู้ใหญ่ที่อ่อนแอด้วย” -- Anonymous
มาถึงจุดนี้หลายคนอาจจะคิดว่า “ผมเป็นคนขวางโลก คิดลบ”
แต่ที่ผมอยากสื่อก็คือเทคโนโลยีหรือ Product บางอย่างก็มีประโยชน์และมีความจำเป็นต่อทารก แม้ว่าจริง ๆ แล้วมันจะอยู่ในสายพานระบบ Fiat ก็ตาม เพราะบางอย่างเมื่อเรามองไปถึงต้นน้ำของสายพาน เราจะพบว่าเราไม่สามารถไปแก้ไขที่จุดนั้นได้ เช่น เรื่องมลภาวะ เป็นต้น
แต่เรื่องตัวอย่างที่ผมยกมานั้น จะเห็นว่าเราสามารถแก้ไขได้ตั้งแต่ต้นน้ำ
“เพียงเริ่มติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูก เม็ดถัดไปก็จะถูกเช่นกัน”
เมื่อมองให้ลึกถึงสายพานระบบ Fiat เราก็จะค่อย ๆ เห็นว่าสิ่งเหล่ามันมีต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ หรือบางสายพานก็สามารถย้อนมาสู่ต้นน้ำใหม่ได้ด้วยนะครับ
“Nature is bad for Fiat.”
แล้วคุณล่ะครับได้เจอ “สายพานระบบ Fiat” ในชีวิตบ้างไหม?
เพราะความน่ากลัวในการดูแลสุขภาพ คือ การที่เชื่อและปฏิบัติต่อกันมาโดยไม่มีความรู้นั่นเองครับ