แปลจากคลิปวีดีโอของ อาร์โนลด์ ชวาเซเน็กเกอร์ ดาราและนักการเมืองชาวออสเตรีย-อเมริกัน ผู้ได้รับความนิยมมหาศาลในรัสเซีย ทวิตเตอร์ของเขาเป็นหนึ่งในบัญชีผู้ใช้เพียง 22 บัญชี ที่ follow โดยบัญชีทางการของ ปธน. รัสเซีย (President of Russia)
เขาจัดทำและเผยแพร่คลิป 9 นาที นี้ผ่าน Twitter, YouTube, Instagram ฯลฯ เพื่อพยายามส่งสารถึงชาวรัสเซียโดยเฉพาะ ฟังแล้วชอบมาก จึงแปลเป็นภาษาไทยมาแชร์ค่ะ 🙂
----
สวัสดีครับทุกคน ขอบคุณที่สละเวลาให้ผม ผมกำลังส่งสารนี้ผ่านช่องทางต่างๆ ให้ไปถึงเพื่อนชาวรัสเซียที่รักของผม และทหารรัสเซียที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในยูเครน
วันนี้ผมมาพูดกับคุณ เพราะมีหลายสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในโลก สิ่งที่คุณถูกกีดกันไม่ให้รู้ สิ่งเลวร้ายหลายอย่างที่คุณควรจะได้รู้
แต่ก่อนที่ผมจะพูดถึงความจริงอันโหดร้าย ขอผมเล่าเรื่องของชาวรัสเซียคนหนึ่ง ซึ่งกลายมาเป็นฮีโร่ของผม
ในปี 1961 ตอนนั้นผมอายุ 14 ปี ได้รับเชิญจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งให้ไปหาที่เวียนนา ไปดูการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก ผมอยู่ในหมู่คนดูตอนที่ ยูริ เปโตรวิช วลาซอฟ (Yuri Petrovich Vlasov) ได้เป็นแชมป์โลก กลายเป็นมนุษย์คนแรกที่สามารถยกน้ำหนัก 200 กิโลกรัมขึ้นเหนือหัว
เพื่อนของผมใช้วิธีไหนก็ไม่รู้ จัดการให้ผมเข้าไปข้างหลังเวทีได้ ทันใดนั้น เด็กหนุ่มวัย 14 ปี ก็มายืนอยู่ต่อหน้าผู้ชายที่แข็งแรงที่สุดในโลก ผมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เขายื่นมือมาจับมือผม วันนี้ผมยังมีมือของเด็กคนนั้นอยู่เลยครับ มือทรงพลังแบบชายชาตรีของเขากลืนมือของผมเข้าไป แต่เขาเป็นคนใจดี ยิ้มให้ผมด้วย ผมจะไม่มีวันลืมวันนั้นเลย ไม่มีวัน
ผมกลับบ้านมา เอารูปของเขาแปะไว้บนหัวเตียง สร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเองตอนที่เริ่มยกน้ำหนัก พ่อผมบอกให้เอารูปลง บอกให้ไปหาฮีโร่ที่เป็นคนเยอรมัน หรือคนออสเตรียแทน
พ่อโกรธมาก เราเถียงกันไปมา พ่อผมไม่ชอบคนรัสเซียเพราะประสบการณ์ของเขาในสงครามโลกครั้งที่สอง คืองี้ครับ เขาได้รับบาดเจ็บในเลนินกราด ตอนที่กองทัพนาซี ซึ่งพ่อผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ทำร้ายเมืองอันยิ่งใหญ่และผู้คนที่กล้าหาญอย่างเหี้ยมเกรียม
แต่ผมไม่เอารูปนั้นลงหรอก ไม่เลย เพราะมันไม่สำคัญสำหรับผมว่า ยูริ วลาซอฟ ถือธงของชาติไหน
อย่างไรก็ดี ความสัมพันธ์ของผมกับรัสเซียก็ไม่ได้สิ้นสุดลงตรงนั้น ที่จริงแล้วมันหยั่งรากลึกลงเมื่อผมได้เดินทางไปรัสเซีย ในงานเล่นกล้ามและงานแสดงภาพยนตร์ ได้พบปะแฟนหนังชาวรัสเซีย
ในการเดินทางครั้งหนึ่งที่ผมจำได้ ผมได้พบกับ ยูริ วลาซอฟ อีกครั้ง เขาอยู่ในมอสโคว์ระหว่างที่ผมไปถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Red Heat ซึ่งเป็นภาพยนตร์อเมริกันเรื่องแรกที่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายในจัตุรัสแดง