>>3 ปกติคือ คนที่มีสิทธิ์พูดมากที่สุดคือญาติคนตาย แล้วญาติมันก็ดันมีลำดับชั้นอีก คือพ่อแม่กับลูก อันนี้ชั้นบนสุด พวกพี่น้อง หรืออื่นๆ จะรองลงมา ทีนี้ถ้าแม่บอกพอแล้ว ยุติแค่นี้ มันก็เลยกลายเป็นว่าสังคมจะลดความชอบธรรมในการตามหาความจริงลงไง ยิ่งโดยสังคมไทยที่ถือว่าเรื่องครอบครัวเป็นเรื่องบ้านใครบ้านมันด้วย อย่างบ้านเรามี กม. ความรุนแรงในครอบครัวมาตั้งแต่ปี 50 นะ แต่ในความเป็นจริงแทบไม่ถูกใช้งาน เพราะบ้านเราสอนกันมาแบบฝังรากลึก เรื่องในครอบครัวอย่ายุ่ง เขาดีกัน (หรืออีกทางคือตกลงกันได้) คนนอกที่ไปยุ่งก็เหมือนหมา แล้วเคสแบบนี้มันก็มีไม่น้อยนะ ผัวเมียทะเลาะกัน พ่อแม่ลูกทะเลาะกัน ถ้าเป็นโลกที่ 1 ตะวันตกเขาหาคนผิดกันจริงจังนะ มีมาตรการห้ามเข้าใกล้-ส่งไปบำบัดหรือเอาเข้าคุกเลย ส่วนบ้านเราทำแบบนั้นกลายเป็นสังคมด่าเจ้าหน้าที่ ด่ารัฐทำเกินเหตุอีก
แล้วมันน่าเศร้าด้วยว่ะ เออ ต่อให้เหมือน >>4 ที่ว่าไมไ่ด้เลี้ยงแต่เด็กๆ แต่ไอ้คำว่าเป็นพ่อเป็นแม่ เป็นสายเลือด มันก็ไม่ลบจากสังคมไทยได้ง่ายๆ หรอก คดีนี้เศร้านะ ถ้าพ่อ ตม. ยังไม่เสีย กูว่าคงเรียกร้องกันยาวๆ แหละเพราะความผูกพันมันมากกว่า ส่วนพี่ชายใน >>5 อย่างที่บอก พี่น้องมีศักดิ์ต่ำกว่าพ่อแม่ (ทั้งทางกฎหมายและทางสังคม) พูดอะไรไปก็ไม่มีน้ำหนักเท่าไร
ให้กูสรุปตรงนี้นะ ตม. เกิดผิดประเทศ ดันมาเกิดในที่ที่ความเชื่อหลักในสังคมเป็นแบบนี้ ถ้าหลักฐานมันไม่ชัดจริงๆ ว่าจงใจฆ่าแน่ๆ แล้วไปตั้งข้อหาฆาตกรรม ศาลยกฟ้อง สรุปไมไ่ด้อะไรเลยนะ ถ้าก้ำกึ่งแบบนี้ โอกาสเป็นเพียงอุบัติเหตุมีสูง แล้วถ้าให้ศาลตัดสินเอง ต่อให้ตัดสินว่าผิดฐานประมาท ศาลอาจจะสั่งชดใช้จำนวนน้อยกว่านี้ก็ได้ บวกลบคูณหารแล้วเลยคงจะเลือกทางนี้ มันน่าเศร้านะ แต่จะให้ทำไงอะ สังคมมีหน้าที่สืบคดีหรอ? ถ้าหลังจากนี้สมมติใครโพสต์รูปศพ แม้จะมีเจตนาสืบหาความจริง แล้วคนในครอบครัวเอาเรื่องขึ้นมาล่ะ หาว่าดูหมิ่นศพ แค่นี้ก็จบแล้ว
บ้านนี้เมืองนี้มึงคิดว่ามันจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้เร็วๆ หรอ กราดยิงโคราชผ่านไป 2 ปี ระบบตรวจสอบผลประโยชน์ทหารดีขึ้นไหม? เอาง่ายๆ มาดูกับกูดีกว่า หมอโดนตำรวจขี่บิ๊กไบค์ชนตาย ทางม้าลายจะเคร่งครัดได้นานเท่าไรกัน