ส่วนเรื่องราชวงค์จารุกยะ นี้ก็น่าสนใจ
ภายหลังจากจักวรรดิคุปตล่มสลาย ทำให้ราชวงค์เมืองขึ้นอย่าง วากันทากะ ล่มไปด้วย อินเดียเข้าสู่ยุควุ่นวายอีกครั้ง ต่อมาก็เกิดมหาอำนาจ 2 แห่งขึ้นมา คือ ทางเหนือถูกรวมภายใต้จักพรรดิหรรษา คนทีพระถังได้ไปพบและสรรเสริญอย่างมหาศาล
ส่วนเดดข่านถูกรวมด้วยราชวงค์จารุกยะ พอมาถึงสมัย Pulakeshin II พระองค์สามารถรวมเดดข่านเป็นหนึ่งเดียวกันได้ โดยฝั่งตะวันออกที่พิชิตมา (คืออดีคแคว้นกาลิงคะ ที่พระเจ้าอโศกเลยทำสงครามล้างเลือด) พระองค์ให้น้องชายไปปกครอง ซึงต่อมาน้องชายจะแยกไปปกครองเอง นัก ปวศ เลยเรียกราชวงค์ของน้องชายว่า จารุกยะตะวันออก
ต่อมาพระเจ้าหรรษาต้องการพิชิตเดดข่านจึงนำกองทัพบุกมา พระเจ้า Pulakeshin II สามารถต้านทานและรบชนะพระเจ้าหรรษาได้ เลยได้ทำข้อตกลงแบ่งอาณาจักรของทั้ง 2 ราชวงค์โดยใช้แม่น้ำ Narmada แบ่งอาณาเขต
แต่แม้จะเทพแค่ไหนแต่สิ่งนึงที่พระองค์คาดไม่ถึงคือ พวกปัลลาวะที่พระองค์ปราบได้ในช่วงแรกๆ แต่ไม่สามาถพิชิตได้นั้น ได้กลับมาแก้แค้พระองค์ ปรากฏว่าพระองค์รบแพ้และตายในสนามรบ เมืองหลวงของราชวงค์ถูกพวกปัลลาวะบุกปล้นสะดม แต่ยังดีที่ทายามพระองค์สามารถขับไล่กลับไปได้และรีบพฟื้นฟูความเสียหายทัน
พอพระเจ้าหรรษาเสียชีวิตจักวรรดิทางเหนือของพระองค์ก็ล่มสลาย แตกออกเป็นราชวงค์เล็กๆและกัดกันอีกครั้ง จังหวะนี้พวกจารุกยะเลยบุกขึ้นไปพิชิตบริเวณคุชาราตได้
ภายหลังจากที่อิสลามยุคอุมายะ ได้บุกเข้ามาอินเดียครั้งแรก มี 3 กองทัพ คือบุกไปทางแคชเมียร์ ไปทางราชาสถาน และมาทางคุชาราต ปรากฏว่าทางที่บุกมาคุชาราต ถูกพวกจารุกยะถล่มตายห่าเพียบตอนถอยทัพกลับไปแถวปากี ในการรบกับอิสลาม นายพลที่สร้างชื่อมากที่สุดคือ Dantidurga สามารถนำทัพชนะพวกอิสลามได้เลยได้อวยยศและได้พื้นที่มหาศาลจนสามารถสรา้งกองทัพของตัวเองและทำการรัฐประหารเจ้านายตัวเอง คือพวกจากรุยกะ สถาปนาราชวงค์ใหม่ คือ ราชวงค์ราชตกุฏ
ราชวงค์ราชตกุฏ ได้ตกลงเป็นพัธมิตรกับปัลลาวะ ผ่านการแต่งงานและค่อยๆปราบปรามพวกอดีตเมืองขึ้นของจารุกยะได้ พร้อมกับบุกเข้ายึดครองจารุกยะฝั่งตะวันออกมาเป็นเมืองขึ้น ไม่พอยังสามารถพิชิตทางเหนือได้ด้วย คือคุชราตและมัลวะ ต่อมาทายาทของพวกราชตกุฏ ก็สามารถชนะพวกปัลลาวะอดีตเกลอเก่าและผนวกเข้ามาเป็นส่วนนึงของจักวรรดิตัวเองได้ พร้อมกับทำให้พวกทมิฬต้องยอมเป็นเมืองขึ้น พวกโจฬะเมิงเมิงเย้วๆว่าเป็ฯพวกขมรก็เป็นเมืองขึ้นของราชตกุฏ ด้วย