Bitcoin ETF Futures จะส่งผลยังไงกับตลาด Crypto ระยะยาว..?
ส่วนตัวผมไม่ตื่นเต้นกับ Bitcoin ETF Futures กลับกันกลับรู้สึกว่ามันเป็นข่าวร้ายด้วยซ้ำ
เพราะอะไร..?
📍 ตลาด Futures เป็นตลาดที่อนุญาตให้คนมาทำกำไรทั้งขาขึ้นและขาลงในสินทรัพย์อ้างอิง เมื่อตลาด Futures ได้รับความนิยม แปลว่าเม็ดเงินก้อนใหญ่จาก wallstreet จะสามารถเข้ามาเก็งกำไรกับราคา Bitcoin (ซึ่งเป็นสินค้าอ้างอิง) ได้ตามกำลังเงิน ซึ่งเรารู้กันดีว่า เม็ดเงินใน Wallstreet นั้นใหญ่กว่าตลาดคริปโตมหาศาล
📍 กรณีศึกษาที่น่าสนใจคือ ตลาด COMEX ที่เปิดให้เทรด Gold Futures และ Silver Futures จนทำให้โวลุ่มการซื้อขายทองคำกระดาษ (และแร่เงินกระดาษ) พุ่งพรวดเยอะกว่าการซื้อขายทองคำจริงๆ กว่า 10,000%..!!!
📍 โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดที่ยอมให้สัญญา Futures ทำ settlement เป็น cash ได้ ไม่บังคับให้ต้องส่งมอบสินค้า นั่นเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเก็งกำไรในสินทรัพย์อ้างอิงได้แบบเต็มที่
📍 ท้ายสุด ราคาทองคำและแร่เงินในตลาด ผันผวนรุนแรงจากโวลุ่มการเทรด Futures ใน COMEX ทำให้กลไกราคากลุ่ม precious metal ผิดเพี้ยนจากกำลังเงินของกลุ่มนายทุน และสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ (อย่าง JP Morgan ตัวดี ที่เป็นตัวตั้งตัวตีรังเกียจทองคำและ Bitcoin)
📍 พูดอีกแง่ก็คือ ถ้าเหล่านายแบงค์รวมหัวกันทุบ Bitcoin ในตลาด Futures ก็จะมีโอกาสทำให้ Bitcoin ในตลาดจริงราคาผิดเพี้ยนไปด้วย เหมือนที่ทองคำและแร่เงินเคยโดนกันมาอย่างหนักหน่วงแล้ว (พอทราบกันไหมครับว่าสัญญา Short Silver Futures มีโวลุ่มท่วมท้นมหาศาลเกินกว่า Silver ที่จะส่งมอบจริงๆ มาร่วมทศวรรษแล้ว)
ทั้ง Crypto และทองคำ คือ หอกข้างแคร่ของระบบการเงินโลกในปัจจุบันที่พึ่งพิงปริมาณเงินจากการ QE ของธนาคารกลาง ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงเติบโตต่อเนื่องมามากกว่าทศวรรษตั้งแต่ยุค Subprime แน่นอนว่าเหล่านายแบงค์ (และผู้ถือหุ้นแบงค์ยักษ์ใหญ่) เจ้าของตลาด traditional finance ย่อมไม่ชอบ Crypto และทองคำแน่
แต่การบิดเบือนกลไกราคามันคงไม่เกิดในระยะเวลาอันใกล้หรอกครับ จุดสังเกตของตลาดหลังจากนี้ เราลองดูโวลุ่มที่เข้าเทรด Bitcoin ในตลาด Wallstreet เทียบกับโวลุ่มที่เข้าเทรดจริงในตลาด Crypto แล้วมาดูกันว่า ราคา Bitcoin จะถูกกลุ่มนายแบงค์บิดเบือนเหมือนที่เคยเกิดกับทองคำหรือเปล่า
แต่เป็นทิศทางที่ผมไม่ชอบเลยจริงๆ
PS. และนี่เป็นเหตุผลเดียวกันกับที่ผมไม่ชอบ Synthetic Asset ที่ไม่มีสินทรัพย์จริงๆ Backup เพราะมันก็เหมือนอนุพันธ์ประเภทหนึ่ง ที่ถ้าหากโวลุ่มการเทรดเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ มันมีผลทำให้ราคาสินทรัพย์อ้างอิงผิดเพี้ยนไปได้ อนุพันธ์คือตัวการทำระบบการเงินโลกปั่นป่วน และมันกำลังจะเข้าสู่โลก Crypto จริงจังแล้ว
PS. Bitcoin แถวๆ $61,000 เป็นแนวต้านสำคัญ ถัดไปก็จะเป็น high เดิมที่ $65,000 ถ้าทำ new all time high ได้ อาจจะได้เห็นเป้าถัดไปที่ $87,000 (แต่ผมไม่คิดว่าจะพรวดไปถึงตรงนั้นทันทีหรอก คงมีปรับฐานเรื่อยๆ ระหว่างทาง)