ลองเขียนสรุปชีวิตตัวเองดู ตั้งแต่เรียนจบตรีมาเข้าสู่อีกสภาพสังคมหนึ่ง เวลาไม่ถึงปีนิสัยเปลี่ยนไปมาก ไม่รู้ว่าเป็นทางที่ดีขึ้นเปล่าหว่ะ เพราะมาเรียนต่างประเทศด้วยแหละมั้ง เหมือนเป็นคนละคนอยู่
-มีความกล้าเข้าสังคมมากขึ้น เข้าสังคมอย่างมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น รู้จักchitchat คุยกับคนได้หลายกลุ่มหลายช่วงอายุ แล้วรู้จักจัดการการแบ่งเวลากับสังคมกับตัวเอง เข้าใจแล้วว่าตัวเองต้องการอะไรจากการเข้าหาสังคม กูเข้าหาสังคมเพื่อที่จะรับแนวคิดอะไรใหม่ๆ ได้คอนเนคชั่น บางทีก็มีเพื่อนคอยอยู่แก้เหงา แต่priorityจริงๆคืออยากอยู่กับตัวเองมากกว่า แต่เราก็ต้องพึ่งพาสังคมดังนั้นการเข้าหาสังคมจำเป็น แต่ต้องหาเวลาเบรคมาให้ตัวเองไม่เหนื่อย
-ฟังมากกว่าพูด เมื่อก่อนเวลานําเสนองานกูชอบพูดไอเดียตัวเองอย่างเดียว ซึ่งบางทีเราพลาดและบางทีแม่งอยู่ในจุดที่พูดมากเกินไป แต่ตอนนี้กูปล่อยให้คนอื่นพูดก่อนแล้วกูคิดว่าจะพูดอะไรให้น้อยที่สุดแต่ดูฉลาดที่สุด แล้วค่อยพูดทีหลัง เลิกขี้โม้กลายมาเป็นคนพูด เอ่อๆอืมๆแทน
-รู้จักอ่อนนอกแข็งใน ยึดติดกับอะไรน้อยลงมากๆ โกรธยาก ไม่มีอุดมการณ์ตายตัว ไหลไปเรื่อย แต่ก็ไม่สูญเสียความเป็นตัวเอง
-จากการเป็นคนซื่อสัตย์ พูดตรงตัว เปลี่ยนเป็นพูดในสิ่วที่คนอยากฟังเท่านั้น พูดแสดงความคิดเห็นที่แท้จริงของตัวเองน้อยลงมากๆ
-รู้จักช่างแม่ง กับปัญหาเล็กๆ ไม่เก็บมาคิดให้รกหัว
>ใช้ความเป็นstoicมากขึ้น ทําทุกอย่างให้สังคมรอบตัวสันติให้มากที่สุด ทําตัวเหมือนเป็นside character ก็ใช้ชีวิตง่ายขึ้น จากแต่ก่อนหัวร้อน แต่ที่บอกว่าไม่รู้ว่าเปลี่ยนไปดีขึ้นเปล่าเพราะแม่งเห็นแก่ตัวขึ้น มีความจริงใจน้อยลงแน่กลับรู้สึกสบายใจมากขึ้นกับการดีลกับคนอื่นๆ แต่บางกรณีก็เก็บกดอยู่ แต่พอกลับมาชาร์จพลังอยู่คนเดียวแม่งก็กลับมาสดใสได้
ไม่ได้เป็นความคืบหน้าทางการงานการเรียนอะไรหรอก แต่กูตลอดทั้งชีวิตตั้งแต่ขึ้นมัฐยมมาstruggling กับการบาลานซ์ระหว่างตัวเองกับสังคมมาก กูตอนนี้มองว่าวางตัวได้กําลังดี ขอให้อนาคตดียิ่งขึ้น แล้วขอให้ต่อไปมีความสามารถในการแบ่งเวลาในการทํางานกับงานอดิเรก เติบโตต่อไปตัวฉัน!