ปีใหม่นี้เตรียมรับการเปิดตัวของ Window10 อย่างเป็นทางการ เตรียมเสื้อดำไว้กันเยอะๆนะเพื่อน
Last posted
Total of 1000 posts
ปีใหม่นี้เตรียมรับการเปิดตัวของ Window10 อย่างเป็นทางการ เตรียมเสื้อดำไว้กันเยอะๆนะเพื่อน
>>>/lounge/569/ โม่งใส่ใจข่าวสารบ้านเมืองตามกระแส (No การเมือง)
เอาลิงค์เดิมมาด้วยสิมึง
ระหว่างสิทธิในการเลี้ยงดูลูก กับ เงิน ๒๐๐ ล้านบาท เลือกอะไร
window9 bootsไม่ไหวแล้วเหอะ ถึงเวลาเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนแหละ
เอ้อพวกมึง กูพึ่งได้ข่าวว่าที่หุ้นตกเพราะน้ำมัน เพราะเมกาเพราะโอเปค กูงงมาก ใครตามข่าวช่วยเล่าเรื่องทั้งหมดหน่อยเถอะ
เมกากับEUเดินมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย จากเรื่องที่จะรวบยูเครน ด้วยการยกเลิกการส่งออกสินค้าไปรัสเซียทั้งหมด ส่วนรัสเซียก็แบนกลับด้วยการแบนของนำเข้าจากEUและเมกา (จากตรงนี้รูเบิลลงไปแถว40-50)
คอมโบกับประเทศที่เคยนำเข้าน้ำมันที่ลดอัตราบริโภคพลังงานเพราะเศรษกิจตกต่ำ แถมOPECก็ไม่ลดเพดานการผลิตเพราะจะไฝว์กะเมกา ราคาเลยดิ่งลงๆ รัสเซียที่มีรายได้หลักจากการส่งออกพลังงานเลยเจ็บหนัก (รูเบิลลงไป 60-80 เด้งกลับมา70เพราะธนาคารรัสเซียอัพดอกเบี้ยเป็น17)
หุ้นไทยกูไม่รู้
จำได้ช่วงนึงที่มีข่าวลือมางี้แล้วก็เป็นจริง กรณีรุ่นSisterของWin98มั๊ง
โรคพาร์คินสันเป็นความผิดปรกติการเสื่อมของระบบประสาทส่วนกลาง อาการสั่งการของโรคพากินสันเกิดจากเซลล์ที่ผลิตโดปามีนในซับสแตนเชียไนกรา อันเป็นบริเวณหนึ่งในสมองส่วนกลาง ตาย ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุของการตายของเซลล์นี้ ในช่วงที่เป็นโรคใหม่ ๆ อาการเด่นชัดที่สุดเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว ซึ่งรวมการสั่น สภาพแข็งเกร็ง เคลื่อนไหวช้าและเดินและท่าเดินลำบาก ต่อมา อาจเกิดปัญหาการคิดและพฤติกรรมได้ โดยภาวะสมองเสื่อมเกิดได้ทั่วไปในระยะท้ายของโรค ขณะที่ภาวะซึมเศร้าเป็นอาการจิตเวชที่พบบ่อยที่สุด อาการอื่นมีปัญหารับความรู้สึก การหลับและอารมณ์ โรคพาร์คินสันพบมากในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยส่วนมากเกิดหลังอายุ 50 ปี
อาการสั่งการหลักเรียกรวมว่า พาร์คินสันนิซึม (parkinsonism) หรือ กลุ่มอาการพาร์คินสัน (parkinsonian syndrome) โรคพาร์คินสันมักนิยามเป็นกลุ่มอาการพาร์คินสันที่เกิดเอง (ไม่มีสาเหตุที่ทราบ) แม้ผู้ป่วยนอกแบบบางคนมีสาเหตุจากพันธุกรรม มีการสืบสวนปัจจัยเสี่ยงและป้องกันหลายอย่าง หลักฐานชัดเจนที่สุด คือ ผู้ที่สัมผัสยาฆ่าแมลงบางชนิดจะมีความเสี่ยงต่อโรคพาร์คินสันมากขึ้น แต่ผู้สูบบุหรี่มีความเสี่ยงลดลง พยาธิสภาพของโรคเป็นลักษณะของการสะสมโปรตีนชื่อ แอลฟา-ไซนิวคลีอิน (alpha-synuclein) ในอินคลูชันบอดี (inclusion body) เรียก เลวีบอดี (Lewy body) ในเซลล์ประสาท และจากการสร้างและกัมมันตภาพของโดปามีนที่ผลิตในเซลล์ประสาทบางชนิดในหลายส่วนของสมองส่วนกลางไม่เพียงพอ เลวีบอดีเป็นเครื่องหมายพยาธิวิทยาของโรคนี้ และการกระจายของเลวีบอดีตลอดสมองของผู้ป่วยแตกต่างกันไปตามบุคคล การกระจายทางกายวิภาคศาสตร์ของเลวีบอดีมักสัมพันธ์โดยตรงกับการแสดงออกและระดับอาการทางคลินิกของแต่ละบุคคล การวินิจฉัยผู้ป่วยตรงแบบอาศัยอาการเป็นหลัก โดยใช้การทดสอบอย่างการสร้างภาพประสาท (neuroimaging) เพื่อยืนยัน
กลไกการเกิดโรค
โรคพาร์คินสันในคนส่วนใหญ่นั้นไม่รู้สาเหตุ ทว่าในผู้ป่วยสัดส่วนน้อยรู้สาเหตุว่ามาจากปัจจัยทางพันธุกรรมที่ทราบ มีการระบุว่าปัจจัยอื่นสัมพันธ์กับความเสี่ยงการเป็นโรคพาร์คินสัน แต่ไม่มีการพิสูจน์ความสัมพันธ์เชิงเหตุ
โรคพาร์คินสันเกิดจากการตายของเซลล์สมองที่เรียกว่า Substantia nigra pars compacta (SNpc) สาเหตุการตายของเซลล์มีหลายทฤษฎี ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในปัจจุบัน คือทฤษฎีออกซิเดชั่น ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสาเหตุ ได้แก่ ปัจจัยทางพันธุกรรม สิ่งแวดล้อมบางอย่าง และอาจเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อไวรัสบางชนิด
สารเคมีในสมองที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย ได้แก่ โดปามีน และอะซิทิลโคลีน ซึ่งอยู่ในภาวะสมดุล เมื่อเซลล์สมองที่สร้างโดปามีนตายไป สมดุลดังกล่าวก็เสียไป ร่างกายจึงเกิดความผิดปกติขึ้น ปรากฏเป็นอาการของโรคพาร์คินสัน
อาการของโรค
โรคพาร์คินสันทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการทางระบบประสาทที่เด่นชัด 3 ประการ ได้แก่ อาการสั่น เกร็ง และเคลื่อนไหวช้า
อาการสั่น มักเกิดขึ้นขณะอยู่เฉยๆ มีลักษณะเฉพาะคือ สั่นมากเวลาอยู่นิ่งๆ แต่ถ้าเคลื่อนไหว หรือยื่นมือทำอะไร อาการสั่นจะลดลงหรือหายไป มักเกิดขึ้นที่มือข้างใดข้างหนึ่ง สังเกตได้จากมือสั่นเวลาผู้ป่วยเดิน
อาการเกร็ง มักมีอาการแข็งตึงของแขนขา และลำตัว ทำให้เคลื่อนไหวลำบาก ปวดตามกล้ามเนื้อ
อาการเคลื่อนไหวช้า ทำอะไรช้าลงไปจากเดิมมาก ไม่กระฉับกระเฉงว่องไวเหมือนเดิม เดินช้าและงุ่มง่าม แบบสโลว์โมชั่น สังเกตได้ว่าแขนไม่แกว่ง และผู้ป่วยมักบ่นว่าแขนขาไม่มีแรง
การวินิจฉัยโรค
โดยทั่วไปหากผู้ป่วยปรากฏอาการชัดเจน สามารถวินิจฉัยได้จากลักษณะอาการและการตรวจร่างกายทางระบบประสาทอย่างละเอียด การตรวจภาพรังสีและการตรวจเลือดไม่ช่วยในการวินิจฉัยโรค อาจใช้เพื่อวินิจฉัยแยกโรคในบางรายเท่านั้น
ระยะแรกเริ่ม อาจวินิจฉัยยาก จำเป็นต้องวินิจฉัยแยกโรคก่อนเสมอ
ผู้ที่สงสัยว่าจะป่วยเป็นโรคพาร์คินสัน ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยจากอายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านประสาทวิทยา หรือที่เรียกว่าประสาทแพทย์
แนวทางการรักษา[แก้]
การรักษาทางยา[แก้]
ยาที่ให้แม้จะไม่สามารถทำให้เซลล์สมองที่ตายไปแล้วฟื้นตัวกลับมาหรืองอกใหม่ทดแทนเซลล์เดิมได้ แต่ยาจะออกฤทธิ์โดยไปเพิ่มโดพามีนในสมองให้มีปริมาณเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย แต่การใช้ยาต้องอาศัยความร่วมมือกับคนไข้ในการกินยาอย่างสม่ำเสมอ และต้องมีการปรับขนาดยาไม่ให้ยามากหรือน้อยเกินไป เพราะยาเหล่านี้มักจะมีผลข้างเคียงหากใช้ในขนาดไม่เหมาะสม รายละเอียดเรื่องการใช้ยาจะได้กล่าวในตอนต่อไป
การรักษาทางกายภาพบำบัด[แก้]
เราต้องการให้ผู้ป่วยสามารถกลับคืนมาสู่การมีคุณภาพชีวิตใกล้เคียงเหมือนเดิมให้มากที่สุด เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือตนเองได้ และมีความสุขทั้งทางด้านจิตใจและร่างกาย การรักษาทางกายภาพบำบัดจะช่วยได้ในการเคลื่อนไหวที่ถูกต้องและสมส่วน ท่าเดิน นั่ง การทรงตัว ตลอดจนการออกกายบริหารและแก้ไขภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น หลังโกง ไหล่ติด ปวดหลัง ปวดเอว ปวดคอ ปวดขา เป็นต้น
การรักษาโดยการผ่าตัด[แก้]
ปัจจุบันมีความก้าวหน้าทางประสาทศัลยกรรม มีวิธีใหม่ๆอย่างเช่น DBS (Deep Brain Stimulation) เป็นการผ่าตัดแบบใหม่ โดยอาศัยการฝังสายเพื่อกระตุ้นทางไฟฟ้าอย่างอ่อนในสมองส่วนที่เรียกว่า Globus Pallidus หรือ Subthalamic mucleus ส่งผลให้คนไข้ที่เคยมีอาการสั่น ให้กลับมาเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการวิจัยการปลูกถ่ายเซล (Transplantation) โดยผ่าตัดสมองโดยเอาเนื้อเยื่อจากต่อมหมวกไต หรือปมประสาทบริเวณคอไปปลูกเลี้ยงในโพรงสมองเพื่อให้เนื้อเยื่อเหล่านี้ สร้างสารเคมีโดพามีนขึ้นมาทดแทนส่วนที่สมองขาดไปได้ ผลดีของการรักษาวิธีนี้ คือ ผู้ป่วยอาจไม่ต้องกินยาหรือลดขนาดยาลงได้ เพราะยาส่วนใหญ่มีราคาแพง ส่วนผลแทรกซ้อนของการผ่าตัดก็มีมากเช่นกัน นิยมตัดในรายผู้ป่วยที่อายุน้อยและมีอาการไม่มากนัก และค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดสูง
คำแนะนำในการดูแลผู้ป่วย[แก้]
ผู้ป่วยโรคพาร์คินสันจำเป็นต้องมีผู้ดูแลใกล้ชิด
ป้องกันการหกล้มโดยเลือกรองเท้าที่มีพื้นรองเท้าเป็นยาง ทางเดินในบ้านไม่ควรมีของเล่นหรือสิ่งของ หรือเปื้อนน้ำ ควรติดราวไว้ในห้องน้ำ ทางเดิน บันได
ผู้ป่วยมีปัญหาเรื่องการทรงตัวและการเดิน แนะนำให้ก้าวยาวๆ ยกเท้าสูง และแกว่งแขน เมื่อรู้สึกว่าเดินเท้าลาก ให้เดินช้าลงแล้วสำรวจท่ายืนของตัวเอง ท่ายืนที่ถูกต้องต้องยืนตัวตรง ศีรษะไหล่และสะโพกอยู่ในแนวเดียวกัน เท้าห่างกัน 8-10 นิ้ว
ช่วยให้ผู้ป่วยได้ออกกำลังกาย หรือบริหารร่างกาย ตามสมควรและสม่ำเสมอ จะช่วยให้อาการต่างๆดีขึ้น และช่วยให้ผู้ป่วยไม่เกิดอาการซึมเศร้าตามมาอีกด้วย
ผู้ป่วยโรคพาร์คินสันอาจท้องผูกได้ง่าย เนื่องจากการทำหน้าที่ของระบบประสาทอัตโนมัติบกพร่อง ทำให้การบีบตัวของลำไส้ผิดปกติ เกิดอาการท้องผูก 3-4 วันถึงจะถ่ายอุจจาระครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ผู้ป่วยที่ใช้ยา Artane และ Cogentin ก็เป็นสาเหตุให้ท้องผูกได้
ผู้ป่วยในระยะท้ายจะมีปัญหาเรื่องการกลืน วิธีการที่จะลดปัญหาได้แก่ ตักอาหารพอคำแล้วเคี้ยวให้ละเอียด กลืนให้หมดก่อนที่จะป้อนคำต่อไป ควรจะมีแผ่นกันความร้อนรองเพื่อป้องกันไม่ให้อาหารเย็น และ
ควรเลือกอาหารที่เคี้ยวง่าย
ผลข้างเคียงของยาเลโวโดปา ตัวอย่างเช่น Sinemet, Sinemet CR ที่สำคัญคือเวลาใช้ยาไปสักระยะหนึ่ง อาจจะต้องเพิ่มยาเพื่อควบคุมอาการ แต่ก็อาจจะเกิดผลข้างเคียงของยาได้เช่น คลื่นไส้อาเจียน ความดันโลหิตต่ำ ควบคุมการเคลื่อนไหวไม่ได้ คือมีการเคลื่อนไหวแบบกระตุก สั่นๆ ผ้ป่วยอาจมีอาการสับสนหลังจากที่ใช้ยาระยะยาวและมีขนาดสูงจึงอาจเกิดอาการผิดปกติ โดยก่อนกินยาจะมีอาการเกร็งมาก เมื่อรับประทานยาอาการจะดีขึ้น ระยะเวลาที่ดีขึ้นจะสั้นลง สั้นลง การแก้ไขภาวะนี้ให้รับประทานยาถี่ขึ้นแต่มีขนาดยาน้อยลง
ค่ะ
ครับ ก็นั่นแหละครับ ท่านผู้ชม คราวนี้เรามาต่อกันที่.............
เบรกการคุยเรื่องนี้ไปก่อนเหอะ เข้าระหัสแล้วก็จริงแต่เนื้อแท้มันก็ยังเป็นเรื่องนั้นอยู่ดี เดี๋ยวได้ปลิวจริงๆ
รถเมล์ไฟไหม้แถวลาดพร้าวว่ะ ชีวิตเดี่ยวนี้ไม่ปลอดภัยเอาซะเลย
กูอยากรู้เรื่องไล่ที่พวกห้องแถวตรงโรงแรมอินดรา/ตึกใบหยกว่ะ
มีใครรู้ความเป็นมาบ้างปะกูเห็นป้ายคัดค้านมานานละ ไม่เห็นมันทำไรซะที จะทุบก็ไม่ จะไม่ทุบหรือก็ไม่รู้
เดี๋ยวนะ ไอ้ที่โดนเวนคืนส่วนมากมันเป็นห้องแถว ฝั่งตรงข้ามโรงแรมอินดราทั้งแถบนิ แถวๆโรงแรมอินดรามันโดนไปไม่กี่ห้อง แต่ไอ้ฝั่งนี้โดนทั้งแถบ เมื่อก่อนผ่านก็เห็นขึ้นป้าย ขอผู้ว่าช่วย ขอชัชชาติช่วย ขอ The one who you know ช่วย ไม่เคยเห็นป้ายคัดค้านเรื่องทำห้างแฮะ
>>23 ห้องแถวฝั่งอินดรา ก็โดนว่ะ แถมคู่กรณ๊คนละเจ้า
ป้ายคัดค้านมันจะอยู่ฝั่งอินดรา ช่วงห้องแถวฝั่งตรงข้ามพาลาเดี้ยม ติดตรงชั้น 2-3ของห้องแถวมึงไม่เงยหน้าไปดูจะไม่เห็น ตรงหัวมุมสี่แยก ยาวเข้ามาทาง อินดรา ประมาณ 20 คูหาได้
ข้อความจะประมาณขอบารมี Microsoft ช่วยปกปักษ์ ชุมชนเฉลิมลาภ(ชื่อตลาดมั้ง) กูไปเซิชดู คู่กรณีมันคือ สน.ทรัพย์ฯ ไปไล่ที่แถวนั้นทั้งหมดยาวไปถึง ร.ร.อินดรา ให้ บ.พลาทินั่ม มาบริหาร ก็คือจะสร้างห้างนั่นแหละ จากการถาม Google เห็นว่าไปยื่นเรื่อง คุณสมชาย ให้ช่วยช่วง เดือน ส.ค. ปีนี้ แต่ก็เงียบเป็นเป่าสาก รอวันโดนไล่ที่ แน่นอนตอนนี้อยู่ในขั้นตอนดำเนินคดีอยู่เพราะไล่ไม่ยอมไป
หลังจากเซิชมาก็ดูตลกดีกับเนื้อหาบนป้าย
วันนี้มีเหตุรถชนคนข้ามทางม้าลายที่หน้าแกรมมี่
ถ้าทำการตลาดต่อเนื่องหลายสิบปีอัดงบประชาสัมพันธ์จะฝังชุดความคิดเรื่องการใช้ทางม้าลายได้ไหม
กูว่ายากหว่ะถ้าแค่ทำการตลาดธรรมดา ของอย่างงี้มันฝังเข้าไปในสันดานคนไทยหมดละ กูก็ขอยอมรับว่าเคยฝ่ากฏจราจรเป็นบางครั้ง(แต่ไม่เหี้ยขนาดฝ่าไฟแดง)
ถ้าจะให้แก้จริงๆกูว่าต้องเอาแบบเมืองนอกหว่ะแบบตั้งกฏจราจรให้หนักและเด็ดขาด แต่ก็รู้ๆกันอยู่ว่าตำรวจเมืองไทยเป็นยังไง...
ขนาดแถวนั้นรถอย่างเยอะ ยังชนตายห่าได้อีก กุว่าไม่ต้องให้ประกันแล้ววะ
เขากดเขียวเพื่อข้ามทางอย่างถูกต้องแต่มาตายเพราะสวะตีนผีไม่มีสามัญสำนึก
ออกกฏหมายแรงๆมาฮิตใช้อยู่ไม่กี่เดือน ยังจำได้มั้ยเมืองไทยเคยมีกฏหมายทิ้งขยะไม่ลงถังปรับ2000เลียนแบบสิงคโปร์
>>26 >>29 มึงดูแค่ตำรวจก็ไม่ถูก ค่านิยมวัฒนธรรมของหน่วยงานที่ทำการกำกับดูและแทบทุกอย่างในประเทศนี้แม่งบิดเบี้ยวไปหมดแล้ว มึงร่าง กฏมาดีแค่ไหนแต่คนที่คอยบังคับใช้แม่งมีวัฒนธรรมซุยๆ ก็ชิบหายหมดอยู่ดี เพราะมันจะมีข้อยกเว้นไว้ให้พวกพ้องและช่องทางหาผลประโยชน์ส่วนตัวเสมอ
ไม่ต้องดูอะไรมาก น้ำพริกยังซื้อมาแพงผิดปกติเลย เรื่องแค่นี้มันไม่มีปัญญาคิดตอนรับใบเสร็จ หรือทำเป็นมองไม่เห็น พวกมึงก็น่าจะรู้
ข้ามถนนก็ตาย นั่งรถเมล์ก็ตาย
กูเป็นฮิกกี้ดีกว่า
อยากหนีไปเป็นพลเมืองญี่ปุ่น
ถ้าได้ภาษาญี่ปุ่น มีเงิน เป็นโปรแกรมเมอร์ที่เก่งปานกลาง จะพอหาทางไปได้ไหม
เทศ*
ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว
ญี่ปุ่นพลิกประเทศให้กลับมารุ่งเรืองง่ายนิดเดียว
แค่มันหัดแปลซับ av แล้วส่งออกทั่วโลกก็รวยกว่าทำธุรกิจใดๆในโลกละ
ล่าสุดพบสารแอมเฟตามีนในฉี่ของคนขับรถชนครีทีพแกรมมี่
AV ต้องดูซับด้วยเหรอวะ กูดูแต่ฉากบู๊
FC2 ไงมึง จ่ายเงินเป็น premium ดูหนังคลิปโป๊ตาแฉะ ไม่ต้องเอาซับหรอกสัด
ไอ้เรื่องอัตราเกิดน้อยนี่กูเห็นมันก็เป็นมาตั้งนานแล้วนา แต่เศรษฐกิจยุ่นมันก็ตกต่ำจริงๆนั่นแหละ ถึงอย่างงั้นในภาพรวมก็ยังดีกว่ากะลาแลนนับโขอยู่ดี
ที่กูพูดเหมายถึงจะย้ายไปทำไมน่ะ เพราะญี่ปุ่นมีแต่แนวโน้มตกต่ำ
แต่ตอนนี้ถ้าจะย้ายไปเนี่ยประเทศไหนน่าไปบ้างฟะ
ไปแถวสแกนดิเนเวีย มีบ้านให้อยู่ เจ็บป่วยรักษาฟรี ลูกหลานเรียนฟรีจนจบมหาลัย มีสวัสดิการตกงาน,เกษียณ
แลกกับทำงานได้เท่าใหร่ภาษีครึ่งนึงทันทีไม่มีบิดพริ้ว
มันก็มีข้อเสียด้วยกันทุกประเทศนั่นแหละ เอาที่ตัวเองชอบเหอะ
ยุโรปก็เศษรฐกิจตกต่ำ แถมหนี้สาธารณะสูง อเมริกาบางพื้นที่อัตราก่ออาชญากรรมสูง+ถ้ามึงไม่รู้กฏหมายมึงเตรียมโดนฟ้องตูดบานได้ในซักวันหนึ่งญี่ปุ่นก็อย่างที่ข้างบนว่า
กูว่าทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้วล่ะ กูเห็นบางคนไม่กล้าไปทำงานญี่ปุ่นเพราะกลัวความกดดันเลยทีเดียว
เค้าก็มีกายบริหารตอนเช้านิ จะกดดันอะไรวะ
ความเห็นกุคือญี่ปุ่นคือปประเทศน่าเที่ยวแต้ให้ไปอยู่จริงกุไปเมกาดีกว่า ถึงชาญเมืองหรือบางรัฐแม่งมีแต่พวกเม็กซิกันก็เหอะ(ไอ้พวกนี้ละน่ากลัวกว่านิกกี้ซะอีก) แต่ถ้าเลือกที่อยู่อาศัยถูกได้ย่านคนเป็นมิตรอะไรๆก็สบาย ทำงานก็แฟร์ๆแต่ภาษีแม่งก็เอาเรื่องเหมือนกัน
ได้ยินว่าประเทศแถบสแกนดิเนเวียปฏิบัติต่อคนต่างชาติที่เข้าไปอาศัยอยู่ค่อนข้างดี ทำให้คนเข้าเมืองเยอะ จนกลายเป็นปัญหาสังคมไปแล้ว (หัวเราะ)
>>58 ประเทศพวกนี้โทษเบาด้วย ตอนกรุงออสโลเจอฆาตกรบุกสังหารหมู่ คนนอร์เวย์ถึงกับมีการเรียกเอาโทษประหารกลับมา เพราะโทษที่มีอยู่มันเบาเกินไป ฆ่าไป 70กว่าศพ ติดคุกแค่21ปี แถมคุกประเทศที่พัฒนาแล้วแม่งหรูพอๆกับคอนโดระดับกลางๆในเมืองไทยเลยว่ะ ก็น่าเห็นใจนะ ระบบกฎหมายและราชทัฑณ์ของที่นั้นออกแบบมาลงโทษ "คนที่เจริญแล้ว" ไอ้เดนมนุษย์เข้าไปฆ่าคนแล้วโดนโทษที่มีไว้สำหรับลงโทษ "ผู้เจริญแล้ว" เนี่ย น่าเจ็บใจอยู่เหมือนกัน
กูก็ว่าแคนาดา น่าอยู่จริงๆ นะ แต่มันไม่มีไรเลย สำหรับกูขอแค่มันมี นินเทนโดกะเนต ก็พอล่ะ
http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000145418
กูไปเที่ยวเชียงใหม่มา นั่งเครื่องแม่งดีชิบหาย แป๊บๆ ก็ถึงแล้ว ห้องน้ำก็สะอาด ผิดกะต้องนั่งขุดคู้ในรถ กว่าจะถึงก็นานชิบ แถมราคาพอๆกันอีก
แคนาดาสภาพอากาศหนาวแทบทั้งปี หิมะหนาจนไปไหนไม่ได้ หน้าร้อนมีไม่ถึงเดือน กูว่าไม่น่าอยู่หว่ะ
>>62 สำหรับกูไม่น่าอยู่ตรงอากาศหนาวนี่แหละวะ จริงๆสำหรับคนที่เกิดในประเทศเขตร้อนการไปอยู่อาศัยที่ประเทศเขตหนาวมันก็ไม่น่าอยู่อย่างที่คิดเท่าไรนะ ยกเว้นว่าปรับตัวกับอากาศหนาวได้
.
.
.
ส่วนประเทศไทย ถ้ามีเงินมากๆ กูว่าน่าอยุ่ที่สุดและ ทำเหี้ยอะไรก็ไม่ผิด ใช้ชีวิตแบบพลเมืองชั้นหนึ่งได้เต็มที่ ประเทศที่พัฒนาแล้ว "ความเป็นคน" มันเท่าเทียมเกินไปว่ะ 555555
>>65 มิน่ามันถึงได้รวยเป็นกระจุก ๆ ส่วนอากาศหนาวนี่แค่กูเดินผ่านโซนของแช่แข็งกับของแช่เย็นในฟู้ดแลนด์กูยังรู้สึกเหมือนเดินอยู่บนยอดดอยสุเทพตัวเปล่า แคนาดากับนิวซีแลนด์ดูสงบแต่กูชอบให้ชีวิตแบบมีสีสันเลยเลือกออสเตรเลีย เพราะขี้เกียจเรียนภาษาอื่นใหม่ แต่กูก็รักเมืองไทยมากที่สุดอยู่ดี (อาหาร + ภาษาไทย + ชิล ๆ) แต่ยังไงถ้ามีโอกาสจริง ๆ ก็อยากลองไปทำงานที่นั่นดูสักครั้ง (ตอนนี้กูยังเรียนไม่จบมหา'ลัย)
อีกที่นึงก็มอลต้า เกาะเล็ก ๆ แถวอิตาลี ดูครึกครื้น สบาย ๆ น่าไปใช้ชีวิตที่นั่นเหมือนกัน มีร้านอาหารไทยแค่สองร้านเอง คนรู้จักกูกำลังจะไปเรียนภาษาอังกฤษที่นั่นกับหาลู่ทางไปเปิดร้านอาหารด้วย 55555
>>69
กูมีเพื่อน 2 คนมันไปใช้ชีวิตในเมกาตั้งแต่ ม.5 มีเมียฝรั่งไปคนหนึ่ง ตอนนี้มีลูกตั้งรกรากที่โน่นแล้ว หน้าตาไม่ได้หล่ออะไรมาก แฟนมันก็กลางๆ นะ แต่นิสัยก็น่ารักดี ส่วนอีกคนกลับไทยได้เมียไทยเพิ่งแต่งงานไปเมื่อไม่กี่วัน เคยถามมันตอนกลับมาใหม่ๆ เมื่อ 7-8 ปีก่อนว่าทำไมไม่หาแฟนฝรั่ง มันบอกว่ามันไม่ชอบฝรั่งเท่าไหร่ มันชอบไทย - ญี่ปุ่นมากกว่า แล้วสรุปออกมามันก็ได้เมียไทย สวย ใส มาคนหนึ่งแต่กูเซ็งเมียมันอย่าง จะชวนมันไปไหนแม่งเจ้ากี้เจ้าการเหลือเกิน แถมเข้ากับพวกกูไม่ค่อยได้ด้วย ไม่เข้าใจหรอวะว่าพวกกูก็ต้องการไปปาร์ตี๊บ้าง ไม่บ่อยเลยนะเว่ย แค่ปีละ 3-4 ครั้งเอง นานๆ พวกกูจะกลับมาเจอกัน พล่ามมายาว ถ้าตัดเรื่องรายได้และความสามารถ แล้วเลือกได้ในระดับที่เท่ากัน คือแบบเลือกจีบได้แล้วมีสิทธิ์ทั้งคู่ กูว่าก็ยังเห็นยากว่ะ กูว่ามันไม่ใช่สเป็กหนุ่มไทยว่ะ แค่นี้แหละ
อีจ่าโดนฟ้องแล้วหว่ะ(รอบที่เท่าไหร่วะเนี่ย)
เพื่อนโม่งคิดว่าไงกันบ้าง
หวังฟันเงินรัวๆชัวร์ว่ะ
ฟ้องเรื่องไร เผือกด้วย
ขัดจังหวะ แปป เห็นโม่งบนๆพูดเรื่องการย้ายไปอยู่แคนาดากูก็อยากไป ตอนนี้ยังไม่ได้เก่งอะไรแต่กูพยายามได้ กูแค่อยากรู้ว่าทำไงถึงสามารถไปอยู่ไปทำงานที่โน่นได้วะ ทำงานธรรมดาอย่างเด็กเสริฟอะไรก็ได้ กูแค่อยากไปอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้นอ่ะ ช่วยบอกเรื่องทำวีซ่าการเตรียมตัวจำนวนเงินบลาๆ อะไรก็ได้ที่เป็นวิธีพากูเข้าไปอยู่หน่อยสิ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.